"ฮันนี่จะไม่ยอมเสียพี่ให้ใครหรอกพี่ลีโอ.." สาวเจ้าพูดอย่างแน่วแน่ เธอไม่ผิดสักหน่อย เธอมาก่อนด้วยซ้ำ ทุกคนนั่นแหละที่ใจร้ายกับเธอ เธอเป็นเด็กดีของเขามาโดยตลอด เขาเป็นคนที่ให้ชีวิตใหม่เธอ เธอไม่ยอมเสียเขาให้ใครเด็ดขาด
"พี่ลีโอคะ อันนี่จะไปเรียนแล้ว ไปส่งอันนี่นะคะ" สาวเจ้าเดินเข้ามาออดอ้อนและทำตัวราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาเพิ่งคุยโทรศัพท์กับมารดาสักนิดเดียว "ไปไหวเหรอ หื้ม เมื่อคืนขย่มอย่างเอาเป็นเอาตาย" เขาเอ่ยแซวในขณะที่ลูบศีรษะทุยเล็กอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน "พูดอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจะตาย" เธอพูดยิ้มๆ เขินอายอย่างเก็บไม่มิด จากนั้นใบหน้าหวานก็ค่อยๆ ยื่นใบหน้าเข้าไปรับจูบแผ่วเบาจากชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน "ไม่ไปเรียนสักวันคงไม่เป็นไรหรอก" ชายหนุ่มพูดเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความต้องการก่อนจะอุ้มสาวเจ้าในท่าอุ้มแตงเดินเข้าไปในห้องแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างรีบเร่ง "อ๊า ฮันนี่ต้องไปเรียน ยะอย่าทำรอย" ทั้งเอ่ยเสียงครางแผ่วเบาและช้อนสายตาฉ่ำปรือมองอีกคนที่เลื่อนใบหน้าจากซอกคอเพื่อมาดูดเต้าอวบอิ่มของเธอ จ๊วบ จ๊วบ แผล็บ "อื้ม พะพี่ลีโอ ฮันนี่ไม่ไหวแล้ว อร๊าง ใส่เข้ามาสักทีสิคะ อ๊ะ อย่าแกล้งฮันนี่" เธอร้องขอเสียงออดอ้อนในขณะที่เรียวขาค่อยๆ อ้าออกกว้างตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อเชื้อเชิญ แม้ว่ามันจะบอบช้ำเพราะเมื่อคืนนี้ก็ตาม "หึ ยั่วเก่งชะมัดเลย" เขาเลียริมฝีปากตัวเองอย่างหื่นกระหายก่อนจะจัดการกินเหยื่อน้อยตรงหน้าค่อยครึ่งวันจนอ่อนเพลียไปข้าง เสียงครวญครางสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นเป็นระยะๆ ในห้องนอนหรู ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! "อ๊ะๆ พี่ลีโอ อึก จะจุก มะไม่ไหวแล้วค่ะ" เสียงหวานครางกระท่อนกระแท่นในขณะที่ร่างกายโยกคลอนใต้ร่างของเขาอย่างแรงก่อนจะยกมือขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งแนบแน่นแล้วบดจูบอีกฝ่ายในขณะที่เรียวขาสวยเกี่ยวรัดเอวสอบแนบแน่น "พี่จะเสร็จแล้ว อ๊า ตอดควxชะมัด!" เขาครางเสียงแหบพร่าก่อนจะซุกไซร้ซอกคอระหงอย่างหลงไหล สักพักก็ปลดปล่อยพร้อมๆ กัน ในขณะที่สอดประสานกันแนบชิดและโอบกอดกันแนบชิดจนเนื้อตัวเปียกไปด้วยหยาดเหงื่อ จากนั้นสองร่างก็หลับไหลอีกครั้งในอ้อมกอดของกันและกัน ฮันนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงบ่ายๆ เธอมองหน้าลีโอด้วยความรักก่อนจะกดจูบมุมปากของเขาแผ่วเบาแล้วผละออกจากอ้อมแขนของเขาแล้วยืนขึ้นทั้งเนื้อตัวเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำ มือบางลูบไล้เนื้อกายตัวเองในอ่างอาบน้ำด้วยความหลงไหลแล้วลุกขึ้นยืนมองตัวเองในกระจกด้วยความรอยยิ้มในขณะที่ลากมือลูบไล้รอยรักบนตัวที่ลีโอทำไว้ตั้งแต่ลำคอจนถึงขาอ่อนอย่างน่าหวาดเสียว "ฮันนี่ไม่ยอมเสียพี่ให้ใครหรอกค่ะ เพราะยังไงลูกของพี่ต้องเกิดจากฮันนี่คนเดียว อันนี้มาก่อนและคนที่ผิดคือแม่ของพี่ต่างหาก" เธอเอ่ยเสียงแผ่วก่อนจะเดินไปแต่งตัวด้วยชุดเดรสน่ารักๆ เหมือนใบหน้าแล้วออกมาแต่งหน้าอ่อนๆ พร้อมกับยิ้มกระเป๋าแสนแพงที่อีกฝ่ายซื้อให้แล้วหยิบถุงเอกสารสีน้ำตาลที่เป็นสัญญาระหว่างคนรักของเธอและว่าที่ภรรยาที่แม่ของเขาหาให้ "เดี๋ยวฮันนี่กลับมานะคะ" เธอเดินมาจูบแก้มเขาเบาๆ แล้วหยิบกุญแจรถคันหรูของเขาแล้วเดินออกไปจากห้องเพราะเธอนัดหมายกับคริสติน่าเอาไว้ที่ร้านอาหาร . "เข้าเรื่องเลยนะคะ คุณคงพอจะรู้ว่าฉันเป็นคนรักของพี่ลีโอ เอกสารวันนี้หวังว่าคุณจะเซ็นนะคะ ข้อตกลงที่คุณเคยพูดกับพี่ลีโอเอาไว้ว่าจะตกลงแต่งงานกันเพียงแค่ในนามเป็นระยะเวลา 1 ปี แล้วจะเลิกราเพื่อผลประโยชน์ของคุณและพี่ลีโอ ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกันทุกกรณี นี้ค่ะ อ่านก่อนได้นะคะถ้าคุณไม่ชอบตรงไหน" ฮันนี่ยื่นเอกสารไปให้คริสติน่าด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้มีแววร้ายกาจเลยสักนิด "เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ก็ดี อีกอย่างก็อยากให้รู้ไว้ว่ามันเป็นข้อตกลง ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องหึงหวงทีหลังเวลาที่ฉันแสดงละครหรือว่าควงเขาออกงานสังคม เพราะงั้นเธอวางใจได้เลยว่าฉันกับเขาไม่มีอะไรกันนอกจากผลประโยชน์" เธอยกยิ้มก่อนจะเซ็นเอกสารโดยไม่ต้องคิดเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องผัวเมียสักเท่าไหร่ เธอเข้าใจดีว่าอะไรเป็นอะไร และที่สำคัญเธอเคยผ่านความเสียใจเรื่องที่คนรักนอกใจไปมีคนอื่นได้ดีว่ามันรู้สึกเจ็บปวดมากขนาดไหน "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พี่คริส" หล่อนยกยิ้มใสซื่อแล้วยื่นมือมาตรงหน้าเธอเพื่อทำสัญญาและทำความรู้จัก เธอลังเลเพียงนิดแล้วยื่นมือไปจับเพียงครู่แล้วผละมือออกมา สักพักเธอก็ยืนขึ้นเต็มความสูงอวดรูปร่างเซ็กซี่ในชุดเดรสสายเดี่ยวเว้าหลังโชว์แผ่นหลังขาวเนียนยาวไปแทบถึงก้นจนน่าหวาดเสียว เธอสวมแว่นสีชาแล้วเดินออกไปอย่างไม่คิดสนใจอะไรสาวเจ้าอีก มีเพียงเอกสารฉบับนึงที่เอากลับไปด้วยเพียงเท่านั้น หมับ! "อ๊ะ!" เธอตกใจเพราะระหว่างนั้นมีมือปริศนามาดึงแขนเธอในระหว่างที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถคันหรูแล้วเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่ออีกฝายกระชากเธอขึ้นรถตู้ของเขาที่จอดไว้อยู่ไม่ไกล "ปล่อยนะเฟลิกซ์! อย่ามายุ่งกับฉัน เราจบกันไปนานแล้ว ปล่อย!" เธอตะโกนใส่หน้าของเขาอย่างโมโห อีกฝ่ายคิดจะทิ้งก็ทิ้งง่ายๆ พอเธอกลับมาเปลี่ยนตัวเองเขากลับนึกเสียดายและหึงหวง "ปล่อยงั้นเหรอ เหอะ! ปล่อยในอ่ะได้อยู่ ถึงเมื่อไหร่เตรียมตัวเปลี่ยนเสียงร้องเถียงฉันไปเป็นเสียงครางดีกว่านะที่รัก