Share

9

Penulis: Plearn9
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-25 11:08:05

เมื่อมาถึงร้านเทียนก็รีบเดินไปที่รถของเขาทันที

"ซี๊ด!..." เขาร้องออกมาทันทีที่ใช้มือแตะหลังคารถพร้อมกับรีบชักมือกลับเพราะตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนอนตากแดดมาหลายชั่วโมงแล้ว

"โธ่~ตัวร้อนจี๋เลยลูกไว้กลับบ้ทนพ่อเปิดแอร์ให้นอนฉ่ำๆ เลยนะ" เทียนพูดกับรถเบาๆ ปูนปั้นเดินตามมาทีหลังก็ถึงกับส่ายหัวให้ความโอเว่อร์ของเทียนทันที เขาเดินล้วงหากุญแจเปิดร้านในกระเป๋าจนมาหยุดอยู่หน้าประตูร้านทันที

"เจอแล้ว" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองร้านของตัวเองแต่เขาก็ต้องตกใจ

"เฮ้ย!" ทันทีที่เทียนได้ยินเสียงของปูนปั้นเขาก็รีบหันไปหาปูนปั้นด้วยความเป็นห่วงแต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือร้านของปูนปั้นถูกพ่นสีสเปรย์เขียนคำหยาบคายไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ปูนปั้นเองก็ช็อคไม่ต่างกันเงยหน้ามองแล้วอ่านคำด้าท่อพวกนี้ทั้งหมดด้วยความโมโหและสับสน เทียนเดินเข้าไปหาปูนปั้นใกล้ๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าโอเคหรือเปล่า

"รู้ไหมว่าใครทำ" เทียนถาม ปูนปั้นส่ายหน้าตอบว่าไม่รู้ 

"เข้าไปตรวจดูข้างในก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปไหม" เทียนพูด ปูนปั้นหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขายังอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็ไขกุญแจเปิดร้านทันทีซึ่งสภาพภายในร้านยังปกติดีทุกอย่างไม่มีอะไรเสียหายเลย

"ดูท่าคงไม่ได้เข้ามา" เทียนพูดแล้วเดินดูรอบๆ สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับปูนปั้นเขาเลยรู้สึกกลัวนิดหน่อยและทำตัวไม่ถูก เทียนรู้สึกว่าปูนปั้นเงียบไปเลยหันไปดูเขาซึ่งตอนนี้ปูนปั้นยืนกำกุญแจร้านไว้แน่นแล้วมีสีหน้าที่ตกใจไม่น้อยเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา

"กลัวเหรอ" เทียนถาม

"นิดน่อยครับ" ปูนปั้นตอบ เทียนยกมือขึ้นมาแล้วลูบหลังปูนปั้นเบาๆ 

"ไม่เป็นไร~" เทียนพูดแล้วมองหน้าเขาด้วยสายที่อ่อนโยน ปูนปั้นเหมือนถูกมนต์สะกดจากเทียนเลยเพราะแม้จะไม่รู้จักกันดีแต่เขากลับรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจเทียนอย่างมาก ทั้งคู่สบตากันอยู่พักนึงก่อนปูนปั้นจะก้มหน้าลงไปหาโทรศัพท์ในกระเป๋าด้วยความร้อนรน

"เป็นอะไร" เทียนถามด้วยความเป็นห่วง

"จะให้พนักงานมาเห็นร้านในสภาพนี้ไม่ได้ พวกเขายิ่งใจคอไม่ดีกับสถานการณ์ของร้านอยู่ดังนั้นผมต้องแจ้งเข้าไปในแชทกลุ่มว่าวันนี้ร้านปิดพวกเขาจะได้ไม่ต้องมาทำงาน" ปูนปั้นตอบ ท่าทางตื่นตกใจของปูนปั้นทำเอาเทียนรู้สึกไม่ว่างใจเลย

หลังจากที่ปูนปั้นแจ้งพนักงานทุกคนแล้วเทียนก็พาเขาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจทันทีจากนั้นก็พากลับมาส่งที่ร้าน

