Share

บทที่ 7

ยุ่งเองก็หยุดเดินมองตามใช้ไปด้วยแววตาระคนคุ้นเคยฉายชัด เขารู้ดีว่าคนที่ใช้กำลังวิ่งไปหาคือใคร ก่อนที่หลินจะก้าวเดินต่อช้า ๆ เคียงข้างยุ่ง สายตาจับจ้องไปยังร่างของผู้ชายสองคนที่ยืนหันหลังอยู่ไม่ไกลนัก คนหนึ่งดูสูงใหญ่กว่าเล็กน้อย ส่วนอีกคนมีรูปร่างใกล้เคียงกับใช้ในตอนนี้ แต่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า

พวกเขาทั้งคู่สวมเสื้อกุยเฮงแขนยาวถูกพับทบขึ้นมาเกือบถึงข้อศอก เสื้อสีเข้มที่น่าจะเป็นสีกรมท่าหรือสีดำนั้นดูซีดจางและเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่นและรอยด่างจากเหงื่อไคลแตกต่างจากเสื้อนักเรียนของใช้ที่ยังดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก

แผ่นหลังกว้างของทั้งคู่ดูแข็งแรงสมกับเป็นคนทำงานหนัก ผิวบริเวณต้นคอและแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อที่พับขึ้นนั้นคล้ำแดดจัด

เมื่อใช้วิ่งไปถึง ชายร่างสันทัดกว่าที่หลินเดาว่าน่าจะเป็น อากงของเธอก็หันมาพอดี ดวงตาเรียวคมภายใต้คิ้วที่ขมวดเล็กน้อยมองลูกชายคนที่สอง

"อ้าว อาใช้ ลื้อไปไหนมาเย็นป่านนี้แล้วยังไม่เปลี่ยนชุดนักเรียนอีก" เสียงทุ้มที่ฟังดูอบอุ่นแต่แฝงความเข้มงวดเล็กน้อยดังขึ้น

"ไปกินหวานเย็นร้านอาแปะมาป๊า" ใช้ตอบเสียงใสหันไปยิ้มให้พี่ชายที่ยืนอยู่ข้างกันซึ่งสูงกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด คนที่ถูกเรียกว่าเฮียมีใบหน้าคมเข้มคล้ายผู้เป็นพ่อทว่าดูเคร่งขรึมกว่า มองน้องชายด้วยแววตาเรียบเฉยแต่ไม่ได้ดูเย็นชาแต่อย่างใด

เสื้อกุยเฮงที่เขาสวมก็มีสภาพไม่ต่างจากของผู้เป็นพ่อ เผยให้เห็นท่อนแขนแข็งแรงที่คล้ำแดดเช่นกัน ตอนนั้นเองที่หลินกับยุ่งเดินตามมาทันพอดี ใช้รีบหันมาคว้าข้อมือหลินอีกครั้งดึงเธอให้มายืนด้านข้างอย่างปกป้อง

"ป๊า! เฮีย! นี่หลิน" ใช้แนะนำเสียงดังฟังชัด

หลินเงยหน้าสบตากับชายสองคนตรงหน้าอีกครั้ง หัวใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย ชายผู้เป็นอากงมองมาที่เธออย่างพิจารณา สายตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่แววตานั้นไม่ได้ดุร้ายนักออกจะเอ็นดูด้วยซ้ำ

ส่วนแปะเฮียของป๊าทำเพียงปรายตามองเธอนิ่งก่อนจะหันไปสนใจทางอื่น ทั้งนี้เป็นเพราะแม้ว่าเขาจะรู้มาจากแม่แล้วว่าวันนี้จะมีญาติผู้น้องมาอยู่ด้วยถึงกระนั้นจากสภาพครอบครัวของตนเขาก็ไม่อยากจะรับใครเข้ามา

(เฮ้อ! ดูเหมือนแปะจะไม่ค่อยต้อนรับเราเลยแฮะ) เจ้าตัวเล็กคิดก่อนจะย่อตัวและพนมมือเอ่ยทักคนทั้งคู่อย่างน่ารัก

