ฝั่งของกวิน
กวินนั่งอยู่ในรถยนต์ ลมหายใจหนักหน่วง เลือดที่ไหลออกจากบาดแผล ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บเพราะสิ่งเดียวที่เขาคิดถึงตอนนี้มีเพียงแค่...วันสุข
"รอหน่อยนะ ฉันกำลังไปช่วยเธอแล้ว" กวินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า
รถยนต์หลายคันแล่นฝ่าเส้นทางมืดสลัวของฮ่องกง มุ่งหน้าสู่โกดังร้างริมท่าเรือ ภายในรถคันหน้า กวินนั่งอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของเขาเย็นชาจนคนรอบข้างไม่กล้าเอ่ยปาก แขนข้างหนึ่งของเขาพันผ้าแน่นหนาเพื่อห้ามเลือด แต่แววตากลับเด็ดเดี่ยวและดุดันเสียยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
"ไหวแน่นะ" คีย์ถามเสียงหนัก
"กูไม่เป็นไร" กวินตอบเสียงต่ำ "ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการเอาวันสุขกลับมา"
คีย์พยักหน้า พลางเช็คปืนสั้นในมือให้พร้อม
"ตามแผนนะ ยิงเปิดทางที่ด้านหน้า กูกับทีมบุกเข้าด้านหลัง มึงเข้าไปหานายหญิงโดยตรง"
"อืม" กวินรับคำสั้น ๆ ดวงตาของเขาแข็งกร้าว ราวกับพร้อมฟาดฟันศัตรูให้แหลกละเอียด
ด้านในโกดังร้าง วันสุขถูกมัดมือไขว้หลัง ปิดปากสนิทด้วยเทปกาว นั่งอยู่บนเก้าอี้เก่า ๆ ท่ามกลางแสงไฟเพียงดวงเดียวที่สาดลงมา เสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังรอบตัว
"อีกไม่นาน ไอ้กวินก็จะต้องมา" หลงเว่ยยืนพิงกำแพงยิ้มอย่างคนเลือดเย็น
"แล้วฉันจะได้เห็นมันคุกเข่า ขอชีวิต...เพื่อผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่ง"
แววตาของวันสุขสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว แต่ในใจกลับมีเสียงเล็ก ๆ ดังกึกก้อง กวินต้องมา...เขาต้องมา เธอเชื่อมั่นในตัวเขาทั้งที่ไม่ควร
ปฏิบัติการเริ่มขึ้น ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังลั่นขึ้นจากทางด้านหน้าของโกดัง คนของหลงเว่ยรีบกระจายตัวเข้าป้องกัน ในความโกลาหลนั้น ร่างสูงใหญ่ของกวินสวมเสื้อดำแนบตัว ลอบเข้ามาทางประตูหลังอย่างไร้เสียง แผลที่ไหล่ยังเจ็บแปลบ แต่เขาไม่แม้แต่จะสะทกสะท้าน ดวงตาคมกริบกวาดหาตำแหน่งของวันสุขทันที
เขาเห็นแล้ว! วันสุขนั่งอยู่ตรงกลางโกดังไม่ไกลนัก แต่มีการ์ดติดอาวุธอยู่รอบตัวเธอถึงสี่คน กวินกัดฟันแน่น เขายกปืนขึ้นเล็งอย่างแม่นยำ
ปัง! คนแรกล้มลงอย่างเงียบกริบ คนที่เหลือหันขวับไปตามเสียง ทันใดนั้นเองร่างสูงของกวินก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว ศอกกระแทกเข้าขากรรไกรศัตรูอีกคนเสียงดังกร๊อบ ก่อนจะหันปืนยิงสกัดอีกสองคนที่พุ่งเข้ามา เลือดสาดกระเซ็นบนพื้นเย็นเฉียบ วันสุขมองภาพเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
กวินกำลังต่อสู้เพื่อเธอ แม้ว่าเลือดยังคงไหลซึมจากแขนซ้ายของเขาไม่หยุด ในจังหวะสุดท้ายกวินวิ่งเข้าไปปลดเชือกที่มัดวันสุขไว้ และแกะเทปกาวที่ปิดปากเธอออก
"ไม่เป็นไรนะ" เสียงของเขาแผ่วเบา แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงหา ผิดกับกวินคนก่อนที่เธอเคยเจอแทบหมดสิ้น คนที่เย็นชาและใจร้ายกับเธอจนเกลียดเข้ากระดูกดำ
วันสุขเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
"นายมาจริง ๆ"
แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะหนีไปได้ เสียงปืนจากด้านหลังก็ดังขึ้นอีกครั้ง!