ออกรถ!" เฟลิกซ์ยกยิ้มร้ายกาจก่อนจะกระชากผู้เป็นภรรยาขึ้นรถด้วยความหงุดหงิดที่อีกฝ่ายต่อต้านแบบนี้หลายปีต่อมา "ป๊ะป๊า~~" เสียงน้อยๆ ออดอ้อนของน้องปานตะวัน สาวน้อยผู้เป็นลูกสาวของคริสติน่าและเฟลิกซ์ ตอนนี้ก็อายุราวๆ ห้าขวบแล้ว คริสติน่าตัดสินใจย้ายออกมาสร้างครอบครัวด้วยตัวเองกับผู้เป็นสามี เฟลิกซ์เองก็บินไปกลับระหว่างอังกฤษอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าไม่มีงานสำคัญเขาก็ไม่ได้กลับไป เนื่องจากอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวซะส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องครอบครัวเธอ ตอนแรกก็โกรธมากๆ แหละ ต่อให้ขอโทษขอขมาก็ยังมีเคืองๆ อยู่ เธอก็เลยตัดสินใจย้ายออกมาอยู่เป็นส่วนตัวดีกว่า แต่พอวันที่เธอคลอดน้องตะวันออกมาพวกท่านก็แวะมาเยี่ยม จากที่เคยโกรธเคือง แต่ทว่าพอเห็นหน้าหลานก็ใจอ่อน วันนี้ก็เหมือนกัน วันศุกร์ ปานตะวันเรียนวันสุดท้ายของสัปดาห์แล้ว ทานข้าวอาบน้ำเรียบร้อยก็จะให้คุณพ่อไปส่งที่บ้านหาคุณตากับคุณยายที่บ้าน"รีบไปอาบน้ำแล้วมาทานข้าวด้วยกันนะคะ ทั้งพ่อทั้งลูกเลย ทานข้าวเสร็จหนูค่อยไปนอนกับคุณยาย" หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ จากนั้นก็จัดเตรียมโต๊ะอาหารเพื่อรอลูกสาวและสามีลงมาทานข้าวเย็นด้วยกัน .เวลาต่อมา"อร่อยมั้ยคะคนเก่ง ทานเยอะๆ นะ คุณแม่ทำสุดฝีมือเลยค่ะ" เสียงหวานพูดกับลูกสาวของตนด้วยท่าทีที่อ่อนโยน"ขอบคุณค่
หมับ!"มีอะไรคะ?" อันนี้ที่กำลังยืนทำความสะอาดของใช้ลูกอยู่ก็เอ่ยถามผู้เป็นสามีที่เข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลังโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง เธอเกือบทำของใช้ลูกตกแล้วแหนะ"ป่าว แค่อยากอ้อน" เสียงออดอ้อนอู้อี้อยู่แผ่นหลังขาวเนียน ฮันนี่เธอยังคงสวยและทำให้เขาพิศวาสอยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะผ่านการมีลูกมาแล้วก็ตาม"หื้ม? อ้อนเอาอะไรคะ?" เธอขมวดคิ้วยกยิ้มบางๆ แม้รู้ว่าอาการที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออาการอะไรก็เถอะ สักพักเธอก็พลิกตัวกลับมามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม อยากเห็นคุณพ่อจะอ้อนไปถึงเมื่อไหร่"อ้อนอะไรเบบี๋ก็รู้นิค้าบ" พอผู้เป็นภรรยาเดาทางได้ ก็อ้อนขี้นมากกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงไปกับซอกคอขาวเนียนของเจ้าหล่อน พร้อมกับเสียงอู้อี้เอาแต่ใจราวกับเด็กน้อยหมับ!"หึ เอาไว้คืนนี้นะคะ" สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยบอกในสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าที่เขามาอ้อนเพราะต้องการอะไร มือบางบีบแก้มใสเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยวคุณพ่อลูกหนึ่งขี้อ้อน"ค้าบบ" พยักหน้าหงึกๆ ราวกับเด็กน้อยสำนึกผิดแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอภรรยาอีกครั้ง ได้กลิ่นหอมๆ ก็ยังดี.23 : 45 PM"อื้อ~" เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคออย่างรู้สึกถึงสิ่งที่กำลังรบกวน เธอเผ
