มาร์วินเดินกลับไปที่สนามฟุตบอล ที่เพื่อนเขานั่งกันอยู่
“อ้าว! มาร์วินกลับมาทำไมวะ มึงไปหาน้องคนสวยไม่ใช่เหรอ” “อืม! แต่น้องเขากลับไปแล้ว” “อะไรวะ ไม่นัดกันเหรอ” แม็กซ์เวลถามเพื่อนอย่างแปลกใจ มาร์วินได้แต่เงียบ เขาไม่แน่ใจว่าเฌอเบลรู้สึกอะไรกับเขารึเปล่า รึเธอเป็นแบบที่ปันปันพูดกันแน่ เป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอเฌอเบล ด้านเฌอเบลกลับมาถึงคอนโด เธอได้แต่นั่งคิดถึงเขา วันนี้มีเรื่องให้คิดมากมาย สิ่งที่ทำไปทั้งหมด มันไม่ได้รู้สึกดีที่พูดออกไป มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเลย และพี่มาร์วินก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวแถมกวนใจฉันไม่หยุด “กวนใจชะมัด ก็เพื่อนพี่เขาหวงพี่ไง ใครจะไปอยากคุยด้วย เพื่อนกันจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้” ครืดดด ครืดดด เสียงเรียกสายเข้าโทรศัพท์ โชว์ชื่อสกาย เฌอเบลตัดสินใจกดรับสาย “ฮัลโหล” “ครับเบลดีใจจังที่เบลรับสาย” “สกายโทรมามีอะไรรึเปล่าคะ” “อยากชวนเบลไปทานข้าว ไปนะครับเบล เบลเลือกร้านที่เบลชอบได้เลยนะครับ” เฌอเบลคิดแป๊บหนึ่งก็ตัดสินใจตอบตกลง สกายก็ดีนะ ถ้าไปทานข้าวกับเขา ถ่ายรูปคู่กันแล้วโพสต์ ก็จบเรื่องพี่มาร์วิน เขาจะได้เข้าใจว่าฉันคบกับสกายไปแล้ว คงจะโดนเขาเกลียดเพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่ก็ช่างเถอะ “อืม! งั้นเดี๋ยวเบลเลือกร้านเองนะสกาย แล้วไปเจอกันที่ร้านโอเคไหม” “โอเคครับ” สกายตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ @Twilight Sky Restaurant “ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะ เบลเลือกร้านเก่งจัง” “เบลเคยมาสามครั้งแล้ว อาหารอร่อยมาก สกายลองดูนะแล้วจะชอบ” สกายยิ้มให้เฌอเบล เขารู้สึกดีมากเลยที่เธอยอมรับนัดเขา เพราะเขาพยายามตื๊อเธอมาเป็นปีแล้ว เฌอเบลก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้เลย เจอกันก็คุยทักทายแบบเพื่อนเท่านั้น เจนนิสก็บอกเขาตลอดว่าเฌอเบลคิดกับเขาแค่เพื่อน แต่เขาก็อยากลองเพราะถ้าเธอยังไม่มีใคร ก็ถือว่าเขายังมีโอกาส “เบลว่าแต่ ทำไมวันนี้ถึงยอมออกมากับผมละ” สกายถามเธอหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้ว “เบลคิดว่าสกายเป็นเพื่อนที่ดีน่ะ เลยอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนหน่อย” “เสียใจนะ ให้เป็นแค่เพื่อนจริงๆ เหรอครับ” “สกายเป็นคนดี ยังไงก็ต้องได้เจอคนที่ดีกว่าเบลเชื่อสิ เจนนิสคงดีใจมากถ้าเบลมีสกายเป็นเพื่อนเพิ่มอีกคน” “แล้วตอนนี้เบลมีคนที่ชอบแล้วเหรอ” “ก็มีนะ อาจจะแค่ถูกใจ แต่คิดว่าคงไม่คบหรอก” “ทำไมละ” “มันคงมีความน่ารำคาญตามมาอีกเยอะเลยถ้าตัดสินใจคบคนนั้นขึ้นมาจริงๆ เลยคิดว่าไม่ดีกว่า อยากอยู่ห่างๆ เลี่ยงปัญหามากกว่า ช่วงนี้สกายไปไหนมาไหนกับเบลหน่อยได้ไหม อยากให้เขาคิดว่าเบลมีแฟนแล้วเขาจะได้เลิกยุ่งกะเบล สกายถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะ เบลแค่ไม่รู้ว่าจัดการกับเรื่องนี้ยังไง…” “ได้เลยอย่าคิดมากผมยินดีช่วย แต่เบลบอกหน่อยได้ไหมว่าคนนั้นเขาเป็นใคร เรื่องที่เบลขอน่ะผมทำให้ได้อยู่แล้วไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่แค่อยากรู้บอกหน่อยได้ไหม” “อืม!ได้บอกแค่สกายนะ พี่มาร์วินวิศวะน่ะ” สกายพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วว่าเบลคิดว่าตัวเองจะเจอกับอะไรถ้าคุยกับพี่เขา” “ขอบคุณนะที่เข้าใจ” “ไม่เป็นไร ผมอยากเป็นแฟนนะที่เข้าหาเบล เบลก็คงรู้ว่าผมพยายามแค่ไหน แต่ในเมื่อเบลพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ผมก็รับได้นะ และก็ชอบแบบนี้มากเลยด้วย เราเป็นเพื่อนกันก็ดี ผมอยากให้เจนนิสสบายใจด้วย” “ขอบใจมากนะสกายที่เข้าใจ และก็ขอบใจที่ผ่านมา สกายไม่เคยหูเบาไปเชื่อข่าวลือต่างๆ นานา” “ไม่รู้สิ ผมว่า ผมมองคนออก พอจะแยกแยะได้ ว่าแต่เบลจะให้ผมทำอะไรก็บอกนะ” “แล้วจะบอกนะคะ ตอนนี้ทานข้าวก่อน ทานเยอะด้วยนะ” “ครับผม” สกายรู้สึกว่าทั้งเขาและเฌอเบลมีความผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้นที่ได้คุยเปิดใจกัน มาร์วินเดินเข้ามาในร้านกับมาร์กี้พี่สาวของเขา “ร้านคนเยอะแฮะไม่ได้มานานเลย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ “กิจการฉันรุ่งเรืองจ้ะ ร้านฉันดังมากถ้าไม่จองไว้ก่อน ไม่มีโต๊ะว่างนะคะพูดเลย” มาร์กี้ยกยิ้มใส่น้องชาย “เพราะอะไร เพราะเจ้าของร้านสวยเหรอ จะบอกว่างั้นใช่ไหม” “เปล่าย่ะ อาหารอะไรอร่อยต่างหาก” “นี่ถ้าพี่ตอบว่าเพราะเจ้าของร้านสวย ผมกลับเลยนะ” “เกินไปย่ะ ฉันสวยค่ะน้องชาย” “โอเคสวยก็สวย” มาร์กี้หัวเราะชอบใจ “พี่จองโต๊ะไว้ให้แล้ว มาเถอะ วันนี้จะดูแลน้องชายอย่างดีเลย” มาร์วินยิ้ม “จะถ่ายรูปไปโปรโมตอีกรึเปล่า” “ก็ขอนิดหนึ่งเถอะ คนดังแห่งมหาลัยคิงเวลล์มาทานข้าวที่ร้านพี่ทั้งที ขอลงรูปหน่อย” “ก็ได้ ยอมก็ได้” มาร์วินเดินตามพี่สาวของเขามานั่งที่โต๊ะ มาร์กี้สั่งอาหารไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้ว่าน้องชายชอบรึไม่ชอบอะไร มาร์กี้บอกให้พนักงานในร้านมาถ่ายรูปให้เธอกับมาร์วิน สายตาหลายคู่จักต้องมาที่เขากับเธออย่างชื่นชมในความสวยหล่อของทั้งคู่ มาร์วินจิบเครื่องดื่ม มองไปรอบๆ ร้านอย่างเพลินๆ และไปสะดุดอยู่กับร่างบางที่ใส่ชุดสีขาวของเฌอเบล เขามองเธออยู่สักพัก จนมาร์กี้สะกิด “วินเป็นอะไร ไปจ้องน้องเขาทำไม เด็กนายเหรอ” “ก็ไม่เชิง