My wife  เมื่อหมดรัก

My wife เมื่อหมดรัก

last updateLast Updated : 2025-09-26
By:  SithaOngoing
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
82Chapters
1.6Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

จริงหรือไม่ว่านานไปความรักย่อมจืดจาง แต่ชีวิตคู่ยังอยู่ต่อไปได้เพราะยังคงเหลือความผูกพัน แต่ถ้าไม่เหลือทั้งรักและผูกพันชีวิตคู่ของเขาและเธอจะเป็นเช่นไร สกนธี สถาปนิกหนุ่มวัย 35 ผู้รักชีวิตสนุกสนานถึงแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว อิสริยา เจ้าของร้านมินิมาร์ทผู้เป็นภรรยา หญิงสาววัย 30 ปีที่ถึงแม้จะแต่งงานแล้วแต่เธอและเขาก็ใช้เงินคนละกระเป๋า ต่างคนต่างมีงานตัวเอง ทั้งสองใช้ชีวิตแต่งงานมาจนถึงปีที่เจ็ด ด้วยความที่ต้องดิ้นรนกับสภาวะเศรษฐกิจจนทำให้ความหวือหวาหมดไป สองสามีภรรยาที่ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตที่สวนทางกัน วันหยุดของเขาคือวันที่ขายดีของเธอเป็นแบบนี้มาหลายปีดีดักจนสองคนห่างกันไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าจิตใจก็จะห่างไปด้วยเช่นกัน เมื่อเธอเห็นว่าในปกเสื้อเขามีรอยลิปสติกและกลิ่นน้ำหอมที่แปลกไป ปีที่เจ็ด จะเป็นปีที่เจ็บหรือเปล่า ลองติดตามดูค่ะ

View More

Chapter 1

บทที่ 1  ไล่เมียออกจากบ้าน

“น้องเพียงรีบกินข้าวลูก  วันนี้แม่ต้องไปซื้อของเข้าร้านค่ะ” 

เสียงนั้นทำให้เด็กหญิงวัยห้าขวบรีบทานเร็วขึ้น  วันนี้เป็นวันหยุดเด็กหญิงสุพิชชาจะไปที่ร้านกับมารดา 

ร้านที่ว่าคือมินิมาร์ทที่แม่ของเธอเป็นเจ้าของ   อิสริยาเปิดร้านนี้ตั้งแต่แต่งงานปีแรก เดิมทีก่อนหน้านั้นหญิงสาวทำงานประจำ แต่เมื่อแต่งงานแล้วสกนธีขอให้เธอออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน แต่เมื่อเธอยอมทำตามที่เขาขอกลับพบว่าสกนธีไม่สามารถซัปพอร์ตเธอได้เท่าที่ควร  และอิสริยาเองก็ไม่อยากขอเงินสามีใช้  เธอจึงตัดสินใจเอาเงินเก็บที่มีมาเปิดร้านมินิมาร์ทที่ตึกเก่าของครอบครัวซึ่งอยู่ในย่านการค้า

“คุณพ่อล่ะคะแม่” เด็กหญิงถามเมื่อนึกขึ้นได้

“คุณพ่อนอนดึกลูกเลยยังไม่ตื่น  เราออกไปกันก่อนก็ได้ค่ะ”  หญิงสาวตอบเด็กน้อยที่ฉลาดขึ้นทุกวัน

“คุณพ่อทำงานดึกหาเงินมาเลี้ยงหนูกับคุณแม่ใช่ไหมคะ”  

เด็กหญิงพูดต่อ  คนเป็นแม่เงียบกริบเธอไม่อยากทำลายภาพพ่อที่ดีในสายตาของลูก  จึงไม่ได้แย้งว่าความจริงแล้วสกนธีมีหน้าที่ในบ้านเพียงแค่จ่ายค่าเทอมลูกเท่านั้น  นอกนั้นกินอยู่ ค่าเสื้อผ้าค่าน้ำไฟ ค่าของใช้ แม้แต่ค่ากับข้าวเธอก็ต้องออกเองหมด

สกนธีเดินลงมาจากชั้นบน   ชายหนุ่มมีนัดตอนเช้ากับหุ้นส่วนเรื่องโพรเจกต์ใหม่

“วันนี้พี่ต้องไปคุยงานกับนนท์อาจจะกลับดึก  เอ๋ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อนะ”  เขาหยิบเอกสารที่โต๊ะทำงานเตรียมออกไปข้างนอก

“คุณพ่อขา  หนูอยากไปเที่ยวค่ะ” 

