ในขณะที่หลินกำลังตกอยู่ในความเงียบพวกเขาก็เดินพ้นเขตชุมชนมาพอสมควร เส้นทางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทางเดินดินลูกรังเล็กแคบทอดลึกเข้าไปในเขตสวน สองข้างทางขนาบไปด้วยร่องน้ำมีใบไม้กิ่งไม้ลอยประปราย
ดวงตากลมของเด็กหญิงมองเห็นต้นมะนาวที่กำลังออกลูกดก และส้มโอต้นสูงใหญ่ให้ร่มเงาสลับกับแปลงผักกวางตุ้งเขียวชอุ่มที่เคี้ยงเพิ่งรดน้ำไปเมื่อเช้า กลิ่นดินชื้น ๆ และกลิ่นใบไม้เขียวสดลอยมาปะทะจมูก ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้างแม้เท้าจะยังคงเมื่อยล้า
"ม่าคะ อีกไกลไหม" หลินเงยหน้าถาม เสียงเล็ก ๆ ของเธอทำให้หญิงสูงวัยกว่าก้มลงมองหลานสาวด้วยแววตาเอ็นดู
"อีกนิดเดียวอาหมวย ทนหน่อยนะ" ม่าเคี้ยงตอบพลางกระชับมือเล็กให้แน่นขึ้น
ในขณะนั้นเอง เสียงหัวเราะเยาะและเสียงเอะอะโวยวายก็ดังแว่วมาจากทางโค้งข้างหน้า ไม่ใช่เสียงเล่นสนุกของเด็กทั่วไป แต่เป็นน้ำเสียงที่แฝงความประสงค์ร้าย
"ไอ้ปัญญาอ่อน! ฮ่า ๆ ๆ กล้าดียังไงมาเดินแถวนี้วะ" "แม่มึงไม่ห้ามเหรอไงไอ้ยุ่ง!" "ไปไกล ๆ เลยไป๊! เหม็นขี้หน้าโว้ย!"
หลินชะเง้อมองผ่านต้นไม้ เห็นเด็กชายร่างท้วมคนหนึ่งกำลังยืนตัวสั่นใบหน้าจ๋อยสนิทกำลังถูกเด็กวัยไล่เลี่ยกันสามสี่คนผลักอกและชี้หน้าล้อเลียนไม่หยุด เด็กชายคนนั้นดูคุ้นตา...แต่เธอดูเหมือนจะนึกไม่ออกจนกระทั่งความทรงจำบางส่วนได้ฉายเข้ามา
(นั่นจะใช่เจ๊กยุ่งไหมนะ ไอ้เรารึก็เห็นแต่ในภาพถ่ายขาวดำซะด้วยไม่เคยเห็นตัวจริงเพราะเท่าที่จำความได้ดูเหมือนว่าเขาจะจมน้ำตายตอนอายุยังไม่เยอะจากปากคำของป๊าในตอนนั้น...ที่เธอเพิ่งจะอายุแปดขวบ) เธอครุ่นคิด
หลินรู้ดีว่าถึงแม้เถ้าแก่จะไม่ค่อยชอบลูกชายคนนี้ แต่เจ้กิมลั้งผู้เป็นแม่ก็รักและสงสารคอยดูแลไม่ให้อดอยาก แม้พัฒนาการจะช้าไปบ้างแต่ยุ่งก็ไม่เคยทำร้ายใครตามคำบอกเล่าของป๊าที่ดูเหมือนว่าจะระลึกและชมชอบต่อคนผู้นี้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์
ยิ่งหลินครุ่นคิดหัวใจดวงน้อยของเธอพลันกระตุกวูบ ความสงสารและอยากปกป้องพุ่งขึ้นมาทันที เธอกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี จะตะโกนห้ามหรือจะวิ่งเข้าไปช่วย
แต่ยังไม่ทันที่หลินจะได้ขยับตัว ร่างผอมสูงของคนที่เดินเยื้องอยู่ด้านหลังของม่าซึ่งเงียบมาตลอดทางก็พุ่งพรวดไปข้างหน้าราวกับลูกธนู
"เฮ้ย!!" ใช้ตะโกนลั่น
ผลัวะ! ร่างเด็กหัวโจกคนหนึ่งในกลุ่มนั้นกระเด็นเซไปตามแรงผลักเต็มแรงของใช้ เด็กที่เหลืออีกสามคนหันขวับมาด้วยความตกใจระคนโมโห
"ไอ้ใช้! มึงเสือกอะไรด้วยวะ!" เด็กหัวโจกที่โดนผลักล้มลงไปตั้งหลักได้ก็ตะคอกกลับ
"พวกมึงนั่นแหละเสือกมายุ่งกับยุ่งทำไม! มันไปทำอะไรให้พวกมึง!" ใช้ตวาดกลับเสียงดังไม่แพ้กัน ดวงตาฉายแววกรุ่นโกรธ ยืนกางแขนปกป้องยุ่งที่รีบวิ่งมาหลบอยู่ด้านหลังทันทีที่เห็นเขา
ม่าเคี้ยงรีบเดินตามมาสมทบมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าเป็นห่วง ส่วนหลินที่ยืนอยู่ด้านข้างของม่ามองแผ่นหลังของพ่อตัวเองในวัยสิบสี่ที่กำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กเกเรเพื่อปกป้องเด็กพิเศษคนหนึ่ง... แม้จะรู้ว่าเขาคือพ่อไม่ได้เรื่องในอนาคต แต่ภาพตรงหน้านี้ก็ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวอย่างประหลาด
ไอ้เด็กหัวโจกที่โดนผลักล้มลงไปยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโหตวัดสายตาอาฆาตมองใช้ เตรียมจะปรี่เข้ามาจะเอาคืน
"มึงกล้าผลักกูเหรอ ไอ้ใช้!"
