Share

บทที่ 5

หลินเงยหน้ามองยุ่งพร้อมฉีกยิ้มให้เด็กชายใจดีที่ดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเธอ ก่อนจะหันกลับไปมองทางม่า ซึ่งตอนนี้กำลังยื่นมือจะช่วยพยุงเด็กหัวโจกที่ยังนั่งแผละอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้น

แต่เจ้าเด็กนั่นกลับสะบัดมือที่ยื่นมาช่วยเหลือของเคี้ยง ออกอย่างแรง "ไม่ต้องมายุ่ง!" มันตวาดเสียงห้วนท่าทางไร้มารยาทและไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่นั่นทำให้ทั้งใช้และหลินเกิดความรู้สึกอยากจะปรี่เข้าไปสั่งสอนเด็กคนนั้นซ้ำให้เข็ดหลาบ

ใจเย็นไว้ยัยหลิน นั่น...มันเด็กนะ เราโตแล้ว) เธอสูดหายใจลึกพยายามข่มกลั้นอารมณ์เดือดในอกเอ่ยปลอบตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทว่า... ยังไม่ทันที่สถานการณ์จะคลี่คลายเสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของพวกเธอ ทำให้หลินและทุกคนต้องเหลียวกลับไปมอง

"เจ้าน้อย! ลูกแม่! เอ็งเป็นอะไรไป! ใครทำอะไรลูก!" หญิงวัยราวสามสิบต้น ๆ แต่งตัวดูดีกว่าชาวบ้านทั่วไปเล็กน้อยกำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามา

เด็กชายเจ้าของชื่อซึ่งก็คือเด็กหัวโจกที่โดนหลินพุ่งชน พอเห็นว่าเป็นแม่ของตนเท่านั้นก็รีบวิ่งโผเข้าหาอ้อมกอดทันที ปล่อยโฮเสียงดังยิ่งกว่าเก่าทำราวกับเจ็บปวดแสนสาหัส

"แม่จ๋า! ฮือๆๆ ไอ้ใช้! ไอ้ใช้มันผลักหนู! มันรังแกหนู! ฮือออ..." เจ้าเด็กขี้ฟ้องชี้มือมาทางใช้ ป้ายความผิดให้ทั้งหมด

หญิงคนนั้นกอดลูกชายพลางลูบหัวลูบหลังปลอบโยน ก่อนจะเงยหน้ามองมาทางกลุ่มของฝ่ายตรงข้าม ดวงตาของหล่อนขุ่นขวางจับจ้องไปที่ใช้ซึ่งยืนอยู่ใกล้ที่สุดอย่างเอาเรื่อง

"เป็นเอ็งอีกแล้วนะ... ไอ้ใช้!" หล่อนตวาดเสียงแหลมปรี๊ด ชี้หน้าใช้เต็มที่ "โตกว่าตั้งหลายปี ทำไมถึงได้มารังแกน้อง เอ็งก็รู้นี่ว่าลูกข้าเพิ่งจะอายุสิบขวบเอง หน้าตาเอ็งก็ดีไม่น่าเป็นอันธพาลเลย!"

ใช้ถึงกับอ้าปากค้าง ชี้้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อหู (อ้าวเฮ้ย! กลายเป็นอั๊วผิดไปได้ยังไงวะเนี่ย!) ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่แล่นริ้วขึ้นมาทันที

"อั๊วเนี่ยนะรังแกมัน! ป้าช่วยดูให้ดี ๆ ก่อนได้ไหม ลูกป้านั่นแหละที่มารังแกไอ้ยุ่งก่อน! แถมมันยังมาว่าม๊าอั๊วอีก!" เด็กหนุ่มเผลอขึ้นเสียงด้วยความเหลืออด ปกติเขาก็ไม่ใช่คนยอมคนง่าย ๆ อยู่แล้ว ยิ่งมาโดนกล่าวหาซึ่งหน้าแบบนี้ยิ่งทำให้เลือดขึ้นหน้า

"หนอย! แกยังจะมาเถียงอีกเหรอ! อีกอย่างข้าไม่ใช่ป้าเอ็ง ฉันอายุน้อยกว่าแม่เอ็งตั้งเยอะ" แม่ของน้อยตวาดกลับเสียงดังกว่าเดิมไม่สนใจฟังเหตุผลแม้แต่นิดเดียว "ฉันเห็นกับตาว่าลูกฉันร้องไห้ แถมยังโดนแกผลักจนล้ม! ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย พวกแกมันก็หัวโจกเหมือนกันนั่นแหละ!" หล่อนสรุปเอาเองเสร็จสรรพ

