Share

บทที่ 3

เสียงสัญญาณบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้นทำให้เด็กชายวัยทโมนทั้งหลายกรูกันออกจากห้องเรียน

“พวกเธอจะทำตัวให้ดีกว่านี้ไม่ได้หรือยังไง โต ๆ กันแล้วยังทำตัวเป็นลิงเป็นค่าง” เสียงบ่นของอาจารย์ปรีดาดูเหมือนว่าจะได้ผลทว่าก็แค่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม

พอเขาหันหลังกลับเด็กนักเรียนชายพวกนี้ก็รีบวิ่งแข่งกันลงบันได ไม่ใช่ว่าครูวัยสามสิบกว่าคนนี้จะไม่รู้เพียงแต่เขามีเรื่องด่วนมากกว่านั่นเองต่างหาก สองเท้าจึงมุ่งไปยังห้องของนักเรียนที่จัดว่าบ๊วยที่สุดของระดับชั้น

“เด็กชายไท่หยุน หยุดก่อน” เท้าของเจ้าของชื่อหยุดลงทันทีทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวพยายามทำตัวลีบเล็กอีกทั้งยังก้มหน้าก้มตามองแต่พื้นไม้ของอาคาร

“ครับ” เขาจำต้องขานรับด้วยสีหน้าเหยเก

“ฉันไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร ทำหน้าให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ครูสูงวัยกว่าอดที่จะกล่าวตำหนิไม่ได้พูดพลางจับขาแว่นของตนยกขึ้น

“หน้าผมก็ปกตินะครับ แหะ ๆ” เขาเอ่ยพลางหัวเราะแห้ง

“ช่างแก้ตัวเก่งเสียจริง เธอตามครูมาก่อน” ครูปรีดาคร้านจะใส่ใจเด็กชายจอมกะล่อนเอ่ยเสียงเรียบ

ห้องพยาบาล ป้ายไม้หน้าห้องทำให้ใช้หรือไท่หยุนมองแผ่นหลังของครูด้วยความงุนงง

“ครูครับ ผมสบายดี” คำพูดของเขาหาได้หยุดฝีเท้าของครูผู้เดินนำหน้าแต่อย่างใด

“ที่ครูพาเธอมาเป็นเรื่องของเด็กคนนั้นต่างหาก” ครูหนุ่มพยักปลายคางไปทางเด็กหญิงผู้มีใบหน้ากลมที่กำลังส่งยิ้มมาทางตน

“ป๊า!”

สองหนุ่มต่างวัยพากันหันซ้ายแลขวาด้วยความสงสัยว่าเจ้าตัวเล็กเรียกใคร

“หนูน้อยป๊าของหนูอยู่ไหนลูก” ครูปรีดาถามอย่างเอ็นดูเมื่อเขาไม่พบบุคคลอื่น

สีหน้าของหลินก็หม่นลง เฮ้อ! ฉันควรทำยังไงดี เจ้าตัวคิดโดยที่ไม่รู้เลยว่าอารมณ์เศร้าของตนนั้นทำให้น้ำตาเม็ดโตร่วงสู่ตักของตัวเองราวทำนบแตก

“เอ๊ะ! ครูปรีคะ เกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวเล็กร้องไห้ทำไม” ครูผกาผู้เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยความตกใจพลางรีบสาวเท้าไปปลอบเด็กหญิงที่กำลังกอดเข่าซุกตัวเองเอาไว้แน่น

แม้ว่าเนื้อแท้ของหลินจะเป็นผู้ใหญ่ทว่าพอมาอยู่ในร่างของเด็กห้าขวบกับสถานที่อันแปลกประหลาดแห่งนี้ที่มองไปทางไหนก็ไม่รู้จักใครคนอื่น

อีกทั้งผู้ให้กำเนิดก็ยังเป็นเพียงเด็กชายอายุสิบสี่ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอ่อนแอ หวาดกลัว ความรู้สึกมากมายถาโถมปนเป ราวกับน้ำหลากจนทำให้เธอไม่อาจทนรับได้

เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น จนทำให้คนทั้งสามเกิดความรู้สึกเวทนาระคนสงสาร

“ครูครับ ผมพาเธอกลับบ้านไปด้วยได้ไหมให้เธอมาเป็นน้องสาวของผมก็ได้” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้ใช้กล่าวออกไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ครอบครัวของเขาเองก็ลำบากไม่น้อย

“เรื่องนี้เธอตัดสินใจเองไม่ได้หรอก จะต้องถามกับผู้ปกครองของเธอดูก่อน” ครูปรีดาพูดพลางถอนหายใจ

“ฉันจะเลี้ยงอาหนูน้อยคนนั้นเองจ้ะครู” น้ำเสียงฟังไม่ชัดนักของคนพูดทำให้ทุกคนหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน

“ม๊า!/ม่า!” เสียงร้องไห้ของเด็กหญิงหยุดลงพร้อมกับตะโกนเรียกผู้หญิงวัยสามสิบเศษพร้อมกันกับบิดาของตน

“เอ๋!” คำเรียกขานของเด็กหญิงนำพาความฉงนมาให้กับครูทั้งสองรวมถึงหนึ่งเด็กชายที่กำลังเกาศีรษะมองใบหน้าของแม่สลับกับใบหน้าเล็กจ้อยบนเตียง

“ม๊า รู้จักเด็กคนนี้เหรอ” เคี้ยงมองบุตรชายคนรองก่อนจะสาวเท้าเดินมาตรงหน้าของเด็กหญิงพร้อมรอยยิ้ม

“ลำบากลื้อแล้วนะอาหมวยของม่า” หล่อนพูดพร้อมกับดึงร่างเล็กที่ผกาได้ปล่อยมือที่กำลังโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ออกเข้ามากอดด้วยความรักพร้อมกันนั้นมือของเธอก็ลูบหัวเล็ก ๆ ของเด็กหญิงอย่างปลอบประโลม

แม้ว่าหลินจะยังคงรู้สึกมึนงงอยู่บ้างกระนั้นด้วยความที่เป็นสายเลือดเดียวกันมือเล็กก็กระชับอ้อมกอดร่างผอมบางของย่าที่ตนเคยเห็นใบหน้านี้ผ่านกรอบรูปขาวดำเอาไว้แน่น

หลินจำได้ว่าพอหลังจากเธอเกิดออกมาได้จนกระทั่งอายุหกขวบม่าเคี้ยงก็ป่วยหนักในช่วงสุดท้ายหญิงชรายังได้ช่วยชีวิตเล็ก ๆ ของตนจากการโดนไฟดูดด้วยความซน

ก่อนที่อีกสองวันต่อมาย่าจะขาดใจตายต่อหน้าของเธอ นี่คือคำบอกเล่าจากมารดาเพราะเธอจำช่วงเวลานั้นไม่ได้

“เอ่อ...ขอโทษเถอะครับ เรื่องนี้มันมีความเป็นมายังไงกันแน่” เสียงของครูปรีดาดังขึ้นขัดความซาบซึ้งระหว่างย่ากับหลาน

เคี้ยงจึงผละออกจากร่างกายนุ่มนิ่มของหลานสาวตัวน้อยผู้ซึ่งที่หล่อนเพิ่งรู้ความเป็นมาผ่านความฝันจากพี่สาวสายเลือดด้วยกันเมื่อคืนก่อน ในตอนนั้นหล่อนยังไม่เชื่อจนกระทั่งมีเด็กนักเรียนไปตามเธอมาที่นี่นั่นแหละ

และในระหว่างทางที่มาโรงเรียนหล่อนก็คิดหาเหตุผลอันน่าเชื่อถือเพื่อจะทำให้ทุกคนเห็นพ้องกับตน