"จะเอายังไงต่อ" เทียนถาม

"ไม่รู้สิแต่สภาพร้านแบบนี้ผมเปิดขายไม่ได้แน่นอน" ปูนปั้นตอบ

"หน้าร้านมีกล้องวงจรปิดไม่ใช่เหรอทำไมถึงไม่เอาหลักฐานไปให้ตำรวจล่ะ" เทียนถาม

"กล้องหน้าร้านมันเสียมาหลายเดือนแล้วอ่ะ ผมเห็นว่ามันไม่จำเป็นก็เลยยังไมาได้เรียกช่างมาดู" ปูนปั้นตอบ เทียนแทบอยากจะเขกกระโหลกปูนปั้นสักทีที่เจ้าตัวทำอะไรไม่รอบคอบแบบนี้

"แล้วเป็นไง...ตอนนี้จำเป็นพอยัง" เทียนถามเชิงประชดประชัน

"รู้แล้วหน่า~" ปูนปั้นตอบ เทียนเดินไปนั่งลงข้างหน้าเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ปูนปั้นเองก็หันมามองเทียน

"ลุงมารอเจอพี่หมิงใช่ไหม วันนี้พี่หมิงเขาไมามาหรอก" ปูนปั้นพูด

"ไหนว่าหมิงไม่มีโทรศัพท์ไงแล้วเขารู้ได้ไงว่าร้านหยุด" เทียนถาม

"พี่หมิงไม่รู้หรอกแต่ก่อนเมื่อวันก่อนพี่หมิงเขาขอลาหยุด 3 วันเพื่อพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามใบนัดน่ะ" ปูนปั้นตอบ

"อ๋อ~" เทียนตอบ ปูนปั้นถอนหายใจออกมาแล้วทิ้งหัวลงไปนอนกับโต๊ะอย่างคนหมดอะไรตายอยาก

"จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...พรุ่งนี้จ้างช่างมาจัดการก็ไม่รู้จะเสร็จไหม" ปูนปั้นพูดตัดพ้อกับตัวเอง

"เดี๋ยวฉันจะหาตัวคนทำมาให้นายเอง" เทียนพูดขึ้นมาหลังจากนั่งดูปูนปั้นงอแงมาสักพัก ปูนปั้นเงยหน้าขึ้นมามองเทียนแล้วส่ายหน้า

"ไม่ต้องหรอกลุง ผมไม่อยากรบกวนลุงอ่ะ" ปูนปั้นตอบ

"เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" เทียนพูด ปูนปั้นกน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความเขิน

"อย่าลืมสิ...ฉันจีบนายอยู่นะ" เทียนพูดแล้วมองจ้องไปที่ปูนปั้นเพื่อให้เขาเชื่อว่าตนเองกำลังจริงจังอยู่ 

"ไอ้เด็กโงเอ้ย~" เทียนพูดจบก็หันออกไปมองรอบร้านเพื่อดูว่าจะเริ่มจากอะไรได้บ้างแต่ปูนปั้นยังคงช็อคอยู่ที่ได้ยินเทียนพูดออกมาตรงๆ แบบนี้แม้จะรู้ว่าเทียนสนใจเขาอยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะรุกเร็วขนาดนี้เพราะมันทำให้เด็กอย่างเขารับมือไม่ทันจริงๆ 

หลังจากแยกย้ายกันกลับเทียนก็ตรงไปที่บ้านใหญ่ทันทีเพื่อไปขอพบคุณโฉม

"สวัสดีครับคุณเทียน" พายุรีบเดินข้ามารับทันทีที่มีแขกมาที่บ้าน

"ย่ารองล่ะ" เทียนถาม

"คุณโฉมอยู่กับคุณหญิงที่ห้องหนังสือครับ" พายุตอบ

"ดี นายตามฉันไปพบย่ารองด้วย" เทียนพูด

"ฮะ? ผมเหรอครับ" พายุถามด้วยความสงสัยเพราะอยู่ดีๆ เทียนก็โผล่มาที่บ้านใหญ่แบบงงๆ

"เออ" เทียนตอบแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนทันที พายุแม้จะงงๆ แต่ก็รีบตามเทียนไปเหมือนกันเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ

"ขออนุญาตครับ" เทียนพูดขึ้นเมื่อมาถึง คุณหญิงทั้งสองหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นหลานชายของตัวเองมาหาจึงได้วางของในมือลงแล้วหันมาสนใจเทียนแทน

"มาหาคุณย่าเหรอเทียน" คุณโฉมถาม

"เอ่อ~ผมมาหาทั้งคุณย่าแล้วก็ย่ารองเลยครับ" เทียนตอบแล้วเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าคุณหญิงหยาดทิพย์

"มีธุระอะไรเหรอลูกถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" คุณหญิงหยาดทิพย์ถามแล้วเพราะใบหน้าของหลานชายเต็มไปด้วยเหงื่อพร้อมก้บยื่นมือไปหยิบผ้าเช็คหน้าปักลายของตัวเองขึ้นมาซับเหงื่อให้เขา

"ขอบคุณครับคุณย่า" เทียนตอบ

"มีอะไรก็ว่ามาเถอะ" คุณโฉมถาม

"คือผมอยากได้คนมาดูแลและช่วยงานผมน่ะครับ" เทียนตอบ

"อ๋อ~ได้สิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ย่าจะให้วิสุทธิ์เขาเก็บของย้ายไปอยู่บ้านนู้นแล้วกัน" คุณโฉมตอบ

"วิสุทธิ์ดูแลคุณปู่มาตลอดหลังจากที่คุณปู่จากไปก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมว่าผมขอเป็นคนอื่นดีกว่าครับ" เทียนพูด

"แล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะ วิสุทธิ์เขารู้งานทุกอย่างน่าจะพอช่วยหลานได้นะ" คุณหญิงหยาดทิพย์ถาม

"ผมอยากได้พายุครับ" เทียนตอบ คุณผู้หญิงทั้งสองหันหน้ามองกันด้วยความไม่เข้าใจ พายุเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะที่ผ่านมานอกจากดูแลบ้านคุณซ่งก็ไม่เคยให้เขาออกไปทำงานอะไรเลย

"แต่พายุมันทำอะไรไม่เป็นเลยนะเทียน" คุณโฉมพูด

"ผมเชื่อว่าพายุเป็นคนเก่งครับเพียงแต่ที่ผ่านมาคุณปู่เป็นห่วงเขามากเลยไม่ยอมให้เขาออกไปทำงานข้างนอกเลยและผมก็เชื่อว่าพายุมันก็คงไม่ได้อยากทำงานดูแลบ้านแบบนี้ไปตลอดหรอก...ยกให้ผมเถอะนะครับคุณย่า นะครับย่ารอง" เทียนตอบ คุณผู้หญิงทั้งสองเองอยากให้เทียนเลือกคนที่เป็นงานหน่อยไปอยู่ข้างกายเพราะตอนนี้เขาเป็นผู้นำตระกูลแล้วแต่ในทางกลับกันพวกเธอก็รู้ว่าไม่ว่ายังไงพายุจะเป็นคนที่จงรักภักดีและซื่อสัตย์ที่สุดอย่างแน่นอนเลยไม่แน่ใจว่าควรตัดสินใจยังไงดี

"ยังไงซะพายุมันก็เป็นคนที่ปู่แกรับมาเลี้ยง มันจะไปไม่ไปย่าก็แล้วแต่มันล่ะกัน" คุณโฉมตอบ

"ไปครับ ผมไปครับ" พายุรีบตอบขึ้นมาทันทีด้วยความดีใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่ที่นี่แต่เขาอยากออกไปทำงานจริงตามที่เคยได้ฝึกมาสักครั้งเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลนี้เคยให้ข้าวให้น้ำจนเขาเป็นเขาอย่างทักวันนี้

"ดูแลตาเทียนให้ดีอย่าให้ฉันและคุณซ่งต้องผิดหวังที่รับแกมาดูแล เข้าใจไหม" คุณโฉมพูด

"ครับคุณโฉม" พายุตอบเสียงดังฟังชัดใบหน้าของเขาเต็ทไปด้วยรอยยิ้มจนผู้ใหญ่ทั้งสองอดเอ็นดูไม่ได้

"ขอบคุณนะครับคุณย่า ขอบคุณนะครับย่ารอง" เทียนพูด

"คุณปู่ฝากความหวังไว้เทียนต้องทำให้ดีที่สุดนะลูก" คุณหญิงหยาดทิพย์พูดแล้วลูบหัวหลานชายด้วยความเอ็นดู 

"ครับคุณย่า" เทียนตอบแล้วหันไปหาพายุ

"พายุ" เทียนเรียก

"ครับคุณเทียน" พายุตอบ

"ไปเก็บของเดี๋ยวกลับไปพร้อมกับฉันเลย" เทียนพูด

"ครับ!" พายุตอบแล้วรีบวิ่งออกไปทันที

"ไอ้เด็กคนนี่หนิ! กระโตกกระตากจริง" คุณโฉมว่าตามหลังที่เห็นพายุดีใจออกหน้าออกตาจนลืมมารยาทไปเลย

