#วันต่อมา
“คุณจะพาวิไปที่ไหนคะ” วิเวียนชักสีหน้าระแวงขึ้นมาดื้อๆ หันหน้ามาถามคนข้างๆที่กำลังจดจ่ออยู่กับการขับรถ เมื่อเส้นทางที่เขากำลังพาเธอไปมันแปลกใหม่ เรียกเสียงหัวเราะจากเซบาสเตียนเมื่อเหลือบมองเห็นสีหน้าอันเป็นกังวลของเธอก็อดเอ็นดูไม่ได้ “ฮะๆ ไม่ต้องระแวงขนาดนั้นหรอกครับ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ก็แค่อยากพาไปทำอะไรใหม่ๆ ด้วยกันแค่นั้นเองครับ คุณเชื่อใจผมนะครับ” เซบาสเตียนตอบอย่างอ่อนโยน เพื่อเป็นการผ่อนคลายอีกคน เขาไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไรต่อเธออยู่แล้ว อย่างมาก ก็แค่จับทำเมีย แล้วถ้อยเสียงอ่อนโยนของเขามันใช้ได้ผลดีเลยแหละ วิเวียนหันกลับไปนั่งตรงพร้อมมองทางข้างหน้าด้วยความสบายใจขึ้น แต่ในหัวก็อดที่จะครุ่นคิดไม่ได้ว่านี่มันจะเหมือนสองคนไปเดทกันรึเปล่านะ… ไม่นานสี่ล้อก็ขับเคลื่อนเข้ามาถึงในย่านสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่วิเวียนได้เห็นและสัมผัสบรรยากาศแนวนี้ “สนามยิงปืน?” หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัยหันไปถามคนข้างๆ ทำไมอยู่ๆเขาถึงได้พาเธอมาที่นี่ “ไม่ต้องกลัวหรอกครับ แต่ถ้าคุณกลัว จับมือผมเอาไว้นะครับคนดี” เซบาสเตียนยิ้มพร้อมยื่นมือไปจับกุมมือเล็กอย่างอ่อนโยน เธอไม่ได้กลัวแต่แรก ทว่าแค่สงสัยเท่านั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการกระทำเขาทำให้เธออุ่นใจขึ้นไม่น้อย นอกเหนือจากนั้นคือสองคำสุดท้ายที่ทำเอาพวงแก้มนวลร้อนผ่าวขึ้นมา นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย เธอต้องมาเขินผู้ชายคนนี้อยู่ทุกวี่ทุกวัน แล้วตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน แถมยังหนักกว่าเดิมอีก เมื่ออยู่ๆเขาก็ลากเธอมาฝึกยิงปืน โดยที่มีเขายืนประกบและสอนการตั้งท่าหรือแม้กระทั่งจับมือเธอไว้จากด้านหลัง จากตอนแรกที่คิดว่าเขาเพียงแค่พาเธอมานั่งดูเขายิงปืนเล่นเฉยๆ ตอนนี้หัวใจดวงน้อยต้องมาเต้นตุบตับแข่งกันรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ อย่างกับว่ามันกำลังจะหลุดออกมา น่าอายชะมัด! “ตั้งท่าแบบนี้นะครับ” คนด้านหลังกล่าวกระซิบอยู่ข้างใบหูเธอจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขา ทำเอาคนตัวเล็กเกร็งไปทั่วร่างไม่ต่างจากกลายร่างเป็นก้อนหิน “ไม่ต้องเกร็งนะครับ ทำตัวสบายๆ” สองมือประกบอยู่บนหลังมือเล็ก ตั้งท่าสอนให้เล็งตรงไปยันเป้า ในขณะที่เสียงทุ้มคอยกระซิบบอกอยู่ข้างๆจนแทบจะสิงเป็นร่างเดียวกัน ก็เขาเข้ามาชิดขนาดนี้จะให้เธอไม่เกร็งได้ที่ไงกัน แถมยังบอกให้ทำตัวสบายๆอีก ไม่นานความสนใจของวิเวียนก็เริ่มไปจับอยู่เป้าหมายตรงหน้า เริ่มชินกับสัมผัสของคนที่ยืนประกบชิดหลัง เขาสอนวิธีการใช้งานและวิธีการเล็งให้เธออย่างแม่นยำจนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่รู้กี่ต่อกี่ชั่วโมงแล้ว