/ โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 9 น้ำหยดลงหิน หินบอกว่ารำคาญ

공유

บทที่ 9 น้ำหยดลงหิน หินบอกว่ารำคาญ

작가: Sitha
last update 최신 업데이트: 2025-08-16 13:56:53

อิสริยากลับบ้านด้วยความหนักใจ  และมีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพุฒิเมธมารอที่ร้าน

“พี่เมธมานานหรือยังคะ  เอ๋ไม่รู้ว่าพี่จะมาเลยเข้าร้านช้า”  เธอออกตัวเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่ได้นัดไว้

“ครับ  ไม่เป็นไรพี่รู้ว่าพี่ไม่ได้นัดเอ๋ไว้  วันนี้พี่มีที่อีกผืนอยากให้เอ๋ไปดูนะครับ  รับรองว่าจะต้องชอบ” 

“ที่ไหนคะ”  อิสริยาสนใจเผื่อว่าที่ผืนใหม่ที่นายหน้าหนุ่มแนะนำจะดีกว่าที่ดินของสกนธี 

“นี่ครับ ที่สวยเนื้อที่ประมาณยี่สิบห้าหรือสามสิบไร่อยู่ในย่านเศรษฐกิจด้วยตรงตามเงื่อนไขน้องเอ๋ทุกอย่าง” ชายหนุ่มส่งภาพของที่ดินผืนที่ว่าให้เจ้าของร้านสาวดู

อิสริยารับมาแล้วต้องขมวดคิ้ว  นี่มันที่ของสกนธีนี่นา  “ที่ผืนนี้เจ้าของเขาขายเหรอคะ” 

“ครับ  ถ้าน้องเอ๋สนใจพี่ดำเนินการให้ได้เลย” 

“แน่ใจนะคะพี่เมธ  จริงๆ เอ๋ไม่คิดว่าเจ้าของที่เขาจะขายเลยนะคะ”  เธอย้ำ

“ขายครับ  ซื้อได้แน่นอนถ้างบไปถึงถ้าน้องเอ๋กับที่บ้านยอมทุ่มสักห้าหกร้อยล้าน”  พุฒิเมธยิ้ม

พุฒิเมธขอตัวกลับไปแล้วแต่อิสริยายังนั่งนิ่งที่เดิม  หญิงสาวพยายามคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่ไปเอาเรื่องที่ดินผืนนี้มาได้อย่างไรว่าสกนธีจะขาย

เที่ยงวันนั้นสกนธีมาหาที่ร้านหญิงสาวจึงถือโอกาสพูดเรื่องที่ดินผืนนั้น

“คุณเคยบอกขายที่ผืนนั้นหรือเปล่า”

สกนธีกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจ  ที่ผืนนี้เขาออกปากยกให้เธอไปแล้วตั้งแต่วันที่แต่งงานกันเมื่อเจ็ดปีก่อน  แล้วเขาจะเอาไปขายได้อย่างไร

“ไม่นี่  พี่จะขายได้ยังไงก็บอกยกให้เอ๋ไปตั้งนานแล้ว” 

แทนคำตอบอิสริยาส่งแฟ้มเอกสารที่พุฒิเมธทิ้งไว้ให้   ชายหนุ่มมองหน้าเธอและรับมาเปิดดู  สกนธีสีหน้าเปลี่ยนเมื่ออ่านไปได้ไม่เท่าไหร่  ยิ่งเปิดหน้าต่อๆ มาเขายิ่งเคร่งเครียด

“เอ๋เอามาจากไหน”  เขาถาม

“พี่เมธเอามาให้ค่ะ  เขาบอกว่าที่สวยราคาแรง”

สกนธีทำเสียงในคอ  ทำไมจะไม่สวยที่ผืนนี้เขาได้เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าที่เคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งคู่  ท่านทั้งสองซื้อตั้งแต่ตอนที่ราคามันยังไม่แพง จะเรียกว่าสมัยปู่ย่าเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ว่าได้  แล้วไอ้หมอนั่นได้ข้อมูลมาได้อย่างไรว่าเขาจะขาย

“เอ๋บอกมันหรือเปล่า  ว่าที่ผืนนี้เป็นของเรา” 

หญิงสาวส่ายหน้า 

“เปล่าค่ะ  ฉันไม่แน่ใจว่าคุณอาจจะเคยอยากได้ อาจจะเคยไปฝากขายที่ไหนไว้หรือเปล่า”