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" เทียนกล่าวลาย่าทั้งสองพร้อมยกมือไหว้อย่างสุภาพก่อนจะออกจากห้องนั้นมายืนรอพายุที่รถ

"อู้หู~คุณเทียน ผมจะได้นั่งรถคันนี้ของคุณเทียนเลยเหรอครับ" พายุถามด้วยความดีใจจนตาแทบจะถลนออหจาเบ้าอยู่แล้ว

"อย่าพูดมากแล้วรีบไปขึ้นรถเลย" เทียนตอบ

"ครับๆ" พายุพูดแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูรถทันที

"ระวังอย่าให้เป็นรอยนะ" เทียนเอ่ยเตือนเพราะท่าทางของพายุดูตื่นเต้นจนลนไปหมด

"ครับคุณเทียน" พายุตอบแล้วรีบขึ้นไปนั่งบนรถ

"คิดผิดป่ะว่ะเนี่ย" เทียนบ่นแล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถด้วยสีหน้าเซ็งๆ ก่อนจะขับรถออกจากที่นี่แล้วกลับบ้านของเขาทันที

"คุณหล่ง คุณดาริน...คุณเทียนกลับมาแล้วครับ" เจสันเดินเข้ามาบอกกับทุกคนหลังจากที่เห็นรถของเทีียนเลี้ยวเข้ามาในบ้านและไม่นานเทียนก็เดินเข้ามาพร้อมกับพายุ สร้างความแปลกใจให้กับบอดี้การ์ดทุกคนไม่น้อย

"คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ" เทียนกล่าวทักทายพ่อแม่ที่นั่งรออยู่

"กินข้าวกินปลามาหรือยังจ๊ะ" ดารินถาม

"แกพาพายุมาที่บ้านเราทำไม" หล่งถามลูกชายด้วยความสงสัยเพราะจริงๆ คนที่บ้านของเขาก็เยอะอยู่แล้วถ้าเทียนต้องใช้คนก็สามารถเอาไปใช้ได้เลยไม่เห็นจำเป็นต้องดึงคนของบ้านใหญ่เข้ามาที่นี่เลย

"ต่อไปนี้พายุเขาจะมาทำหน้าที่ดูแลผมครับ" เทียนตอบ

"ลูกเลือกพายุเหรอ" ดารินถามด้วยความตกใจ

"ครับ" เทียนตอบ

"แต่พ่อไปขอกับคุณย่าให้แช้วหนิว่าจะให้วิสุทธิ์มาดูแลลูกต่อทำไมเขายังส่งไอ้พายุมาอีกล่ะ มันไม่เป็นงานลูกจะเอามาเป็นภาระทำไม" หล่งพูด

"ผมเลือกพายุครับ" เทียนตอบ

"ถ้ามันดูแลงานในบ้านพ่อก็เยอะว่าไม่มีใครเก่งไปกว่ามันแล้วแต่ถ้าจะเอามาช่วยงานจริงๆ พ่อว่ามันไม่ไหวหรอก" หล่งพูด พายุรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองจริงๆ เขารู้ว่าพวกคุณๆ ไม่มีใครรังเกียจเขาหรอกแต่ว่าทุกคนก็ไม่มีใครเชื่อในตัวเขาเลยว่าเขาจะสามารถช่วยงานทุกคนได้ ที่ผ่านมานอกจากดูแลเรื่องกินอยู่ของคุณซ่งแล้วเขาก็มีหน้้าที่ต้อนรับและยกกระเป๋าให้กับทุกคนเท่านั้นทั้งที่มันไม่ใช่งานที่เขาอยากทำเลยแต่เขาก็ยอมทำด้วยความเต็มใจเพราะเป็นคำสั่งของคุณซ่ง 

"ผมเชื่อว่าพายุจะช่วยงานผมได้ครับ" เทียนตอบ

"งั้นก็เอาเวกัสไปด้วยอีกคน เวกัสมันทำงานดีให้มันดูแลงานนอกบ้านของแกแล้วกันส่วนพายุก็ให้อยู่ในบ้านดูแลงานเล็กๆ น้อยๆ ไป" หล่งพูด นี่มันก็ไม่ต่างอะไรจากเดิมที่พายุเคยทำเลยเพียงแค่เปลี่ยนจากทำที่บ้านใหญ่มาทำที่นี่เฉยๆ 

