เวลาผ่านไปพักใหญ่ ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยังไม่มาสักที
ฉันนั่งอยู่ท่ามกลางแสงสลัวและเสียงเพลงดังระรัว สมองกับหัวใจเริ่มเถียงกันเสียงดังลั่นในหัว
“อยู่ต่ออีกนิดสิ ลองเปิดใจดูหน่อย”
“แต่ก็ไม่ใช่ที่ของเราเลยนะ กลับเถอะ…”
มือกำแก้วแน่น สายตามองไปรอบๆ อย่างเหม่อๆ
แล้วจู่ๆ...
สายตาทั้งคู่ก็ถูกดึงดูดราวกับแม่เหล็ก
เหมือนภาพเบื้องหน้าสะกดทุกอย่างให้หยุดนิ่ง
เขา...ชายคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงพอดีตัว
จมูกเป็นสัน คางคม ใบหน้าเรียวรับกับกรอบหน้าราวกับภาพถ่ายจากแมกกาซีนเขาก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจะผ่านโลกมานับครั้งไม่ถ้วน
หยุดอยู่แค่ตรงนั้น หน้าทางเข้า ทักใครบางคนสั้น ๆ แล้วเหลือบสายตามาทางนี้ชั่ววินาทีนั้น
ลมหายใจฉันสะดุดเหมือนใครมากดปุ่มหยุดใบหน้าคมเงยขึ้นอีกครั้ง แววตาเฉียบคมเหลือบมาสบ
เหมือนแค่ “บังเอิญ” … หรือ… มันไม่ใช่แค่บังเอิญกันแน่?และวินาทีนั้นเอง มุมปากเจ้าเสน่ห์ค่อยๆยกขึ้นแล้วยิงตรงมาที่ฉันอย่างจงใจแบบที่ทำให้ค็อกเทลในมือฉันเหมือนแรงไปในลำคอ
...ฉันรู้เลยว่า คืนนี้ มันจะไม่เหมือนคืนไหนในชีวิตฉันอีกเลย“พายุ…”เสียงแหลมสูงของสาวกลุ่มหนึ่งด้านหลังดังขึ้น ทะลุผ่านจังหวะดนตรีและเบสหนัก ๆ
ผู้คนรอบข้างชะงัก หันขวับราวกับโดนพายุพัดใส่กลางอก
แค่ชื่อเดียว... ก็สั่นสะเทือนทั้งร้านได้ขนาดนี้
เขาก้าวเดินอย่างนิ่ง ๆ แต่ทุกฝีเท้าเหมือนปล่อยแรงโน้มถ่วงเฉพาะตัว สะกดสายตาทุกคู่ให้หันไปตามโดยไม่รู้ตัวผมเซ็ตอย่างเนี้ยบ...แต่เหมือนตั้งใจให้ดูเหมือนไม่ตั้งใจ
รอยยิ้มบางบนใบหน้าคมคาย ที่ไม่ได้พยายามขายเสน่ห์...แต่กลับดึงดูดจนหายใจผิดจังหวะและดวงตาคมเฉียบ เหมือนรู้ว่ามีใครแอบมองเขาอยู่บ้าง
...และเขาเลือกจะ มองกลับ แค่บางคนเท่านั้นแค่สบตาเขาแวบเดียว
ฉันเผลอกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทัน รู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าอ่อน ๆ ดูดผ่านผิวหนัง ไม่แรงพอให้ช็อกตาย แต่แรงพอให้ใจสะดุดไม่เป็นจังหวะ“แก บ้าหล่อไปแล้วลี่ ทำหน้าเหมือนจะเป็นลม!” แยมกระซิบข้างหูฉัน