ปั้ง! “เห้ย! วิทำได้แล้ว!” วิเวียนตื่นเต้นดีใจรีบหันมามองคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังด้วยรอยยิ้มเบิ่กบาน เมื่อนัดสุดท้ายที่เธอยิงมันดันตรงเข้าเป้ากลางเป๊ะ “เก่งที่สุดเลยครับ” อีกคนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม ปรบมือชื่นชมหญิงสาวที่ดีใจเหมือนเด็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปวางบนศีรษะเธอพร้อมลูบเบาๆด้วยความเอ็นดู นำพาคนที่เพิ่งลืมตัวแสดงท่าทางดีใจจนเกินตัวต้องกลับมาตัวแข็งทื่อด้วยความเขอะเขินไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ “วิ…. ” อยู่ๆเซบาสเตียนก็เข้าสู่โหมดจริงจัง เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าพรางประสานเข้ากับดวงตาเธอเหมือนต้องการจะพูดอะไร ก่อนมือหนาจะชักกระบอกปืนหรูที่เน็บไว้ข้างเอวออกมายื่นให้เธอ “หากมีใครหน้าไหนที่คิดจะทำร้ายคุณ คุณใช้ปืนนี่ยิงมันได้เลยนะครับ ผมจะปกป้องคุณเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” วิเวียนถึงกับงงไปพักใหญ่ มองกระบอกปืนในมือสลับกับคนที่ยื่นให้ ทำไมวาจาเขามันดูแปลกๆสำหรับเธอ ก็จะไม่ให้มันแปลกได้ยังไงล่ะ ในเมื่อสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่อยู่ๆเขากลับแสดงท่าทีเหมือนแฟนที่คอยห่วงใยและพร้อมจะปกป้องเธอ หากจะคิดว่าเขามีใจ จะเป็นการเข้าข้างตัวเองไปรึเปล่า “ปืนกระบอกนี้ผมชอบที่สุด ผมอยากให้มันไว้กับคุณ” เซบาสเตียนอธิบายเพิ่มเติมเมื่ออีกคนแสดงท่าทีลังเล มันถูกที่ว่าเขาชอบเธอและมีความรู้สึกดีๆให้ ถึงขั้นอยากได้เป็นแม่ของลูก เมื่อเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่เขาวาดฝันมาตลอด “แต่ว่า…” วิเวียนก็ยังคงลังเล เธอไม่เคยแม้แต่จะเคยจับต้องสิ่งของพวกนี้เลยด้วยซํ้า” รับไว้เถอะครับ ถึงคุณไม่รับผมก็จะยัดเยียดให้คุณอยู่ดี อย่าปฏิเสธเลยนะครับ” เซบาสเตียนยังคงโน้มน้าว แต่ก็ไม่ต่างจากการโน้มน้าวเชิงบังคับ และใช่ เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น แล้วอีกไม่นานเขาก็จะยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอเช่นกัน “งั้นก็ได้ค่ะ วิจะเก็บมันไว้เป็นอย่างดีเลย ให้สมกับที่คุณรักษามันมา” ท้ายสุดคนถูกยัดเยียดก็ยอมรับมันมาอยู่ในมือ เธอไม่ได้คิดจะแตะต้องหรือใช้มันหรอก แต่หัวใจดวงน้อยมันกลับสั่งการแปลกๆ อยากเก็บรักษามันไว้เปรียบเสมือนว่าเป็นของแทนใจของคนที่ให้ “ผมดีใจนะครับ ที่คุณไม่ปฏิเสธมัน” เซบาสเตียนยิ้ม ตอนนี้เธอยอมรับลูกรักเขา อีกไม่นานก็คงถึงเวลาที่เธอต้องยอมรับเขาไปเป็นคู่ชีวิตด้วย “แย่จังเลยครับ วันนี้ผมคงพาคุณไปเที่ยวต่อที่อื่นไม่ได้แล้ว ผมมีนัดไว้อีกไม่กี่ชั่วโมงน่ะครับ งั้นผมไปส่งคุณที่ร้านดอกไม้ก่อนเลยนะครับ” นาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือถูกยกขึ้นมาดูก็ต้องถอนหายใจ เมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงคือเวลาทำงาน ต้องไปพบกับลูกค้าที่เขาเอาแต่เลื่อนนัดมาได้แล้วสามครั้ง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วิเองก็ซ้อมยิงปืนจนหมดแรงจะเที่ยวต่อแล้วล่ะค่ะ” วิเวียนรีบกล่าวเชิงติดตลกพร้อมเค้นหัวเราะเบาๆ เมื่อรู้ตัวเธอก็ได้แสดงอีกด้านที่ไม่เคยเห็นให้เขาได้เห็นไปแล้ว นำพาอีกคนยิ้มตามอย่างชอบใจ ก่อนสองคนจะพากันเดินออกไปยันรถคันสีดำเงาที่จอดไว้หน้าสนามปึ้ง! วิเวียนที่นั่งเหม่ออยู่ในภวังค์ความเศร้าถึงกับสดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆซาร่าก็ทุบโต๊ะด้วยแรงโมโหจนเกิดเสียงดังปั้ง หลังจากที่เธอเล่าทุกอย่างให้ลูกน้องสาวฟัง “อะไรกันคะ! จะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ไอ้คุณชายนั่น!” ไม่ยักรู้ว่าคนที่จะโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแทนที่จะเป็นตัวเธอเองแต่ตอนนี้กลับเป็นซาร่าสะงั้น “ใจเย็นๆซาร่า” “จะให้ใจเย็นได้ยังไงกันคะ พี่วิรู้มั้ยคะว่าตอนนี้ซาร่าอยากทำอะไรมากที่สุด ซาร่าอยากบุกบ้านไอ้คุณชายนั่นแล้วซัดหมัดนี่เข้าเบ้าหน้าหล่อๆที่มาหลอกคนอื่นเข้าให้จนเละเลยค่ะ!” วิเวียนถึงกับยิ้มแห้งกับอารมณ์โทสะของสาวน้อยที่เธอเอ็นดูเหมือนน้องสาวมาตลอด เพิ่งจะเคยเห็นหญิงสาวตัวเล็กๆอารมณ์พรุ่งพร่านแทนเธอได้ขนาดนี้ “พี่วิไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้ซาร่าจะจัดการทุกอย่างให้พี่เองค่ะ” “หื้ม?” คิ้วบางขมวดอย่างไม่เข้าใจ ดูจากสีหน้าที่มุ่งมั่นของซาร่าแล้วบ่งบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ ยัยเด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกัน แล้วก็เป็นแบบที่เธอพูด เมื่อซาร่ามากดกริ่งหน้าบ้านเธอแต่เช้าตอนตีสี่ วิเวียนที่เพิ่งจะผลอยหลับไปจากการนั่งคิดมากได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเดินงัวเงียมาเปิดประตู “มาค่ะพี่วิ
ถ้อยเสียงเบาแผ่วเอ่ยขึ้นดั่งน้อยใจ เรียกรอยยิ้มซุกซนจากอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างได้ใจ ดูเหมือนว่าแผนชั่วที่เพื่อนเขากล่าวจะได้ผลดีเลยล่ะ “คิดถึงผมหรอครับ” คนโตกว่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์โน้มหน้าเข้ามาพูดไกล้อีกคนจนลมหายใจอุ่นรดเข้าสัมผัสผิวเนียน นำพาเสียงหัวใจดวงน้อยลุกขึ้นเต้นแข่งกันตุบตับ “ผมมีงานใหญ่ที่ต้องจัดการน่ะครับ พอรีบเคลียร์เสร็จผมก็รีบมาหาคุณนี่แหละอย่าน้อยใจสิครับ หื้ม” ไม่พูดเปล่า นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมอีกคนทัดหูไปด้วยอย่างอ่อนโยน ทำหัวใจดวงน้อยวูบไหวรีบหลบสายตาที่มองมา “ว…วิไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ” “งั้นก็โอเคครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่า ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยนิดหน่อย” ดวงตาวูบไหวเงยมองเจ้าของคำพูด เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงถ้อยเสียงของเขาที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไป หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรรึเปล่า “เรื่องอะไรคะ..” “คือว่า… ผมอยากให้คุณไปจัดสถานที่ให้น่ะครับ สถานที่ขอแต่งงาน…” ดวงตาคนฟังเบิ่กกว้างเหมือนตกอยู่ในภวังค์คำพูดของเซบาสเตียน เขาหมายความยังไงถึงคำว่าสถานที่ขอแต่งงาน คำถามมากมายตีกันในหัวเต็มไปหมด ใครกันที่จะแต่งงานหรือว่าเป็นเขา แล้วถ้าหากเป็นเขาล่ะ ทุกอย่
ผ่านไปสามวัน… “พี่วิ” ซาร่าเมื่อเห็นเจ้านายสาวเอาแต่นั่งเหม่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ทนดูไม่ได้จึงมานั่งข้างๆ “มีอะไรรึเปล่าซาร่า” “พี่วิโอเคมั้ยคะ หลายวันมานี้ซาร่าเห็นพี่เหม่อเหมือนมีอะไรในใจอยู่ตลอดเลย” “ไม่มีอะไรหรอก…” วิเวียนก้มหน้า ปากบอกไม่มีอะไร แต่สีหน้าเธอมันบ่งบอกชัด ความจริงซาร่าไม่ต้องถามก็รู้ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอต้องเอาแต่นั่งหมกมุ่น “เฮ้อ… พี่รอคุณชายนั่นอยู่ใช่มั้ยคะ” วิเวียนเงียบไม่มีคำตอบ แสดงว่าเรื่องจริงน่ะสิ ไม่รู้ว่าไอ้คุณชายนั่นคิดอะไร มาตามติดพี่สาวเธอเหมือนจริงจัง แต่อยู่ๆ กลับมาเล่นหายหัวไปปล่อยให้วิเวียนต้องมานั่งกลุ้ม “ไอ้คุณชายบ้านั่น อย่าให้เห็นโผล่มานะ เดี๋ยวซาร่าจะซัดเข้าให้ มาทำให้คนอื่นมีใจแล้วหายหัวไปไหนไม่รู้” ซาร่าบ่นอุบ มันน่าโมโหจริงๆเลยมั้ยล่ะ “เอาน่าซาร่า เค้าคงจะยุ่งกับงาน” “แต่ก็ควรจะบอกกันสักคำสองคำมั้ยล่ะคะ” ทันทีที่ซาร่าสวนไปแบบนั้น แววตาคู่สวยก็สั่นไหวขึ้นมาทันที ลูกน้องสาวพูดมีเหตุผลพอสมควร สีหน้าวิตกของเธอทำเอาซาร่าแทบกลืนนํ้าลายลงคอด้วยความรู้สึกผิด เธอปากมากจนลืมคำนึงถึงความรู้สึกวิเวียนเลย อยากจะตบผีใน
“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ คุณลุงสนใจดื่มชาก่อนมั้ยคะ” วิเวียนรีบยิ้มหวานชวนเบรย์เดนนั่งเป็นการไถ่โทษที่ต้องให้เขารอนาน ส่วนชายวัยกลางเมื่อสายตาสบอยู่บนใบหน้าสวยก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เธอสวยและเรียบง่ายจนสบายตาไม่พอแถมยังเพิ่มความสบายใจให้คนมองเข้าไปทวีคุณ ไม่แปลกใจหากลูกชายจะประทับใจในตัวแม่หนูคนนี้นักหนา “เอาสิ” เบรย์เดนไม่ตราหนักใจที่จะยิ้มตอบพร้อมนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนตามคำชวนของวิเวียน เขารู้สึกถูกชะตากับแม่หนูคนนี้เสียเหลือเกิน แม้กระทั่งท่าทางการรินชาของเธอยังดูเรียบร้อยสบายตาจนเขาประทับใจไม่น้อย “คุณลุงลองชิมดูนะคะ ชานี่เป็นชนิดพิเศษที่ทางร้านคิดค้นทำขึ้นมาเองค่ะ” “งั้นหรอ…” ชายวัยกลางเกิดนึกสงสัย ยกแก้วชาขึ้นจิบก็ต้องขมวดคิ้มเข้มเข้าหากัน เมื่อเพียงมันแตะถึงลิ้นเขาก็รับรู้ได้ถึงชนิดของชาทันที “ชาดอกไม้?” “ใช่ค่ะ คุณลุงเคยดื่มหรอคะ” “ภรรยาลุงชอบทำให้ดื่มอยู่บ่อยๆน่ะ” แววตาเขาดูมีความหมายเมื่อกล่าวถึงภรรยา แต่ก็แอบมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ในนั้น จนวิเวียนที่จับสังเกตได้อดไม่ไหวที่จะพลั้งปากถามออกไป “คุณลุงคงจะรักเธอมากเลยสินะคะ..” “รักสิ รักมากเลยล่