ช่วงนี้ผมชอบคนนี้อยู่” “นายชอบคนมีแฟนแล้วงั้นเหรอ น้องเขามากับแฟนรึเปล่า” “นั้นสินะ วันนี้เธอปฏิเสธผมแล้วมากับผู้ชายคนอื่น” “เอาดีๆ วินผู้หญิงเยอะแยะ นายจะไปยุ่งกับคนมีเจ้าของทำไม” “ผมว่าไม่ใช่แฟน คงแค่จีบๆ กัน” “หมายถึงนายมีคู่แข่งเยอะงั้นเหรอ แต่พี่ว่าถ้าน้องเขาชอบนายแล้วทำไมถึงปฏิเสธละ จริงไหม ตัดใจซะน้องชาย” “ผมรู้สึกเสียหน้านิดหน่อยกับเรื่องนี้ งั้นขอพิสูจน์อะไรหน่อยได้ไหม” “จะทำอะไร” “พี่ก็แค่เล่นไปตามผมก็พอ” มาร์วินลุกจากเก้าอี้ตรงกันข้ามกับพี่สาวและขยับเก้าอี้ไปนั่งใกล้ๆ เธอทันที มาร์กี้ยักไหล่เอ่ยแซวน้องชายทันทีเหมือนกัน “โอเค งานลองใจสาวมาแล้วหนึ่ง” “….” “เบลผมว่าโลกกลมแล้วล่ะ พี่มาร์วินนั่งอยู่กับผู้หญิงถัดจากเราไปสองโต๊ะเองเบล” เฌอเบลถึงกับทำหน้าเหลอหลา “จริงเหรอสกาย” “อืม! ผู้หญิงสวยมากด้วยนะ” “แล้วเขามองมาที่โต๊ะเราไหม” “อืม! เหมือนพี่เขาจะเห็นเบลแล้วนะ” “ช่างเถอะดีแล้ว” เขาเห็นก็ดีแล้ว วันนี้ฉันปฏิเสธเขา แต่มากับสกาย เขาจะได้เข้าใจและเลิกตามจีบฉัน แต่เขาก็มากับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่เหรอ แสดงว่าเขาก็ไม่ได้สนใจรึแคร์ฉันเท่าไหร่หรอก ก็คงแค่อยากเล่นด้วยแหละจะมาจีบจริงจังอะไร เล่นมาก็เล่นกลับเขาพูดไว้แบบนั้น “อย่าไปสนใจเลยช่างเขาเถอะ อันนี้อร่อยจัง สกายลองสิ” สกายยิ้มให้เฌอเบล ตักอาหารที่เธอบอกว่าอร่อยลองชิม และพูดคุยกันไปด้วย อย่างสบายใจกันทั้งคู่ “สกายเบลขอไปเข้าห้องน้ำหน่อย อย่าแอบจ่ายเงินล่ะ มื้อนี้เบลเลี้ยง” “โอเคๆ” สกายหัวเราะกับความรู้ทันของเธอ เฌอเบลลุกขึ้นหมุนตัวเดินออกจากโต๊ะ มองไปที่มาร์วินนิดหนึ่ง ภาพที่เห็นคือเขานั่งแทบจะเบียดกับผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่แคร์ต่อสายตาใครๆ เขาคงไม่สนใจฉันจริงๆ ถึงทำอะไรแบบนั้นได้ มาร์วินลุกขึ้นเดินตามเธอไปเพราะเดาได้ไม่ยากว่าเฌอเบลจะไปไหน เขาเดินไปอีกทางเพื่อไม่ให้สกายสังเกต ว่าเขากำลังตามเฌอเบลไป หมับ! มาร์วินจับแขนเล็กของเฌอเบลตรงทางเดินกลับไปที่โต๊ะ เขาดักรอเธออยู่ และดึงแขนเธอให้เดินตามเขาออกมาด้านข้างๆ ร้านที่พี่เขาตกแต่งเป็นสวนดอกไม้ เพื่อจะได้คุยกับเธอ “พี่มาร์วินทำอะไรคะ” “วันนี้เบลปฏิเสธพี่แล้วมากับคนอื่นงั้นเหรอ ทำไมไม่บอกกันตรงๆ จะพูดว่าไม่พร้อมที่จะคุยกับใครทำไม มาเจอแบบนี้พี่รู้สึกแย่นะ” “แล้วเบลต้องรู้สึกแย่ด้วยรึเปล่าคะเพราะพี่ก็มากับผู้หญิงเหมือนกัน พี่จะรู้สึกยังไงเบลคงห้ามไม่ได้ค่ะ ขอตัวนะคะ” “เฌอเบลพี่ไม่เข้าใจเป็นอะไรโกรธอะไร” เฌอเบลเงียบ “เอารถมารึเปล่า รึมากับไอ้นั่น” “เบลขอตัวนะคะ” หมับ! เขาจับแขนเล็กไว้ “ไม่เอาพี่ไม่ให้กลับเราคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” “พี่ไปคุยกับคนของพี่สิ จะมาคุยกับเบลทำไม” “เบลต่างหากคนของพี่” มารวินพูดมองหน้าเธอนิ่งสามปีต่อมา “พี่วินค่ะ” เฌอเบลเดินเข้ากอดคลอเคลียสามีที่นั่งดูหนังอยู่ “หิวเหรอ”เฌอเบลส่ายหน้า มาร์วินยิ้ม “หิวพี่ใช่ไหม”“นี่พี่ เรื่องนี้ตลอดเลยนะคะ”มาร์วินเลิกคิ้ว มองเธอล้อๆ “แล้วมาอ้อนจะเอาอะไรครับที่รัก”“เบลอยากไปเที่ยวบ้านคุณยายพี่เค้ก พี่เดลล่าก็ไป พี่เจ้าน้อยก็ไปค่ะ พี่วินให้เบลไปนะคะ”“ใครจะขับรถไป”“พวกเราขับกันเองสิคะ เอารถไปคันเดียวก็พอค่ะ ไปนอนแค่สองคืน บ้านคุณยายพี่เค้กน่าสนุกออก เบลอยากไป”“พี่ไม่ว่าง”“เบลยังไม่ได้บอกเลยว่าให้พี่ไปด้วย เราจะไปกันเฉพาะสาวๆ ค่ะ”“ไม่ได้แน่ ไอ้ออสตินไม่ยอมหรอก เคเดนก็ไม่ปล่อยเมียมันไปแน่”“ใครบอกละคะ พวกพี่เขาอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือพี่หมีวินคนเดียวนี่แหละนะคะ ให้เบลไปกับพี่ๆ นะคะ แค่ไปบ้านคุณยายเอง นะ นะ”“ทำไมไอ้พวกนั้นมันยอมกันง่ายจังวะ รึว่ามีแผนเมียไม่อยู่หนูร่าเริงกันรึเปล่า” มาร์วินแกล้งพูดให้อีกคนระแวง “อย่าเลยนะ เบลจัดการพี่แน่ๆ”“จัดการยังไงก่อน เราไม่อยู่สักหน่อย จะไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ”“เดี๋ยวเหอะ พี่แต่งงานแล้วนะ”“พี่ล้อเล่น ใครจะไปไหนละ งานยุ่งจะแย่ เมียไม่อยู่ก็นอนบ้านนี่แหละครับ”“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่อนุญาตให้เบ
ด้านนนท์ เขาขับรถไปหาปันปันตามที่อยู่ที่มาร์วินให้มา เขาจอดรถเรียบร้อย และพอดีกับที่ปันปันเดินออกมาจากคอนโด นนท์สังเกตเห็นท้องของเธอที่โตมากพอสมควรแล้ว “ปันกำลังจะไปไหน”นนท์เห็นเธอเดินมาที่รถ และขึ้นไปนั่งไม่นานก็ขับออกไป นนท์เลยไม่รอช้ารีบขับรถตามออกไป ปันจะไปไหนกันแน่ ตอนแรกนนท์คิดว่าปันปันจะไปโรงพยาบาล แต่เธอเพิ่งขับรถเลยไปเมื่อกี้ เขาขับรถตามเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปันปันเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม @Cherbelle Grand Hotel“ปันมาทำไมที่นี่” นนท์จอดรอและค่อยขับตามเข้าไปห่างๆ ยังไม่อยากให้ปันปันรู้ว่าเขาแอบตาม ปันปันเดินไปทักทายเพื่อนของเธอ และแยกย้ายกัน เพื่อนเธอโทรมาบอกเธอว่าเฌอเบลอยู่ที่โรงแรม และปันปันก็ขับรถมาที่โรงแรมทันที เพราะเธอรู้ว่ามาร์วินอยู่ที่บริษัท ถ้ามาหาเฌอเบลที่นี่เพื่อก่อกวนเล่นสนุกๆ ก็เป็นอะไรที่ควรทำ เพราะมันซะใจดี เฌอเบลไปนั่งที่ห้องอาหารภายในโรงแรม และเริ่มสั่งอาหาร รอจนอาหารมาเสิร์ฟ“ขอโทษนะคะ” ปันปันเรียกพนักงานของโรงแรม “ครับ คุณลูกค้า” พนักงานเดินมาให้บริการเธอด้วยท่าทางสุภาพ “เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันไม่ทานผักชี แล้วทำไมยังใส่มาค่ะ” ปันปันแกล้งโวยวายใส่พนั