ปัง!! กวินกระชากตัววันสุขมากอดแนบอกตัวเอง บังร่างเล็กนั้นไว้ จนกระสุนเฉียดเข้ากลางหลังของเขาอย่างจัง
"อึก..." กวินเซไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมล้ม
"กวิน!!" วันสุขร้องเสียงหลง และน้ำตาไหลพราก
"ไม่เป็นไร..." เขากระซิบเบา ๆ
ในจังหวะนั้นเอง คีย์พร้อมลูกน้องก็ทะลวงเข้ามาในโกดังอย่างบ้าคลั่ง! เสียงปืนดังสนั่นทั่วทั้งโกดังจนแสบแก้วหู
"พานายหญิงไป!!" กวินตะโกนสั่ง ขณะที่คีย์รีบวิ่งเข้ามาประคองเขา
"มึงไม่ไหวแล้ววิน!" คีย์สบถ แต่กวินส่ายหน้าดื้อดึง
"ฉันไม่ทิ้งเธอเด็ดขาด"
"งั้นก็ไปด้วยกัน!!" คีย์ตะโกนสวนกลับ ก่อนจะยิงเปิดทางให้พวกเขาวิ่งฝ่าควันปืนออกไป
กวินรีบก้าวขึ้นรถยนต์ ที่ลูกน้องจอดเทียบรอ เขานั่งพิงเบาะหายใจหนัก มือข้างหนึ่งพยายามกุมแผล เลือดไหลอาบจนเสื้อเปียกชุ่ม วันสุขนั่งข้าง ๆ มองเขาด้วยหัวใจสั่นไหวสุดขีด เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า กวินจะยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก...เพื่อปกป้องเธอ เธอเอื้อมมือไปจับมือใหญ่ของเขาไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เหมือนกับว่าเธอไม่เคยเกลียดเขาเลยเสียอย่างนั้น
"ขอบคุณนะ..." เธอพูดเสียงเบา ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป กวินลืมตามองเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะกระตุกยิ้มอ่อน
"ผมสัญญา...จะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว" แล้วเปลือกตาของเขาก็ปิดลงอย่างอ่อนแรง...
“กวิน!! อย่าหลับนะ นายได้ยินฉันไหม...กวิน!”
เสียงล้อรถบดกับถนนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะหยุดลงหน้าเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งที่คีย์เตรียมไว้ล่วงหน้า
"รีบพาเขาเข้าไปเลย!" คีย์สั่งลูกน้องเสียงเข้ม
วันสุขประคองร่างสูงใหญ่ของกวินที่แน่นิ่งลงเรื่อย ๆ
เลือดที่ไหลไม่หยุดทำให้ใจเธอร้อนรนจนแทบขาดใจ"กวิน...นายต้องอดทนไว้!" เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ
เปลือกตาของกวินขยับเล็กน้อยก่อนจะปรือขึ้นมอง เขากระตุกยิ้มเบา ๆ อย่างพยายามปลอบเธอ
"ผมไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า" เสียงแหบพร่าแต่ยังคงไว้ซึ่งความขี้เล่น
วันสุขน้ำตาซึม แต่ยังคงกัดฟันประคองเขาอย่างมั่นคง
ในห้องพักฟื้นคีย์กับลูกน้องจัดการทำแผลเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยให้วันสุขอยู่ดูแลกวิน หญิงสาวนั่งข้างเตียง มองดูร่างสูงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยหัวใจบีบรัด
เธอเอื้อมมือไปแตะมือใหญ่ที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน
"ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้..." เธอพึมพำเบา ๆ ราวกับถามตัวเอง
กวินลืมตาขึ้นช้า ๆ ดวงตาคู่นั้นแม้จะอ่อนแรง แต่ยังคงมองเธออย่างมั่นคง
"เพราะคุณสำคัญ จนผมยอมเสียอะไรไปไม่ได้" เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ทุกถ้อยคำแน่นหนักจนวันสุขเผลอกลั้นหายใจ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบเจ็บอก
"แต่ฉัน..." วันสุขเม้มปากแน่น เสียงสั่นพร่า "ฉันยังไม่ให้อภัยนาย ฉันยังเกลียดนายอยู่"
คำพูดนั้นสั่นสะเทือนหัวใจของคนฟังอย่างรุนแรง แต่กวินกลับยิ้มอ่อนอย่างเข้าใจ
"ไม่เป็นไร" เขาเอ่ยเสียงแผ่ว "ขอแค่คุณยังอยู่ตรงนี้...ให้ผมได้ปกป้องคุณ ก็พอแล้ว"
วันสุขก้มมองมือที่กุมมือเขาไว้แน่น เธอไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงยังไม่ยอมปล่อยเขาไป ทั้งที่เธอควรจะโกรธ เกลียด และผลักไสเขา แต่ความอ่อนโยนในแววตาของเขา ความอบอุ่นในอ้อมแขนที่เคยโอบเธอไว้เมื่อคืน มันกลับค่อย ๆ ทลายกำแพงในหัวใจเธออย่างช้า ๆ ทีละนิด...ทีละนิด
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง วันสุขเช็ดตัวให้กวินด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย ผิวกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของบาดแผลเก่าและใหม่ แต่แทนที่เธอจะรู้สึกกลัว เธอกลับรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
"นายมันบ้า..." เธอบ่นเบา ๆ
"หึ...รู้ตัวอยู่แล้ว" กวินแสยะยิ้มอ่อน แม้จะยังดูเหนื่อยล้า
"แล้วทำไมถึงยังทำ" วันสุขเผลอถามอย่างลืมตัว
กวินลืมตามองเธอ ดวงตาคู่นั้นลึกซึ้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก
"เพราะคุณเป็นคนของผม" ประโยคสั้น ๆ แต่หนักหน่วงเกินกว่าที่วันสุขจะต่อต้านได้ ใบหน้าของเธอร้อนวูบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอรีบหันหน้าหนี พยายามซ่อนความวูบไหวที่กำลังท่วมท้น
"อย่าเพ้อเจ้อ..." เธอพึมพำเบา ๆ
กวินยิ้มอ่อนแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ทิ้งให้วันสุขนั่งเฝ้าเขาเงียบ ๆ แต่ในใจเธอกลับไม่สงบ เหมือนร่างกายเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเธอกำลังสั่นไหวและกำลังสับสน
บ้านหลังงามสุดหรูเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเสียง...“เฮ้ย! ชั้นวางขวดนมวางตรงนี้ก่อน มึงจะเอาไปเก็บที่อื่นทำไมวะคีย์!?”“เพราะมึงวางขวางทางเดิน! เดี๋ยวกูเหยียบลื่นล้มหัวแตก ใครจะอุ้มหลาน!?”“อุ้มหลาน? นี่ลูกกู!!”เสียงปะทะของสองคุณพ่อและคุณอาผู้เห่อหลานสนั่นไปทั้งบ้าน จนแม่บ้านต้องเดินอ้อมไปอีกทาง เพราะไม่อยากถูกลูกหลงจากสงครามของสองชายวัยสามสิบกว่า ๆวันสุขที่เพิ่งลงจากชั้นบน มาพร้อมลูกน้อยในอ้อมแขน ส่งสายตามองสองท่านผู้ใหญ่ ที่เถียงกันเรื่องขวดนมกับผ้าเช็ดตัวแบบไม่มีใครยอมใครเธอวางลูกเบา ๆ บนเบาะเด็ก แล้วกอดอกมอง แล้วเอ่ยเสียงนิ่งแต่ฟาดหัวใจ“นี่พวกคุณไม่คิดจะไปทำงานกันบ้างเหรอ?”ห้องทั้งห้องเงียบลงในพริบตา คีย์ยักไหล่ก่อนตอบเสียงเรียบ“มีลูกน้องดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่”กวินพยักหน้ารับตามทันที“ใช่ ผมเซ็นมอบอำนาจรองผู้บริหารไว้หมดแล้วครับที่รักไม่ต้องกลัวเลย มีแม็กดูแลบัญชี มีบอดี้การ์ดชุดเต็มรับมือทุกสถานการณ์”“แล้วฉันล่ะ?” วันสุขถามนิ่ง ๆ“คุณเป็นแม่ของลูกผม เป็นวีไอพีของบ้านนี้” กวินตอบพร้อมส่งยิ้มละมุนวันสุขถอนหายใจยาว “งั้นแม่ของลูกจะไปจัดตารางงานต่อ ฝากเลี้ยงลูกด้วยนะ
เสียงรถสปอร์ตหรูจอดสนิทหน้าบ้าน พร้อมกับกวินที่เดินลงจากรถในชุดลำลอง แต่ความขึงขังยังเต็มพิกัด เขาไม่ใช่แค่มาเฟียระดับโลกอีกต่อไป...แต่เป็นคุณพ่อมือใหม่ ที่เตรียมทุกอย่างไว้ละเอียดยิ่งกว่าแผนลอบสังหารศัตรูระดับประเทศ"ชุดเด็กพร้อม""เปลไฮเทคสั่งตรงจากเยอรมันติดเซ็นเซอร์ตรวจจับลมหายใจ""กล้องวงจรปิดในห้องนอนลูกมีระบบเอไอจับอารมณ์""หุ่นยนต์ป้อนนมอัตโนมัติสำรอง 2 ตัว""ยามรักษาความปลอดภัยรอบบ้านเพิ่มอีกหนึ่งทีม"คีย์ที่เดินมาด้วยถึงกับยกมือทาบอก"มึงแน่ใจนะว่านี่ลูก ไม่ใช่ผู้นำประเทศ"กวินปรายตามองเพื่อนอย่างนิ่งขรึม “ลูกกูเกิดมาทั้งที ต้องปลอดภัยที่สุดในโลก”วันสุขที่พุงโตมาก ๆ เดินออกมาช้า ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มละมุน“กวินคะ บางอย่างมันเกินไปแล้วค่ะ ขนาดตู้เสื้อผ้าเด็กยังมีระบบสแกนฝุ่น PM 2.5 ก่อนเปิด”กวินรีบเข้ามาประคองเธอทันที “อย่าเดินเร็วแบบนั้นสิครับเดี๋ยวลื่น”“จะลื่นได้ไงคะ พื้นบ้านคุณมันสะอาดกว่าห้องผ่าตัดโรงพยาบาลอีก...” เธอยิ้มขำ ๆกวินจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธออย่างแสนรัก “ผมไม่เสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว คุณกับลูกคือทั้งชีวิตของผม”กลางดึกที่มีเพียงแสงจันทร์อ่อน ลอดผ่านกระจกหน้าต่างเ
