::: TECHO :::
หลังจากเสร็จภารกิจทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รวมถึงผมกับมิณที่กำลังขับรถกลับคอนโด ส่วนเรื่องคำพิพากษาไอ้คิระกับคำอธิบายเรื่องข้อตกลงของ Emergency Privilege ทั้งของผมและมิณ จะมีการเรียกประชุม Member ทั้งหมดที่ Dark Shadow Castle (JAPAN) ในอีกสองวัน ซึ่งก็จะตรงกับวันสถาปนาพอดี และ Nightshade ที่มีเอี่ยวด้วยวันนี้จะต้องไปฟังคำพิพากษาร่วมกันทั้งหมด “ยิ้มไรคนเดียว” พอหันไปเห็นใบหน้าเล็กกำลังนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีและดูจะแฮปปี้เกินเรื่องไปหน่อยทั้งที่วันนี้เจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดนั้น ผมเลยถามออกไปแบบงงๆ ในท่าทางที่แปลกไป แล้วมิณก็ตอบกลับมา “เปล่าหนิ” ใบหน้าเล็กทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ดูจะปกปิดรอยยิ้มในแววตานั่นไม่มิด หน้าผมมีไรติดหรอวะ -.-? หรือมิณไปกินไรผิดมาตั้งแต่ที่เกาะละ วันนี้เมียแลอารมณ์ดีจัด “มีไรบอกมา” ผมส่งเสียงเข้มออกไป แล้วเอามือไปยีหัวมิณซ้ำๆ อยู่หลายที หึ..เกือบจะไม่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วมั้ยกู มีเมียเก่งแม่งโคตรน่าภูมิใจ เปิดใช้คำขอทีเล่นเอาตัวแทนสภากฎเหวอไปเลย บอกตามตรงใจผมตอนนั้นแม่งกระตุกวูบ เวลามิณทำอะไรแม่งเหนือความคาดหมายของผมตลอด แล้วมิณก็หันมองมาเฉยๆ แต่ไม่พูดอะไร เอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่แบบนั้นมาตลอดทางจนถึงคอนโด พรึ่บบบ! “มันเป็นยังไงไหนบอกมาดิ๊” ฟรืดดด~ ผมเลื่อนแขนไปคล้องคอร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วดึงเข้ามากอดเอาไว้ ก่อนจะกดจมูกขโมยหอมแก้มมิณฟอดใหญ่และถามออกไปอย่างสงสัยอีกซ้ำๆ เพราะจนเราลงจากรถและเดินขึ้นลิฟท์มาแล้ว มิณก็ยังคงจ้องหน้าผมแล้วอมยิ้มอยู่แบบนั้นจนผมเริ่มประหม่า แต่ดูจากกระจกในลิฟท์ หน้าผมก็ไม่มีไรติดนี่หว่า “ง่วง อยากกอด” ...หืมมม? พอได้ยินมิณตอบมาแบบนั้นก็เล่นเอางงสิฮะ ปกติต้องเป็นผมรึเปล่าวะ ที่เป็นฝ่ายร้องขอมิณแบบนี้ เฮ้ย ไม่ใช่ละว่ะ มาแปลก..ท่านปู่ทำไรเมียกูป่าววะ -.- แม่งต้องใช่แน่ๆ นี่เมียกูโดนของ หรือลมทะเลมันก่อตัวเป็นพิษไข้ แล้วอาการจะร้ายแรงมั้ย?! พรึ่บบบ! “ตัวก็ไม่ร้อนหนิ” “หึหึ” ผมเลื่อนมือไปแตะหน้าผากมิณแล้วพูดออกไปแบบงงๆ คือเมียแปลกไป กูก็งงยาวๆ แบบนี้แหละ -_-?! แล้วมิณก็หัวเราะเบาๆ คนเดียวออกมาอีก เล่นเอาผมประสาทจะกินจนปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหว แกร๊ก แอ๊ดดดด~ พอเปิดประตูเข้ามาในห้อง ผมก็คว้าเอวร่างเล็กของมิณขึ้นมานั่งตักจังหวะเดียวกับที่ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที ฟุ้บ~ “ยังไง ไปอารมณ์ดีอะไรมะ...