"ขอบคุณที่พ่อให้ยืมคนนะครับแต่ผมอยากให้พายุมาทำงานด้วยหวังว่าพ่อจะไม่ติดอะไรนะครับ" เทียนตอบ

"ตาเทียน!" หล่งเริ่มหงุดหงิดที่ลูกชายดื้อไม่ฟังที่เขาแนะนำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบพายุแต่เขาไม่เชื่อว่าพายุจะมีความสามารถมากพอจะดูแลเทียนได้

"คุณค่ะ" ดารินรีบห้ามสามีเพราะเห็นว่าเขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว

"เทียนไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก" ดารินหันมาบอกลูกชายเพื่อตัดปัญหา

"ครับแม่" เทียนตอบแล้วหันหลังกลับไปหาพายุและเจสัน

"เดี๋ยวนายตามเจสันไปนะ เขาจะพานายไปที่ห้องพักเองเก็บของเสร็จแล้วก็ขึ้นมาหาฉันที่ห้อง ฉันมีอะไรจะคุยด้วยหน่อย" เทียนพูด

"ครับคุณเทียน" พายุตอบแล้วก็เดินตามเจสันออกไป เทียนหันไปดูพ่อกับแม่แป๊ปนึงก่อนจะเดินขึ้นไปรอพายุบนห้องนอน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   จบ

    17:45 น.ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์) ปูนปั้นใช้มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา"ฮัลโหลลล~""ทำไมเสียงเป็นงั้นอ่ะนี่ยังไม่ตื่นอีกเหรอปูน คนอื่นเขามารวมตัวกันแล้วนะ" เอมม่าพูด"ตื่นแล้ว" "เสียงยังงัวเงียอยู่เลย เนี่ยพี่ให้ทางรีสอร์ทเขาจัดโต๊ะให้หน้าหาดแล้วกำลังจะตั้งเตาเลย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินด้วยกันนะ" "รู้แล้ววว เดี๋ยวตายไปนะ""เร็ว ๆ เข้าล่ะ ช้าหมดอดกินนะ" "คร้าบบบ" ปูนปั้นลุกจากเตียงทั้งที่ยังคงง่วงอยู่เพราะก่อนหน้านี้เขาทานยาแก้เมาเรือไป เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูและขอใช้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำจากนั้นก็ออกมาใส่เสื้อผ้าด้านนอก เขาหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสั้นสีขาวมาใส่จากนั้นก็ประทินผิวฉีดน้ำหอมนิดหน่อยก็พร้อมออกไปเจอกับทุกคนแล้ว บรรยากาศตอนเย็นเงียบสงบต่างจากตอนกลางวันมากและช่วงดีที่รีสอร์ทมีพื้นที่หน้าหาดเป็นของตัวเองมันเลยพื้นความเป็นส่วนตัวได้เป็นพิเศษ ปูนปั้นก้าวเท้าออกจากบ้านพักเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งดังแผ่ว ๆ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน มีเพียงแสงจันทร์สลัว ๆ ที่ส่องนำทางให้เขาเดินไปตามหาดทรายขาวนุ่มเท้าในใจได้แต่คิดว่าถ้ามีเทียนอยู่ท

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   87 วาเลนไทน์

    14 กุมภาพันธ์บรรยากาศการเดินทางไปเกาะราชาช่างเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของเหล่าพนักงานของร้าน Happy Time แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้มาครบทุกคนเพราะบางคนอยากใช้เวลากับคนรักของตนแต่บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วดังตลอดทาง บ้างก็พากันชี้นกชี้ไม้เอ่ยชมความงามของท้องทะเลไม่ขาดปาก ความใสของน้ำทะเลที่ไล่เฉดสีฟ้าครามและเขียวมรกตเหมาะกับการถ่ายรูปเก็บไว้มาก ๆ เมื่อมาถึงเกาะทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำแล้วนั่งรวมตัวกันอีกทีช่วงเย็นเพื่อไปทานอาหารด้วยกันส่วนปูนปั้นขอแยกกับไปนอนพักก่อนเพราะเขาบอกกับทุกคนว่ารู้สึกเมาเรือตอนแรกเอมม่าก็ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะไมาอยสกให้พี่สาวหมดสนุก ปูนพักเดินเข้ามาในห้องพักด้วยความรู้สึกเหงา เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นรูปตัวเองกับเทียนที่ตั้งอยู่บนหน้าจอก็ยิ่งทำให้คิดถึงเข้าไปใหญ่ ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า)ปูนปั้นยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าเทียนวิดีโอคอลมาหาเขา เขารีบกดรับด้วยความดีใจ ภาพขอเทียนที่อยู่ในชุดสูทสีดำ background ด้านหลังเป็นห้องสีขาวและชั้นเอกสารมากมาย

