บารมีสั่งให้เพื่อนอีกคนนำเครื่องดื่มสีสวยที่เขาชงเองกับมือมาเสิร์ฟให้กับสองสาวและเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มอีกหลายคน
อลิษาลังเลที่จะดื่ม เพราะหลายแก้วที่เธอดื่มไปทำเอาเธอมึนศีรษะไม่น้อย
“ดื่มหน่อยน่า อลิซ ใกล้กลับแล้วนี่ครับ”
“เอ่อ...”
ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยปฏิเสธ คนที่จอดรถรออยู่หน้าบ้านก็โทรหาเพื่อเตือนเวลาต้องกลับ
“อีกห้านาที ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านแล้ว เตรียมตัวออกมาได้”
“โอเค”
อลิษากำลังจะกดวางสาย แต่บารมีก็โพล่งขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอเงยหน้ามองเขาโดยลืมเรื่องที่จะกดวางสายไปเสียแล้ว
“อลิซ อย่าเพิ่งรีบกลับสิ บอกให้เพื่อนกลับไปก่อนเถอะ นี่แค่สี่ทุ่มเอง เดี๋ยวให้ไอ้ฟ้าไปส่งก็ได้ หรือไม่ก็นอนที่นี่สิครับ บ้านไอ้ฟ้าออกจะใหญ่ ห้องนอนก็เยอะ”
“เอ่อ เราไม่สะดวก พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”
“งั้นก็ดื่มแก้วนี้ก่อนสิครับ แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะกลับหรือไม่กลับ”
คิริวที่ยังถือสายฟังอยู่รู้สึกไม่ชอบมาพากลที่คนพวกนั้นคะยั้นคะยอให้อลิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นให้หมด จึงรีบลงจากรถแล้วพรวดพราดเข้าไปในโซนงานเลี้ยงทันที
“เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับมาดื่มนะ”
เธอเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นเพื่อเข้าห้องน้ำ โดยที่สายฟ้ารีบเดินตามไปติด ๆ เพราะรู้สึกว่าเธอเมามากแล้ว ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของมัสยาที่แม้จะเมาไม่น้อยเพราะดันแพ้เกมในกลุ่มจึงโดนไปหลายแก้ว
“อลิซ เดี๋ยวสิครับ อย่าเพิ่งกลับเลยนะ ผมไปส่งก็ได้”
สายฟ้ารั้งข้อมือบางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ตัดสินใจที่จะไม่ใช้ยากับเธอแล้ว แต่เขาก็ยังอยากให้เธออยู่ต่ออีกนาน ๆ จึงตามมาอ้อนวอนเผื่อเธอจะใจอ่อน
“เอ่อ ฟ้า เรามีเรียนเช้าจริง ๆ เดี๋ยวคราวหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ ตอนนี้ปล่อยเราก่อนเถอะ”
คนตัวบางพยายามดึงข้อมือออกจากมือใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ มัสยาที่เดินตามมากำลังจะเข้าไปช่วยเพื่อนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งตะโดนเข้ามา
“ปล่อยมืออลิซเดี๋ยวนี้”
คิริวเดินตรงดิ่งเข้ามาหา ดวงตาคมกร้าวดุวาบขึ้น เขารั้งข้อมือของคนตัวบางกลับมาแล้วดันให้เธอไปยืนอยู่ด้านหลังของเขา มัสยาจึงรีบวิ่งเข้ามาสมทบทันที
“นายเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง”
“ฉันเข้ามารับอลิซ”
“อ้อ งั้นก็กลับไปเถอะ อลิซจะอยู่ต่อ แล้วฉันจะไปส่งอลิซเอง”
“อลิซต้องกลับกับฉัน”
“นายเป็นอะไรกับอลิซ”