อืมมม” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค อยู่ๆ มิณก็ประกบริมฝีปากบางลงมาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว แถมยังแทรกลิ้นเรียวเล็กเข้ามาเกี่ยวหวัดกับลิ้นผมอยู่นานสองนานเล่นเอาเคลิ้มไปทันตา แต่พอผมกำลังจะจูบตอบกลับไป มิณก็ผละออกเบาๆ แล้วหัวเราะปนเขินออกมา “รางวัลที่กลับมานะ คุณเท็ดดี้ >/////<” ฟรืดดด~ เจ้าของริมฝีปากอมชมพูเรียวเล็กพูดขึ้น แถมยังกดจมูกรั้นๆ ลงมาบนแก้มผมอีกทีจนผมชะงัก -/////- ก่อนที่มิณจะลุกพรวดออกจากตักผมทันทีอย่างรีบร้อน เหมือนจริงๆ ก็เขินในการกระทำของตัวเองเหมือนกัน แต่คือมาขนาดนี้แล้วจะให้ผมอยู่เฉยหรอวะ ก็เมียเล่นอ่อยซะ.. พรึ่บบบ! “ไปไหน?! ไหนว่าอยากกอดแล้วลุกหนีทำไม?” ผมถามออกไปพร้อมกับคว้าตัวมิณกลับมานั่งตักเหมือนเดิม ก่อนจะเห็นแก้มขาวๆ ของคนตรงหน้าเริ่มมีเลือดฝาดมากขึ้นทุกที และแอบได้ยินว่าใจมิณเต้นแรงมากทั้งที่เป็นฝ่ายรุกเข้ามาซะเอง แต่ที่ดาเมจรุนแรงยิ่งกว่า คือรอยยิ้มที่ผสมกับสีหน้าท่าทางเขินๆ ของมิณแบบนั้น แม่งทำให้จิตใจผมเตลิดไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขึ้นมาเฉยๆ “ไม่ได้หนี แค่จะไปอาบน้ำ.. เดี๋ยวมากอดใหม่ >.<” มิณพูดพร้อมกับขยับตัวจะลุกหนีอีกและไม่กล้าหันมาสบตาผมสักนิด ผมเลยหลุดขำออกไปกับท่าทางที่โคตรจะน่ารักแบบนั้น แล้วกระชับอ้อมกอดล็อคตัวเธอเอาไว้ ก่อนจะมุดหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนมิณรีบหันหนี “ทำไมวันนี้อ้อนเก่ง” ผมถามไปออกแล้วกดจมูกสูดดมกลิ่นหอมของร่างเล็กที่แม้จะเหนื่อยมาทั้งวันก็ยังหอมละมุนแบบนี้อยู่ทุกที ใครแม่งไม่หลงก็บ้าฉิบหาย ที่เกาะนั่นก็แทบจะอดใจไม่ไหว “เปล่าๆ ไม่ได้อ้อน แค่…” “อ่อย?” ผมต่อท้ายประโยคให้ทันทีพอเห็นมิณเริ่มเลิ่กลั่กออกมา ซึ่งเดี๋ยวอีกแป๊บก็โวยวาย..พนันได้เลย “เปล่าๆ ไม่ได้อ่อย ปล่อยๆ จะไปอาบน้ำ >////<” นั่นไง ยิ่งเขินมากเท่าไหร่ มิณก็ยิ่งเลิ่กลั่กขึ้นมามากเท่านั้น แถมยังเลื่อนมือมาดันอกผมพัลวัน จะลุกหนีท่าเดียว “หึ.. เดี๋ยวดิ ติณณ์ต้องเขินมิณไม่ใช่?” ผมโน้มตัวไปกระซิบข้างหูของร่างเล็กที่ตอนนี้เริ่มแดงก่ำแบบดูก็รู้ว่าเขินจัด กับคนอื่นจะห้าวแค่ไหน แต่กับผมทีไรแค่กอดไว้มิณก็ตายสนิท กูแม่งรักเมียตรงนี้นี่แหละ รู้จักจัดลำดับความสำคัญ “นั่นดิ แล้วไมติณณ์ไม่เขินอ่ะ มิณคิดตั้งนาน -.