แต่ฉันไม่ได้ตอบอะไร... แค่มองเขาอยู่ตรงนั้น ถ้าคืนนี้... ใครสักคนจะเป็นคนแรกของฉัน ก็ขอให้เป็นเขา ผู้ชายคนนั้นที่เหมือนหลุดออกมาจากความฝัน ฉันหลับตาแนบเปลือกตาเบา ๆ ยกค็อกเทลขึ้นจิบ ราวกับกำลังอธิษฐานขอพรเงียบ ๆ ในใจ แค่หนึ่งคืน...ขอให้มันเป็นคืนที่ฉันได้ “มีชีวิต” แบบไม่ต้องคิดเยอะ พอฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขา... ก็ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว เหมือนจักรวาลได้ยินคำขอ และเสิร์ฟพายุลูกนี้มาให้ถึงที่ ไม่มีคำเตือนล่วงหน้า ไม่มีทางหนี“สวัสดีครับ แพรว แยม เอ่อ”
“ลินลี่ค่ะ” แพรวแทรกขึ้นทันทีแบบไม่ให้เสียเวลา แถมยังส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉันหนึ่งที“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมพายุ”
เขาพูดพร้อมยื่นมือมาตามมารยาท แต่สายตา... มันไม่ใช่แค่ "ทักทาย" มันคือการ สำรวจ อย่างจงใจฉันยื่นมือออกไป แต่นิ้วเขาแตะมือฉันเบากว่าที่ควรจะเป็น...
เบาพอจะทำให้ขนลุก แต่แน่นพอจะทำให้หัวใจฉันสะดุดและระหว่างที่แพรวกับแยมหันไปหัวเราะคิกคักกับหนุ่มอีกโต๊ะ
ฉัน...กลับรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันช้าลง แค่เราสองคนยืนอยู่ตรงนั้นสายตาของเขา...
ไม่ได้แค่จ้อง แต่มันเหมือนกำลังแกะฉันออกทีละชั้น[มุมพายุ]
จังหวะที่เธอยกแก้วขึ้นจิบแบบไม่โปรนั่นแหละ...น่ารักฉิบหายไม่ทันไร...
เขาดีดนิ้วเบา ๆ เสียง “แชะ” ดังขึ้นแบบมั่นใจ เหมือนโลกทั้งผับนี้อยู่ในมือ บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าคมเดินมาทันที ราวกับโดนสะกด “เซตช็อต...สำหรับเริ่มคืนดี ๆ สักคืน” เขาหันมามองฉันเล็กน้อยก่อนหันกลับไปพูดต่อ “...ของเธอด้วย” ฉันชะงัก ใจเต้นตึกตัก“หรือฉันควรปฏิเสธ?” เสียงในหัวถาม...แต่ร่างกายฉันไม่ได้รอฟังคำตอบ แค่รอยยิ้มนิดเดียวจากเขา...โลกมันก็เริ่มหมุนผิดจังหวะแล้ว แพรวกับแยมส่งยิ้มแบบรู้ทันจากมุมด้านข้าง แต่ฉันเลือกจะเมินสายตาเหล่านั้น คืนนี้ฉันไม่ได้มาเพื่อคิดเยอะ... คืนนี้ ฉันมาเพื่อ "ลอง" “เอ้า...ช็อตแรกของคืน” พายุยื่นแก้วเล็ก ๆ มาให้ฉัน พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่เหมือนมีมนต์สะกด ฉันยื่นมือไปรับแบบลังเลนิด ๆ แต่สุดท้ายก็คว้าไว้ น้ำใสในแก้วกระทบแสงไฟในผับวูบวาบ ราวกับกำลังเตือนฉันว่า นี่ไม่ใช่น้ำเปล่านะเธอ “คือ...ฉันไม่ค่อยถนัดดื่มช็อตเท่าไหร่ค่ะ” ฉันยิ้มอ่อน ๆ พยายามพูดให้ฟังดูเบา แพรวกับแยมหลุดขำเบาๆ จากข้าง ๆ แต่พายุกลับไม่ได้หัวเราะ เขาแค่เอียงคอ มองฉันอย่างสนใจมากขึ้น “งั้นลองจิบก็ได้...ไม่มีใครบังคับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก แต่สายตายังแนบแน่นอยู่ที่ฉัน[มุมพายุ]