สายฟ้าก้าวเข้าหาคนตัวโต ทั้งสองจ้องประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใครจนอลิษากลัวว่าจะมีเรื่อง จึงรีบร้องห้าม
“เขาเป็นเพื่อนเราเอง วันนี้เรากลับก่อนนะฟ้า ขอบคุณมากที่ชวนมาทำงาน ไป ริว เมี่ยง กลับกันเถอะ”
เธอดึงข้อมือของเขาให้ยอมกลับแต่โดยดี แถมยังจับมือเพื่อนรักเพื่อพากลับพร้อมกัน ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะต่างคนต่างกลับ
“งั้นผมกับไอ้ฟ้าส่งอลิซกับเมี่ยงแค่ตรงนี้นะครับ ขอบคุณมากที่มาสนุกด้วยกัน หวังว่าโอกาสหน้าเราจะได้มาปาร์ตี้กันอีกนะครับ ส่วนมึง ไปกับกู”
บารมีเดินเข้ามาสมทบ พร้อมทั้งเอ่ยส่งแขกแทนเจ้าของบ้านที่ยังยืนอึ้งราวกับคิดคำพูดไม่ออก ก่อนจะลากเจ้าของบ้านไปยังมุมมืดด้านหนึ่งของตัวบ้านใกล้กับสระว่ายน้ำ สถานที่จัดปาร์ตี้ซึ่งตอนนี้ทุกคนยังสนุกสนานกันอยู่ที่เดิม
“ไป เมี่ยง เดี๋ยวให้ริวไปส่ง”
“เฮ้ย ไม่ต้อง ก็บอกแล้วไงว่าจะเรียกแกร๊บกลับเอง ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันเข้าไปเอากระเป๋าแป๊บเดียว เมื่อกี้เพื่อนของสายฟ้าก็จะกลับพร้อมฉัน อยู่หอติดกันเลย”
“โอเค งั้นฉันกลับก่อนนะ เจอกันที่มหา’ลัย”
“อืม”
อลิษาเงยหน้ามองคิริวซึ่งยืนมองเธอนิ่ง ๆ ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะรีบลากแขนเขาออกมาจากบริเวณนี้ในทันที ส่วนมัสยาก็แอบย่องตามสองหนุ่มนั่นไปเงียบ ๆ
“ไอ้เหี้ยฟ้า กูบอกมึงแล้วใช่ไหม ว่าให้เล่นอลิซเสียให้จบ ๆ ดูก็รู้แล้วว่าไอ้ห่านั่นมันเป็นผัวอลิซ”
“แล้วจะให้กูทำอย่างนั้นได้ไง ยิ่งอลิซมีแฟนแล้วกูยิ่งทำไม่ได้”
สายฟ้าเสยผม เท้าเอวอย่างหงุดหงิด ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ผลลัพธ์ก็คืออลิษามีคนรักอยู่แล้ว และผู้ชายคนนั้นก็ท่าทางเอาเรื่อง
“เหอะ มึงเคยสนด้วยเหรอว่าผู้หญิงที่มึงจะนอนด้วยมีแฟนหรือเปล่า ก็แค่เอากัน แต่ถ้าอลิซเกิดติดใจมึงขึ้นมา มึงก็สมหวัง”
“พอเหอะ กูปวดหัว แค่นี้ก็ผิดหวังมากพอละ”
ยกมือห้ามไม่ให้เพื่อนพูดแทงใจดำ ก่อนบีบดั้งจมูกไล่อาการปวดตุบ
“ก็เพราะมึงปอดแหกไง ถ้ายอมวางยาอลิซแล้วจับแม่งกดตั้งแต่แรก ป่านนี้มึงแตกไปหลายน้ำแล้ว”
“เออ ช่างแม่ง”
สายฟ้าเสยผมลวก ๆ อย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงานแล้วกระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงลงคออีกสองแก้วติด ๆ ด้วยความกลุ้มใจและเสียดาย
“ไอ้สายฟ้า ไอ้ชั่ว”
มัสยาเดินตามกลับเข้ามาในงานแล้วฟาดมือใส่ใบหน้าหล่อเหลาจนเขาหน้าหันไปอีกด้าน เมื่อตั้งสติได้ สายฟ้าก็ค่อย ๆ เบือนหน้ากลับมามองคนตัวบางด้วยแววตาวาวโรจน์ราวกับมีลูกไฟอยู่ในนั้น
“นี่เธอตบฉันทำไม”
“ก็แกมันชั่วไง แกจะปล้ำเพื่อนฉัน วางแผนชั่ว ๆ อะไรกันไว้ล่ะ เสียใจด้วยนะที่เพื่อนฉันมันไม่โง่มาเอาแก”
สายฟ้าหันสบตากับบารมี คนเป็นเพื่อนจึงรีบเคลียร์แขกทุกคนออกจากบริเวณนี้จนหมดอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ฟ้า เดี๋ยวกูจัดการยัยนี่ให้”
“ไม่ต้อง มึงกลับไปก่อน กูจัดการเอง”