-?” ร่างเล็กบ่นอุบอิบแล้วส่งสีหน้าหงุดหงิดเล็กๆ ออกมา เล่นเอาผมหลุดยิ้มและตอบกลับไปพร้อมกับกดจมูกหอมแล้วหอมอีกบนแก้มนิ่มๆ นั้นอย่างหมั่นเขี้ยว “ก็เราไม่เซียน ไปเรียนมาใหม่” ฟรืด~ ฟรืด~ ฟรืด~ “ติณณ์ไม่มีแอบยิ้มมุมปากสักนิดเลยไง? วู้ว คนอุตส่าห์ยอมเปลืองตัว” มิณยังคงโวยวายและทำหน้าเหมือนขัดใจที่ผมไม่แสดงออกอะไร แต่คือในใจ..กูนี่ยิ้มแก้มแตกไปแล้วไง เมียรุกเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว เสียเชิงชายฉิบหาย แต่ต้องเก็บอาการไว้ “ก็..มีบ้าง สองวิ -/////-” ผมพูดออกไปแล้วทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาที่ดูหงุดหงิด ออดอ้อนและดูจะเสียดาย หน้ากูแม่งก็ร้อนขึ้นมาเลย ให้ตาย -.-! “แน่ใจ? เฮ้ย แต่ติณณ์แอบหน้าแดง” จนได้.. พอพูดจบมิณก็เลื่อนมือมาจับแก้มผมแล้วอมยิ้มออกมาเบาๆ ผมเลยเฉไฉทำเป็นไม่รู้สึกอะไรและแกล้งบ่นออกไป แต่คนตัวเล็กก็ยังยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างพอใจอยู่แบบนั้น “ใช่ที่ไหน เลอะเทอะ -.-” “โอ๊ะๆ พบคนเขินหนึ่งอัตรา ^_^ ไหนมาดูใกล้ๆ หันหน้ามาไวๆ เลย” พอเห็นผมหันหน้าหนี มิณก็เลื่อนมือมาล็อคหน้าผมไว้แล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมเลยเก๊กขรึมใส่อยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะทำไง “ไม่ได้เขิน ดู...” แค่ได้ยินผมพูดแบบนั้นมิณก็หน้าบูดขึ้นมาอีกทีเหมือนเด็กกำลังโดนขัดใจ “เฮ่อ~ เค งั้นเอาไว้จะแก้ตัวใหม่ คราวหน้าไม่มีพลาด..บอกให้!” เสียงเล็กบ่นอุบอิบเหมือนเสียดาย ทำไมเดี๋ยวนี้เมียจ้องจะเอาชนะให้ได้เลยวะ การเห็นผมเขินมันทำให้รู้สึกดีขี้นยังไง ไม่เข้าใจ -/////- “จ้ะ รอแทบไม่ไหว” ผมตอบกลับไปแบบทีเล่นทีจริง แล้วมิณก็ยิ่งหงุดหงิดในคำตอบนั้น ก่อนจะลุกพรวดจากตักผมแบบฟึดฟัดและเดินอ้อมโซฟาจะเข้าห้องนอนไป กึก.. “เออติณณ์..เพิ่งนึกได้” มิณก้าวขาออกไปไม่ถึงห้าก้าวแล้วก็หยุดกึก ก่อนจะส่งเสียงมาให้ผมที่นั่งหันหลังอยู่แบบนี้ ผมเลยตอบกลับไปและกำลังจะหันไปมอง “อื้ม ว่าไง..” พรึ่บบบ! แล้วร่างเล็กของมิณก็พุ่งเข้ามากอดคอผมไว้จากด้านหลัง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบอย่างหูเบาๆ เล่นเอาผมชะงัก แถมยังทำให้ขีดจำกัดความอดทนถึงกับขาดสะบั้นไปทันตา ผมหลุดยิ้มออกมารัวๆ แล้วหน้าแม่งก็ร้อนผ่าวขึ้นมา แบบถ้าเอาปรอทมาวัดบอกเลยปรอทแม่งแตก เวร.. เมียเล่นกูละ ไอ้ห่า -////- “รักนะ.. มิณรักติณณ์นะ >//////<” ...