เธอกลัวนิด ๆ แต่ก็ยังไม่ถอยผู้หญิงแบบนี้แหละ...ของจริง ไม่เฟคฉันสูดหายใจ แล้วค่อย ๆ จิบ เหมือนเด็กฝึกหัดที่กลัวจะพลาดกลางเวที
ผลลัพธ์คือ...ไอค่อกแค่กแทบสำลักกลางบาร์ “อะแฮ่ม!” ฉันรีบยกมือปิดปาก น้ำตาเกือบไหล ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์หรือละอายตัวเอง พายุหัวเราะในลำคอเบา ๆ “น่ารักดี” คำสั้น ๆ แต่ทำเอาฉันชะงัก เพราะเขาพูดมันเหมือน หมายความตามนั้นจริง ๆ และในวินาทีนั้นเอง ฉันรู้... คืนนี้ จะไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนที่ลินลี่เคยคิดไว้เลยสักอย่าง แต่เพียงกรึบหนึ่ง... มันก็เพียงพอให้ฉันตาลาย ราวกับโลกเหวี่ยงนิดๆ ใต้ส้นสูงคู่ใหม่ที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก รสชาติแรงจี๊ดวิ่งจากปลายลิ้นไปถึงกระดูกสันหลัง ฉันกระพริบตาถี่ ๆ พยายามควบคุมสีหน้า อย่าทำหน้าเบี้ยวเด็ดขาดนะลินลี่! “โอเคมั้ย?” เสียงทุ้มนุ่มของพายุเอ่ยถาม ใกล้จนได้กลิ่นโคโลญจาง ๆ ที่โคตรแพง ฉันพยักหน้าเร็ว ๆ เหมือนหุ่นยนต์ “ค่ะ...โอเคอยู่ แค่...แรงกว่าที่คิดนิดหน่อย” เขาหัวเราะเบา ๆ เหมือนชอบใจ แต่ฉันรู้สึกเหมือนหน้าเริ่มร้อน ไม่แน่ใจว่าเพราะแอลกอฮอล์ หรือเพราะสายตาคม ๆ ของเขาที่มองมาไม่ละไปไหนเลย และตอนนั้นเอง... ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดจากกรอบชีวิตเดิมทุกวินาที ทีละนิด ทีละน้อย พร้อมจะไหลตามอะไรบางอย่างที่ไม่เคยกล้าลองมาก่อนพายุยื่นมือมาทันที รอยยิ้มมุมปากที่ดูมั่นใจและชวนหลงใหล
“ลินลี่... เต้นกับผมหน่อยไหม?” เสียงทุ้มเรียบแต่มีพลัง ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงผิดจังหวะอีกครั้งฉันชะงักไปครู่หนึ่ง มองมือที่ยื่นมา แล้วมองหน้าเขา
ในใจมีเสียงกระซิบ “นี่แหละโอกาสของฉัน… คืนนี้ต้องลองให้สุด”“ได้ค่ะ...” ฉันตอบด้วยเสียงเบา ๆ พร้อมจับมือเขาไว้แน่น
ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนแล่นพล่านไปทั่วร่าง เสียงเพลงในผับกระแทกเข้ามาในหัวใจเหมือนกระตุ้นทุกประสาทสัมผัสพายุเดินนำฉันไปยังกลางฟลอร์
เขากุมมือฉันอย่างมั่นคง แต่สัมผัสนั้นอ่อนโยนกว่าที่ฉันคิดไว้มาก“อย่ากลัวนะ ลินลี่ แค่สนุกกับคืนนี้”