เฌอเบลบิดตัวไปมา คว้ามือหาอีกคนโดยที่ยังไม่ได้ลืมตา “เฌอเบลพี่อยู่นี่”มาร์วินยิ้ม ยืนมองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู เขาตื่นสักพักแล้ว และเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ “พี่ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“สักพักแล้ว เราลุกไหวไหม”“เบลหายแล้วค่ะ”“หายเพราะกินน้ำพี่งั้นเหรอ”“พี่เลิกพูด”มาร์วินหัวเราะ เดินเข้าไปดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นจากเตียง “วันนี้เราพักผ่อนอยู่บ้านนะ ยังไม่ต้องไปเรียนหรอก แต่พี่ต้องไปทำงานกลับเย็นๆ อยู่ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้ค่ะ” เฌอเบลกอดคนตัวโตซบหน้าบนแผงอกแกร่ง มาร์วินยืนอมยิ้มเขาดีใจที่ได้คนขี้อ้อนกลับมา “งั้นเอาไงดีตามพี่ไปบริษัทด้วยไหม”“หน้าเบลดูเป็นไงบ้างคะวันนี้ ยังโทรมอยู่รึเปล่า ถ้าโทรมเบลไม่ไปดีกว่า”“ไหนดูสิ”เฌอเบลเงยหน้าให้คนตัวโตดู มาร์วินยิ้มจุ๊บจมูกเล็ก “เปล่งปลั่งมากแก้มชมพู ปากแดงน่าจูบ แสดงว่าได้เซ็กซ์บำบัดชุดใหญ่ไป หน้าตาบ่งบอกว่าอิ่มมาก”“หยุดเลยพี่น่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ เบลไปอาบน้ำดีกว่า” เฌอเบลเดินสะบัดก้นเข้าห้องน้ำไป มาร์วินได้ส่ายหัวยิ้มตาม เขาเดินเข้าห้องแต่งตัวไปเปลี่ยนชุด เสร็จแล้วมานั่งรอคนสวยอาบน้ำ เฌอเบลเดินออกมาจากห้องน้ำ แวะหอมแก้มคนตัวโตแล้วเดินเข้าห้องแต่งต
เฌอเบลลืมตา ตะแคงตัวขยับเข้าไปหาร่างหนา มาร์วินดึงผ้าห่มคลุมให้ร่างเล็ก คว้าเอวบาง เข้ามากอดแนบชิด “เบลพี่เห็นข้อความในโทรศัพท์ ที่ปันปันคอยส่งมาให้เบลหมดแล้ว ทำไมเบลไม่บอกพี่ ทนฟังปันปันพูดโกหกทำไม มันไม่จริงเลยนะที่ปันบอกว่าพี่ดีใจที่ได้ลูกชายมันไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนคุณแม่ท่านไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก ท่านแค่เอ็นดูปันปัน และท่านไม่รู้ด้วยว่าสิ่งที่ท่านใจดีกับปันปันจะโดนปันปันเอาสิ่งเหล่านั้นมาทำร้ายอีกคนอย่างเบล”“เบลอย่าคิดมากเรื่องคุณแม่นะ เรื่องนี้พี่จะคุยกับท่านเอง คุณแม่คงคิดว่าพี่กับเบลเลิกกันไปแล้ว เลยพยายามเชียร์ปันปันเพราะคิดว่าเด็กในท้องปันยังไงก็หลานท่าน”“แต่เบลเชื่อพี่สิ เด็กไม่ใช่ลูกพี่แน่ๆ พี่กับปันไม่เคยมีอะไรกัน พูดรอบที่ล้านพี่ก็จะพูดเหมือนเดิม เบลอดทนหน่อยเถอะนะ รอแค่เด็กคลอดอีกไม่กี่เดือน รอพี่หน่อยได้ไหม พี่อยากดูแลเบลพี่เป็นห่วงมากนะ”“เป็นห่วงอะไรกัน พี่แกล้งเบลสารพัด ให้เบลไปทำงานเยอะแยะ” เฌอเบลต่อว่าพร้อมกับหน้างอใส่เขา “หึ! พี่โกรธเรื่องเคเจ แต่ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว พี่กับเคเจเจอกัน และเคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว”“เจอกันเหรอคะ”“อืม ทำไม”“แล้วมีเรื่องกันรึเ
