ผับราชสีห์
ห้อง VIP หลังผับปิด เสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ “มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ “กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ “เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอ แต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้ว เสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?” “กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทน จากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น “มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…” ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืน คืนฝนตก หอพักของกวาง กวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไม่เคยอ่านข้อความที่เธอส่งเลย ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น “กวาง… นี่กระทิงนะ เราเอาขนมมาให้…” เธอลังเล… แต่เปิดประตู กระทิงยืนอยู่ในเสื้อแจ็กเก็ตเปียกฝน มือถือถุงขนมเปียกๆ “เธอไม่ตอบไลน์เลย เราเลยแวะมาดู” “ขอบใจนะ…” กวางรับถุงขนมมาแล้วทำท่าจะปิดประตู แต่กระทิงพูดขึ้นเบาๆ “อย่าร้องไห้ตอนอยู่คนเดียวเลย… เราขออยู่เป็นเพื่อนคืนนี้ได้มั้ย” คืนนั้น… พวกเขานั่งกินขนมกันเงียบๆข้างหน้าต่าง เสียงฝนโปรย เสียงหัวเราะเบาๆที่ค่อยๆ กลับมาและสายตาอ่อนโยนของกระทิงที่มองเธออย่างไม่เร่งเร้าแต่มากพอให้ใจเธอ “หวั่นไหว” อย่างจริงจัง สามวันต่อมา ตอนค่ำ สิงโตจอดรถหรูหน้าหอพักเก่าเขาเดินขึ้นบันไดทีละชั้น เสื้อเชิ้ตยับ ดวงตาแดงก่ำเพราะไม่ได้นอน ถึงหน้าห้องของกวาง เขายืนนิ่ง ไม่เคาะ แต่จังหวะนั้นเองประตูก็เปิดออกและสิ่งที่เขาเห็นคือ…กระทิงนั่งอยู่ข้างใน “มึงอยู่กับมันเหรอ…” เสียงสิงโตดังขึ้นน้ำเสียงนิ่งแต่แฝงความสั่น กวางชะงัก กระทิงลุกขึ้นยืนทันทีท่าทีสุภาพ “พี่สิงโต มาคนเดียวเหรอ?” กวางถามเลิ่กลั่ก “ไม่เสือกได้มั้ย?” สายตากวางเปลี่ยนทันที คำพูดที่เคยเจ็บ… เธอจำได้แม่น “กลับไปเถอะพี่สิงโต ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตกวางอีก…” “ใครสั่งให้มึงพูดจาแบบนี้วะ! ไอ้กระทิงเหรอ?! มึงมันตัวเสือก!” สิงโตกระชากคอเสื้อกระทิงทันที ก่อนจะผลักกันเบาๆ “พอกันที! กวางไม่ใช่ของใคร และกวางก็ไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนเดิมที่ให้พี่ด่าเล่นอีกแล้ว!” เสียงกวางชัดเจน รวดเดียวจบ สิงโตชะงัก… หายใจแรง ยืนจ้องเธอเหมือนคนไม่อยากเชื่อว่าคนที่เขาเคยไล่ เคยว่า เคยผลักไส…ตอนนี้เธอไม่เหลือพื้นที่ให้เขาอีกแล้วจริงๆ บ้านเกียรติภูมิ กลางคืนบ้านหลังใหญ่ที่เคยมีเสียงหัวเราะ เสียงประตูเปิดด้วยแรงจากมือหนักๆ สิงโตเดินเข้ามาในบ้าน… เสื้อยับ ผมยุ่ง หน้าเหนื่อย บ้านเงียบ ไม่มีเสียงใครเรียก ไม่มีเสียงเปิดไฟในครัว ไม่มีหม้อเล็กๆบนเตา ไม่มีกล่องข้าวตั้งไว้หน้าตู้เย็นแบบทุกครั้ง เขาถอดรองเท้าโยนไว้แบบไม่สนใจเดินขึ้นชั้นบนผ่านห้องนอนของกวาง… ที่ตอนนี้ว่างเปล่า