หลายวันต่อมา..“ไม่เป็นไรแน่หรอนี่มันที่ทำงานนะ”ฉันพูดกับเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เดินดุ่มๆ จูงมือฉันเข้ามาในบริษัทซอฟต์แวร์ของพ่อเขาอย่างไม่สนใจสายตาของใครที่จ้องมาทั้งนั้น ก่อนที่พายจะกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนสุดด้วยท่าทางรีบร้อนจะว่าไปวันนี้เขาดูเท่ห์ชะมัดเลยแหะ แต่งตัวเป็นทางการสุดๆ ในขณะที่ฉันยังอยู่ในชุดนักศึกษาเพราะเพิ่งจะเลิกเรียนได้สักพักแล้วพายก็ไปรับพามาที่นี่“เรา..มาทำอะไรที่นี่หรอ” ฉันถามออกไปอย่างสงสัย ก็ไหนตอนแรกเห็นเขาบอกว่าจะชวนไปกินข้าวไม่ใช่?แถมตอนอยู่โรงเรียนประจำ.. ฉันจำได้ว่าพายไม่ค่อยสนิทกับพ่อเขาเท่าไหร่ แล้วเร็วๆ นี้เขาก็เคยบอกว่าจะเข้ามาที่บริษัทพ่อเขาบ้างเฉพาะวันหยุดเท่านั้นนี่นา..แต่นี่มันวันปกตินะ?“มีงานด่วน”พายพูดออกมาก่อนจะพาฉันเดินผลักประตูเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นห้องเขานะ เพราะโทนสีมันดูคล้ายกับห้องที่คอนโด แล้วเขาก็ดันตัวฉันนั่งลงที่โซฟา“รอก่อนนะ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน” พายุพูดพร้อมกับยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ พอเขาบอกมาแบบนั้น ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเห็นเขาเดินไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน แล้วเปิดโน๊ตบุ๊คตรงหน้าก่อนจะพิมพ์อะไรยุกยิกอย่า
“อยากกินกาแฟ”เอี๊ยดดดดพอขับรถพ้นประตู ม. ออกมาได้สักพัก พายุก็พูดออกมาแล้วเหยียบเบรกทันทีจนหน้าฉันเกือบทิ่ม แบบนี้ก็ได้หรอ?! อยากกินแล้วแวะเลย? รถคันหลังไม่ต้องสนใจ? ถนนเส้นนี้ของที่บ้านหรอออ -_-?“ขับรถแย่ขึ้นทุกวัน” ฉันหันไปตำหนิพายแบบไม่จริงจังอะไร ก่อนจะโดนมือหนายื่นมาบีบจมูกเบาๆ สองสามทีแล้วเขาก็ปล่อย“นี่ก็ขี้บ่นขึ้นทุกวัน”ตึงงง!พูดจบพายก็เปิดประตูลงจากรถไปยืนรอฉัน ส่วนฉันก็เดินลงรถตามหลังเขาไป พอเราไปนั่งที่โต๊ะพนักงานก็รีบหยิบเมนูมาให้และยืนรอรับเมนูทันที“กินไร?” พายุเอ่ยปากถามฉันทั้งที่ตายังดูเมนูอยู่แบบนั้น ฉันเลยหันไปสั่งและยิ้มให้พนักงานในร้านตามมารยาท“เอาชาเขียวแก้วหนึ่งค่ะ”"ครับ (- -) (_ _)"แล้วพนักงานก็พยักหน้าและส่งยิ้มตอบกลับมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร แอบเห็นพายเหลือบตามามองนิดหน่อยแล้วเขาก็พูดออกมาพร้อมกับส่งเมนูคืนให้พนักงานทันที ไม่สิ.. ที่จริงออกแนวยัดใส่มือพนักงานแบบลวกๆ ซะมากกว่า“ชามะนาวแก้ว”“หืม..ชามะนาว? แล้วเมื่อกี๊ร้องจะกินกาแฟ :(” ฉันเบะปากใส่พายุไปอย่างกวนๆ แล้วพายก็หันไปจ้องหน้าพนักงานคนนั้นนิ่งๆ ก่อนจะตอบกลับมา“เปลี่ยนใจ..”“อืม (- -) (_ _)” ฉันพยั
ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเพราะวันนี้มีเรียนตอนเที่ยง แล้วโผล่หน้าไปมองพายุในเสื้อยืดแขนยาวสีขาวที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกในห้องของเขา ก่อนจะเลิกคิ้วถามออกไปอย่างสงสัย“ไม่มีเรียนทำไมตื่นเช้าจัง”ถึงจะถามไปแบบนั้นแต่พายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพราะเขากำลังนั่งเล่นกีต้าร์ตัวโปรดด้วยปิ๊กกีต้าร์ Limited Edition ที่เลโอซื้อมาให้เมื่อคราวนู้นอยู่ คือมันแพงแล้วมันจะดีดเพราะขึ้นหรืออะไรอ่ะ -_-? ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เห็นตอนนั้นไปป์ดูฮือฮาพอสมควรเลย แถมยังบอกว่าที่เลโอยอมซื้อปิ๊กกีต้าร์อันนี้มาเซ่นพายุเพราะจะโดดซ้อมไปหาสาวด้วยนะ ฮ่ะๆ“พายยยย..” ฉันลากเสียงยาวๆ ออกไปอีกครั้ง แต่พายก็ยังไม่สนใจ อะไรของเขากันเนี่ย พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย -_-แต่จนแล้วจนเล่าพายก็ไม่ยอมตอบอะไร ฉันเลยเดิมดุ่มๆ ออกจากห้องนอนมานั่งข้างๆ เขาทันที แต่พายก็ก้มๆ เงยๆ อยู่กับกีต้าร์ตัวนั้นทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนเหมือนเดิมอยู่ดี ...What?!“พายยยย ถ้าไม่ตอบนิลจะกลับห้องละนะ!”ฉันทำหน้ามุ่ยออกไปแล้วลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนีเรียกร้องความสนใจซะหน่อย แล้วก็เป็นไปตามแผนเป๊ะ..พายคว้าแขนฉันเอาไว้ทันทีตั้งแต่ฉันยังไม่ทันได้ก้าวขาซะอีก
@ มูลนิธิเด็กไร้ญาติ“หยุดนะเจ้าหมียักกกกกกษ์! จะเอาๆๆๆ~”เสียงเด็กๆ ร้องตะโกนแล้ววิ่งไล่เลโอในชุดมาสคอตหมีสีน้ำตาลจนเจ้าตัววิ่งหนีอย่างอุ้ยอ้าย ก่อนที่ฉันกับพายที่นั่งเล่นกับเด็กๆ อยู่จะขำออกมา เชื่อแล้วล่ะว่าพายุใจดีจริงๆ อย่างที่เจด้าเคยบอก เพราะวันนี้ฉันเห็นเขาทำกิจกรรมอะไรตั้งมากมายโดยไม่บ่นสักคำ ทั้งร้องเพลง เล่านิทาน วาดรูประบายสี เล่นของเล่น หัวเราะกับเด็กๆ อย่างดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ^^“ไอ้เลย์ แล้วมึงจะวิ่งเพื่อ?!” พายตะโกนบอกเลโอที่วิ่งวนไปวนมาไม่ยอมหยุด ยิ่งเขาวิ่งหนี เด็กๆ ก็ยิ่งวิ่งตามอยู่แบบนั้น“กูกลัวโดนกอดคนมันเสน่ห์แรง อย่าทำเค้านะ อย่าทำเค้า >_”เลโอถอดหัวหมีออกแล้วตะโกนกลับมาก่อนจะวิ่งเล่นกับเด็กๆ อยู่อย่างนั้นจนแฟนคลับของเขาที่มาด้วยพากันกรี๊ดกร๊าดแชะภาพกันยกใหญ่“น่ารักดีเน่อะ ^_^”ฉันพูดออกไปก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้พายที่ลูบหัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเบาๆ ด้วยรอยยิ้มและสายตาที่เอ็นดูมากๆ อยู่“ใคร..ไอ้เลโอ?” แล้วพายก็หุบยิ้มลงทันทีก่อนฉันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่ฉัน“หมายถึงเด็กๆ ต่างหากเล่า” พูดจบฉันก็ทำหน้ามุ่ยใส่เขาบ้าง หูหาเรื่องจริงๆ เลยนะ -_-“อยากมีเองเลยมั้ยล่ะ?”แล้วพา