"ไม่ใช่นะจ๊ะ..." เคี้ยงรีบก้าวออกมาข้างหน้ายกมือไหว้หญิงตรงหน้าอย่างนอบน้อมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็นที่สุด แม้ในใจจะร้อนรุ่มไม่แพ้ลูกชาย

"คือว่า... พวกอาน้อยเขาล้อเลียนอายุ่งก่อนจ้ะ แล้วพออั๊วห้าม เขาก็..." ม่าเคี้ยงชะงักเล็กน้อยไม่อยากพูดคำดูถูกนั้นออกมาตรง ๆ "...เขาก็พูดจาไม่ดี อั๊วไม่ได้อยากให้มีเรื่องเลยจ้ะ" น้ำเสียงแปร่งหูของเคี้ยงพยายามสื่อสารให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม่ของน้อยตวัดสายตาขุ่นขวางมองเคี้ยงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูแคลน "หึ! แล้วจะทำไม! ลูกฉันจะพูดอะไรมันก็เรื่องของเขา แกเป็นแค่คนอาศัยแม้แต่บ้านก็ยังไม่มีอยู่ยังกล้าที่จะรังแกคนพื้นที่อีก" หล่อนเชิดหน้าพูดอย่างไม่เกรงใจ "ฉันจะบอกเถ้าแก่เม้งให้ไล่พวกแกออกไปอยู่ที่อื่นซะเลยดีไหม พวกเจ๊กอพยพทำตัววุ่นวาย!"

คำพูดร้ายกาจและเต็มไปด้วยอคติของแม่น้อยทำให้ใบหน้าของเคี้ยงซีดเผือดลงทันที สองมือกำแน่นจนสั่นแต่หล่อนก็ยังพยายามอดกลั้นเอาไว้เพราะรู้ดีว่าสถานะของครอบครัวตนเองเป็นรอง

ส่วนใช้พอได้ยินแม่ตัวเองโดนดูถูกซึ่ง ๆ หน้าแบบนั้นอีกครั้งความโกรธก็พุ่งขึ้นจนแทบจะระเบิดออก เขากำหมัดแน่นเตรียมจะโต้กลับอย่างไม่กลัวเกรง

ขณะที่หลินซึ่งยืนฟังอยู่ข้างย่า ดวงตาที่จ้องมองแม่ของน้อย บัดนี้ไม่ได้มีเพียงความโกรธอย่างเดียวเพราะมันได้ฉายแววเย็นเยียบออกมาด้วย

(คนแบบนี้นี่เองสินะ ที่ทำให้ครอบครัวเราต้องเจอเรื่อง แย่ ๆ ไม่ใช่แค่เด็ก แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ใจแคบและเต็มไปด้วยอคติไม่ต่างกัน) ในระหว่างที่หลินกำลังคิดว่าควรจะทำอย่างไรฉับพลันเสียงของใช้พลันดังขึ้น

"หุบปากนะ!" ใช้ตวาดลั่น ความอดทนสิ้นสุดลงแล้ว เขาไม่สนอีกต่อไปว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นแม่ของใคร การที่แม่ของตนถูกหยามซึ่งหน้าทำให้เด็กหนุ่มเลือดร้อนลืมสิ้นทุกสิ่ง เขาก้าวพรวดไปข้างหน้าเตรียมจะสั่งสอนผู้หญิงปากร้ายคนนั้นให้รู้สำนึก

"อาใช้! อย่า!" เคี้ยงร้องห้ามเสียงหลง รีบคว้าแขนลูกชายไว้แน่น เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามไรผม ถึงจะโกรธและเจ็บปวดแค่ไหนแต่หล่อนรู้ดีว่าการใช้กำลังกับผู้หญิงโดยเฉพาะกับคนที่เป็นเหมือนหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของเถ้าแก่ย่อมนำมาซึ่งปัญหาที่ใหญ่มากกว่าเดิมแน่

"ใจเย็น ๆ อาตี๋! อย่ามีเรื่องเลย! กลับบ้านเรา!"