บ้าฉิบบบบ! ::: END TECHO ::: “รักนะ.. มิณรักติณณ์นะ >///<” “.....” พอฉันพูดไปแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าหน้าติณณ์ตอนนี้เป็นไงเพราะเขากำลังหันหลังให้ รู้แค่เสียงใจของติณณ์กำลังเต้นเร็วและแรงรัวเป็นกลองชุดแบบฟังแล้วรู้เลยว่า Mission Completed! ฮ่ะๆ ๆ >.< ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “โอ๊ะโอว ขอเช็คหัวใจหน่อยค่ะ แย่แล้วคุณหมอคะ! คนไข้ใจเต้นแรงมากกกก >////<” ฉันส่งออกไปล้อเลียนร่างสูงที่นั่งหันหลังให้กันอยู่แบบนั้น แล้วเลื่อนมือไปแตะที่อกข้างซ้ายของเขา ก่อนจะทำเสียงตื่นเต้นออกไปอีกซ้ำๆ ขี้เก๊กนักก็ต้องโดนแบบนี้แหละ แพ้ไปซะนะคุณเท็ดดี้ >.< “หึ -////-” แอบได้ยินเสียงติณณ์หลุดขำในลำคอเบาๆ แล้วเขาก็.. หมับ! พรึ่บบบ! “อร๊ายยย อื้อออ~” Oh My Goshhh~ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก และชวนให้ใจหายแว๊บ!!! ติณณ์หันมาคว้าตัวฉันด้วยแขนเดียว แล้วยกตัวฉันข้ามพนักพิงโซฟาแบบรีบร้อน ก่อนจะกดจูบลงมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ หน้าเขาตอนนี้มันแดงมากกก คือแดงแบบเห็นได้ชัด หูแดง ทุกอย่างแดง ..ฉันชนะ!!! “อื้อออ ฮ่ะๆ” ฉันปล่อยให้ติณณ์กดจูบอยู่แบบนั้น แล้วหลุดขำคิกคักจนเขายิ่งเขินหนัก >.< ก่อนที่เขาจะผละออกไปแล้วบ่นอุบอิบออกมา “ทำไมน่ารักแบบนี้วะ ทำไมน่ารักไม่หยุด อืมมม~” ไม่รอให้เขาบ่นอะไร ฉันก็เป็นฝ่ายรุกเข้าไปบ้าง แล้วติณณ์ก็จูบตอบกลับมาอย่างไม่ยอมกัน แถมยังหลุดยิ้มออกมาอยู่แบบนั้น หน้าเขาตอนเขินแบบนี้นี่มัน.. โคตรจะน่ารักเลยจริงๆ >////< แบบนี้ต้องจัดชุดใหญ่ให้แล้ว “อืมมม” พอคิดได้แบบนั้นฉันก็ผละออก แอบเห็นติณณ์ออกอาการหงุดหงิดเล็กๆ ด้วยนะ ฉันเลยโน้มตัวไปกระซิบข้างหูเขาเบาๆ อีกที.. “ได้มากกว่านี้อีกนะ ตั้งสติไว้ เดี๋ยวหัวใจวาย” พรึ่บบบ! พูดจบฉันก็เลื่อนมือไปถอดเสื้อติณณ์ออกอย่างรีบร้อนทันทีจนเขาชะงักไปแล้วทำหน้าอึ้งออกมา “O_O” แต่พอเสื้อตัวบางของติณณ์ปลิวออกจากตัวไปแล้วเผยเห็น Six pack เป็นลอนสวยแบบชวนให้ใจละลายตรงหน้า เลยกลายเป็นฉันซะเองที่ประหม่าขึ้นมาทั้งที่คิดจะแกล้งเขา >/////< จนสุดท้ายฉันก็เผลอเลื่อนมือไปลูบไล้มัน และรีบมุดหน้าเข้าไปหาซอกคอขาวของติณณ์อย่างไม่กล้าหันกลับไปมอง “งื้อออ ทะ..