"พวกลื้อ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" น้ำเสียงฟังไม่ชัดของเคี้ยงตวาดกร้าว ก้าวเท้าเข้ามายืนขวางหน้าใช้กับยุ่งทันที น้ำเสียงเด็ดขาดของหญิงสูงวัยทำให้เด็กหัวโจกชะงักไปเล็กน้อยแต่มันไม่ได้กลัวกลับแสยะยิ้มอย่างดูแคลน
อ๋อ... มีแม่มาปกป้องเหรอ นึกว่าใครที่แท้ก็เจ๊กอพยพ!" มันหันไปพูดกับเพื่อนอีกสามคน "พวกไม่มีแผ่นดินอยู่ละสิ ถึงต้องซุกหัวอยู่กับคนอื่นเขา! มายุ่งไม่เข้าเรื่อง!"
คำพูดนั้นเหมือนน้ำมันราดลงบนกองไฟในใจหลิน ความเจ็บปวดระคนโกรธแค้นที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในร่างนี้พลุ่งพล่านขึ้นมาจนหน้าแดงก่ำ
ภาพความลำบากของครอบครัว ภาพม่าเคี้ยงที่ต้องทำงานหนัก ภาพอากงกับแปะที่ต้องเป็นจับกังแบกข้าว... ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพวกเขาเป็นคนจีนอพยพอย่างนั้นหรือ
เธอลืมสิ้นซึ่งความกลัว ลืมสิ้นซึ่งความเป็นเด็กห้าขวบในตอนนี้ สองเท้าเล็ก ๆ ออกวิ่งสุดแรง!
"บังอาจมาว่าม่าของฉันเหรอ!" หลินตะโกนก้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพุ่งตัวเข้าใส่เด็กหัวโจกที่กำลังหันมาหัวเราะเยาะม่าเคี้ยงอย่างไม่ทันระวังตัว
ตุ้บ! โครม!
ร่างเล็กปะทะเข้ากับสีข้างของเด็กชายเต็มเหนี่ยว ด้วยแรงส่งและความไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างที่ใหญ่กว่าของเด็กหัวโจกเสียหลักล้มหงายหลังลงไปกองกับพื้นดินในร่องสวนอีกครั้งอย่างแรงยิ่งกว่าเก่าท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนไม่ว่าจะเป็นใช้ ม่าเคี้ยง ยุ่ง หรือแม้แต่เพื่อน ๆ ของเด็กคนนั้นเอง
ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหญิงตัวเล็กจ้อยอายุเพียงห้าขวบ จะกล้าทำอะไรแบบนี้ หลินยืนหอบหายใจจ้องมองเด็กคนนั้นที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นเขม็ง ดวงตากลมโตฉายแววกร้าวไม่มีความหวาดกลัวหรือน้ำตาเหมือนก่อนหน้านี้
ไม่ยอม! เสียงในใจของเธอกรีดร้อง อนาคตของครอบครัวนี้จะต้องไม่เป็นแบบนี้! ที่ป๊าต้องกลายเป็นคนขี้เมาสิ้นหวัง ที่ครอบครัวเราต้องลำบากอาจเป็นเพราะความรู้สึกต่ำต้อยที่โดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้มาตลอดใช่ไหม
ขนาดเด็กพวกนี้ยังกล้าพูดจาดูถูกม่าได้ขนาดนี้ แล้วผู้ใหญ่คนอื่นที่ปากหวานแต่ในใจคิดร้ายจะมีอีกเท่าไหร่! ไม่! ฉันจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะแก้ไขทุกอย่าง! จะทำให้ครอบครัวของป๊ายืนอยู่บนแผ่นดินนี้ได้อย่างไม่มีใครกล้ามาดูถูก! ฉันจะเปลี่ยนมันให้ได้!
ความคิดนั้นตอกย้ำความตั้งใจของเธอให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม นี่ไม่ใช่แค่การกลับมาแก้ไขอดีตของพ่อแต่มันคือการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัวทั้งหมด
"เจ้าเปี๊ยก ลื้อทำดีมากเดี๋ยวอั๊วเลี้ยงหนม" ใช้พูดพลางปรบมือเสียงดังโดยไม่นำพาสายตาขุ่นเขียวของมารดาที่มองมาทางตน
"อาหลิน ลื้อเจ็บตรงไหนไหม มาให้ม่าดูหน่อย" เคี้ยงพูดกับหลานสาวเสียงอ่อนก่อนจะเอ่ยคาดโทษแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำ
"แต่ลื้อมีความผิดนะลูกที่ไปทำเขา" ประโยคต่อมาของม่าแม้ว่าหลินจะไม่อยากยอมรับแต่เมื่อเห็นว่าเด็กชายคนนั้นกำลังแบะปากร้องไห้จ้าเธอก็หน้าเจื่อนลง
"น้องสาว ...ใจนะ" ยุ่งยกมือลูบหัวของหลินโพล่งออกมาโดยไม่สนใจสถานการณ์ตรงหน้า เขารู้แค่ว่าเด็กตัวเล็กคนนี้เป็นคนกล้าหาญและเก่งมากเท่านั้นเอง