บารมีจึงยอมล่าถอยออกจากคฤหาสน์หลังงามของเพื่อนรักทั้งที่ตอนแรกคุยกันเอาไว้ว่าจะนอนที่นี่ ตอนนี้จึงเหลือเพียงสาวน้อยตัวบางซึ่งยืนจ้องหน้าเขาเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อให้ตายลงไปต่อหน้าเธอตรงนี้
“กระจอกว่ะ กล้าทำผิด แต่ไม่กล้าให้คนอื่นอยู่รับรู้ความชั่วของตัวเอง เกิดเป็นลูกคนรวยเสียเปล่า พ่อแม่ก็เป็นคนดีมีชื่อเสียง แต่ลูกชายแม่งโคตรเหี้ย แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ไม่มีปัญญาจีบจนต้องวางยาเอามาทำเมีย โคตรกระจอกเลย ไอ้ตุ๊ด ต่อไปอย่าให้ฉันเจอหน้าแกอีกนะ แกได้จบแบบศพไม่สวยแน่”
สายฟ้ากัดกรามกรอด กำมือแน่น จ้องผู้หญิงตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ ไม่เคยมีใครกล้าดูถูกเขาขนาดนี้มาก่อน
“ยังไง เป็นใบ้เลยหรือไง หรือว่าเถียงไม่ทัน”
คนตัวบางที่ด่าเขาฉอด ๆ จนคอเริ่มแห้ง จึงกระดกเครื่องดื่มสีสวยของตัวเองจนหมดแก้ว แล้วยืนเท้าเอวด่าผู้ชายหน้าตัวเมียอีกเป็นชุด
“ฉันจะบอกพ่อแม่แก จะโพสต์ประจานแกลงในโซเชียล ถ้าแกคิดว่าจะห้ามฉันได้ก็ลองดู เล่นผิดคนแล้ว ไอ้หน้าตัวเมีย”
เธอคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กของตัวเองแล้วฟาดใส่อกแกร่งอย่างแรง ก่อนจะหมุนตัวเตรียมออกจากที่นี่ แต่แล้วกลับต้องยืนนิ่งเพื่อทรงตัว ยกมือขึ้นมาบีบขมับเมื่อภาพตรงหน้ามันพร่าเบลอกะทันหัน
หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำ เลือดในกายวิ่งไหลแล่นพล่าน เธอหอบหายใจแรง รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างโดยเฉพาะจุดอ่อนไหวกลางกายสาวที่ปวดตุบร้อนผ่าวจนเกินจะทน
“ไอ้ชั่ว นี่แกวางยางฉันเหรอ”
เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแหบพร่าปร่าแปร่ง ก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินโซเซแล้วทรุดตัวล้ม โชคดีที่คนตัวโตถลาเข้ามาประคองได้ทันก่อนที่เธอจะล้มลงกองบนพื้น
“เฮ้ย เธอเป็นอะไร”
แม้จะโกรธเธอมากจนแทบอยากหักคอจิ้มน้ำพริก แต่จะให้เธอมานอนตายที่บ้านก็คงไม่ได้
“ไอ้ชั่ว แกวางยาฉัน”
สายฟ้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่ได้ทำ อย่างน้อยก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำแบบนั้นกับอลิษาเพราะมีเธออยู่ด้วย เนื่องจากไม่ต้องการให้เธอถูกเพื่อนของเขาปู้ยี่ปู้ยำ
แต่บารมีกลับยังคงวางยาในเครื่องดื่มของผู้หญิงสองคนนี้อยู่ดี สงสัยว่าพรุ่งนี้ เขาคงต้องเคลียร์กับเพื่อนให้รู้เรื่องเพราะนี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ในเมื่อเธอขู่จะประจานเขาลงโซเชียล
“ฉันไม่ได้ทำ เออ ช่างเหอะ เธอเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ร้อนน่ะสิ ถามได้ ไอ้บ้า ฉันจะทำยังไง ฉันต้องตายแน่ ๆ อืม”
ทุกที่ที่มือใหญ่ร้อนผ่าวของเขาแตะต้อง ทำเอาเธอเผลอตัวหลุดเสียงที่น่าอับอายออกมา
“โธ่เว้ย ซวยฉิบหาย”