แม่ของน้อยเห็นใช้ทำท่าจะเอาเรื่องก็มีท่าทีตกใจเล็กน้อย แต่พอเห็นเคี้ยงรั้งตัวลูกชายไว้ได้หล่อนก็กลับมาทำท่ากร่างเหมือนเดิมชี้นิ้วมาที่หน้าเคี้ยงอีกทั้งยังพูดเหน็บขึ้นมาอีก

"เห็นไหม ขนาดลูกยังเป็นอันธพาล แม่ก็คงไม่ต่างกัน! ดีแต่สร้างเรื่อง! พวกแกไสหัวไปให้พ้นทางเลยนะ อย่ามาเกะกะ!"

ในขณะที่ใช้กำลังยื้อยุดกับแม่ตัวเองซึ่งพยายามดึงให้เขากลับบ้าน และแม่ของน้อยก็ยังคงตวาดไม่หยุดนั้นเอง...

"คุณป้าคะ" เสียงเล็กใสแต่ชัดเจนของหลินดังขึ้นทำลายบรรยากาศตึงเครียดนั้นลงชั่วขณะ ทุกสายตาไม่เว้นแม้แต่ เพื่อน ๆ ของน้อยที่ยังยืนอึ้งอยู่หันมามองเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้างยุ่งอย่างพร้อมเพรียง

หลินเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ของน้อยอย่างตรงไปตรงมาดวงตากลมโตของเธอไม่มีแววหวาดกลัวมีแต่ความนิ่งสงบผิดกับเด็กวัยเดียวกัน ผมสั้น ๆ ของเธอดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการพุ่งชนผู้ที่เข้ามาหาเรื่องเมื่อครู่

"คุณป้าบอกว่าพี่น้อยอายุสิบขวบ..." หลินเริ่มพูดเสียงเล็กใสแต่ชัดถ้อยชัดคำ "แล้วเพื่อน ๆ พี่น้อยอีกสามคนก็คงอายุพอ ๆ กันใช่ไหมคะ"

แม่ของน้อยขมวดคิ้วมองเด็กหญิงอย่างแปลกใจระคนรำคาญ ไม่เข้าใจว่าเด็กนี่จะพูดอะไรแต่ก็ยังไม่ได้พูดขัด

หลินพูดต่อดวงตายังคงจ้องมองอย่างไม่หลบเลี่ยง "แต่เจ็ก อะ..แฮ่มพี่ยุ่งคนที่พวกพี่น้อยรุมล้อเมื่อกี้นี้เขาอยู่คนเดียวนะคะ หนูเห็นกับตาว่าเขาไม่ได้ทำอะไรให้ใครก่อนเลย"

เธอกวาดตามองไปยังเด็กชายอีกสามคนที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังแม่ของน้อย "เด็กตั้งสี่คนมารุมล้อเลียน รุมผลักคนที่อยู่คนเดียว หนูว่า... แบบนี้มันไม่ค่อยยุติธรรมเลยค่ะ"

น้ำเสียงของหลินเรียบง่ายแต่คำพูดนั้นกลับทำให้บรรยากาศรอบข้างเงียบลงไปอีก แม่ของน้อยเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้น

"แล้วเมื่อกี้..." หลินหันกลับมาสบตาแม่ของน้อยอีกครั้ง "ตอนที่พี่น้อยล้ม ม่าของหนูกำลังจะเข้าไปช่วยแท้ ๆ แต่พี่น้อยกลับปัดมือของม่าออกอีกทั้งยังเอ่ยออกมาแบบไม่ให้ความเคารพ แล้วตัวคุณป้าเองก็ยังมาว่าม่าของหนูเสีย ๆ หาย ๆ อีก" เธอเอียงคอเล็กน้อยทำหน้าเหมือนสงสัยเต็มประดา

"หนูอยากรู้ว่าแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าอันธพาลหรอกหรือคะ คนมากรังแกคนน้อยอีกทั้งยังไร้ซึ่งทางสู้"

คำถามที่เหมือนจะซื่อแต่แท้จริงแฝงไปด้วยตรรกะและความถูกต้องตรงไปตรงมานั้นทำให้แม่ของน้อยถึงกับสะอึกไปชั่วขณะ