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   86

    กุ๊กไก่และธูปเดินเที่ยวภายในงานอย่างตื่นเต้น พวกเขาพากันแวะซื้อของอร่อยกินนตลอด ผลัดกันป้อนไปมาจนตอนพุงกางกันไปแล้ว "ไม่เคยมาเลยอ่ะ ตอนแรกนึกว่าจะเงียบไม่คึกครื้นแบบในกรุงเทพแต่ที่ไหนได้คนเยอะแยะไปหมดเลย ของกินก็อร่อยมากด้วย" กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ งานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"ผมถึงได้บอกไงว่าพี่ควรออกจากกรุงเทพมาเที่ยวที่อื่นบ้าง จะได้รู้ว่าที่ประเทศไทยอ่ะไม่ได้มีดีแค่ในกรุงเทพนะ" "จ้า รู้แล้วจ้าพ่อคูณณณ~" สีหน้าติดรำคาญของกุ๊กไก่เป็นสิ่งที่ธูปได้เห็นเป็นประจำทุกวันแต่เขากลับไม่เคยรู้สึกไม่โอเคเลยกลับกันเขาดันรู้สึกชอบมันด้วยซ้ำเพราะมันทำให้กุ๊กไก่ดูน่ารักขึ้นมากต่างจากตอนทำงานที่เขามันจะชอบทำหน้าบึ้งตึงเหมือนไร้อารมณ์จนดูน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา นี่ถ้าไม่ได้มาลองสัมผัสกับตัวเองเขาคงไม่มีทางเชื่อหรอกว่าคนอย่างกุ๊กไก่จะมีมุมน่ารัก ๆ แบบนี้ด้วยเหมือนกัน "เฮ้ย! เสื้อผ้าร้านนู้นสวยมากเลยอ่ะ ไปดูกันไหม" กุ๊กไก่ชี้ไปที่ร้านเสื้อม่อฮ่อม"เอาสิ" กุ๊กไก่เดินนำธูปไปที่ร้านเสื้อผ้า"สวัสดีเจ้า บะฮู้ว่าลูกค้าเป๋นตี้สนใจ๋ชุดไหนเจ้า" แม่ค้าสอบถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะมาก ๆ"อันนี้คือชุดม่อฮ่อมใช่ไหมครับ" กุ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   85

    มาถึงห้องพักทั้งคู่ก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วขึ้นนอนบนเตียงพักผ่อนจากความเหนื่อยล้ากันอย่างจริงจัง รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ดึกมาแล้ว ธูปค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีคนกำลังทำอะไรกับร่างกายเขาอยู่และภาพตรงหน้าที่เขาเห็นก็คือกุ๊กไก่กำลังทายาและนวดขาให้เขา"พี่ทำอะไรอ่ะ" "ตื่นแล้วเหรอ""อืม""ฉันเห็นนายเดินมาตั้งไกลแถมยังแบกของหนัก ๆ อีกด้วยเลยคิดว่านายคงปวดร้าวไปทั้งตัว""พี่เองก็เดินมาไกลเท่ากับผมนั้นแหละ""แต่ฉันก็ยังสบายกว่านายเยอะ...ทายาเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าเถอะ ฉันสั่งข้าวเอาไว้ให้แล้วจะได้มากินพร้อมกัน" กุ๊กไก่ตอบแล้วก็ลุกออกไป ธูปสังเกตเห็นสีหน้าของกุ๊กไก่แปลกไปไม่ค่อยสดใสร่าเริงเลยรู้สึกเป็นห่วง"ไม่สบายหรือเปล่า" กุ๊กไก่ส่ายหัวตอบแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้ว ธูปไม่ถามอะไรมากเขาลุกไปล้างหน้าแล้วมานั่งที่โต๊ะเพื่อทานอาหารพร้อมกันกับกุ๊กไก่"อร่อยนะเนี่ย" ธูปพูดเสียงแจ๋วแต่กุ๊กไก่กลับไม่ตอบอะไรเลย เขาก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเองอย่างเงียบ ๆ จนธูปไม่สบายใจ เขาวางช้อนลงแล้วมองไปที่กุ๊กไป่ชัด ๆ"พี่เป็นอะไร""เปล่า""เปล่าแล้วทำไมไม่คุยกับผม""ฉันแค่เหนื่อยเฉย ๆ""งั

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   84

    ธูปกับกุ๊กไก่นั่งกันอยู่คนละฝั่ง ซึ่งระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันกุ๊กไก่ยังคงทำหน้าบูดบึ้งไม่คุยกับธูปสักคำส่วนธูปก็เอาแต่จ้องเขาเหมือนอยากจะชวนคุยแต่ก็ไม่กล้า "เลิกจ้องฉันสักทีได้ป่ะ" กุ๊กไก่ทนไม่ไหวหันมาดุธูป "นี่พี่โกรธผมเหรอ" "ฉันไม่ได้โกรธ" "เห็นอยู่ว่าโกรธ" กุ๊กไก่ถอนหายใจแล้วกอดอกหันหน้าไปมองทางวิวทางด้านนอกแทน "ผมขอโทษ...ผมไม่ได้อยากให้เราทะเลาะกันจริง ๆ แต่ที่ผมพูดแบบนั้นก็เพราะว่า-" "เพราะว่านายเบื่อที่ฉันเรื่องมากและก็ขี้งกใช่ไหมล่ะ...ขอโทษนะที่ฉันทำให้ทริปของนายมันพังแบบเนี่ย" "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมแค่อยากให้เราได้มาถึงที่พักไว ๆ จะได้พักผ่อนแล้วก็หาอะไรอร่อย ๆ กินกัน ตั้งแต่เช้าพวกเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยแถมตอนที่พวกเราเดินหารถมันก็ร้อนมาก ๆ ผมเห็นเหงื่อพี่แตกเต็มตัวไปหมดเกินพี่เป็นลมขึ้นมาผมคงรู้สึกผิดที่พาพี่มาลำบากแบบนี้" น้ำเสียงที่ฟังดูเสียใจของธูปทำให้กุ๊กไก่เย็นลงทันที เขาหันกลับมาหาธูปมองดูใบหน้าที่กำลังฉายแววเศร้าอยู่ "ช่างมันเถอะ ฉันเอง...ฉันเองก็เรื่องมากจริง ๆ นั่นแหละ" "ผมรู้นะว่าพี่ไม่ได้เรื่องมากหรอกแต่พี่แค่เกรงใจผม พี่กลัวว่าผมจะต้องจ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   83

    ปูนปั้นตื่นขึ้นมาหลังได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้ก่อนนอนเพราะกลัวว่าจะลุกไม่ทันนัดของดาริน เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาปิดเสียงกลัวมันจะดังรบกวนเทียน เขามองดูเทียนที่นอนถอดเสื้อแล้วก้มลงไปจุ๊บที่แก้มของเขาจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขอลงจากเตียงเทียนก็ดึงเขาลงมากอดไว้ในอกซะแล้ว"แกล้งหลับเหรอ" "เปล่าซะหน่อยแต่พอดีมีคนมาขโมยจุ๊บเลยตื่น""ตื่นแล้วก็ปล่อยผมต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำบุญกับแม่อีก""ไปตั้ง 7 โมงค่อยอาบก็ได้หรอก""ไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน""ก็พี่อยากกอดหนูหนิหน่า" "พอเลย! จะมาอยากกอดอะไร" ปูนปั้นว่าแล้วเอามือไปจับที่เป้าของเทียน"เนี่ย! แข็งแต่เช้าเลยไม่ต้องมาอ้างว่าอยากกอดหรอก""เอ้า~ อ้างที่ไหนก็พี่อยากจริง ๆ""พอ ๆ ๆ ปล่อยเลยจะไปอาบน้ำ" ปูนปั้นว่าแล้วแกะมือของเทียนออกจากตัวเองจากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากเตียง"นอนไปเลยแล้วก็เก็บกระเป๋าผมไปใส่รถด้วยหลังจากทำบุญเสร็จจะได้กลับคอนโดกัน""สั่งเป็นแม่เลยนะ รู้เปล่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครกล้าออกคำสั่งพี่เลยนะ""ก็ลองดู! ถ้าผมกลับมาแล้วลุงยังไม่จัดการให้เสร็จวันนี้ก็เตรียมกลับไปส่งผมที่บ้านได้เลย""โห่~ ดุจ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status