เขาพูดพร้อมส่งสายตาที่ทำให้ฉันอยากเชื่อใจเสียงเพลงจังหวะเร็วขึ้น
พายุเริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองกับบีท ฉันเริ่มขยับตามอย่างไม่มั่นใจนัก แต่เขาก็พาเดินทางไม่ให้สะดุดความรู้สึกอาย ๆ ที่เคยครอบงำใจฉันค่อย ๆ หายไป
แทนที่ด้วยความตื่นเต้นและอิสระ คืนนี้… ฉันไม่ใช่แค่ “ลินลี่คนเดิม”พายุพูดเบา ๆ ข้างหูฉัน “คืนนี้ เป็นคืนของเรา” และในวินาทีนั้น ฉันเชื่อว่า… สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นบทเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ในหน้าถัดไปเวลาผ่านไปพักใหญ่ ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยังไม่มาสักทีฉันนั่งอยู่ท่ามกลางแสงสลัวและเสียงเพลงดังระรัว สมองกับหัวใจเริ่มเถียงกันเสียงดังลั่นในหัว“อยู่ต่ออีกนิดสิ ลองเปิดใจดูหน่อย”“แต่ก็ไม่ใช่ที่ของเราเลยนะ กลับเถอะ…”มือกำแก้วแน่น สายตามองไปรอบๆ อย่างเหม่อๆแล้วจู่ๆ...สายตาทั้งคู่ก็ถูกดึงดูดราวกับแม่เหล็กเหมือนภาพเบื้องหน้าสะกดทุกอย่างให้หยุดนิ่งเขา...ชายคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงพอดีตัวจมูกเป็นสัน คางคม ใบหน้าเรียวรับกับกรอบหน้าราวกับภาพถ่ายจากแมกกาซีนเขาก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจะผ่านโลกมานับครั้งไม่ถ้วน หยุดอยู่แค่ตรงนั้น หน้าทางเข้า ทักใครบางคนสั้น ๆ แล้วเหลือบสายตามาทางนี้ชั่ววินาทีนั้น ลมหายใจฉันสะดุดเหมือนใครมากดปุ่มหยุดใบหน้าคมเงยขึ้นอีกครั้ง แววตาเฉียบคมเหลือบมาสบ เหมือนแค่ “บังเอิญ” … หรือ… มันไม่ใช่แค่บังเอิญกันแน่?และวินาทีนั้นเอง มุมปากเจ้าเสน่ห์ค่อยๆยกขึ้นแล้วยิงตรงมาที่ฉันอย่างจงใจแบบที่ทำให้ค็อกเทลในมือฉันเหมือนแรงไปในลำคอ...ฉันรู้เลยว่า คืนนี้ มันจะไม่เหมือนคืนไหนในชีวิตฉันอีกเลย“พายุ…”เสียงแหลมสูงของสาวกลุ่มหนึ่งด้านหลังดังขึ้น ทะลุผ่านจั
และแล้ว… วันนี้ก็มาถึงจริง ๆ มันก็แค่วันศุกร์ธรรมดา — วันหยุดราชการที่ควรจะเอาไว้นอนดูซีรีส์ กินข้าวกล่องแบบเดิม แต่ไม่ใช่วันนี้เพราะวันนี้... หัวใจฉันเต้นแรงราวกับกำลังจะเข้ารอบไฟนอลของเรียลลิตี้โชว์ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสมัครไว้ตอนไหน ไม่มีสคริปต์ ไม่มีพร็อพ ไม่มีแผนสำรอง