“ร้านนี้หรอ” เสียงทุ้มจากชายวัยกลางถามขึ้น ในขณะที่สายตาทอดมองไปยันร้านดอกไม้ที่ถูกตกแต่งประดับประดาสวยงามตรงหน้า เห็นลูกน้องมันมาฟ้องนักหนาว่าเจ้าลูกชายมันหลงเจ้าของร้านดอกไม้นี้หัวปักหัวปำ ก็เกิดนึกอยากจะมาดูให้เห็นกับตาสักหน่อย “ใช่ครับท่าน” “อืม…” เบรย์เดนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปเยือนในร้าน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความคุ้นเคยที่ห่างหายมานานหลายปี… “ยินดีต้อนรับค่ะคุณผู้ชาย” ในขณะที่สายตาคมกำลังทอดมองรอบๆ ก็เกิดเสียงหวานจากสาวน้อยแทรกขึ้นมาต้อนรับ “เชิญเดินดูได้ตามสบายเลยนะคะ” ซาร่าพูดซํ้าพร้อมยิ้มแย้มเป็นมิตร “ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านนี้ฝีมือการจัดดอกไม้ดีมากและแตกต่างไปจากใครๆ” “จริงแท้แน่นอนค่ะคุณผู้ชาย อยากได้แบบไหนสามารถบอกได้เลยนะคะ ทางเราทำได้ทุกแบบทุกชนิดค่ะ” “อืม… จะเป็นการรบกวนมั้ยครับ ถ้าผมอยากคุยกับเจ้าของร้านหน่อย” “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณลูกค้าเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวซาร่าไปตามให้ค่ะ” ดวงตาคู่คมหันกลับไปกวาดมองรอบๆ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี้นำพาเขาย้อนคิดกลับไปถึงวันวานเก่าๆ ในวันที่แสงแดดอ่อนๆจากท้องฟ้าสาดส่องลงมาแตะยันพื้นหญ้าเข
รอยถึงกับอ้าปากเหวอ พอเวลาธรรมดาก็เอาแต่ร้องเรียกหาแต่ว่าที่เมีย แต่พอมาเวลาแบบนี้ สันดานนักล่าผู้หญิงที่ติดตัวมาแต่เกิดก็ไม่เคยจางหายเลยจริงๆ ดูจากสายตาที่กำลังล่อเหยื่อให้ติดกับนั่นสิ แหม เดี๋ยวจะฟ้องคุณคนสวยซะเข้าให้! “หืม ให้ผมหรอครับ” คิ้วเข้มขมวดขึ้นข้างนึงเบาๆ เชิงมองหญิงตรงหน้าที่กำลังยื่นแก้วไวน์แดงให้กับเขา “รอบๆนี้คงไม่มีใครหล่อเท่าคุณแล้วแหละค่ะ” ก็แหงสิ เขามันเทพบุรุษ เซบาสเตียนเหยียดยิ้มซุกซนพร้อมยื่นมือไปรับแก้วไวน์โดยไม่ปฏิเสธ ก็ไม่ต่างจากการบ่งบอกว่าเขายอมรับข้อเสนอของผู้หญิงตรงหน้า “เห็นว่าคุณทำหน้าเครียดๆ … ก็เลยอยากจะมาเสนอเป็นที่ระบายให้สักหน่อยน่ะค่ะ” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า หญิงสาวรีบเซร่างตัวเองเข้าไกล้เขาพรางทาบฝ่ามือบางลงบนอกแกร่งแล้วลูบไล้ไปมา ส่งสายตาอ่อยสุดฤกษ์ วันนี้ไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไปอยู่บนเตียงก็ให้มันรู้ไป “ที่ระบาย… หึ น่าสนใจนะครับ” “ฉันไม้พายนะคะ บอกไว้เผื่อคุณติดใจอยากจะรู้จักขึ้นมา” “ไม้พาย… ชักอยากรู้แล้วสิครับ ว่าไม้พายนี้จะพาผมไปถึงฝั่งได้รึเปล่า” “ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ” “ผมกะว่าจะรีบกลับห้องไปนอนพัก แต่ดูเหมือนม