ประตูห้องเปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่ง ไม่มีของ ไม่มีกลิ่น ไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากความว่างเปล่า สิงโตยืนอยู่ตรงนั้นนานมาก… ก่อนจะพูดกับตัวเองเสียงเบา “มึงหายไปจริงๆแล้วสินะ…” เขาย่อตัวลงนั่งกับพื้นหน้าห้อง กอดเข่าตัวเองไว้นิ่งๆแล้วหัวเราะเบาๆ “ดีแล้ว…อยู่กับมันไปนั่นแหละ…” เงียบ… “ไอ้กระทิงมันไม่เคยพูดให้มึงร้องไห้แบบที่กูทำ มันไม่เคยตะคอกใส่มึงเหมือนกู…แม่งไม่เคยเลย…”น้ำเสียงเขาสั่น มือกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือ “แต่กูก็ไม่เคยให้มึงอยู่คนเดียวสักวันเลยเหมือนกัน กูทำงานหนักแค่ไหน กูก็กลับบ้านทุกคืน เพราะกูรู้ว่ามึงจะต้องรอกูกลับบ้าน” … “แล้วมึงก็ไปอยู่กับมันจริงๆ …” เสียงสุดท้ายนั้น… เบาเหมือนขาดใจ คืนนี้… ห้องทั้งหลังเงียบสนิท แต่ในอกของสิงโตมันวุ่นวายยิ่งกว่านรก วันต่อมา สวนเล็กหน้าหอพัก กวางนั่งรอรถกลับห้องแต่กระทิงเดินมาหาในมือถือโหลแก้วเล็กๆใส่ดาวกระดาษสีพาสเทล บนฝาเขียนไว้ว่า “ขอให้ใจหายดีในเร็ววัน” “เราอยากให้กวางเอานี่ไป…” กระทิงบอกพร้อมยื่นให้ “ทำไมถึงพับดาวให้ขนาดนี้ล่ะ…” กวางถามยิ้มๆ “เพราะทุกครั้งที่กวางร้องไห้ เราไม่อยากให้น้ำตากวางหายไปเปล่าๆ เราอยากให้มันกลายเป็นดาวที่กวางจะเก็บไว้… แล้วเอาไปเริ่มต้นใหม่” เธอนิ่งไปนานมาก กระทิงมองตรงเข้าตาเธอ “เราไม่อยากเป็นแค่คนปลอบใจอีกแล้วกวาง ถ้าเธอยังไม่พร้อมจะรัก… ไม่เป็นไร แต่เราพร้อมจะรักคนที่เจ็บอยู่ตรงหน้าเราตอนนี้เลย…” กวางก้มหน้าลง… หัวใจเธอเต้นแรงเกินกว่าจะซ่อน สายตาคู่นั้นไม่เร่ง ไม่คาดหวัง ไม่ดึง ไม่ดัน แต่ “ยืนยัน” … “เราจะขอเป็นคนที่อยู่ข้างๆอย่างที่เคยเป็น แต่อยากให้เธอรู้ว่า… เราไม่แคร์ว่าอดีตเธอมีใคร เพราะอนาคตของเธอ… เราอยากมีชื่ออยู่ด้วย” กวางหลบตา หัวใจเต้นสั่น มือที่รับโหลดาวมากอดไว้แน่น “เราขอคบกวางนะ…” ไม่มีคำตอบทันที แต่เสียงหัวใจของเธอ…มันเต้นแรงจนเธอรู้ว่า “มันไม่ได้ปฏิเสธ” ผับราขสีห์ กลางวัน ในห้อง VIP ผับของสิงโต สิงโตนั่งอยู่คนเดียว ไม่เปิดไฟ ผ้าม่านปิดมิดแสง มือข้างหนึ่งถือขวดวิสกี้ อีกข้างเปิดมือถืออย่างเหม่อๆ มีข้อความจากเม้าท์ส่งมาว่า: 📸 [ภาพกระทิงกับกวางยืนอยู่ข้างกัน หน้าโรงอาหารมหาวิทยาลัย] “ดูสายตาไอ้กระทิงดิ มันของจริงว่ะพี่” “เขาลือกันทั้งคณะแล้ว ว่ามันขอกวางคบไปเมื่อวาน” … มือที่จับมือถือของสิงโตแน่นขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไรแค่หัวเราะเบาๆแบบคนป่วย จากนั้นเขาลุกขึ้นทันทีปัดขวดเหล้าหล่นแตกพื้นเสียงดัง “หึ… มึงกล้าดีนี่ไอ้กระทิง…” เขาหยิบเสื้อคลุม ใส่แว่นดำ เดินออกจากผับทันที แต่ไม่ได้ไปหากระทิง ไม่ได้ไปหากวาง ไม่ได้พูดอะไรกับใคร…เขาขับรถแล้วขับวนรอบมหาวิทยาลัยเหมือนคนที่ไม่รู้จะทำอะไรกับความเจ็บในอกตัวเองบ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