@ โกดังร้างแห่งหนึ่ง“มันสลบไปแล้วครับนาย”เสียงลูกน้องคนหนึ่งของเตโชพูดขึ้น พร้อมกับยื่นมือถือของคนที่โดนจับมาให้พายุ เขาเองก็รับมันมาดูด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่ก็ต้องเขวี้ยงทิ้งจนแตกกระจายเพราะในนั้นมีแต่รูปนิลลาในหลายๆ อิริยาบถที่ถูกแอบถ่ายไว้เต็มเครื่องไปหมด รวมถึงรูปโปรไฟล์ Know more ด้วย เหมือนมันจะถูกใจเธอและวางแผนมานานพอสมควรพรึ่บ! แกร๊ก! แกร๊ก!พายุออกแรงกระทืบมือถือเครื่องนั่นซ้ำๆ อย่างหัวเสีย แล้วหันไปหาลูกน้องเตโชด้วยสีหน้าโกรธจัดจนทุกคนต้องหลบตา ท่ามกลางสายตาของสมาชิกใน Nightshade ทุกคนที่ดูดุดันไม่ต่างกัน มันกล้าทำกับผู้หญิงของเพื่อนเขา กล้ามีเรื่องกับเพื่อนเขาก็เท่ากับประกาศตัวมีเรื่องกับพวกเขาทั้งหมดเช่นกันพายุก้าวขาช้าๆ แต่เป็นความเย็นชาที่ดูรุ่มร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเดินเข้าไปคว้าถังน้ำเกลือที่ลูกน้องเตโชเตรียมเอาไว้ให้อย่างรู้งาน และสาดมันใส่ไอ้สวะที่ถูกมัดให้นั่งอยู่กับเก้าอี้และกำลังหลับไปอย่างสบายใจพรึ่บบบบ! ซ่าาาาา!“อ๊ากกกกกก”เสียงร้องอย่างเจ็บแสบดังขึ้นลั่นโกดัง ก่อนที่พายุจะใช้มือข้างหนึ่งกระชากไรผมที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเกลือและคราบเลือดที่เริ่มแห้
ย้อนกลับไปหลายชั่วโมงก่อน..“มีธุระอะไรกับผม”พายุเอ่ยปากถามคนที่นั่งไขว่ห้างเซ็นต์เอกสารอยู่บนเก้าอี้ประธานบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของประเทศอย่างสงสัย ก่อนที่ชายสูงวัยคนนั้นจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยท่าทางเรียบเฉย“ดุเหมือนแม่แกไม่มีผิด นั่งก่อน” ชายสูงวัยเบนหน้าไปทางโซฟาที่เยื้องออกไป แล้วก้มหน้าเซ็นต์เอกสารต่ออย่างบอกเป็นนัยๆ ให้เขารอ“ผมมีธุระต่อ”พายุพูดขึ้นแล้วก้มมองนาฬิกานี่มันใกล้เวลาที่ยัยตัวแสบของเขาจะเลิกเรียนคาบสุดท้าย ซึ่งมันดึกและอันตรายถ้าเธอต้องขับรถกลับคอนโดคนเดียว แต่คนตรงหน้ากลับให้เลขาเรียกตัวเขาเข้ามาพบด่วนตอนนี้ ซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน และปกตินี่ก็ไม่ใช่วันทำงานของเขาด้วยซ้ำ“ห่างกันสักวันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”“เป็น” พายุพูดสวนขึ้นมาและเดินตรงเข้าไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายสูงวัยที่มีศักดิ์เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาอย่างไม่เกรงกลัวอะไร แต่คนตรงหน้าก็ยังทำเฉยไม่สนใจ“ว่าธุระของท่านมาสักที”เพราะเดินเลยจุดที่จะสนิทชิดเชื้อกับพ่อแท้ๆ ของตัวเองมาไกลมาก พายุเลยปฏิบัติต่อคนตรงหน้าเสมือนว่าตนเองเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งในบริษัทด้วยการเรียกเขาว่า ‘ท่านประธาน’ เท่านั้น“ชื่ออะไรนะ ห