"สวัสดีค่ะ อากง อาแปะ" คำเรียกของหลินทำให้คิ้วของชายหนุ่มผู้เป็นอาแปะดูจะไม่พอใจเท่าที่ควร

"เรียกเฮียสิ เปี๊ยก" ใช้รีบกระซิบแก้ข้างหูหลินเบา ๆ แต่ก็ดังพอให้ทุกคนได้ยิน ชัยเพียงปรายตามองน้องชายแวบหนึ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเพิ่มเติม

อากงพยักหน้ารับคำทักทายของหลิน "เออ ๆ ดีแล้ว เรียกอั๊วว่าอากงนั่นแหละ ส่วนนี่ก็เฮียชัย พี่ใหญ่ของใช้เขา" อากงช่วยแนะนำซ้ำให้ชัดเจนขึ้น สายตาที่มองหลินยังคงแฝงความเอ็นดู

"ค่ะ เฮียชัย" เด็กหญิงรีบส่งยิ้มเพื่อหวังผูกมิตร

เมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยของบุตรชายคนโต "เอาละ เข้าบ้านกันเถอะ มืดค่ำแล้ว" อากงก็พูดตัดบทเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กคิดมาก ก่อนจะออกตัวเดินนำ ทุกคนจึงเดินตามกันไปเป็นกลุ่มอยาง เงียบ ๆ

บรรยากาศระหว่างทางดูจะอึดอัดกว่าขามาเล็กน้อย หลินสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดบางอย่างที่มองไม่เห็นลอยอวลอยู่ในอากาศรอบตัว โดยเฉพาะจากชัยที่เดินเงียบขรึมอยู่ข้างอากงคล้ายมีเรื่องในใจ

และก่อนจะถึงบ้านพักของพวกเขาที่เถ้าแก่เม้งยกให้อาศัยอยู่ชั่วคราว ยุ่งก็ปล่อยมือหลินออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะวิ่งเข้าไปในเขตบ้านของตนซึ่งประตูบ้านได้เปิดอ้าอยู่

ถัดมาจากบ้านของยุ่งก็คือบ้านไม้ยกพื้นสูงหลังคามุงสังกะสีที่ดูเก่าถึงกระนั้นก็ดูแข็งแรงพอสมควร เมื่อเข้ามาด้านในซึ่งมีแสงไฟจากตะเกียงและหลอดไฟสีส้มนวลให้ความสว่างเพียงสลัว

หลินก็เห็นอาม่าในวัยสาวกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นในส่วนที่เป็นเหมือนครัวเปิดโล่งติดกับชานบ้าน กลิ่นหอมของข้าวสวยกับไข่เจียวลอยมาแตะจมูก

"ม่าจ๋า หนูกลับมาแล้วจ้า..." เด็กหญิงวิ่งเข้าไปเกาะแขนอาม่าที่กำลังหั่นผักอยู่บนเขียงไม้เตี้ย ๆ พลางส่งเสียงเจื้อยแจ้ว "ม่าจ๋า...ให้หนูช่วยนะจ๊ะ"

อาม่าในวัยสาวยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่เงยขึ้นมาสบตาอย่างกระตือรือร้น

"โอ้โห ขยันจังเลยนะเราน่ะ มานั่งนี่แหละไม่ต้องช่วยหรอก เดี๋ยวมีดบาดมือเอาจะลำบาก" เคี้ยงพูดพลางใช้หลังมือลูบแก้มใสของหลินแผ่วเบา แม้เธอจะกล่าวปฏิเสธแต่น้ำเสียงนั้นล้วนเต็มไปด้วยความเมตตา

หลินทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยแต่ก็ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี แล้วก็ได้นั่งจุ้มปุ๊กลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยมองอาม่าทำงานต่อตาแป๋วขณะเดียวกันชัยที่ยืนเงียบอยู่นานก็ขยับตัว เขาไม่ได้มองมาทางหลินหรือใครเป็นพิเศษเพียงแต่พูดขึ้นลอย ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ม๊า อั๋วไปอาบน้ำที่คลองก่อนนะ" ว่าแล้วก็เดินเลี่ยงออกไปทางหลังบ้านที่เป็นทางลงคลองทันทีไม่รอให้ใครตอบ ส่วนใช้ที่ยืนพิงเสาอยู่ไม่ไกลเห็นท่าทางประจบประแจงของหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเบ้ปากเล็กน้อย ส่งเสียงจึ๊เบา ๆ อย่างหมั่นไส้ (ทำมาเป็นเด็กดีไปได้ เปี๊ยกเอ๊ย...)

แต่ท่าทางนั้นไม่รอดพ้นสายตาของป๊าที่นั่งมองพลางสูบยาเส้นดูอยู่นานแล้ว ก่อนที่เสียงเข้ม ๆ ดุกว่าตอนคุยกับหลินดังขึ้น

"อาตี๋เล็ก ลื้อยืนทำหน้าเมื่อยอะไรอยู่ตรงนั้น! เย็นป่านนี้แล้วยังไม่ไปเปลี่ยนชุดนักเรียนอีก มัวแต่เถลไถล ดูสิน้องเพิ่งมาถึงยังรู้จักถามไถ่ช่วยงาน แล้วลื้อล่ะ!"

ใช้สะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองผู้เป็นพ่อทำหน้ายู่เหมือนจะเถียงแต่ก็ไม่กล้า

"ไปเลย!" อากงชี้มือไปทางหลังบ้าน "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วลงไปอาบน้ำอาบท่าที่คลองนู่นไป๊!"

"คร้าบ ๆ ๆ" ใช้ลากเสียงยาวอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เดินกระทืบเท้าปึงปังขึ้นบันไดเรือนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปยังคลองหลังบ้าน ทิ้งให้หลินนั่งยิ้มแป้นอยู่กับอาม่าในครัวเพียงลำพังกับอากงที่กลับไปสนใจยาเส้นในมือต่อ

ส่วนหลินก็มองด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อไป ซึ่งเธอเองก็เริ่มรู้สึกคันเนื้อคันตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

"อาหมวย ลื้ออยากอาบน้ำหรือลูก" เคี้ยงถามหลานสาวผู้มาจากแดนไกลตามที่เจี่ยเจี่ยพูดให้ฟังในฝัน

"ค่ะม่า ที่นี่มีห้องน้ำไหมคะ" เธอถามพลางมองซ้ายขวา เพื่อหาสิ่งที่ต้องการ

เคี้ยงหัวเราะอย่างเอ็นดูให้กับท่าทางของหลานสาวคนใหม่ นางวางมือจากการหั่นผักชั่วครู่แล้วหันมาตอบด้วยรอยยิ้มใจดี

"ห้องน้ำอย่างในเมืองที่เอาไว้อาบน้ำน่ะที่นี่ไม่มีหรอกอาหมวย" นางพูดพลางส่ายหน้า

หลินทำตาโตเอียงคอเล็กน้อย "แล้ว...แล้วอาบน้ำที่ไหนคะ"

"นู่นไงลูก" เคี้ยงชี้นิ้วไปทางหลังบ้านที่มืดสลัวลงทุกขณะ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่ชัยและใช้เพิ่งเดินไป

"เห็นคลองหลังบ้านเราไหม ที่นี่น่ะ ทั้งผู้ใหญ่เด็กผู้ชายผู้หญิง เราก็อาบน้ำซักผ้ากันที่คลองนั่นแหละ เย็นสบายชื่นใจดีออก" น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในชีวิตประจำวัน

หลินเบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิม ภาพการอาบน้ำในคลองเปิดโล่งดูจะเป็นเรื่องแปลกใหม่และน่าประหลาดใจสำหรับเด็กหญิงที่มาจากอีกยุคสมัย

แต่เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติของอาม่าและนึกถึงความรู้สึกเหนียวตัวไม่สบายตัวของตนเอง เธอก็พยักหน้ารับอย่างจำใจ