เสียงล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติประเทศไทย พร้อมกับเสียงถอนหายใจของคีย์ ผู้ที่เป็นมือขวาคู่ใจและเพื่อนรักเพื่อนตายของกวิน ในวันนี้ไม่ได้กลับมาเพื่อเคลียร์ศัตรู ไม่ได้กลับมาเพื่อคุมธุรกิจ... แต่กลับมาเพราะจะตั้งชื่อลูกให้เพื่อน“บอส! คุณคีย์กลับมาแล้วครับ!” แม็ก คนสนิทของกวิน รายงานอย่างขึงขัง แต่พอเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าล้อลาก และตุ๊กตาหมีสีฟ้ายักษ์ บรรยากาศก็เปลี่ยนทันที“อ้าว... พวกแกไม่ยืนตั้งแถวต้อนรับหลานฉันเหรอ!” คีย์ตะโกนลั่น“ลูก! กู! ไอ้คีย์” เสียงกวินดังมาจากด้านหลังด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ตึงเป๊ะ“เอ้า กวิน! กูรีบกลับมาเพราะเรื่องนี้เลยนะ ไหนหลานอยู่ไหน กูจะตั้งชื่อให้ว่าลีโอดีไหม หรือคาเรน ถ้าเป็นผู้หญิงชื่อนี้ความหมายดีนะ”กวินยกคิ้ว “สรุปมึงจะตั้งชื่อลูกกู?”คีย์ยักไหล่ “ก็หลานกูปะวะ”“คุณคีย์จะเห่อเกินไปแล้ว” แม็กพึมพำเบา ๆ จนวันสุขที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลุดหัวเราะ“นี่! อย่าคิดว่ากูจะไม่หาของเล่น นี่ซื้อมาครึ่งชั้นวางของในห้างแล้ว!” คีย์พูดอย่างภาคภูมิใจ พลางหยิบของเล่นเด็กอ่อนขึ้นมาโชว์เป็นชิ้น ๆวันสุขส่ายหัวพลางยิ้มกริ่ม“คุณคีย์คะ หลานยังไม่คลอดนะคะ อีก
คฤหาสน์ธาราพิพัฒน์หนึ่งเดือนหลังพิธีเปิด Phoenix Sovereign V.2ช่วงเย็นอบอุ่น แสงอาทิตย์สาดลอดผ้าม่านผืนบาง วันสุขเดินลงบันไดอย่างสบาย ๆ แต่กลับไม่เจอใครเลยในบ้าน แม้แต่แม่ของเธอก็หายตัวไปเงียบ ๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายสวนด้านหลังคฤหาสน์ เส้นทางไม้เรียงด้วยกลีบดอกกุหลาบ เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาลอยมา วันสุขเดินตามกลิ่นหอมบาง ๆ ของลาเวนเดอร์ จนถึงศาลากลางสวน ที่ถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับ ภายในศาลามีโต๊ะอาหารสำหรับสองที่ ไวน์แดง แชนเดอเลียร์คริสตัล และแม่ของเธอ ยืนยิ้มอยู่ข้างประตู “แม่?” วันสุขงงจนแทบหลุดยิ้ม แม่ของเธอยิ้มแล้วเดินมากุมมือเธอ“แม่เคยเห็นแววตาผู้ชายแบบเดียวกับพ่อของลูกครั้งหนึ่ง ในดวงตาของกวิน และวันนี้แม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะแม่ของลูกสาวที่กำลังจะถูกรักตลอดไป”เสียงเท้าคนเดินเข้ามาเงียบ ๆ กวินในชุดสูทเรียบหรู ก้าวออกมาจากเงาไม้ ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีปืน ไม่มีอำนาจ มีแค่แหวนในกล่องเล็ก ๆ และแววตาที่อ่อนโยน เหมือนพระจันทร์กลางคืนที่ไม่มีเมฆ“วันสุข ผมเคยสัญญากับพ่อคุณว่าจะดูแลคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากดูแลคุณเพราะสัญญาอีกแล้ว…”เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ยื่นกล่องแหวนออกมา มือข้างหนึ