ทำรอยได้มั้ย >////<” ฉันถามออกไปเพราะตอนแรกคิดไว้แค่จะแกล้งทำรอยบนตัวเขาก็แค่นั้น แต่ไอ้ภาพ Six pack ข้างล่างนั่นมันยังติดตา ไม่นะไม่ๆ.. แค่ทำรอย แค่แกล้งทำรอยได้มั้ย >/////< “หึ.. ได้ทั้งตัว..นี่ผัวไง” ติณณ์ตอบกลับมาแล้วหลุดยิ้มเหมือนรู้ทันในท่าทางของฉัน แล้วคว้ามือฉันไปสัมผัส Six pack ของเขาช้าๆ ลากมันขึ้นลงลูบไล้ทุกสัดส่วนบนร่างกายเขาอยู่แบบนั้น จนฉันเลือกระบายความเขินที่มีด้วยการกดจูบลงบนผิวขาวเนียนของเขา ก่อนจะกดเม้มมันด้วยความเขินจากการสัมผัส Six Pack ที่ชวนเคลิบเคลิ้มนั่น แล้วอยู่ๆ ปฏิกิริยาในร่างกายของฉัน ก็ทำให้ฉันเร่งจังหวะการรุกเข้าไปหาเข้าขึ้นอีกแบบเป็นไปเอง และดูรีบร้อนมากขึ้นจนติณณ์เลื่อนมือมาลูบหัวฉันที่มุดหน้ากดจูบบนตัวเขาช้าๆ แล้วเขาก็หลุดครางออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มไปตามๆ กัน.. “อืมมม มิณ..” พรึ่บบบ! “ชู่ววว >////<” ยิ่งได้ฟังเสียงเขา อยู่ๆ ฉันก็ยิ่งรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมา เลยรีบเลื่อนมือไปปิดปากติณณ์ไว้ แล้วกดเม้มริมฝีปากทำรอยบนตัวเขาซ้ำๆ อยู่แบบนั้นอย่างไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไง >.< แต่ถึงแม้เสียงติณณ์จะเงียบไป เขาก็เลือกจะระบายความรู้สึกพวกนั้นผ่านลมหายใจเข้าออกถี่ๆ จนฉันแทบทนไม่ไหวอยู่ดี “งื้อ~ อาบน้ำกันมั้ย? ...ในฐานะเมียก็ได้ >/////<” สุดท้ายฉันก็เป็นฝ่ายหลุดออกไปอย่างลืมอายแล้วมุดหน้าลงที่ซอกคอของติณณ์แบบแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แล้วเขาก็หลุดคำในลำคอออกมา ก่อนจะลุกพรวดยกตัวฉันขึ้นจากโซฟาด้วยอ้อมแขนที่แข็งแกร่งนั่นทันที “หึ.. มากกว่าอาบน้ำก็ได้” พูดจบติณณ์ก็ช้อนร่างฉันเดินเข้าห้องน้ำอย่างรีบร้อนทันที ส่วนฉันตอนนี้.. นี่ใครมันชนะกันแน่ฟะ กรี๊ดดดดด >/////<หลังจากประทับตราเสร็จ ติณณ์ก็ให้ฉันเข้ามารอเขาในห้องๆ หนึ่ง ก่อนจะเดินแยกไปทำธุระแล้วตามเข้ามาทีหลัง พอติณณ์เดินมาทิ้งตัวลงทั้งข้างฉันปุ๊บ ฉันเลยถามถึงเรื่องวันนี้ออกไปอย่างสงสัยทันที“ถามได้มั้ย? ติณณ์รู้ได้ยังไงว่าสภากฎ....”“ท่านปู่บอก”ฉันยังพูดไม่ทันจบติณณ์ก็ตอบกลับมาอย่างรู้ทัน คำถามนี้ฉันว่าใครๆ ก็สงสัยอ่ะ เพราะดูเหมือนเขาจะมารู้เรื่องนี้ทีหลังเหมือนกัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่เสียเวลาทะเลาะกับคิระตั้งนานหรอก จริงมั้ย…“แล้ว..