เด็กหญิงรีบลงจากเก้าอี้ไปหาบิดา  สกนธีก้มลงหอมแก้มลูกสาวหนึ่งฟอดก่อนจะตอบว่า

“วันนี้คุณพ่อไม่ว่างเลยค่ะ  น้องเพียงไปกับคุณแม่ก่อนได้ไหมคะ” 

เด็กหญิงหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมเข้าใจ  “งั้นคราวหน้าคุณพ่อต้องไปกับหนูนะ” 

“จ้ะ พ่อไปนะคะ”  สกนธีอุ้มลูกสาวพากลับมาส่งที่โต๊ะทานอาหารและหยิบกุญแจรถออกไป  สักพักเสียงรถยนต์ของเขาออกจากบ้านไปอิสริยาจึงขยับตัว

“ไปกันรึยังคะลูก” 

เช้าวันต่อมาอิสริยาเก็บเสื้อผ้าของสกนธีเตรียมแยกใส่เครื่องซักผ้า  ปกติวันอาทิตย์เธอจะอยู่บ้านครึ่งวันเช้าทำงานบ้านและเข้าร้านในช่วงบ่าย  เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยลิปสติกบนปกเสื้อและกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของเขา

เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาชานนท์ เพื่อนรุ่นน้องของสามีและเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมด้วยกัน

“พี่นนท์เหรอ เอ๋เองนะคะ”   เธอบอกเมื่อปลายทางรับสาย

“สวัสดีครับเอ๋”  ชานนท์ตอบกลับมา

“เอ๋อยากถามว่าเมื่อคืนพี่เก่งเขาไปคุยงานกับพี่นนท์ใช่ไหมคะ”  

“ครับ เมื่อคืนไปคุยกันที่ร้านเฮียหมิง แต่ไม่ดึกนะครับแค่สามทุ่มก็แยกย้าย”  ชานนท์ตอบตามตรง

“ขอบคุณค่ะพี่นนท์ ไม่รบกวนแล้วสวัสดีค่ะ” 

อิสริยาวางสายเธอรู้สึกหมดแรง  ชานนท์บอกว่าแค่สามทุ่มก็แยกย้าย แต่สกนธีกลับมาถึงบ้านตอนตีสอง  ที่ผ่านมาเธอปิดหูปิดตามาตลอดจนถึงวันนี้ที่รู้สึกว่าไม่อยากอดทนอีกแล้ว

           วันนั้นสกนธีตื่นในตอนเกือบสิบนาฬิกา  ตอนนั้นอิสริยากำลังเก็บผ้าที่เริ่มแห้งส่งร้านซักรีด 

“อ้าวทำไมเสื้อตัวนี้ไม่เอาไปซักด้วยล่ะเอ๋”  ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตเมื่อคืนยังอยู่ในถังผ้า

“เมื่อคืนพี่เก่งไปไหนมาคะ”  อิสริยาถามโดยไม่หันมามองเขา

“อ้าวพี่บอกแล้วไงว่าไปคุยงานกับไอ้นนท์”  สกนธีตอบ เขาขมวดคิ้วเมื่ออิสริยาเดินมาหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาแล้วคลี่ให้เห็นปกเสื้อ

“แล้วนี่อะไรคะ” 

สกนธีอึ้งเขาไม่รู้ตัวว่าเด็กเมื่อคืนจะทิ้งหลักฐานไว้ 

“ในร้านแบบนี้ก็มีเด็กดริงก์นั่งคุยเป็นปกติ มันจะอะไรนักหนาล่ะ พี่ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”

“อ้อ แล้วเลิกคุยสามทุ่มพี่ไปไหนต่อถึงกลับบ้านตีสอง” 

หญิงสาวตัดสินใจถามตรงๆ 

“นี่เธอโทรไปถามเพื่อนพี่เหรอ  ไอ้นนท์มันจะคิดว่าพี่เป็นยังไงเมียถึงโทรเช็กแบบนี้  ก่อนจะโทษคนอื่นดูตัวเองก่อนนะว่าหน้าตาดูได้ไหมโทรมขนาดนี้ใครจะไปอยากอยู่ใกล้  ไม่ขอเลิกก็ดีเท่าไหร่แล้ว” 

สกนธีเอาเสียงดังเข้าข่ม เขารู้ว่าจุดอ่อนเธอคือเรื่องที่อิสริยาจะไม่ยอมให้ลูกขาดพ่อเด็ดขาด  ไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้งที่ผ่านมาพอเขาพูดเรื่องเลิกเธอจะเงียบและเป็นฝ่ายยอมเขามาตลอด

