"มาทานข้าวก่อน อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นสิ" เฟลิกซ์เอ่ย เขาปลุกเธอขึ้นมาทานข้าว แต่ทว่าเธอกลับมานั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่คนเดียวบนโต๊ะอาหารเพราะถูกเขาปลุกจนขัดใจ
"แล้วจะมาปลุกทำไม ปกติบ่ายๆ ฉันถึงจะตื่น" พูดแต่ก็ทานอาหารตรงหน้าโดยการตักซุปมิโซะขึ้นมาชิมเล็กน้อย สักพักใบหน้าหวานเบ้ออกมาเพราะกลิ่นที่เหม็น "เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ แต่ช่วงที่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น คริสชอบทานมากๆ นะ" ขมวดคิ้วแล้วหญิงเอาช้อนที่เธอวางไว้ขึ้นมาตักซุบตรงหน้าขึ้นมาชิม "มันก็อร่อยเหมือนเดิมนะ ไม่ได้หมดอายุหรือว่าเสียเลยนะ" เขาขมวดคิ้วบอกเธอ คริสติน่าแปลกไปเรื่อยๆ ในสายตาของเขา ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ หรือว่าจะป่วย "ก็ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ชอบ อึก!" เธอกำลังจะพูดแต่ทว่าก็ต้องรีบปิดปากวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยทันที อ้วก! แหวะ! "คริสเป็นอะไรคริส เป็นอะไรคะ!?" เฟลิกซ์ที่รีบตามเข้ามาก็เอ่ยถามเสียงตื่นตระหนกตกใจเพราะจู่ๆ คนรักก็บอกว่าเหม็นอาหารแล้วรีบวิ่งมาอาเจียนเดี๋ยวนั้น อึก แหวะ! อ้วก! "ไม่ต้องมา อึก ยุ่ง!" เพราะเขานั่นแหละที่เอาอาหารนั่นมาจนเธอต้องมาอาเจียนแพ้ท้องอยู่แบบนี้ไง "ขอโทษ ไม่คิดว่าคริสจะเหม็นขนาดนี้" เขาเอ่ยเสียงอ่อนด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด จากนั้นก็ค่อยๆ ยกมือลูบแผ่นหลังบางแผ่วเบา อย่างปลอบประโลม อ้วก! "ผมว่าไม่ได้แล้ว คริสไปหาหมอเถอะ ผมเอาไป" เขาทำท่าจะเข้ามาพาตัวเธอไปหาหมอ แต่ทว่าคริสติน่ากลับขัดขืนไม่ยอมไป เอาแต่งอแง "ก็บอกว่าไม่ไป ไม่ได้เป็นอะไรไง ถอยไป" เธอกระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิด "ไม่เอา คริสไม่เคยเป็นแบบนี้ มีอยากที่ไหนเหม็นอาหารจนวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำแบบนี้" เฟลิกซ์ยังคงดึงดันที่จะที่จะพาคนรักไปหาหมอให้ได้ "โอ้ย ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรไง" เธอสะบัดแขนของเขาออกอย่างหงุดหงิด "แต่.." "โอ้ย ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ เข้าใจมั้ยว่าแพ้ท้องจะถามอะไรนักหนา หลีกไป คนจะนอน" เธอกระแทกเสียงใส่อย่างเบื่อหน่าย จากนั้นก็เดินหนีกลับไปนอนในห้องหลังจากที่บ้วนปากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้คนตรงหน้านิ่งเงียบไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเมื่อรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ และอาหารที่เป็นเมื่อสักครู่คือแพ้ท้อง ตึก! ตึก! ตึก! "วะว่าไงนะ คริสท้องจริงๆ ใช่มั้ย เค้าเป็นลูกของผมใช่มั้ยคริส" เฟลิกซ์เอ่ยถามเสียงตื่นๆ เขากำลังตื่นเต้นจนมือสั่นและแทบทำตัวไม่ถูก "อื้อ ลูกหมามั้ง" พูดจบก็นอนหลับตาพริ้มหนีหน้าเขาเพราะไม่อยากเห็น หงุดหงิด หมับ! "ในที่สุด!" "อะไรอีกเนี่ย!?" เธอเอ่ยเสียงเข้มอย่างหงุดหงิด เหวี่ยงวีนออกมาอย่างไม่ชอบเมื่อถูกรบกวนการนอนหลับพักผ่อน "งั้นเรากลับบ้านผมกันเถอะ แม่ผมรอคุณอยู่นะ และถ้าท่านรู้ว่าเรากำลังมีลูกมีหลานให้ ท่านต้องดีใจมากแน่ๆ" เฟลิกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเอามากๆ "ไม่ ฉันไม่กลับ ฉันจะอยู่ที่นี่ และฉันก็จะไม่กลับไปเหยียบที่บ้านคุณอีกต่อไป" เธอเอ่ยเสียงแข็ง ดวงตากลมโตแข็งกร้าวขึ้นมาในทันทีเมื่อรู้ว่าอีกคนพยายามจะพาเธอกลับไปหาพวกผู้ดีน่ารังเกียจนั่น! "ที่รักกลับบ้านเราเถอะนะ ผมขอโทษ ให้โอกาสผมได้มั้ย?" "ฉันให้โอกาสคุณได้ แต่ฉันจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีกเด็ดขาด ต่อให้ตายยังไงฉันก็ไม่ไป โดยเฉพาะลูกฉัน ฉันจะไม่ให้เค้ารู้เด็ดขาดว่าพ่อแม่คุณพี่น้องคุณอยู่ที่นี่ คุณสามารถมาหาฉันกับลูกได้ตลอดเวลา แต่ฉันกับลูกจะไม่มีทางกลับไปเหยียบที่นั่นอีกเด็ดขาด" เธอยื่นคำขาดเสียงแข็ง ต่อให้เขาไม่ชวนเธอกลับ เธอก็จะไม่กลับไปที่นั่นอีกเด็ดขาด ป่านนี้คงจะตีสีหน้าใหม่สินะเมื่อรู้ว่าบ้านเธอรวย "ครับ ไม่กลับก็ไปกลับ แค่คุณยอมให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่คนรักและหน้าที่พ่อของลูกแล้ว แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้ว" เขาจับมือบางมากุมเอาไว้อย่างขอบคุณเต็มสุดหัวใจ หลังจากที่คืนดีกัน เธอเองก็ตัดสินใจพาเขากลับบ้านเพื่อไปบอกความจริงบิดาทุกอย่างตลอดเรื่องราวที่เธออยู่อังกฤษ เรื่องแต่งงานและเรื่องที่ตั้งครรภ์ในตอนนี้ เดิมทีพวกท่านก็โกรธเธอกับเฟลิกซ์มากๆ แต่ก็รู้สึกผิดมากๆ เหมือนกันที่จับเธอคลุมถุงชน เธอและเฟลิกซ์กราบขอขมาพวกท่าน พวกท่านเองตอนแรกก็โกรธเธอแหละ แต่พอมาคิดก็ยอมให้อภัยเพราะเธอก็โตแล้ว โตจนมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว อีกอย่างก็กลัวว่าหลานจะกำพร้าพ่อนั่นแหละ สามเดือนต่อมา @โรงพยาบาล "เด็กสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีนะคะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนทารก น้องเป็นเด็กผู้หญิงค่ะ หมอขอแสดงความดีใจด้วยนะคะ" คุณหมอวัยกลางคนเอ่ยแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มบางๆ กับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ "ขอบคุณครับ เราได้ลูกสาวจริงๆ ด้วยคริส ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย" เฟลิกซ์ดีใจจนแทบร้องไห้ เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโมเม้นต์นี้เหมือนครอบครัวคนอื่นเขา "หึ คุณไม่ได้ฝันไปหรอก เราได้ลูกสาวจริงๆ ค่ะ" เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ จากนั้นก็หันไปฟังคุณหมอพูดต่อจนจบ แล้วหน้าที่ไปรับยาก็เป็นเฟลิกซ์ . ปึก! "อ๊ะ!" "คริส!" "ฮันนี่!" สองหนุ่มร้องตกใจเมื่อสองสาวเกือบล้มเพราะเอาแต่มองภาพอัลตร้าซาวด์ใจมือของตนจนไม่สนใจอะไร "เป็นอะไรมั้ยครับ?" "ไม่ค่ะ ฮันนี่ไม่เป็นไร" "คริส เป็นอะไรมากมั้ยครับ!?" เฟลิกซ์เอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วงและตกใจเอามากๆ "ไม่ค่ะ แต่..