เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์
บ้านเกียรติภูมิ ช่วงค่ำ ภายในบ้านหลังเดิมที่เคยเต็มไปด้วยเสียงเถียง เสียงขัดแย้ง เสียงของใครบางคนที่คอยบ่นอยู่ไม่ไกลนัก ตอนนี้กลับเงียบจนได้ยินแม้แต่เสียงน้ำหยดจากก๊อกในครัว... สิงโตนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม มือถืออยู่ในมือตลอดเวลา หน้าไทม์ไลน์ I* เปิดค้างอยู่ตรง Story ของกระทิงกับกวาง 🎥 [Story กระทิง]: “วันซ้อมอีกวันกับตัวแทนดาวเดือนของผม! #กวางยิ้มเก่ง” กวางในคลิปหัวเราะเบาๆ กับปลาขณะถือไม้เซลฟี่ ทั้งร่าเริง ทั้งสวย ทั้ง…ห่างจากเขา สิงโตเลื่อนผ่านไปเงียบๆ ก่อนจะกดล็อกหน้าจอแรงๆ แล้วโยนมือถือบนโต๊ะ “เชี่ยเอ๊ย…” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นแบบไม่มีเหตุผล เปิด…แล้วปิด หงุดหงิดทั้งที่ไม่มีอะไรจะหงุดหงิด มหาวิทยาลัย วันที่ 15 ของการซ้อม พระพาย ปลา และกวางกำลังเดินลงจากหอประชุมหลังซ้อม “เก่งมากวันนี้ เดินได้ตรงจังหวะเป๊ะแล้วนะกวาง” กระทิงเอ่ยชมกวางพร้อมกับยื่นน้ำเปล่าให้ “จริงเหรอ? เรานึกว่าตัวเองสะดุดอีกแล้วซะอีก” กวางถามไปอย่างไม่มั่นใจในตัวเองมากนัก “ไม่เลย เราว่ากวางดูมั่นใจขึ้นเยอะ” กระทิงเอ่ยชมกวางไม่ขาดสาย “ก็มีเทรนเนอร์ดีนี่จ๊ะ กระทิงมองตาปร๊าดแทบละลายทั้งเวทีแล้ววันนี้!” พระพายแซวทันที กวางหัวเราะแล้วส่ายหน้า พยายามกลบเกลื่อนแต่เธอเองก็รู้ตัว…ว่าเธอเริ่มรู้สึกดีๆ กับคนคนนี้มากขึ้นในทุกวัน . . . บ้านเกียรติภูมิ เวลาล่วงเลยไปถึงเกือบหนึ่งทุ่มสิงโตยังไม่กินข้าวเย็นแม้กับข้าวจะวางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดเขานั่งหงุดหงิดอยู่ที่ระเบียงบ้านมองไฟหน้าบ้าน…แล้วมองนาฬิกา…แล้วถอนหายใจ “ไปไหนนักหนาวะ…” แม้จะรู้ดีว่าเธอไปซ้อมดาวเดือน แม้จะไม่มีสถานะอะไรแต่เขากลับเริ่มรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันเงียบเกินไป…เวลาที่น้องสาวไม่อยู่ ทันใดนั้น…เสียงประตูรั้วเปิดออกรถของกระทิงมาส่งกวางหน้าบ้านอีกครั้ง เสียงหัวเราะเบาๆ ของทั้งคู่ลอยมากับลมเย็น เธอกล่าวขอบคุณแล้วโบกมือลาอย่างเป็นมิตรโดยไม่ทันรู้เลยว่า…สายตาเจ้าของบ้านที่แอบมองอยู่บนระเบียง มันแทบจะลุกเป็นไฟ “มึงยังจะให้มันมาส่งอีกเหรอวะ…” เขาพึมพำก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านอย่างหัวเสีย เสียงประตูถูกปิดแรงอีกครั้งไม่ต่างจากหัวใจที่เริ่มสับสนจนควบคุมไม่อยู่ ห้องนอนสิงโต ในความมืดของห้องนอนที่ไฟสลัวๆ เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้น ข้อความจากกวางปรากฏบนหน้าจอ: “หนูกลับถึงบ้านแล้วค่ะ ขอโทษที่กลับค่ำนะคะพี่ชาย” เขาจ้องจออยู่สักพักมือเลื่อนไปถึงปุ่มพิมพ์ข้อความตอบกลับ…แต่กลับหยุดไว้แค่นั้นก่อนจะกดปิดหน้าจออีกครั้ง “กูจะรู้สึกอะไรวะ…ก็แค่น้อง…แค่เด็กน่ารำคาญคนหนึ่ง…” เขาหันตัวลงนอนหันหลังให้แสงไฟแต่นอนไม่หลับทั้งคืน วันฟิตติ้งชุดจริงก่อนวันประกวด 3 วัน ในห้องฟิตติ้งหลังคณะนิติศาสตร์กระทิงเดินออกมาก่อนในชุดสูทเรียบหรูแล้วจึงถึงตาของกวาง...เธอก้าวออกมาพร้อมชุดราตรีเว้าหลังสีขาวไข่มุก ผมถูกรวบขึ้นเปิดต้นคอขาวเนียน ทุกคนในห้องหันมองเป็นตาเดียว วันก่อนประกวด ลมเย็นพัดแรงขณะพวกตัวแทนดาวเดือนซ้อมเดินกลางลาน กวางตัวสั่นเล็กน้อยหลังซ้อมจบกระทิงเอาผ้าพันคอจากตัวเองไปคลุมให้โดยไม่พูดอะไร และเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข รับไว้โดยไม่เกี่ยง ห่างออกไปใต้ต้นไม้ริมลานสิงโตยืนกอดอกมองเหตุการณ์ทั้งหมด เขาไม่พูด ไม่ขยับ แต่ขากลับบ้านคืนนั้น ขับรถเลยทางเข้าบ้านตัวเองไปอีกสองแยกแล้วเพิ่งรู้ว่าหลง วันก่อนประกวดคืนสุดท้าย โต๊ะทานข้าวเงียบ จานที่เคยมีของโปรดของเขา…ไม่มีเพราะไม่มีใครทำ สิงโตเดินออกจากห้องครัวเปิดตู้เย็นหาของกินมีแต่อะไรแช่แข็งกับน้ำเปล่า “นี่แค่เด็กไม่อยู่บ้าน 3 วัน ถึงกับลืมวิธีหุงข้าวเลยเหรอวะ…” เขาหัวเราะหยันๆ ให้ตัวเองแล้วทิ้งตัวลงโซฟา เงียบ…มาก มือถือเขาสั่นเบาๆ “พระพาย: กวางฝากบอกว่าอย่าลืมมาดูวันประกวดนะคะ :)” เขาพิมพ์จะตอบกลับ แต่ลบ จะพิมพ์ใหม่อีกก็ลบอีก สุดท้ายแค่ปิดหน้าจอ แล้วพึมพำว่า… “ใครจะไปสน” แต่ในใจ…ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน วันประกวดหาดาวคณะนิติศาสตร์ บรรยากาศคึกคัก เสียงกรี๊ดดังทั่วหอประชุมกวางก้าวออกมาพร้อมกระทิงในชุดประจำตำแหน่ง สวย เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย กระทิงเดินเคียงข้างอย่างมั่นใจ จับมือเธอแน่นก่อนจะหมุนเธอให้ยืนกลางเวทีตอนประกาศผล เสียงผู้ประกาศดังขึ้น “ตัวแทนดาวเดือนคณะนิติศาสตร์ปี 1 ได้แก่… คุณกระทิง และคุณกวาง!!” เสียงกรี๊ดระเบิด คนดูส่วนหนึ่งลุกขึ้นปรบมือ รวมถึง…สิงโตเขาปรบมือช้าๆใบหน้าไร้อารมณ์แต่มือกลับกำแน่นอยู่ใต้โต๊ะไม่รู้เพราะอะไร ไม่รู้ทำไม…จู่ๆ ก็อยากให้เธอหันมามองตรงนี้ อยากให้เธอเห็น…ว่าเขาก็มา แต่เธอมองแค่กล้อง…แล้วหันไปยิ้มให้กระทิง หลังเวที “ถ้าเราถ่ายคู่กันแบบส่วนตัวอีกซักรูปจะได้มั้ย?” กระทิงขอกวางถ่ายรูปนอกรอบอีกครั้ง “ได้สิ!” กวางพยักหน้าส่งยิ้มให้กระทิง กระทิงยกมือถือขึ้น กวางทำท่าชูสองนิ้วใส่กล้องทันใดนั้น…เสียงฝีเท้าเดินผ่านหลังเวที สิงโตที่กำลังเดินผ่านเห็นภาพนั้นพอดีแต่ไม่หยุด ไม่พูด แค่เดินเร็วขึ้น…เพื่อหลบความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถนิยามได้ บ้านเกียรติภูมิ กวางเปิดประตูเข้าบ้านเงียบๆเจอไฟห้องครัวเปิดไว้กับข้าววางอยู่ มีโน้ตเขียนว่า “กินซะ เดี๋ยวก็เป็นลมอีก กูไม่ว่างไปรับที่โรงพยาบาล” เสียงช้อนกระทบจานเบาๆ ในห้องครัวกลางดึกกวางนั่งกินข้าวด้วยรอยยิ้ม ทั้งที่ตาแดงจากความเหนื่อย เธอหยิบโน้ตขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วยิ้มมุมปาก “ก็แค่ไม่ว่างไปโรงพยาบาลเองล่ะสิ…แหม ทำเป็นห่วง…” เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังมาจากบันไดเจ้าของเสียงคือพี่ชายปากร้ายที่ลงมาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม ขยี้ผมยุ่งๆ อย่างเพิ่งลุกจากเตียง “มึงทำอะไรวะ ดึกป่านนี้” เสียงดุดันมาเต็ม แต่หน้าดูง่วงชัด “กินข้าวค่ะ หิว” กวางหันหน้ามาตอบยิ้มๆให้พี่ชาย “มีคนบ้านไหนมันไปเดินเวทีทั้งวันแล้วยังไม่ยอมแดกอะไรซักอย่างก่อนกลับบ้าน” พี่ชายบ่นให้น้องสาว “ก็หนูรีบ… แล้วขอบคุณสำหรับข้าวนะคะ” กวางฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้พี่ชาย สิงโตเดินผ่านทำเหมือนไม่ได้ยินแต่ไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำมากระดกแล้วพูดขึ้นโดยไม่หันกลับมา “กูไม่ได้ห่วง กูแค่รำคาญ ถ้ามึงเป็นลมขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ? กูต้องเสียเวลาขับรถ” “ค่า…หนูเข้าใจแล้วค่ะพี่สิงโตที่แสนไม่ห่วงหนูเลย” กวางหัวเราะเบาๆ แล้วลุกไปเก็บจาน “ไปนั่งลง เดี๋ยวกูล้างให้” แต่เธอยังไม่ทันเดินไปที่ซิงก์…เขากลับคว้าไปจากมือ “หืมมมม~ โหหห พี่สิงโตคนปากหมาล้างจานให้หนู! บันทึกไว้เลยค่ะ คืนนี้แปลกมาก!” กวางยิ้มไม่ยอมหุบตั้งแต่เดินเข้ามาที่บ้าน เธอเหนื่อย แต่กลับมาเจอแบบนี้ก็หายเหนื่อย เพราะพี่ชายยอมสงบศึกกับเธอวันนี้ ปกติจะด่ากันทุกวันเลย “กูแค่ไม่อยากให้ห้องมันเหม็นข้าวบูด…” เขาว่าพลางหันหลังให้ แต่เธอกลับยืนมองเขาล้างจานอย่างตั้งใจ…เงียบๆพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดขึ้นในหัวใจ .........พี่ชาย.........บ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