กรุงเทพฯ สำนักงาน Phoenix Sovereign แห่งใหม่วันสุขในชุดสูทสีครีมเข้ม กวินอยู่ข้างกายในลุคมาดนิ่ง และคีย์เดินตามในมาดเงียบขรึม บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยพันธมิตร นักลงทุนระดับโลกและสื่อชั้นนำ“ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ค่ะ...” วันสุขเปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงเบื้องหน้าจอขนาดใหญ่ฉายสไลด์เปิดเผยโครงการลับ D-CHAIN พร้อมภาพของ เลิศศักดิ์ ณัฐพงศ์ ที่ถูกจับกุมแล้ว สร้างเสียงฮือฮาจนดังทั่วห้อง!“ผู้ชายคนนี้เคยพยายามเปลี่ยน Phoenix ให้กลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ ใช้เพื่อควบคุมระบบการเงินในโลกมืด วันนี้เขาถูกปลดจากทุกอำนาจอย่างถาวร”เสียงปรบมือเริ่มดัง แต่วันสุขยกมือขึ้นห้ามเบา ๆ“ยังไม่จบค่ะ…เพราะคนที่ร่วมมือกับเขายังมีชีวิตอยู่ และกำลังเตรียมแผนใหม่”บรัสเซลส์ ฐานลับของ Oblivion Techเซเลน่ากำแฟ้มข่าวเลิศศักดิ์แน่น หน้าเธอนิ่งสนิท...แต่นัยน์ตาแดงก่ำ“พวกเขารวมพันธมิตรแล้ว งั้นเราจะสร้างฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาเองบ้าง”เธอสั่งเปิดโปรเจกต์ใหม่ในระบบลับของบริษัทชื่อว่า Oblivion Mind AI แบบไม่ผ่านคณะกรรมการควบคุม แต่ถูกออกแบบให้ตัดสินใจได้ในระดับรัฐบาล“ถ้า Phoenix จะควบคุมโลกด้วยความสมดุล Obli
แฟรงก์เฟิร์ต เวลา 09:18 น.วันสุขเปิดโน้ตบุ๊กขึ้น หน้าจอแสดงข้อมูลชุดใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนชื่อไฟล์คือ Phoenix.Layer.2 Blackroom เอกสารภายในคือแผนขยายอิทธิพล Phoenix ที่ไม่เคยเปิดใช้พ่อของวันสุขเคยร่วมออกแบบโครงสร้างนี้ร่วมกับสามนักวิจัยเอไอระดับโลก แต่มันถูกแช่แข็งไว้ เพราะมันควบคุมได้มากเกินไปกวินเดินเข้ามา พร้อมถือถ้วยกาแฟสองใบ“คุณเปิดหมากแล้วใช่ไหม?”วันสุขหันมายิ้ม“อืม…ถึงเวลาทำให้เซเลน่ารู้ว่า ฉันไม่ได้มีแค่สิทธิ์บน Phoenix แต่มีทางเลือกใหม่ที่เธอไม่มี”เซเลน่าอยู่ตรงโถงล็อบบี้ตึกประชุมหลัก เธอได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจาก WS.DP-Corp รหัสที่เธอจำได้ดีว่าคือวันสุข หัวข้ออีเมล:Let’s make it global. But on my terms. (เรามาทำให้มันเป็นระดับโลกกัน...แต่ต้องตามเงื่อนไขของฉัน)เธอเปิดเมล สิ่งที่แนบมาคือแผนของ Phoenix Layer 2 ที่วันสุขเป็นคนถือลิขสิทธิ์ร่วมโดยสมบูรณ์ พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า…“คุณเสนอ Phoenix Oblivion…ฉันเสนอ Phoenix Sovereign มาร่วมโต๊ะใหม่ ที่ฉันเป็นเจ้าภาพสิ”เซเลน่ากำแก้วกาแฟแน่นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ“เธอเริ่มเดินเกมของตัวเองแล้วสินะ…”@ห้องของวันสุ