มีแค่ใจที่สั่น... กับร่างที่ถูกเซตมาเต็มแม็กซ์ตั้งแต่เช้าเสื้อโค้ทยาวคลุมเข่า…เป็นเหมือนเกราะกำบังสุดท้าย ก่อนฉันจะกลั้นใจเปิดประตูแท็กซี่ ก้าวเท้าลงตรงหน้าร้าน 669แสงนีออนกระพริบอยู่เหนือหัว ป้ายไฟสีน้ำเงินดูเย้ายวนกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา และพวกเธอก็ยืนรออยู่ตรงนั้น แพรว กับ แยม สองสาวสุดแซ่บ เพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนที่ไม่เคยปล่อยให้ชีวิตฉันเรียบเกินไปเรานัดกินข้าวบ้าง นัดเมาท์มอยบ้าง แต่คืนนี้...ไม่เหมือนทุกคืน คืนนี้คือ "คืนแรกในไนท์คลับ" ของฉัน ลินลี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร แพรวก็ลากฉันตรงไปที่ห้องน้ำหญิงด้านหลังร้านทันที “ลี่! ไปเติมหน้าด่วน! ปากกับแก้มแกจืดมาก เหมือนคนเพิ่งตื่นมา แล้วโดนหลอกให้มาเที่ยว”“โห พูดขนาดนี้เลยเหรอ…” ฉันยิ้มเจื่อน ๆ แต่ก็ปล่อยให้โดนลากไปแบบคนที่ปากบอกไม่ แต่ใจกำลังลุ้
เย็นวันพฤหัสฯ ก่อนวันนัด..“แกจะใส่เสื้อคอปกไปตายเหรอลี่?! เอาจริงดิ?” เสียงแพรวดังลั่นกลางร้านเสื้อผ้าเหมือนมีประกาศภัยพิบัติเกิดขึ้นตรงราวแขวนฉันยืนเกร็งอยู่หน้าห้องลองเสื้อในห้าง หัวแทบหดเข้าไปในปกเสื้อ แม่ค้าหันมามองฉันเหมือนฉันเพิ่งฆ่าความหวังของแฟชั่นทั้งร้านตายคาที่“ก็มันเรียบร้อยดีอะ...”ฉันตอบเสียงอ่อย พยายามเอามือดึงชายเสื้อให้ยาวขึ้นอีกนิด ทั้งที่มันก็ไม่ขาดไม่เกินอะไรเลย “เรียบร้อยแบบที่ต่อให้ลุคนี้ลง Tinder ก็ไม่มีใครปัดขวาน่ะสิ! แกฟังนะ วันนี้...เราจะอัปเกรดลินลี่เวอร์ชันคุณหนูบัญชีให้เป็น ลินลี่เวอร์ชันคลับเบอร์มือใหม่ เข้าใจมั้ย!”ฉันถอนหายใจอย่างหมดทางสู้ พลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเดิม มองดูเดรสเกาะอกสั้น สีแดงแปร๊ดในมือแล้วก็ได้แต่พึมพำเบาๆ“นี่ฉันจะโดนจับไปรับบทใน นางเอก AVรึเปล่าวะ...”“อย่าคิดเยอะ! ใส่เลย! แล้วเดินออกมาให้ฉันเห็นความสับ!”พอเปิดม่านออกไปแพรวก็ถึงกับช็อกหงายหลังในจินตนาการ“โอ้โห!!! โอ๊ยแม่...นี่แกแอบมีหน้าอกอยู่เหรอ?! ฉันนึกว่าแฟลตกว่า spreadsheet ซะอีก!”“หยุดเลยแพรว! ฉันอาย!”“ไม่ต้องอายเว้ย!! แกสวยมาก สวยแบบ…ถ้าผู้ชายเห็นแล้วไม่เหลียวคือมั