“ฉันกำลังจะไปรับเธอจากจดหมายที่แจ้งมาจากน้องสาวเครือญาติกันจ้ะครู ทว่าฉันไปช้าก็เลยไม่เจอกับหลานพอรู้ข่าวจากนักเรียนที่ครูให้ไปบอกที่บ้านฉันก็รีบมาโรงเรียนนี่แหละ” หญิงสาวผู้มาจากแผ่นดินใหญ่กล่าวเนิบช้าแม้สำเนียงของเธอจะแปร่งไปบ้างกระนั้นคนในห้องก็ยังฟังพอเข้าใจ

“อ๋อ! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าแม่หนูคนนี้คือหลานของแม่นายใช้ ว่าแต่ทำไม” ครูปรีดาปรายตามองเด็กชายร่างผอมผิวขาวใบหน้าค่อนข้างตี๋อย่างกังขา

“ผมไม่เคยเห็นเธอ” ใช้โบกมือพลางเอ่ยปฏิเสธพัลวัน

เคี้ยงจึงต้องปั้นเรื่องออกมาอีกคำรบ “อาตี๋น้อย ไม่เคยเห็นจริงจ้ะครู” คำพูดของคนเป็นแม่ยืนยันได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ครูในห้องพากันยินดีที่เด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าตามที่คิด

เมื่อเรื่องราวที่มาที่ไปของเด็กหญิงได้รับความกระจ่างดังนั้นหลังจากออกจากโรงเรียนครูปรีดาก็ขี่จักรยานไปยังโรงพักเพื่อแจ้งเรื่องของเด็กหญิงก่อนจะมุ่งตรงกลับบ้านของตน

ส่วนหลินในตอนนี้ก็ถูกมือใหญ่ของย่าจับจูงอย่างทะนุถนอมตั้งแต่เดินออกจากโรงเรียน

ดวงตาของหลินมองสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจ ‘โรงเรียนแห่งนี้ไม่นับว่าเล็กแต่น่าเสียดายที่อีกไม่กี่ปีต่อมาต้องปิดตัว’ เด็กหญิงคิดขึ้นในใจโดยที่มือเล็กของเธอนั้นยังอยู่ในอุ้งมือใหญ่ของคนเป็นย่าที่ดูยังไงก็ยังไม่แก่

ในขณะเดินผ่านร้านของชำห่างจากโรงเรียนมาไม่มากด้วยความที่เคี้ยงเอ็นดูหลานสาวผู้มาไกลจากคำบอกเล่าของพี่สาวถึงต้นสายปลายเหตุที่เด็กคนนี้ต้องมาอยู่ตรงนี้

“อาหมวย ลื้ออยากกินขนมไหมม่าจะซื้อให้” คนเป็นแม่ยังพูดไม่ทันจบประโยคเจ้าตัวก็ถูกเสียงของบุตรชายคนเล็กแทรกขึ้นทันควัน

“ม๊า มีเงิน” เพี๊ยะ! “โอ้ย! ม๊าตีอั๊วทำไม อั๊วพูดเรื่องจริงนี่ขนาดอั๊วยังได้มาโรงเรียนแค่สลึงเดียวเอง” เด็กชายยกมือกุมต้นแขนที่ถูกฝ่ามือของมารดาฟาด

“ลื้ออย่ามาสำออย อั๊วตีเบา ๆ เองร้องอย่างกับหมูถูกเชือด วันนี้อั๊วได้ยินมาว่าลื้อโดดเรียนแต่อาครูปรีไปตามเจอใช่ไหม ลื้อบอกมาตามตรงนะอาตี๋”

ใช้กำลังอ้าปากจะเถียงทว่าเจ้าตัวกลับหุบปากฉับเพราะหากว่าโกหกม๊าผลที่ได้รับย่อมไม่มีดีอีกทั้งยังจะเจ็บตัวเพิ่ม

“ม๊า หากอั๊วโดนเรียนจะกลับบ้านพร้อมลื้อได้ยังไงจริงไหม หากม๊าไม่เชื่อก็ถามเจ้าตัวเล็กนี่ดูสิ” ปลายคางของเด็กชายพยักพเยิดมาทางเด็กหญิงผู้มีดวงตากลมผิดจากบิดาผู้ให้กำเนิด