ท่านปู่ได้บอกมั้ยว่าเรื่องมันเป็นมายังไง”ฉันทำหน้าสงสัยออกไปเพราะลึกๆ ก็อยากรู้... มันจะด้วยเหตุผลอะไรกันนะ ถึงทำให้สภากฎที่ดูจะน่าเคารพนับถือทำเรื่องแบบนี้ได้ ไม่ Make sense เอาซะเลยแฮะ แล้วติณณ์ก็พยักหน้าและเริ่มเล่าเรื่องที่ได้รับฟังจากท่านปู่ออกมา“แม่ติณณ์ไปรู้มา..ว่าสภากฎจะยึดอำนาจ Dark Shadow เลยจำเป็นต้องกำจัดทายาททุกคนเพื่อให้ไม่มี Leader อีกต่อไป ซึ่งตอนนั้นว่าที่ Leader และ Leader’s Wife คือพ่อแม่ติณณ์และลุงกับป้า ...หรือพ่อแม่คิระ”พรึ่บบบ!พูดจบติณณ์ก็เอื้อมแขนมาคว้าเอวฉันอุ้มขึ้นไปนั่งตักเขาเบาๆ แล้วมุดหน้าของเขาลงมาใช้คางเกยไหล่ฉันเอาไว้“ท่
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!“.....”เสียงปืนดังสนั่นอยู่นานกว่าจะหยุด ฉันเลยใช้จังหวะนี้คว้ามือเลโอออก ก่อนจะหันไปเห็นโศกนาฏกรรมที่ทั้งติณณ์และคิระที่น่าจะเพิ่งเข้าใจอะไร กราดกระสุนรัวใส่ตัวแทนสภาฯ จนไม่หลงเหลือลมหายใจ แถมเลือดสีแดงฉานยังเปื้อนไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น แล้วเลโอก็รีบยื่นมือมาจะปิดตาฉันอีกแต่ยังคว้ามือเขาเอาไว้ และพูดออกไปเสียงเรียบหมับ!“นั่นติณณ์นะเลย์…”ฉันพูดออกไปพร้อมกับจ้องเข้าไปในตาของเลโออย่างต้องการให้เขาเข้าใจ คือภาพตรงหน้ามันน่ากลัวน่ะใช่ แต่นั่นติณณ์ไง! จะให้ฟังแต่เสียงโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไงก็ใช่เรื่อง!พอฉันพูดจบเลโอก็พยักหน้าแล้วยอมเอามือออกทั้งที่ยังส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ แถมยังไม่ยอมถอยออกห่างจากฉันแม้แต่ก้าวเดียวแล้วอยู่ๆ Member กว่าครึ่งหอประชุมที่ไม่เห็นด้วยกับการพิพากษาที่ดูจะป่าเถื่อนแบบนั้น ก็ถึงกับวิ่งวุ่นลงมาและคว้าปืนขึ้นมาจ่อไปที่ติณณ์และคิระแบบไม่เกรงกลัวอะไร เท่าที่ดูคนพวกนั้นน่าจะเคารพในอำนาจของสภาฯ กันมากมายแบบที่ยอมตายแทนได้เลยด้วยซ้ำ“ไอ้พวกสวะ!”เสียงผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวขึ้นเหมือนตั้งตัวเป็นอร