“เป็นไปไม่ได้  พี่ไม่เคยมีความคิดเรื่องขายที่” ชายหนุ่มเดาะลิ้นเป็นจังหวะอย่างกำลังใช้ความคิด

“งั้นเอ๋บอกมันว่า  สนใจที่ผืนนี้อยากคุยกับเจ้าของที่  พี่อยากรู้ว่ามันเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเราอยากขาย” 

หากเป็นเรื่องอื่นเธอแน่ใจว่าคงไม่ให้ความร่วมมือเป็นแน่  แต่เมื่อมาเป็นเรื่องที่ดินและเกี่ยวข้องกับพุฒิเมธทำให้เธออยากรู้ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร

“ได้ค่ะ  ส่วนเรื่องที่ป๊ากับเฮียบอกว่าอยากขอซื้อค่ะ”  

“ถ้าเอ๋อยากขายก็ขายไปสิ  เดี๋ยววันโอนพี่ไปเซ็นให้”  เขายังยืนกรานว่าที่ผืนนั้นเป็นของเธอจนหญิงสาวเริ่มโมโห 

“คุณสกนธี  เราคุยกันจริงจังสักทีเถอะ”

“พี่จริงจังแล้ว  มีแต่เอ๋นี่ล่ะที่คุยคนละเรื่องกับพี่ตลอด” 

เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้  ยกขาขึ้นไขว่ห้างราวกับกำลังสบายใจมาก

“พี่บอกว่ายกให้ก็ยกให้  แต่ถ้าที่บ้านเอ๋ป๊ากับเฮียไม่สบายใจก็ทำสัญญาเช่ามาก็ได้  อย่าซื้อเลยเก็บเงินสำรองไว้เรื่องค่าก่อสร้างกับหมุนในห้างดีกว่า” 

          ข้อเสนอของเขาเข้าท่าจนเธอขัดไม่ได้  อิสริยาหลุบตาลงมองเอกสารบนโต๊ะก่อนที่สกนธีจะพูดเรื่องต่อไป

“ส่วนเรื่องก่อสร้างพี่อยากให้เปิดเสนอราคา  พี่จะบอกเพื่อนให้มายื่นซองด้วยเราจะได้งานที่มีคุณภาพแล้วก็ไม่แพงเกินไป”

อิสริยาขมวดคิ้ว  เธอไม่อยากรับความช่วยเหลือจากคนที่นับแล้วว่าเป็นอดีตสามีแต่อีกใจก็เห็นด้วยว่าเขารู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าเธอ  และเพื่อนของเขาที่เธอรู้จักล้วนเป็นคนดีกว่าสกนธีมาก  

ต่อให้วันหนึ่งถ้าเราสองคนต้องเลิกกันไปจริงๆ  ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเลิกคบกับนักธุรกิจเหล่านั้น  ไม่ว่าจะเป็นสมิติหัวหน้าใหญ่ของกลุ่ม  หรืออัศราเจ้าของบริษัทก่อสร้างอีกคน  หรือแม้แต่ชานนท์หุ้นส่วนของสกนธีเองก็ล้วนแล้วมีความประพฤติดีกว่าพ่อของลูกเธอทั้งนั้น

“ฉันอยากคุยกับเพื่อนๆ คุณเอง น่าจะดีกว่านะคะ”  เธอลังเล

“ไม่ดีหรอก  เอ๋เป็นเจ้าของงานถ้ามาคุยกับพวกมันนอกรอบจะโดนครหานะว่าฮั้วกัน  ไม่ดีๆ พี่ไปคุยเองดีกว่า”

ช่างน่ารำคาญ  อย่าคิดว่ารู้ไม่ทัน!  อิสริยาคิดในใจ  หญิงสาวลุกขึ้นเดินออกจากห้อง

“คุณกลับไปได้แล้วค่ะ  ฉันจะไปรับลูก” 

“พี่จะไปด้วย  ลูกบอกว่าอยากให้พ่อแม่ไปรับด้วยกัน” 

หญิงสาวเม้มปาก  

“ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก  มันใช้ไม่ได้ทุกสถานการณ์หรอกนะคะ”  โดยเฉพาะในยามที่เธอหมดความรู้สึกไปแล้วแบบนี้

“พี่ไม่ชอบคตินั้น  ของพี่ต้องบอกว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน  หินยัง...”  เขาเงียบเมื่อเธอขัดขึ้นมา

“หินมันบอกว่ารำคาญค่ะ  รำคาญมากคุณไปได้แล้ววันนี้เราคุยกันเยอะไปแล้ว” 

สกนธีทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอ  เขามองเธอเหมือนจะค้อนแต่ก็ยอมกลับไปเมื่อเห็นว่าเธอเอาจริง

“กลับก็ได้  พรุ่งนี้พี่จะเอาโจ๊กมาฝากลูกแต่เช้า  ลูกบอกอยากกิน” 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 10 ที่ดินเจ้าปัญหา

    “เรื่องที่ผืนนั้นตกลงเจ้าของเขาจะขายเท่าไหร่ครับคุณมิ” พุฒิเมธถามเพื่อนร่วมอาชีพสาวสวยคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกันกับเขามาหลายครั้งแล้ว“เขายังไม่ให้ราคาแน่นอนมาเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะถามเขาใหม่อีกที คุณรออีกสักวันสองวันนะไม่อยากไปตามง้อมาก” มิลินตอบ“เขาขายแน่ใช่ไหม ผมเปิดขายไปแล้วลูกค้าก็ทำท่าสนใจด้วย ถ้าคุณเจรจากับเจ้าของที่ไม่ได้ลองให้ผมไปคุยเองไหม”มิลินปรายตามองพุฒิเมธแล้วเมิน“ฉันจัดการเอง เชื่อมือสิ” หญิงสาวคิดไปถึงชายหนุ่มเจ้าของที่รูปหล่อที่พบจากการแนะนำของชานนท์ เนื่องจากว่าสกนธีเป็นหุ้นส่วนของญาติเธอเอง‘สงสัยเราจะต้องไปดื่มที่ร้านคุณสมิติอีกครั้งแล้ว’ เธอนิ่วหน้าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เพราะว่าเธอไม่เคยเจอสกนธีที่อื่นเลยนอกจากที่นั่น หญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นเพราะว่าชานนท์เป็นคนบอก ในฐานะนายหน้าตามนิสัยเธอจึงมองหาที่ผืนใหม่ๆ เพื่อบอกขายเสมอ และเธอได้รู้ว่าที่ดินเปล่าในทำเลดีที่หมายตามานานเป็นของเพื่อนชานนท์โดยบังเอิญ จึงพยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามมาตลอด แน่ใจว่าเจ้าของไม่มีโครงการจะทำอะไรจึงพยายามหาคอนแท็กต์ของสกนธีจนญาติหนุ่มยอมให้ในที่สุดค่ำวันนั้นเธอไปที่โรง

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 9 น้ำหยดลงหิน หินบอกว่ารำคาญ

    อิสริยากลับบ้านด้วยความหนักใจ และมีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพุฒิเมธมารอที่ร้าน“พี่เมธมานานหรือยังคะ เอ๋ไม่รู้ว่าพี่จะมาเลยเข้าร้านช้า” เธอออกตัวเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่ได้นัดไว้“ครับ ไม่เป็นไรพี่รู้ว่าพี่ไม่ได้นัดเอ๋ไว้ วันนี้พี่มีที่อีกผืนอยากให้เอ๋ไปดูนะครับ รับรองว่าจะต้องชอบ” “ที่ไหนคะ” อิสริยาสนใจเผื่อว่าที่ผืนใหม่ที่นายหน้าหนุ่มแนะนำจะดีกว่าที่ดินของสกนธี “นี่ครับ ที่สวยเนื้อที่ประมาณยี่สิบห้าหรือสามสิบไร่อยู่ในย่านเศรษฐกิจด้วยตรงตามเงื่อนไขน้องเอ๋ทุกอย่าง” ชายหนุ่มส่งภาพของที่ดินผืนที่ว่าให้เจ้าของร้านสาวดูอิสริยารับมาแล้วต้องขมวดคิ้ว นี่มันที่ของสกนธีนี่นา “ที่ผืนนี้เจ้าของเขาขายเหรอคะ” “ครับ ถ้าน้องเอ๋สนใจพี่ดำเนินการให้ได้เลย” “แน่ใจนะคะพี่เมธ จริงๆ เอ๋ไม่คิดว่าเจ้าของที่เขาจะขายเลยนะคะ” เธอย้ำ“ขายครับ ซื้อได้แน่นอนถ้างบไปถึงถ้าน้องเอ๋กับที่บ้านยอมทุ่มสักห้าหกร้อยล้าน” พุฒิเมธยิ้มพุฒิเมธขอตัวกลับไปแล้วแต่อิสริยายังนั่งนิ่งที่เดิม หญิงสาวพยายามคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่ไปเอาเรื่องที่ดินผืนนี้มาได้อย่างไรว่าสกนธีจะขายเที่ยงวันนั้นสกนธีมาหาที่ร้านหญิงสาวจึงถ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 8 ที่ดินสินสอด

    สามชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งหมดมาถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจนได้ อิสริยานั่งเบาะหลังปล่อยให้เด็กหญิงสุพิชชานั่งคู่บิดา เธอฟังเสียงพ่อลูกคุยกันด้วยความรู้สึกไม่คุ้นชิน ไม่ชินทั้งการที่สกนธีมีเวลามาใส่ใจลูกสาว หรือไม่ชินกับการที่เธอได้ขึ้นมานั่งในรถยนต์ของเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอกับสกนธีใช้ชีวิตต่างคนต่างไป ต่างคนต่างอยู่ ช่องว่างที่มีในครอบครัวกลายเป็นเรื่องปกติจนเธอชินชาหลังจากที่สกนธีจัดการเรื่องตั๋วเข้าชมสวนสัตว์แล้ว พวกเธอก็ได้ขึ้นรถรางนำชมส่วนการแสดงต่างๆ ตลอดระยะเวลานั้นอิสริยาแทบจะไม่ได้พูดอะไร นอกจากเออออเวลาที่ลูกสาวหันมาคุยด้วย นอกนั้นเธอเป็นฝ่ายเงียบปล่อยให้หน้าที่การดูแลเด็กหญิงสุพิชชาเป็นของพ่อเต็มที่“เอ๋ดูอะไรเหรอ พี่เห็นก้มหน้าก้มตามองดูแต่มือถือมาตลอดทั้งวันเลยนะ” สกนธีอดรนทนไม่ไหวจนต้องถามในขณะที่รอเด็กหญิงสุพิชชาเลือกไอศกรีม เขาเห็นอิสริยาสนใจแต่อุปกรณ์สื่อสารในมือแทบจะตลอดเวลา“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เธอเงยหน้าตอบมองเขาด้วยดวงตาว่างเปล่า เธอกำลังคุยกับครอบครัวผ่านโปรแกรมแชตเรื่องที่ดินที่พุฒิเมธเสนอมา แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาจุกจิกทั้งสองผืน คง

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 7 เรียนดนตรี

    ไปเรียนดนตรีสกนธีพาน้องเพียงมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีก่อนเวลาเข้าเรียนเล็กน้อย พอมีเวลาได้คุยกับครูเรื่องรายละเอียดจนเป็นที่พอใจ ในคอร์สนั้นมีนักเรียนวัยเดียวกันกับน้องเพียงสองถึงสามคนความจริงแล้วทางโรงเรียนแนะนำว่าเด็กหญิงควรเรียนเปียโนก่อนเพื่อให้มีพื้นฐานดนตรี และครูเกรงว่าน้องเพียงที่อายุห้าขวบนิ้วอาจจะไม่มีแรงพอที่จะกดคอร์ดได้ แต่สกนธีไม่อยากให้ลูกผิดหวัง เขาจึงตั้งใจพามาเรียนก่อนสักครั้งสองครั้งแล้วถ้าเด็กหญิงอยากเรียนต่อเขาจะตามใจ แต่ถ้ายังเรียนไม่ได้จริงเขาจะคุยกับน้องเพียงว่าครูขอให้เปลี่ยนไปเรียนเปียโนก่อนชายหนุ่มมาส่งลูกที่หน้าห้องเรียน“พ่อจะรอหนูที่หน้าห้องนะคะลูก” “ค่ะคุณพ่อ หนูไปแล้วนะคะ” เด็กหญิงยกมือขึ้นบ๊ายบายกับคุณพ่อ หน้าห้องเรียนมีชุดโต๊ะเก้าอี้ว่างๆ สกนธีจึงใช้เวลาในตอนนั้นดูงานเอกสารที่ค้างอยู่ ประชุมออนไลน์กับทีมงานและสั่งงานลูกน้องที่บริษัท เวลาผ่านไปสองชั่วโมงอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงสุพิชชาวิ่งมาหาคุณพ่ออย่างร่าเริง“คุณพ่อขา หนูมาแล้ว” “เป็นไงคะลูก เรียนสนุกไหม หนูชอบไหม” สกนธีปิดแล็ปท็อป เขาเงยหน้ายิ้มให้เด็กหญิงที่กำลังอารมณ์ดี“สนุกมากค่ะคุณพ่อ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 6 เมื่อไหร่จะกลับบ้าน