แต่วันนี้เธอเองก็ไม่อยากทนแล้ว  ที่โทรมที่ไม่สวยเหมือนเดิมก็ไม่ใช่เพราะเขาก็มีส่วนหรอกหรือ

“ถ้ามันแย่ขนาดนั้นก็ไม่ต้องอยู่ค่ะ  เราเลิกกันเลยก็ได้”  อิสริยาพูดเสียงเรียบ เธอทนข่มความรู้สึกจนกลายเป็นความเก็บกดมาหลายปี 

สกนธีโมโหขึ้นมาทั้งที่เขาเป็นฝ่ายผิด  “งั้นก็ออกไปเลยเก็บของออกไปทั้งแม่ทั้งลูกบ้านนี้เป็นของพี่เพราะพี่เป็นคนซื้อ  ถ้าคิดว่าที่อื่นอยู่ได้ก็ออกไปพาลูกเธอไปด้วย  มีปัญญาเลี้ยงลูกเองก็ไปเลย”

เสียงเด็กหญิงสุพิชชาร้องไห้จ้าเมื่อได้ยินพ่อไล่เธอและแม่  อิสริยาตรงไปกอดลูกส่วนสกนธีเดินกระแทกเท้าปังๆ ออกไปจากบ้าน

อิสริยากอดปลอบลูกสักพักจนเด็กหญิงเงียบ  และร้องไห้จนหลับไปเอง   หญิงสาวปล่อยลูกให้นอนหลับและเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงหลับสนิทดีแล้วหลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาน้องสาว

“แบมเหรอมาช่วยพี่เก็บของหน่อย เอารถที่บ้านมาด้วย”  เมื่ออีกฝ่ายรับสายเธอก็แจ้งถึงสิ่งที่ต้องการให้ช่วยทันทีจนน้องสาวงง

“อ้าวพี่เกิดอะไรขึ้น”  เสียงน้องสาวถามมาอย่างแปลกใจอิสริยาจึงเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้น้องฟังและกำชับว่า 

“มาเร็วๆ นะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” 

“ได้เลยพี่เอ๋  เดี๋ยวจะเอาลูกน้องไปช่วยขนด้วยมันไล่แล้วจะไปอยู่ทำไม” 

ฝ่ายนั้นรับคำอย่างโมโห  ก่อนสายจะตัดไปอิสริยาได้ยินเสียงน้องสาวเรียกหาลูกน้องเสียงดังไปหมด

ต่อจากนั้นหญิงสาวโทรไปที่ร้านมินิมาร์ทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ  สั่งให้แม่บ้านที่ร้านทำความสะอาดห้องพักด้านบนที่เธอตกแต่งเป็นห้องนอนไว้ก่อนหน้าเหมือนจะรู้ว่าจะมีวันนี้   เพราะอิสริยาเพิ่งรีโนเวตชั้นบนเป็นที่พักและตกแต่งเสร็จเมื่อสองเดือนที่แล้วเอง

เธอรอเพียงไม่นานอันธิกาก็มาถึงพร้อมกับลูกน้องที่บ้าน  และเพราะว่าครอบครัวเดิมของเธอทำธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค  จึงมีโกดังของตัวเองและมีลูกน้องมากมายที่พร้อมมาช่วยขนของแม้ว่าจะกะทันหันก็ตาม  น้องสาวของเธอขับรถส่วนตัวมาและมีหัวหน้าคนงานขับรถหกล้อมาอีกหนึ่งคัน 

อิสริยามีหน้าที่เพียงชี้สั่งว่าเธอจะเอาอะไรไปบ้าง  จากนั้นทุกสิ่งก็ถูกขนขึ้นรถในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

อันธิกาเข้ามาช่วยพี่สาวเก็บเสื้อผ้าของส่วนตัวและดูแลหลานสาวในห้องนอน

“พวกเอกสารสำคัญเอาไปหมดรึยังพี่”  น้องสาวเตือน

“หมดแล้ว” 

อิสริยาตอบสั้นๆ เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสกนธี  เขาทำเพียงจดทะเบียนรับรองบุตรในตอนที่น้องเพียงเกิดมาจึงไม่มีเอกสารอะไรที่ยุ่งยาก 

บ้านโล่งขึ้นมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อเธอให้คนงานขนของส่วนที่เป็นของเธอออก

“แล้วนี่ล่ะพี่ ชุดรับแขกนี่เงินพี่นะชุดละเกือบแสนไม่เอาไปเหรอ  โต๊ะกินข้าวอีกไม้สักทองที่ป๊ายกให้ตอนแต่งงานก็ด้วย” 

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
82 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status