@ DARK SHADOW CASTLE (JAPAN)ผลัวะ!เสียงฝ่ามือของรันเวย์กระทบเข้าที่หัวของติณณ์อย่างแรงพร้อมกับสีหน้าหงุดหงิดหลังจากที่รู้ข่าวว่าฉันท้อง ตามมาด้วยเสียงบ่นอุบอิบอย่างเอาแต่ใจจน Nightshade คนอื่นๆ ถึงกับส่ายหน้าให้กับความพาลหาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่วของพ่อลูกอ่อนขี้เหวี่ยงตรงหน้าฉัน“ไวนัก! ไม่ต้องเสือกคลอดก่อนล่ะ”พูดจบรันเวย์ก็ถลึงตาใส่ติณณ์ คือต้องใช้คำนี้จริงๆ อ่ะ เขาถลึงตาแบบจริงจังมาก! เดี๋ยวนี้หมอนี่อาการหนักน่าดู คือกลัวขั้นสุด กลัวว่าลูกตัวเองจะเป็นน้อง ซึ่งมันตลกชะมัด!“หึ..ก็ไม่แน่”แล้วติณณ์ก็ตอบกลับไปแบบกวนๆ จนรันเวย์ยิ่งหงุดหงิดหนัก เดินไปตบหัวบรรดาพ่อลูกอ่อน Nightshade ทั้งหมดแบบเรียงตัวอีกทีอย่างหมั่นเขี้ยวผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!“ไอ้พวกเวร!”เขาบ่นอุบอิบออกมาแบบพาลๆ แล้วเดินกลับมานั่งหน้าบูดต่อจนเจด้าถึงกับออกอาการเอือมๆแต่ก็แอบขำในท่าทางนั้น แล้วติณณ์ก็ยังไม่วาย..พูดออกมาแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกครั้ง แถมยังลอยหน้าลอยตาใส่รันเวย์อย่างอารมณ์ดีว่าใครในตอนนี้“เห็นแก่เพื่อนเหอะ ให้ลูกกูเป็นพี่”พอติณณ์พูดจบเท่านั้นแหละ รันเวย์ก็ชี้หน้าติณณ์กลับมาแบบเกรี้ยวกราดมาก แล้วโพล่งออกม
“อีกทีได้นะติณณ์..แต่มิณท้องเพิ่มไม่ได้แล้ว :)"พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทำหน้าอึ้งออกมาแบบเห็นได้ชัด แล้วถอดท่อนเอ็นของเขาออกจากร่างกายของฉันแบบรีบร้อนและตกใจ“พูดใหม่มิณ.. พูดอีกที”ติณณ์จ้องหน้าฉันและพูดซ้ำๆ อย่างคาดหวังในคำตอบ แม้เขาจะดูตกใจมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูตื่นเต้นมากจนฉันหลุดยิ้มให้กับท่าทางนั้น และชี้นิ้วไปที่ติณณ์ช้าๆ“...นี่พ่อ”ก่อนจะย้อนกลับมาชี้ตัวฉัน…“...นี่แม่”และจบลงด้วยการชี้ไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองที่ด้านในมีบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้น โดยที่ฉันเองก็เพิ่งจะรู้ตัว ซึ่งเขาก็มองมาอย่างตั้งใจฟัง“นี่ลูก”“หึ...”พรึ่บบบ!พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทิ้งตัวลงมาอย่างรวดเร็วและกอดฉันไว้แน่นมาก แถมยังมุดหน้าหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างดีใจ จนฉันอดแซวทั้งที่ยังขำกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้ >__มัวแต่ดีใจ คิ