พวกเธอ!?.." เธอขมวดคิ้ว ไหนบอกว่าหนีไปอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศไง ไหงมาโผล่อยู่ที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพได้หล่ะ ทั้งที่ความจริงควรจะใช้ชีวิตครอบครัวกันอยู่ต่างประเทศแล้วนี่ "ไปหาที่คุยกันเถอะ" เมื่อเธอถามถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาของลีโอและฮันนี่ เธอเองก็ดีใจด้วยที่ครอบครัวของลีโอยอมรับฮันนี่ อุตส่าห์โทรไปง้อลูกชายและลูกสะใภ้ ถ้าไม่กลับมาก็จะใจดำหน่อยมั้ยหละ แต่ก็ดีแหละที่เรื่องนี้ทุกคนแฮปปี้กันหมด เหมือนเธอยังไงหล่ะ ꧁༒☬ THE END ☬༒꧂หลายปีต่อมา "ป๊ะป๊า~~" เสียงน้อยๆ ออดอ้อนของน้องปานตะวัน สาวน้อยผู้เป็นลูกสาวของคริสติน่าและเฟลิกซ์ ตอนนี้ก็อายุราวๆ ห้าขวบแล้ว คริสติน่าตัดสินใจย้ายออกมาสร้างครอบครัวด้วยตัวเองกับผู้เป็นสามี เฟลิกซ์เองก็บินไปกลับระหว่างอังกฤษอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าไม่มีงานสำคัญเขาก็ไม่ได้กลับไป เนื่องจากอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวซะส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องครอบครัวเธอ ตอนแรกก็โกรธมากๆ แหละ ต่อให้ขอโทษขอขมาก็ยังมีเคืองๆ อยู่ เธอก็เลยตัดสินใจย้ายออกมาอยู่เป็นส่วนตัวดีกว่า แต่พอวันที่เธอคลอดน้องตะวันออกมาพวกท่านก็แวะมาเยี่ยม จากที่เคยโกรธเคือง แต่ทว่าพอเห็นหน้าหลานก็ใจอ่อน วันนี้ก็เหมือนกัน วันศุกร์ ปานตะวันเรียนวันสุดท้ายของสัปดาห์แล้ว ทานข้าวอาบน้ำเรียบร้อยก็จะให้คุณพ่อไปส่งที่บ้านหาคุณตากับคุณยายที่บ้าน"รีบไปอาบน้ำแล้วมาทานข้าวด้วยกันนะคะ ทั้งพ่อทั้งลูกเลย ทานข้าวเสร็จหนูค่อยไปนอนกับคุณยาย" หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ จากนั้นก็จัดเตรียมโต๊ะอาหารเพื่อรอลูกสาวและสามีลงมาทานข้าวเย็นด้วยกัน .เวลาต่อมา"อร่อยมั้ยคะคนเก่ง ทานเยอะๆ นะ คุณแม่ทำสุดฝีมือเลยค่ะ" เสียงหวานพูดกับลูกสาวของตนด้วยท่าทีที่อ่อนโยน"ขอบคุณค่
หมับ!"มีอะไรคะ?" อันนี้ที่กำลังยืนทำความสะอาดของใช้ลูกอยู่ก็เอ่ยถามผู้เป็นสามีที่เข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลังโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง เธอเกือบทำของใช้ลูกตกแล้วแหนะ"ป่าว แค่อยากอ้อน" เสียงออดอ้อนอู้อี้อยู่แผ่นหลังขาวเนียน ฮันนี่เธอยังคงสวยและทำให้เขาพิศวาสอยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะผ่านการมีลูกมาแล้วก็ตาม"หื้ม? อ้อนเอาอะไรคะ?" เธอขมวดคิ้วยกยิ้มบางๆ แม้รู้ว่าอาการที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออาการอะไรก็เถอะ สักพักเธอก็พลิกตัวกลับมามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม อยากเห็นคุณพ่อจะอ้อนไปถึงเมื่อไหร่"อ้อนอะไรเบบี๋ก็รู้นิค้าบ" พอผู้เป็นภรรยาเดาทางได้ ก็อ้อนขี้นมากกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงไปกับซอกคอขาวเนียนของเจ้าหล่อน พร้อมกับเสียงอู้อี้เอาแต่ใจราวกับเด็กน้อยหมับ!"หึ เอาไว้คืนนี้นะคะ" สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยบอกในสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าที่เขามาอ้อนเพราะต้องการอะไร มือบางบีบแก้มใสเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยวคุณพ่อลูกหนึ่งขี้อ้อน"ค้าบบ" พยักหน้าหงึกๆ ราวกับเด็กน้อยสำนึกผิดแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอภรรยาอีกครั้ง ได้กลิ่นหอมๆ ก็ยังดี.23 : 45 PM"อื้อ~" เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคออย่างรู้สึกถึงสิ่งที่กำลังรบกวน เธอเผ