    อิสริยาเดินนำเขาไปที่ห้องทำงาน ชายหนุ่มรีบตามเธอเข้าไปในนั้น เธอนั่งที่หลังโต๊ะทำงานเหมือนกำลังจะเจรจาธุรกิจไม่ใช่คุยกับสามี“เชิญนั่งค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรคะ” “เอ๋ ทำไมทำเหมือนเราไม่ใช่ผัวเมียกันล่ะ” “เหรอคะ คุณเพิ่งรู้สึกเหรอฉันรู้สึกมาตั้งนานแล้ว รู้สึกมาเป็นปีแล้วทำไมคุณความรู้สึกช้าจัง” เธอตอบตามที่คิดทำให้สกนธีหน้าสลดลง“เอ๋พี่ขอโทษ ขอโทษที่ละเลยเอ๋กับน้องเพียง ขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญาแต่ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหม กลับบ้านเรากันเถอะนะ” “คุณพูดว่านั่นเป็นบ้านคุณ จะมาบ้านเราอะไรตอนนี้” อิสริยากระชากเสียงนั่นเป็นเธอในมุมที่สกนธีแทบไม่เคยเห็น “ฉันยอมให้คุณทำหน้าที่พ่อให้น้องเพียงได้แค่นั้น แล้วถ้าวันไหนลูกรู้สึกแย่ๆ เพราะคุณอีกความเป็นพ่อก็จะไม่มีเหลือเหมือนกัน” “งั้น..พี่ขอพาลูกไปเรียนดนตรีได้ไหมวันเสาร์ ลูกอยากไป” สกนธีต่อรองแต่อิสริยายิ้มมุมปาก“คุณถามตัวเองก่อนเถอะว่าจะมีเวลาให้ลูกได้ทุกวันเสาร์ไหม ไม่ใช่มาแค่ไม่กี่วันแล้วคุณก็หายไปเท่าที่จำได้เมื่อก่อนจะวันไหนๆ คุณก็ไม่เคยมีเวลาให้น้องเพียงเลยนะ ลูกชวนคุณไปสวนสัตว์แล้วคุณก็รับปากส่งๆ จนตอนนี้เขาดินปิดไปแล้วเคยจ

  • My wife เมื่อหมดรัก   คุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ

    “พี่เอ๋คะคุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ” อิสริยาเงยหน้าจากกองเอกสารบัญชีเมื่อลูกน้องเดินมาบอกในห้องทำงาน เธอยังไม่ทันตอบอะไรสกนธีก็เข้ามาในห้อง หญิงสาวจึงโบกมือให้พนักงานออกไปเธอมองเขานิ่งเมื่อชายหนุ่มมานั่งตรงหน้าโต๊ะทำงาน “เมื่อไหร่เอ๋จะพาลูกกลับบ้าน” สกนธีไม่อารัมภบทนาน“บ้านฉันอยู่ที่นี่ค่ะ” อิสริยาตอบเสียงเรียบ เธอทำงานตรงหน้าต่อเหมือนว่าเขาเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่น่าสนใจ“เอ๋.. พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขายอมเอ่ยคำว่าขอโทษเมื่อรู้ว่าถูกเมินจริงๆอิสริยาเงยหน้ามองเขา “ขอโทษเรื่องอะไรคะ เรื่องที่คุณไล่ฉันกับลูกออกจากบ้าน เรื่องที่ไม่สนใจลูกเมีย เรื่องที่ไปเที่ยวแล้วไปไหนต่อไหนกับใคร หรือว่าเรื่องที่..เราหมดรักกันแล้ว” “ไม่ใช่นะเอ๋ พี่รักเอ๋กับลูกส่วนเรื่องคืนนั้นพี่อธิบายได้” สกนธีรีบพูด“แต่ฉันไม่อยากรู้แล้วค่ะว่าคืนนั้นคุณไปไหนมา ไปกับใคร ส่วนเรื่องหมดรัก คุณจะคิดยังไงฉันไม่รู้แต่ฉันหมดแล้ว ฉันเหนื่อย เหนื่อยมากกับการเป็นเมียเป็นคนใช้เป็นสารพัดอย่างแต่ไม่เคยมีความหมาย ไม่มีตัวตน” อิสริยาระเบิดออกมาอย่างเหลืออด เธอเห็นแววตาตื่นตะลึงของสกนธีมันยิ่งทำให้คำพูดหลั่งไหลไม่หย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status