สามวันก่อนหน้าเสียงนาฬิกาปลุกเจ้าเก่าดังขึ้นตรงเวลาเป๊ะเหมือนทุกวัน ฉันเอื้อมมือออกไปกดปิดเสียงมันด้วยความเคยชิน ก่อนจะนอนนิ่ง ๆ สูดหายใจลึกอยู่อีกสามนาทีเต็ม ๆ ราวกับต้องรวบรวมพลังจากทั้งจักรวาลก่อนจะเริ่มวันใหม่“โอเค... เริ่มต้นวันธรรมดาอีกวัน” (ธรรมดาจริงเหรอ? ฉันอยากให้มันเปลี่ยนไปไหมนะ? แล้วเปลี่ยนไป... เพื่ออะไรล่ะ?)ฉันลุกจากเตียงอย่างเชื่องช้า พร้อมกับเสียงบ่นเบา ๆ ในใจ ลมเช้าพัดม่านระเบียงเข้ามาแตะแก้มเบา ๆ เหมือนจะปลอบว่า "วันนี้ก็ยังมีเธออยู่นะ"ขั้นตอนถัดไปก็เหมือนทุกวัน ล้างหน้า แปรงฟัน มัดผมหางม้าต่ำ แล้วหยิบแว่นตากรอบหนาที่เป็นเหมือนเกราะเล็ก ๆ ไว้รับมือกับโลกที่วุ่นวายเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสแล็คสีกรม รองเท้าคัทชูสีดำ ทั้งชุดที่แม่ซื้อให้ในวันรับปริญญายังดูดีเหมือนเดิมนี่แหละ... ชีวิตของฉัน — ลินลี่ วัยเปล่งปล้่ง ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย และเที่ยงตรงเหมือนนาฬิกาเรือนเก่า ตื่นเช้า ขึ้นรถเมล์ตอนเจ็ดโมงตรงเป๊ะ ถึงออฟฟิศแปดโมงทุกวันทำงานแบบตั้งใจจนเพื่อนร่วมงานพูดกันเล่น ๆ ว่าฉันเป็น "เครื่องจักรมีชีวิต" เลิกงานหกโมง กลับบ้าน ทานข้าว ดูซีรีส์เบา ๆ พอให้หัวใจได้พ
“ถ้าความเรียบร้อยเป็นคุณสมบัติของผู้หญิงที่ดี ฉันคงสอบผ่านทุกบททดสอบของโลกนี้แล้ว...”ฉันชื่อ ลินลี่ อายุยี่สิบสี่ปี เติบโตมาในบ้านที่ทุกสิ่งต้องอยู่ในระเบียบ โต๊ะกินข้าวต้องสะอาด ช้อนต้องวางหันหัวออกจากตัว และเสื้อผ้าทุกชิ้นต้องรีดจนเรียบกริบก่อนออกจากบ้านฉันไม่เคยโดดเรียน ไม่เคยกลับบ้านเกินสี่ทุ่ม ไม่เคยโกหกพ่อแม่ และแน่นอน...ไม่เคยมีแฟนใช่ค่ะ ฟังดูเหมือนคนโบราณใช่มั้ย?บางคนบอกว่าฉัน "น่ารัก"บางคนบอกว่าฉัน "น่าเบื่อ"แต่ฉันรู้ตัวดีว่าชีวิตฉันไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยสักนิดจนกระทั่งวันหนึ่ง...วันธรรมดา ๆ ที่ฉันนั่งอยู่ในคาเฟ่กับกลุ่มเพื่อนสนิทพวกเธอกำลังเม้าท์กันอย่างออกรสเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และ...เซ็กซ์เรื่องที่สำหรับฉัน มันเหมือนอยู่คนละโลก“ลี่ แกไม่เคยเลยจริงดิ?”แพรว เพื่อนสนิทฉันถามพลางหัวเราะเบา ๆ“สมัยนี้ไม่มีแฟนไม่เท่าไหร่ แต่ไม่เคยจูบ? ไม่เคยแม้แต่โดนผู้ชายจับมือแบบใจสั่น? โอ๊ย! แกต้องลองบ้างแล้วว่ะ ชีวิตมันสั้น!”ตอนนั้น ฉันแค่ยิ้มจาง ๆ แล้วส่ายหน้าคำตอบที่ดูเหมือนไม่คิดอะไรแต่ข้างใน…กลับเต็มไปด้วยเสียงบางอย่างเบา…แต่กัดกินเหมือนเสียงหยดน้ำในห้องมืดเงียบเกินไ