เขาตัดสินใจช้อนอุ้มเธอขึ้นไปในห้องนอนของเขา แล้วพาไปแช่น้ำเย็นจัดในอ่างอาบน้ำใบโต แม้เธอจะตัวสั่นสะท้านด้วยความเย็นของน้ำ แต่ก็ยังร้องออกมาอย่างทรมานด้วยความร้อนรุ่มในทุกส่วนของร่างกาย
“อือ ไอ้ฟ้า ไอ้เลว”
“ใจเย็นก่อนดิ๊ ฉันบอกว่าไม่ได้ทำไง นี่ก็รับผิดชอบพาเธอมาแช่น้ำเนี่ย นั่งเงียบ ๆ ค่อย ๆ หายใจ เดี๋ยวก็ช็อกตายพอดี”
“ก็กำลังจะช็อกตายนี่ไง อืม ไอ้บ้า”
คนตัวบางใบหน้าแดงก่ำ เธอหอบหายใจสะท้าน ทั้งยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองทิ้งราวกับคนไม่มีสติ ทำเอาสายฟ้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อภาพความงดงามของสาวสวยเรือนร่างสุดเย้ายวนที่ขาวผ่องไปทั้งร่างปรากฏตรงหน้า เรียกเลือดในกายหนุ่มให้วิ่งพล่านแล้วไปกระจุกกองรวมกันอยู่ที่ความเป็นชายซึ่งขณะนี้เหยียดขยายตั้งโด่จนปวดหนึบไปทั้งลำ
“เฮ้ย ยัยเมี่ยง เธอแก้ผ้าทำไมวะ อยากโดนเย**หรือไง”
“ก็เออน่ะสิ แกลงมานี่เลย”
เธอคว้าคอเสื้ออย่างแรงจนเขาถลาลงมานั่งประจันหน้ากันในอ่างอาบน้ำ เสื้อผ้าเปียกชุ่มบนกายถูกเธอจับถอดออกอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ทั้งเขาและเธอปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้มกายเสมอกัน
คนตัวบางกระโจนขึ้นนั่งคร่อมแล้วปล้ำจูบซอกคอแกร่งสะเปะสะปะ มือไม้สั่นเทาบีบขยำกายใหญ่มั่วไปหมด
“เมี่ยง ทำแบบนี้ไม่ได้ อืม”
ลำพังแค่เห็นเรือนร่างแสนเย้ายวนของเธอ เขาก็ตั้งโด่ทันที นี่ยังมีสัมผัสนุ่มนิ่มจากเรือนกายของเธออีก มันยากที่จะห้ามใจไม่ให้กะซวกเธอจนไส้ไหลจริง ๆ
“ฟ้า นายช่วยฉันที”
“เธอรู้ไหม ว่ามันหมายความว่ายังไง”
“เย้ สอบเสร็จแล้ว ไปฉลองกันดีกว่าลิซ”ในที่สุด การเรียนในภาคเรียนแรกก็จบลง หลังจากวันที่มีเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้น เธอสองคนก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานหาเงินจนแทบไม่มีเวลาจะคิดอะไรเหมือนเดิม กลายเป็นว่าความผิดพลาดในคืนนั้นถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังจนแทบจะลืมมันไปแล้ว“แต่คืนนี้ยังต้องไปนอนคอนโดริวน่ะสิ”“ขอสักคืนไม่ได้เหรอ ที่ผ่านมาแกอ่านหนังสือโคตรหนักเลยนะ ให้แกไปฉลองสอบเสร็จแล้วนอนกับฉันสักคืนไม่ได้เลยหรือไง”“แกก็รู้ว่าหมอนั่นงกจะตาย”“ลองดูก่อนไหม”“อืม ก็ได้ จะโทรไปขอเดี๋ยวนี้แหละ”อลิษาโทรหาคิริวที่ตอนนี้มาจอดรถรอรับเธอยังจุดเดิมนานแล้ว เขากดรับสายอย่างรวดเร็วราวกับนั่งจ้องหน้าจอตลอดเวลาเพื่อรอให้เธอโทรหาอย่างไรอย่างนั้น“ไง สอบเสร็จแล้วใช่ไหม ฉันจอดรถรออยู่ที่เดิมนะ”“เอ่อ ริว คือฉันจะขออนุญาตไปฉลองกับเมี่ยง คืนนี้ก็จะนอนห้องเมี่ยงนะ ได้ไหม”“ได้ยังไง พรุ่งนี้วันเสาร์ เธอก็ต้องกลับไปนอนกับแม่ แล้วฉันรอเธอมาตั้งเกือบครึ่งเดือนแล้วนะยัยแม่มด ฉันจะลงแดงตายอยู่แล้ว จะให้น้ำฉันมันไหลออกมาทางหูเลยหรือไง”คิริวโวยวายเสียงดังลั่นรถ ใบหน้าถมึงทึงไม่พอใจ ก่อนสอบถึงสองสัปดาห์ เธอตั้งกฎไม่ใ