"ที่รัก ลูกนอนแล้ว เวลาผมแล้ว" เฟล็กซ์เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างดีใจจนแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ในขณะที่ภรรยาของตนกำลังแอบทำหน้าเบื่อหน่ายไม่ให้เห็น "เห้อ ฉันเพลียค่ะ เอาไว้ก่อนนะ" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากผ้าห่มผืนหนามาบอกเขาเสียงอู้อี้อ่อนเพลีย "คุณบอกว่าจะนอน แต่ไม่นอน" เฟลิกซ์ขมวดคิ้วยุ่ง ภรรยาบอกว่าง่วงนอน แต่ไหงหยิบมือถือขึ้นมาอ่านอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนใจเขาเลยสักนิด และไม่เห็นบอกว่าจะนอนอย่างที่ปากบอกเลยด้วยซ้ำ "ก็ไม่ได้ใช่ เช็คข่าวบ้าง แปปเดียวก็นอนแล้ว ได้ยินมั้ยคะว่า ง่วง จะนอน" เธอตอบเสียงอู้อี้เพราะมุดหน้ากับผ้าห่ม จะทำเรื่องอย่างว่าทุกวันเลยรึไง เธอก็เหนื่อยเป็นนะ เหนื่อยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กและยังต้องมาเหนื่อยเอาใจสามีบ้ากามอีก "แล้วเคยขัดขืนได้รึไงกัน" เขายกยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะ พอเอาเข้าจริงสุดท้ายก็ยอม สุดท้ายก็อ้าปากครางดังลั่นห้อง ปากบอกว่าไม่เอาๆ สุดท้ายก็ให้ผัวอย่างเขาเอาอยู่ดี ครางจนลืมไปเลยว่าลูกนอนอยู่ห้องข้างๆ . เวลาต่อมา.... "อื้อ อย่ากวน" เธอคิดว่าการที่เธอผล็อยหลับไปเขาจะหยุดคิดที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ แต่ไม่เลย ไม่เหลือ!! สุดท้ายเธอก็ถูกจับพลิกกลับมาห
2 ปีต่อมา "อ๊า ซี๊ด!! สะเสียว" เธอครางกระเส่าภายในห้องนอนใหญ่เมื่อลิ้นหนาของเขาตวัดเลียกลีบแคมสาวสีชมพูของเธอปาดไปปาดมาจนเอวเล็กลอยหวือขึ้นกลางอากาศเนื่องจากความเสียวมาเยือน อื้อ ทำอะไรคะ" เธอถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรแต่แค่แกล้งถามไปก็เท่านั้น เขาคลอเคลียขนาดนี้ไม่รู้ก็บ้าแล้ว เหนื่อยจากการเลี้ยงลูกแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับผัวอีก! แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ! "อื้ม อยู่นิ่งๆ ผมไม่ไหวแล้ว คุณสนใจแต่ลูกช่วงนี้ ผมอยาก ให้ผมเถอะคริส" เขาล็อคสะโพกเล็กเอาไว้ก่อนจะตวัดลิ้นรัวๆ หลังจากเอ่ยประโยคคำขอร้องเซ็กส์จากภรรยาสาว แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ! "อ๊ะๆ สะเสียวจัง อร๊าง มะไม่ไหว" เธอเปล่งเสียงครางออกมาเต็มที่เมื่อเขานั้นทั้งขบเม้มและดูดกายสาวของเธอราวกับว่ามันเป็นของอร่อยยังไงยังงั้น มือบางปล่อยจากผ้าปูเตียงมาขยำเส้นผมดกดำของเขาอย่างใช้เป็นที่พึ่งระบายความเสียวซ่าน ส่วนเรียวขาสวยถูกจับพาดบ่าแกร่ง ปลายเท้าสวยจิกเกร็งหัวไหล่ของเขาซึ่งเขานั้นไม่ได้ห้ามเพราะรู้ดีว่าภรรยานั้นเสียวซ่านมากขนาดไหน จ๊วบ จ๊วบ ซูด! "อื้ม" เสียงครางในลำคอของเฟลิกซ์ดังขึ้นฮึมฮัมอย่างพอใจแล้วขบเม้มขบดูดน้ำหวานที่กำลังไหลชะโลมกุห