“หนูไม่อยากโกหกแต่ถ้าหนูไม่เจอป๊า ครูปรีดาก็คงตามป๊าไม่ทันแล้ว” คำพูดของคนตัวเล็กทำให้เคี้ยงหันขวับมามองบุตรชายทันที

“เฮ้ย! เจ้าตัวเล็กเป็นเด็กเป็นเล็กลื้อกล้าโกหกได้ยังไง อีกอย่างอั๊วเพิ่งสิบสี่ยังไม่มีลูก” เด็กชายรู้สึกโมโหจึงได้ขึ้นเสียงใส่เด็กน้อย

หลินเบะปากน้ำตาคลอหน่วย “ฮือ ๆ ม่า ป๊าไม่รักหนู” เจ้าตัวเอ่ยตัดพ้อ

ร่างนี้อะไรหนักหนาวะ อะไรก็เอาแต่ร้องไห้ สมองทำจากน้ำหรือยังไง ภายในใจของหลินโอดครวญด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้เป็นเพราะเธอจำได้ว่าร้องไห้ครั้งสุดท้ายนั้นคือตอนแม่ตาย “โอ๋ อาหมวยลื้อไม่ต้องร้องนะ ป๊าไม่ได้ความแบบนี้ลื้อไม่ต้องไปให้ค่าหรอก” คำพูดของมารดาทำให้ใช้เบ้หน้า

“ม๊าก็เป็นไปกับเจ้าตัวเล็กนี่ด้วย ว่าแต่เด็กคนนี้เป็นญาติทางไหนของเรากัน ไม่ใช่ม๊าบอกว่าตัวเองไม่มีญาติที่อื่นไม่ใช่เหรอ” จบคำพูดของเด็กชายเจ้าตัวก็โดนเท้าเล็ก ๆ ที่ใส่รองเท้าผ้าใบกระทืบลงมาบนรองเท้านักเรียนเต็มรัก

“ป๊าพูดไม่เพราะ พูดกับม่าต้องลงท้ายด้วยครับสิ” คนตัวเล็กอมลมจนแก้มป่องเอ่ยอย่างไม่พอใจ

“เจ้าเด็กแสบ แล้วทีลื้อล่ะเรียกอั๊วว่าป๊าแต่ทำกับอั๊วแบบนี้มันถูกเหรอ” เด็กชายชี้นิ้วกล่าวเสียงดัง

“เหอะ! หากแกเป็นพ่อคนก็คงไม่ได้เรื่อง อาหมวยลื้อทำดีแล้วพ่อไม่ได้เรื่องจำต้องสั่งสอน” เมื่อแม่ของเจ้าตัวให้ท้าย

ใช้จึงได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองแผ่นหลังของเด็กหญิงที่กำลังหันกลับมาแลบลิ้นปลิ้นตาให้กับตัวเอง

ถนนหนทางในยุคนี้ไม่ได้ดีเหมือนกับยุคสมัยหลัง อีกทั้งรถราก็ยังมีไม่มากผู้คนจึงสัญจรด้วยการเดินเท้าเป็นส่วนใหญ่

หลินรู้สึกปวดเท้าของตนเป็นอย่างยิ่งกระนั้นเจ้าตัวก็ยังคงอดทนเนื่องจากครั้งสุดท้ายที่เธอจำได้ว่าเดินไกลมากขนาดนี้เป็นตอนสมัยมัธยมต้น

“ม่าคะ” เด็กหญิงอยากรู้ว่าเหตุใดหญิงสาวคนนี้ถึงรู้สึกสนิทสนมกับตนเป็นอย่างมากต่อให้เธอเป็นหลานตามสายเลือดก็ตามกระนั้นสำหรับในตอนนี้มันก็ยังคงดูแปลกอยู่ดี