มัสยาที่นั่งกับพื้นพิงประตูห้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวก ๆ สูดลมหายใจลงปอดจนลึก กัดฟันแน่นแล้วลุกขึ้นยืน แม้ส่วนอ่อนไหวยังปวดแปลบร้าวรานจนต้องสูดปาก แต่เธอกลับรู้สึกว่าความเจ็บปวดนี้มันช่วยตอกย้ำคนโง่อย่างเธอให้มีสติรู้ตัวไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวด้วยการตามกลับไปเอาเรื่องหมอนั่นเลย ทั้งที่รู้ว่าสองคนนั้นตั้งใจวางยา แต่เธอกลับมัวแต่โกรธจนประมาทเกินไปเสียดายความสาวที่ถูกทำลายลงไปราวกับของไร้ค่าด้วยน้ำมือผู้ชายเลวทรามคนนั้นแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขามันจะเริ่มจากตัวเธอที่ทนต่อความต้องการด้านมืดจากฤทธิ์ยาไม่ไหวจนลงมือยั่วยวนเขาให้ตบะแตก แต่นั่นมันก็เพราะยานรกของเขาทั้งนั้น“ไอ้สายฟ้า ชาตินี้อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย”เธอปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเรียกความมั่นใจกลับคืนมาแล้วรีบอาบน้ำล้างคราบคาวที่ผู้ชายคนนั้นทิ้งเอาไว้เพื่อไปให้ทันเวลาเข้าเรียนในคาบบ่ายแต่เมื่อออกจากห้องน้ำเธอก็ทรุดฮวบลงนั่งบนเตียง ร่างกายบอบช้ำร้อนผ่าว ส่วนอ่อนไหวแสบขัดจนแทบจะหุบขาไม่ได้ จึงรีบหายากินแล้วนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ไปเรียนสายฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นหลังจากที่หน้าอกหนั่น
“รู้ ฉันทรมาน ทำยังไงดี”ดวงตาสับสนตื่นกลัวช่างน่าสงสาร เขาไม่ได้ตั้งใจจะวางยาเธอ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว ก็เป็นความรับผิดชอบของเขาที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้“อดทนหน่อยเมี่ยง แช่น้ำอีกหน่อย”แม้รู้ว่าเพียงแค่แช่น้ำจะไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ แต่ถ้าเขาทำอะไรเธอลงไป พรุ่งนี้เช้าเขาต้องตายแน่ ๆ“ไม่เอา ฉันไม่ไหวแล้ว”คนตัวบางคว้าท่อนร้อนมาจดจ่อที่ปากทางรักก่อนจะกดตัวลงช้า ๆ เพื่อครอบครองเขาทีละนิดจนมิดโคน“อ๊าย...เจ็บ”ร่างบางสั่นสะท้าน ร่องรักคับแน่นตอดรัดระรัวพร้อมพยายามผลักไสท่อนร้อนของเขาออกจากร่างกาย ทำให้รู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาได้ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอไปเสียแล้ว“เมี่ยง...”“ฉันเจ็บ”เขามองใบหน้าสวยที่มีน้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสดสั่นระริก ช่างน่าสงสารจนหัวใจดวงโตอ่อนยวบ“เดี๋ยวจะดีขึ้น ฉันรับปาก”ตัดสินใจสอดมือเข้าล็อกต้นคอของเธอแล้วประกบปากละเลียดจูบอย่างเชื่องช้าฉ่ำหวาน ริมฝีปากสั่นระริกนั่นพยายามอย่างยิ่งที่จะจูบเขาตอบ ทั้งที่เงอะงะไม่เป็นงานเลยก็ตามที“เธอมันซวยจริง ๆ เลย เมี่ยง”สายฟ้าพึมพำเสียงกระเส่าในขณะที่ไต่จูบซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง สัมผัสวาบหวามเล่นงานจนผนังบอบบา