มาร์วินปล่อยให้คนตัวเล็กนอน ปรับแอร์ในห้องไม่ให้หนาวจนเกิดไป มองคนป่วยอย่างนึกเอ็นดู เขาเดินออกไปด้านนอกลงไปด้านล่างเพื่อหาอะไรดื่ม เขานั่งลงที่บาร์เครื่องดื่มจิบไวน์ ติ้ง!ติ้ง!เสียงดังมาจากโทรศัพท์ในกระเป๋าของเฌอเบล มาร์วินหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาดู ปันปัน : ส่งรูปชุดเด็กปันปัน : ดูสิเฌอเบล ว่าคุณย่าเขาเห่อหลานเขาแค่ไหน ซื้อชุดให้หลานอีกแล้ว มาร์วินมองข้อความที่ปันปันส่งมาหาเฌอเบลอย่างรู้สึกอึ้งไป ไม่คิดว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย เขากดรหัสเพราะเขารู้รหัสโทรศัพท์เฌอเบล และเฌอเบลก็รู้เครื่องของเขาด้วยเพราะเราไม่มีอะไรปิดบังกัน แล้วเข้าไปอ่านข้อความทั้งหมด ที่ปันปันคอยส่งมาหาเฌอเบลตลอด เหมือนเป็นการเยาะเย้ย ต่างๆ นานา มาร์วินไล่อ่านข้อความ และพอรู้ว่ารูปเขา บางรูปมาจากคุณแม่เขา ที่คอยถ่ายส่งให้ปันปัน ท่านคงไม่รู้ว่าปันปัน เอารูปพวกนั้นคอยส่งมาเยาะเย้ยเฌอเบล เฌอเบลต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ความเป็นจริงเลย และเขาอ่านจนมาถึงข้อความของวันที่ เฌอเบลหนีเขาออกมาจากเพนต์เฮาส์ของเช้าวันที่เขาทะเลาะกับเธอและมีอะไรกัน ปันปัน: ส่งรูปอัลตราซาวด์ปันปัน : วินเขาดีใจมา
ครืดดด ครืดดด เสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์เขา พี่มาร์กี้โทรเข้ามา เขารีบกดรับสาย “ฮัลโหลครับ”“มาร์วินพวกกระเป๋าแล้วก็ของใช้ ของน้องเบลจะให้พี่เอาไปเก็บไว้ที่ไหน”“อืม…” มาร์วินหันมามองคนตัวเล็กนิดหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินไปคุยกับพี่สาวที่ระเบียง เฌอเบลมองตามคนตัวสูง ที่ยืนหันหลังถอดเสื้อคุยโทรศัพท์อยู่ เขาหล่อและดูดีที่สุดในสายตาเธอเสมอ เฌอเบลยิ้มกับตัวเอง เอนตัวซบแก้มหนุนแขนตัวเองลงบนโซฟาตะแคงหน้ามองเขาเพลินๆ อยากเดินเข้าไปกอดเขาทางด้านหลังแบบนั้นจัง พอเลยคิดอะไรเนี่ย เฌอเบลรีบขจัดความคิดของตัวเองออกไปและหลับตาลงจนเผลอหลับไป มาร์วินคุยกับพี่สาวนานพอสมควร เพราะต้องเล่าทุกอย่างให้พี่มาร์กี้ฟัง พอคุยเสร็จหันมามองทางเฌอเบล คนตัวเล็กนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ ตาสวยหลับพริ้ม “หลับแล้วเหรอ”มาร์วินเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ มองแก้มใสที่ซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวนุ่มตอนนี้เล็บที่เคยถูกต้องแต่งสวยงามอยู่ตลอดที่เขาเคยเห็น แต่ตอนนี้ตัดสั้น ไม่ได้แต่งเติมทาสีใดๆ เขารู้สึกสงสารเธอขึ้นมา มือหนายกขึ้นลูบหัวเล็กเบาๆ ไม่อยากให้เธอลำบากอีก มาร์วินขยับเข้าหาเขาคิดถึง ยังคิดถึงเธอตลอด โน้มหน้าเข้าไปหอมแก้