"อ๋อ...ค่ะ"

"หนูอยากอาบแล้วใช่ไหม" อาม่าถามอย่างรู้ทัน "รอม่าเก็บของในครัวนี่ก่อนนะ เดี๋ยวเตรียมผ้าถุงเตรียมสบู่ แล้วม่าจะพาลงไปอาบที่ท่าน้ำเอง ปล่อยให้ลงไปคนเดียวไม่ได้หรอกเดี๋ยวลื่นตกคลองไปจะยุ่ง" เคี้ยงพูดพลางหันกลับไปจัดการกับข้าวในครัวต่อแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมายิ้มให้หลานสาวอีกครั้ง

หลินมองตามแผ่นหลังของอาม่า ความคิดในหัวตีกันยุ่งการอาบน้ำในคลอง... มันคงจะแตกต่างจากการอาบในห้องน้ำมีฝักบัวที่เธอคุ้นเคยมาก

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับประสบการณ์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงในโลกใบเก่าใบนี้ที่เธอจะต้องพยายามปรับตัวเข้ากับมันให้ได้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 180

    ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ อู๋หนิงที่ตอนนี้ได้มีกิจการร้านหม้อไฟใหญ่โตในปักกิ่งก็ก้าวเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของหลินไว้ด้วยความรู้สึกตื้นตันอย่างประหลาด น้ำตาไหลรินอาบแก้ม "แม่หนู...ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง" ก่อนที่ทุกคนจะหายจากความสับสน เสี่ยวหนิวก็เป็นฝ่ายอธิบาย "คุณย

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 179

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย... จากทารกน้อยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนยิ้มแต้ในเปล บัดนี้ "อาหมวยน้อยหลิน" เติบโตขึ้นเป็นเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ฉลาดและน่ารักเกินวัย เธอกำลังจะเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเด็กหญิงได้เห็นกิจการของครอบครัวเ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 178

    เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี...ชีวิตของทุกคนในครอบครัวตงและครอบครัวสาขาต่าง ๆ ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยความสุข กิจการร้านหมูกระทะขยายสาขาไปอีกหลายแห่งภายใต้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบตามที่อาทิตย์จัดการ ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของทุกคนยิ่งมั่นคง และแล้วข่าวดีที่ทุกคนรอคอยก็มาเยือนครอบ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 177

    โอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาได้มาเคาะประตูอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว หลังจากได้ปรึกษาหารือกันในครอบครัวอย่างละเอียด ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจจะปล่อยให้หลุดลอยไปได้ เคี้ยงจึงได้ตอบตกลงรับข้อเสนอของคุณสมชายผู้จัดการห้างซิตี้มอลล์ในที่สุด ไม่นานนักทีมงา

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 176

    เวลาผ่านไปอีกหกเดือน... หลินน้อยเติบโตขึ้นเป็นทารกที่จ้ำม่ำน่ารักน่าชัง ผิวขาวผ่องและมีดวงตากลมโตเป็นประกายสดใส เป็นที่รักและเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัวใหญ่ ทั้งอากงตงและอาม่าเคี้ยงที่ตอนนี้มีความสุขกับการได้เลี้ยงหลานคนแรกของลูกชายคนเล็กอย่างเต็มที่ รวมถึงลุงชัยและป้าจำปีที่มักจะพ

  • OMG!! ฉันย้อนเวลากลับมาเจอปะป๊าตอนเขาอายุ14    บทที่ 175

    ในสายตาของใครหลายคน ชัยอาจจะดูเป็นลูกชายคนโตที่ทอดทิ้งครอบครัวไปในยามที่ลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวของเขาก็เต็มไปด้วยความรัก ความผิดพลาด และการเรียนรู้ที่ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ย้อนกลับไปในวันที่ชัยอายุเพียงสิบแปดปี เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ร้อนรนด้วยความรักที่มีต่อ "จำปี" หญิงสาวที

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status