"ที่รัก ลูกนอนแล้ว เวลาผมแล้ว" เฟล็กซ์เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างดีใจจนแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ในขณะที่ภรรยาของตนกำลังแอบทำหน้าเบื่อหน่ายไม่ให้เห็น "เห้อ ฉันเพลียค่ะ เอาไว้ก่อนนะ" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากผ้าห่มผืนหนามาบอกเขาเสียงอู้อี้อ่อนเพลีย "คุณบอกว่าจะนอน แต่ไม่นอน" เฟลิกซ์ขมวดคิ้วยุ่ง ภรรยาบอกว่าง่วงนอน แต่ไหงหยิบมือถือขึ้นมาอ่านอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนใจเขาเลยสักนิด และไม่เห็นบอกว่าจะนอนอย่างที่ปากบอกเลยด้วยซ้ำ "ก็ไม่ได้ใช่ เช็คข่าวบ้าง แปปเดียวก็นอนแล้ว ได้ยินมั้ยคะว่า ง่วง จะนอน" เธอตอบเสียงอู้อี้เพราะมุดหน้ากับผ้าห่ม จะทำเรื่องอย่างว่าทุกวันเลยรึไง เธอก็เหนื่อยเป็นนะ เหนื่อยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กและยังต้องมาเหนื่อยเอาใจสามีบ้ากามอีก "แล้วเคยขัดขืนได้รึไงกัน" เขายกยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะ พอเอาเข้าจริงสุดท้ายก็ยอม สุดท้ายก็อ้าปากครางดังลั่นห้อง ปากบอกว่าไม่เอาๆ สุดท้ายก็ให้ผัวอย่างเขาเอาอยู่ดี ครางจนลืมไปเลยว่าลูกนอนอยู่ห้องข้างๆ . เวลาต่อมา.... "อื้อ อย่ากวน" เธอคิดว่าการที่เธอผล็อยหลับไปเขาจะหยุดคิดที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ แต่ไม่เลย ไม่เหลือ!! สุดท้ายเธอก็ถูกจับพลิกกลับมาห
2 ปีต่อมา "อ๊า ซี๊ด!! สะเสียว" เธอครางกระเส่าภายในห้องนอนใหญ่เมื่อลิ้นหนาของเขาตวัดเลียกลีบแคมสาวสีชมพูของเธอปาดไปปาดมาจนเอวเล็กลอยหวือขึ้นกลางอากาศเนื่องจากความเสียวมาเยือน อื้อ ทำอะไรคะ" เธอถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรแต่แค่แกล้งถามไปก็เท่านั้น เขาคลอเคลียขนาดนี้ไม่รู้ก็บ้าแล้ว เหนื่อยจากการเลี้ยงลูกแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับผัวอีก! แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ! "อื้ม อยู่นิ่งๆ ผมไม่ไหวแล้ว คุณสนใจแต่ลูกช่วงนี้ ผมอยาก ให้ผมเถอะคริส" เขาล็อคสะโพกเล็กเอาไว้ก่อนจะตวัดลิ้นรัวๆ หลังจากเอ่ยประโยคคำขอร้องเซ็กส์จากภรรยาสาว แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ! "อ๊ะๆ สะเสียวจัง อร๊าง มะไม่ไหว" เธอเปล่งเสียงครางออกมาเต็มที่เมื่อเขานั้นทั้งขบเม้มและดูดกายสาวของเธอราวกับว่ามันเป็นของอร่อยยังไงยังงั้น มือบางปล่อยจากผ้าปูเตียงมาขยำเส้นผมดกดำของเขาอย่างใช้เป็นที่พึ่งระบายความเสียวซ่าน ส่วนเรียวขาสวยถูกจับพาดบ่าแกร่ง ปลายเท้าสวยจิกเกร็งหัวไหล่ของเขาซึ่งเขานั้นไม่ได้ห้ามเพราะรู้ดีว่าภรรยานั้นเสียวซ่านมากขนาดไหน จ๊วบ จ๊วบ ซูด! "อื้ม" เสียงครางในลำคอของเฟลิกซ์ดังขึ้นฮึมฮัมอย่างพอใจแล้วขบเม้มขบดูดน้ำหวานที่กำลังไหลชะโลมกุห
"มาทานข้าวก่อน อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นสิ" เฟลิกซ์เอ่ย เขาปลุกเธอขึ้นมาทานข้าว แต่ทว่าเธอกลับมานั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่คนเดียวบนโต๊ะอาหารเพราะถูกเขาปลุกจนขัดใจ "แล้วจะมาปลุกทำไม ปกติบ่ายๆ ฉันถึงจะตื่น" พูดแต่ก็ทานอาหารตรงหน้าโดยการตักซุปมิโซะขึ้นมาชิมเล็กน้อย สักพักใบหน้าหวานเบ้ออกมาเพราะกลิ่นที่เหม็น"เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ แต่ช่วงที่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น คริสชอบทานมากๆ นะ" ขมวดคิ้วแล้วหญิงเอาช้อนที่เธอวางไว้ขึ้นมาตักซุบตรงหน้าขึ้นมาชิม"มันก็อร่อยเหมือนเดิมนะ ไม่ได้หมดอายุหรือว่าเสียเลยนะ" เขาขมวดคิ้วบอกเธอ คริสติน่าแปลกไปเรื่อยๆ ในสายตาของเขา ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ หรือว่าจะป่วย"ก็ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ชอบ อึก!" เธอกำลังจะพูดแต่ทว่าก็ต้องรีบปิดปากวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยทันทีอ้วก! แหวะ! "คริสเป็นอะไรคริส เป็นอะไรคะ!?" เฟลิกซ์ที่รีบตามเข้ามาก็เอ่ยถามเสียงตื่นตระหนกตกใจเพราะจู่ๆ คนรักก็บอกว่าเหม็นอาหารแล้วรีบวิ่งมาอาเจียนเดี๋ยวนั้นอึก แหวะ! อ้วก!"ไม่ต้องมา อึก ยุ่ง!" เพราะเขานั่นแหละที่เอาอาหารนั่นมาจนเธอต้องมาอาเจียนแพ้ท้องอยู่แบบนี้ไง"ขอโทษ ไม่คิดว่าคริสจะเหม็นขนาดนี้" เขาเอ่ยเสียงอ่อนด้ว
สุดท้ายเธอก็นั่งทานข้าวที่เขาซื้อมาอยู่ดี ไม่ได้ใจง่ายยอมกินของเขาหรอกนะ ลูกเธอหิวต่างหากหล่ะ ย้ำว่าลูกหิว แต่น่าแปลก แทนที่เธอจะเหม็นอาหาร แต่กลับชอบทานซะงั้น เมื่อวานกลับไปทานข้าวที่บ้าน แต่เธอกินไม่ได้ เหม็น แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครสงสัยอะไรเธอ "มาทางไหนก็กลับไปสิ รบกวนเวลานอนคนอื่นเค้า" เธอเอ่ย จากนั้นก็ลุกขึ้นหมายจะเดินกลับเข้าไปในห้อง ในเมื่อเขาเป็นคนหาอาหารมาให้เธอทาน งั้นก็ทำความสะอาดล้างถ้วยล้างจานไปแล้วกันหมับ! "มีอะไร?" เธอเอ่ยด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดเพราะจู่ๆ เขาก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาจับมือเธอไม่ให้เดินไปที่ห้อง "ห้องนอนอยู่นู้น ส่วนตรงนั้น ประตูห้องน้ำรับแขก" /// อะไอ้บ้า! จะพูดทำไมเนี่ย เธออายไปหมดแล้วนะ"หึ" เฟลิกซ์หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะคนตรงหน้าเขินแทบแทรกแผ่นดินหนี โครตเขินอ่ะบอกเลย ใครไม่เขินก็บ้าแล้ว"จะมาหัวเราะอะไร กลับไปเลยนะ" เธอเอ่ยปากไล่แล้วชี้นิ้วไปทางประตูห้องเพื่อให้เขากลับไป .หมับ!"อ๊ะ มากอดทำไมเนี่ย!? อึดอัด" เธอกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว แต่ทว่าก็มีอ้อมแขนแกร่งของเขาเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน "อยู่นิ่งๆ สิ เห็นมั้ยนั่น ฝนกำลังจะตก ฟ้าร้องแล้ว