"มาทานข้าวก่อน อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นสิ" เฟลิกซ์เอ่ย เขาปลุกเธอขึ้นมาทานข้าว แต่ทว่าเธอกลับมานั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่คนเดียวบนโต๊ะอาหารเพราะถูกเขาปลุกจนขัดใจ "แล้วจะมาปลุกทำไม ปกติบ่ายๆ ฉันถึงจะตื่น" พูดแต่ก็ทานอาหารตรงหน้าโดยการตักซุปมิโซะขึ้นมาชิมเล็กน้อย สักพักใบหน้าหวานเบ้ออกมาเพราะกลิ่นที่เหม็น"เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ แต่ช่วงที่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น คริสชอบทานมากๆ นะ" ขมวดคิ้วแล้วหญิงเอาช้อนที่เธอวางไว้ขึ้นมาตักซุบตรงหน้าขึ้นมาชิม"มันก็อร่อยเหมือนเดิมนะ ไม่ได้หมดอายุหรือว่าเสียเลยนะ" เขาขมวดคิ้วบอกเธอ คริสติน่าแปลกไปเรื่อยๆ ในสายตาของเขา ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ หรือว่าจะป่วย"ก็ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ชอบ อึก!" เธอกำลังจะพูดแต่ทว่าก็ต้องรีบปิดปากวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยทันทีอ้วก! แหวะ! "คริสเป็นอะไรคริส เป็นอะไรคะ!?" เฟลิกซ์ที่รีบตามเข้ามาก็เอ่ยถามเสียงตื่นตระหนกตกใจเพราะจู่ๆ คนรักก็บอกว่าเหม็นอาหารแล้วรีบวิ่งมาอาเจียนเดี๋ยวนั้นอึก แหวะ! อ้วก!"ไม่ต้องมา อึก ยุ่ง!" เพราะเขานั่นแหละที่เอาอาหารนั่นมาจนเธอต้องมาอาเจียนแพ้ท้องอยู่แบบนี้ไง"ขอโทษ ไม่คิดว่าคริสจะเหม็นขนาดนี้" เขาเอ่ยเสียงอ่อนด้ว
สุดท้ายเธอก็นั่งทานข้าวที่เขาซื้อมาอยู่ดี ไม่ได้ใจง่ายยอมกินของเขาหรอกนะ ลูกเธอหิวต่างหากหล่ะ ย้ำว่าลูกหิว แต่น่าแปลก แทนที่เธอจะเหม็นอาหาร แต่กลับชอบทานซะงั้น เมื่อวานกลับไปทานข้าวที่บ้าน แต่เธอกินไม่ได้ เหม็น แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครสงสัยอะไรเธอ "มาทางไหนก็กลับไปสิ รบกวนเวลานอนคนอื่นเค้า" เธอเอ่ย จากนั้นก็ลุกขึ้นหมายจะเดินกลับเข้าไปในห้อง ในเมื่อเขาเป็นคนหาอาหารมาให้เธอทาน งั้นก็ทำความสะอาดล้างถ้วยล้างจานไปแล้วกันหมับ! "มีอะไร?" เธอเอ่ยด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดเพราะจู่ๆ เขาก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาจับมือเธอไม่ให้เดินไปที่ห้อง "ห้องนอนอยู่นู้น ส่วนตรงนั้น ประตูห้องน้ำรับแขก" /// อะไอ้บ้า! จะพูดทำไมเนี่ย เธออายไปหมดแล้วนะ"หึ" เฟลิกซ์หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะคนตรงหน้าเขินแทบแทรกแผ่นดินหนี โครตเขินอ่ะบอกเลย ใครไม่เขินก็บ้าแล้ว"จะมาหัวเราะอะไร กลับไปเลยนะ" เธอเอ่ยปากไล่แล้วชี้นิ้วไปทางประตูห้องเพื่อให้เขากลับไป .หมับ!"อ๊ะ มากอดทำไมเนี่ย!? อึดอัด" เธอกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว แต่ทว่าก็มีอ้อมแขนแกร่งของเขาเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน "อยู่นิ่งๆ สิ เห็นมั้ยนั่น ฝนกำลังจะตก ฟ้าร้องแล้ว