บารมีสั่งให้เพื่อนอีกคนนำเครื่องดื่มสีสวยที่เขาชงเองกับมือมาเสิร์ฟให้กับสองสาวและเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มอีกหลายคนอลิษาลังเลที่จะดื่ม เพราะหลายแก้วที่เธอดื่มไปทำเอาเธอมึนศีรษะไม่น้อย“ดื่มหน่อยน่า อลิซ ใกล้กลับแล้วนี่ครับ”“เอ่อ...”ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยปฏิเสธ คนที่จอดรถรออยู่หน้าบ้านก็โทรหาเพื่อเตือนเวลาต้องกลับ“อีกห้านาที ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านแล้ว เตรียมตัวออกมาได้”“โอเค”อลิษากำลังจะกดวางสาย แต่บารมีก็โพล่งขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอเงยหน้ามองเขาโดยลืมเรื่องที่จะกดวางสายไปเสียแล้ว“อลิซ อย่าเพิ่งรีบกลับสิ บอกให้เพื่อนกลับไปก่อนเถอะ นี่แค่สี่ทุ่มเอง เดี๋ยวให้ไอ้ฟ้าไปส่งก็ได้ หรือไม่ก็นอนที่นี่สิครับ บ้านไอ้ฟ้าออกจะใหญ่ ห้องนอนก็เยอะ”“เอ่อ เราไม่สะดวก พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”“งั้นก็ดื่มแก้วนี้ก่อนสิครับ แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะกลับหรือไม่กลับ”คิริวที่ยังถือสายฟังอยู่รู้สึกไม่ชอบมาพากลที่คนพวกนั้นคะยั้นคะยอให้อลิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นให้หมด จึงรีบลงจากรถแล้วพรวดพราดเข้าไปในโซนงานเลี้ยงทันที“เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับมาดื่มนะ”เธอเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นเพื่อเข้าห้องน้ำ โดย
แสงแดดยามสายส่องผ่านประตูกระจกซึ่งเปิดผ้าม่านเอาไว้มองเห็นระเบียงกว้างของห้องนอนในคฤหาสน์หลังใหญ่ ปลุกหญิงสาวแสนสวยที่หลับเป็นตายมาหลายชั่วโมงให้ตื่นขึ้นดวงตากลมแต่เรียวเล็กราวเมล็ดอัลมอนด์กะพริบถี่ ความรู้สึกบอบช้ำจากการเสียตัวครั้งแรกทำให้เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แรงขยับเพียงเล็กน้อยทำเอาจุดอ่อนไหวกลางกายสาวเจ็บแสบร้าวรานจนต้องสูดปากเบา ๆภาพความทรงจำเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาในสมองเป็นฉาก ๆ แม้จะมึนเมาเพราะฤทธิ์ยาเสียสาว แต่ความรู้สึกวาบหวามยังคงตราตรึงเมี่ยง มัสยา นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่สี่ สาวกำพร้าปากกัดตีนถีบสู้ชีวิตที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอกแกร่งที่ให้เธอใช้หนุนนอนต่างหมอนมาทั้งคืน เขายังคงนอนหลับตาพริ้ม หายใจสม่ำเสมอ ริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูยกยิ้มเล็กน้อยราวกับกำลังฝันดี“บ้าฉิบ ซวยอะไรอย่างนี้วะ”คนตัวบางย่องลงจากเตียง จำได้ว่าเสื้อผ้าของตัวเองถูกถอดทิ้งอยู่ในห้องน้ำจึงรีบวิ่งเข้าไปในนั้น แต่สภาพของมันเปียกชุ่มทั้งชุดจนไม่สามารถใส่ได้ จึงขโมยเสื้อผ้าของคนบนเตียงมาใส่แก้ขัดแล้วรีบวิ่งลงจากคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งเงียบเหงาราวกับไม่มีคนอาศัยอยู