หรือว่าม่าจะย้อนเวลามาเหมือนเรา

“ว่ายังไงอาหมวย” เสียงแปร่งหูเอ่ยสำเนียงไม่ชัดขัดความคิดเหลวไหลของหลิน

“ทำไมม่าถึง...” เจ้าตัวเว้นคำพูด

“ทำไมถึงบอกกับครูออกไปอย่างนั้นนะเหรอ” เคี้ยงต่อให้

คนตัวเล็กกว่าพยักหน้ายอมรับ “เฮ้อ! ลิขิตฟ้าลื้อไม่ต้องรู้หรอก ลื้อรู้แค่ว่าอั๊วเป็นม่าของลื้อก็พอ เราย่าหลานหากร่วมมือกันสิ่งที่ลื้อมุ่งหวังเอาไว้ย่อมสำเร็จ”

ดวงตาของหลินเบิกกว้างมองใบหน้าของหญิงสาวผู้สูงวัยกว่าตนเพื่อค้นหาร่องรอยบางอย่าง แต่อนิจจังเธอรู้ดีว่าอาม่าไม่ได้ย้อนเวลามาเฉกเช่นตนเอง

เอาเถอะ เรื่องบางอย่างก็ไม่ต้องไปคิดหาเหตุผลให้มากก็ดีเหมือนกัน เจ้าตัวคิด
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 180

    ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ อู๋หนิงที่ตอนนี้ได้มีกิจการร้านหม้อไฟใหญ่โตในปักกิ่งก็ก้าวเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของหลินไว้ด้วยความรู้สึกตื้นตันอย่างประหลาด น้ำตาไหลรินอาบแก้ม "แม่หนู...ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง" ก่อนที่ทุกคนจะหายจากความสับสน เสี่ยวหนิวก็เป็นฝ่ายอธิบาย "คุณย

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 179

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย... จากทารกน้อยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนยิ้มแต้ในเปล บัดนี้ "อาหมวยน้อยหลิน" เติบโตขึ้นเป็นเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ฉลาดและน่ารักเกินวัย เธอกำลังจะเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเด็กหญิงได้เห็นกิจการของครอบครัวเ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 178

    เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี...ชีวิตของทุกคนในครอบครัวตงและครอบครัวสาขาต่าง ๆ ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยความสุข กิจการร้านหมูกระทะขยายสาขาไปอีกหลายแห่งภายใต้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบตามที่อาทิตย์จัดการ ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของทุกคนยิ่งมั่นคง และแล้วข่าวดีที่ทุกคนรอคอยก็มาเยือนครอบ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 177

    โอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาได้มาเคาะประตูอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว หลังจากได้ปรึกษาหารือกันในครอบครัวอย่างละเอียด ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจจะปล่อยให้หลุดลอยไปได้ เคี้ยงจึงได้ตอบตกลงรับข้อเสนอของคุณสมชายผู้จัดการห้างซิตี้มอลล์ในที่สุด ไม่นานนักทีมงา

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 176

    เวลาผ่านไปอีกหกเดือน... หลินน้อยเติบโตขึ้นเป็นทารกที่จ้ำม่ำน่ารักน่าชัง ผิวขาวผ่องและมีดวงตากลมโตเป็นประกายสดใส เป็นที่รักและเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัวใหญ่ ทั้งอากงตงและอาม่าเคี้ยงที่ตอนนี้มีความสุขกับการได้เลี้ยงหลานคนแรกของลูกชายคนเล็กอย่างเต็มที่ รวมถึงลุงชัยและป้าจำปีที่มักจะพ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 175

    ในสายตาของใครหลายคน ชัยอาจจะดูเป็นลูกชายคนโตที่ทอดทิ้งครอบครัวไปในยามที่ลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวของเขาก็เต็มไปด้วยความรัก ความผิดพลาด และการเรียนรู้ที่ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ย้อนกลับไปในวันที่ชัยอายุเพียงสิบแปดปี เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ร้อนรนด้วยความรักที่มีต่อ "จำปี" หญิงสาวที

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status