พรึ่บบบ พลั่กกก “อื้อออ~”ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องน้ำ ติณณ์ก็วางร่างฉันลงแล้วดันตัวฉันให้ถอยไปติดกับผนังห้องน้ำอย่างรีบร้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัว และประกบริมฝีปากของเขาลงมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงผ่านม่านน้ำจากฝักบัวตรงหน้าติณณ์แทรกลิ้นของเขาเข้ามาไล่ต้อนลิ้นฉันอย่างช่ำชอง พร้อมกับกระชากเสื้อผ้าของฉันจนขาดวิ่นหลุดติดมือ แล้วโยนมันออกไปแบบสนใจทิศทางใดๆ สักพักเขาก็ผละจูบออกแล้วโน้มตัวลงมาทิ้งรอยมากมายบนตัวฉันในพริบตา“อื้อออ อ๊ะ!”ฉันร้องครางออกไปอย่างเสียวซ่านกับสัมผัสที่ติณณ์มอบให้ และเลื่อนมือไปขยำกลุ่มผมของติณณ์เอาไว้อย่างระบายอารมณ์ พร้อมกับเงยหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ…แล้วติณณ์ก็เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากอบกุมหน้าอกของฉันเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ บีบเคล้นมันเบาๆ จนแรงขึ้น..แรงขึ้นตามลำดับ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายฉัน จนฉันเคลิบเคลิ้มล่องลอยตามรสสัมผัสของเขาไปอย่างกู่ไม่กลับ“อย่าอ่อยบ่อยได้มั้ย…”ติณณ์พูดออกมาเบาๆ พร้อมกับหายใจถี่ขึ้นตามระดับความรุนแรงของการกระทำ และเลื่อนมือไปปลดกระดุมกางเกงตัวเองอย่างรีบร้อน แต่ฉันกลับปัดมือเขาออกแล้วเป็นฝ่ายปล
::: TECHO :::หลังจากเสร็จภารกิจทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รวมถึงผมกับมิณที่กำลังขับรถกลับคอนโด ส่วนเรื่องคำพิพากษาไอ้คิระกับคำอธิบายเรื่องข้อตกลงของ Emergency Privilege ทั้งของผมและมิณ จะมีการเรียกประชุม Member ทั้งหมดที่ Dark Shadow Castle (JAPAN) ในอีกสองวัน ซึ่งก็จะตรงกับวันสถาปนาพอดี และ Nightshade ที่มีเอี่ยวด้วยวันนี้จะต้องไปฟังคำพิพากษาร่วมกันทั้งหมด“ยิ้มไรคนเดียว”พอหันไปเห็นใบหน้าเล็กกำลังนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีและดูจะแฮปปี้เกินเรื่องไปหน่อยทั้งที่วันนี้เจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดนั้น ผมเลยถามออกไปแบบงงๆ ในท่าทางที่แปลกไป แล้วมิณก็ตอบกลับมา“เปล่าหนิ”ใบหน้าเล็กทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ดูจะปกปิดรอยยิ้มในแววตานั่นไม่มิด หน้าผมมีไรติดหรอวะ -.-? หรือมิณไปกินไรผิดมาตั้งแต่ที่เกาะละ วันนี้เมียแลอารมณ์ดีจัด“มีไรบอกมา”ผมส่งเสียงเข้มออกไป แล้วเอามือไปยีหัวมิณซ้ำๆ อยู่หลายที หึ..เกือบจะไม่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วมั้ยกู มีเมียเก่งแม่งโคตรน่าภูมิใจ เปิดใช้คำขอทีเล่นเอาตัวแทนสภากฎเหวอไปเลย บอกตามตรงใจผมตอนนั้นแม่งกระตุกวูบ เวลามิณทำอะไรแม่งเหนือความคาดหมายของผมตลอด แล้วมิณก