หล่อนอ้าปากเหมือนจะเถียงแต่กลับไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมา ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและความอับอายระคนกัน ไม่คิดว่าจะโดนเด็กตัวแค่นี้พูดยอกย้อนจนจุกอกได้

ส่วนใช้และเคี้ยงมองหลินด้วยความทึ่งปนประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าเด็กน้อยที่เพิ่งเจอกันและดูเหมือนขี้แยจะพูดจาฉะฉานและมีเหตุผลได้ขนาดนี้

มีเพียงยุ่งเท่านั้นที่ยังคงมองหลินตาแป๋ว ไม่ได้เข้าใจความหมายลึกซึ้งทั้งหมดแต่สัมผัสได้ว่าเด็กหญิงกำลังปกป้องพวกเขาอยู่

เมื่อสายแม่ของน้อยเห็นว่าตัวเองไม่สามารถโต้แย้งเด็กคนนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงได้คว้าแขนบุตรชายของตนแล้วรีบก้าวเท้าเดินฉับ ๆ จากไปอย่างรวดเร็ว

"ไอ้เปี๊ยก ลื้อเจ๋งสุด ๆ ไปเลย ไป ๆ เดี๋ยวอั๊วพาไปกินหวานเย็น" ใช้ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวรีบดึงข้อมือของเด็กหญิงไปกับตัวเองทันทีโดยมียุ่งวิ่งตามติดมาด้วยท่ามกลางสายตาเคี้ยงที่ยังคงยืนมองอยู่ที่เดิมด้วยสายตาครุ่นคิดระคนซับซ้อนจากคำดูถูกที่ตนเพิ่งได้รับมา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 180

    ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ อู๋หนิงที่ตอนนี้ได้มีกิจการร้านหม้อไฟใหญ่โตในปักกิ่งก็ก้าวเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของหลินไว้ด้วยความรู้สึกตื้นตันอย่างประหลาด น้ำตาไหลรินอาบแก้ม "แม่หนู...ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง" ก่อนที่ทุกคนจะหายจากความสับสน เสี่ยวหนิวก็เป็นฝ่ายอธิบาย "คุณย

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 179

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย... จากทารกน้อยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนยิ้มแต้ในเปล บัดนี้ "อาหมวยน้อยหลิน" เติบโตขึ้นเป็นเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ฉลาดและน่ารักเกินวัย เธอกำลังจะเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเด็กหญิงได้เห็นกิจการของครอบครัวเ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 178

    เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี...ชีวิตของทุกคนในครอบครัวตงและครอบครัวสาขาต่าง ๆ ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยความสุข กิจการร้านหมูกระทะขยายสาขาไปอีกหลายแห่งภายใต้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบตามที่อาทิตย์จัดการ ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของทุกคนยิ่งมั่นคง และแล้วข่าวดีที่ทุกคนรอคอยก็มาเยือนครอบ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 177

    โอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาได้มาเคาะประตูอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว หลังจากได้ปรึกษาหารือกันในครอบครัวอย่างละเอียด ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจจะปล่อยให้หลุดลอยไปได้ เคี้ยงจึงได้ตอบตกลงรับข้อเสนอของคุณสมชายผู้จัดการห้างซิตี้มอลล์ในที่สุด ไม่นานนักทีมงา

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 176

    เวลาผ่านไปอีกหกเดือน... หลินน้อยเติบโตขึ้นเป็นทารกที่จ้ำม่ำน่ารักน่าชัง ผิวขาวผ่องและมีดวงตากลมโตเป็นประกายสดใส เป็นที่รักและเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัวใหญ่ ทั้งอากงตงและอาม่าเคี้ยงที่ตอนนี้มีความสุขกับการได้เลี้ยงหลานคนแรกของลูกชายคนเล็กอย่างเต็มที่ รวมถึงลุงชัยและป้าจำปีที่มักจะพ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 175

    ในสายตาของใครหลายคน ชัยอาจจะดูเป็นลูกชายคนโตที่ทอดทิ้งครอบครัวไปในยามที่ลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวของเขาก็เต็มไปด้วยความรัก ความผิดพลาด และการเรียนรู้ที่ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ย้อนกลับไปในวันที่ชัยอายุเพียงสิบแปดปี เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ร้อนรนด้วยความรักที่มีต่อ "จำปี" หญิงสาวที

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status