สรุปว่าคอนโดห้องเก่าของณภัทรนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้หญิงคนนั้น ดีที่ว่าอย่างน้อยก็ไม่ใช่ของฝ่ายชาย เธอไม่ได้ไปล่วงรู้ข้อมูลมาจากไหนหรอก แต่ว่าเป็นจากณภัทรนั่นเองที่เผอิญพูดออกมาว่าคอนโดของเขาถูกขายให้หญิงสาวที่เป็นรุ่นน้องของนีรยา ชื่อ ยลรดา
คืนนี้เป็นงานเลี้ยงส่งเธอคืนสุดท้ายที่จัดโดยหัวหน้าฝ่ายแผนกที่เธออยู่ กชกรรู้ดีว่าตนเองนั้นเป็นคนเก่ง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องงานก็ยิ่งหนักเอาเบาสู้และมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน พอมาวันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้าย ทำเอาทุกคนต่างก็เศร้าไปตามๆกัน
เข็มนาฬิกาบนข้อมือเธอบอกเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว คืนนี้นับว่าเธอเองก็ถือว่าดื่มเข้าไปมากอยู่ ดีที่ว่ามีเพื่อนสนิทรุ่นน้องอาสาขับรถกลับมาส่งให้ เธอเลยได้ถือโอกาสปล่อยผีไปเสียหนึ่งวัน
"จอดส่งพี่ตรงนี้แหละตาล ถึงคอนโดแล้วพี่เดินกลับขึ้นไปเองได้ ขอบจายตาลมากนะ แล้วก็ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ พี่ไปเองได้ พี่ไหว"
"แน่ใจนะพี่กั้งว่าไม่ให้ตาลเดินขึ้นไปส่ง"
"แน่จายน่า นี่ถึงคอนโดพี่แล้วจากลัวอาราย"
กชกรพยายามประครองสติ แม้ว่าน้ำเสียงจะยานคางเล็กน้อย แต่ก็พยายามดึงสติกลับมาโฟกัสทุกอย่างให้ได้เหมือนเดิม เพื่อที่ว่ารุ่นน้องจะได้ไม่เต้องเป็นห่วง
"งั้นตาลกลับก่อนนะพี่กั้ง เดินขึ้นห้องดีๆล่ะ เอาไว้ว่างๆจะไปเยี่ยมหา"
"ขับรถดีๆนะ"
กชกรยืนโบกมือลามองรถคันที่เธอพึ่งจะโดยสารมาจนลับตาแล้วจึงได้หมุนตัวกลับเข้าคอนโดที่พัก แม้ว่าสายตาออกจะรางเลือนสักเล็กน้อย แต่ก็พาตัวเองเดินโซซัดโซเซมาจนถึงเข้าลิฟท์ได้
ปลายนิ้วเล็กไล่จิ้มกดลงไปบนแป้นตัวเลขแล้วจึงยืนรอ เพียงไม่นานพอลิฟท์มาจอดก็พาตัวเองเดินเข้าไปแล้วเตรียมจะกดปุ่มปิด แต่จังหวะนั้นกลับมีฝ่ามือใหญ่มาขวางประตูลิฟท์เอาไว้ให้เปิดออก แล้วจึงปรากฏใบหน้าของผู้ที่ก้าวเท้าตามเธอเข้ามาเต็มตา
'เป็นเขาอีกแล้ว'
กชกรนึกอยากจะร้องไห้ เมื่อไหร่กันนะที่ชีวิตเธอจะได้ไม่ต้องมาเจอกับผู้ชายคนนี้ นี่เขาคงจะมาหาหญิงคู่ขา อ่อ ไม่สิ หญิงคนรักของเขาสินะ ดึกดื่นค่อนคืนขนาดนี้ถ้าเป็นคนที่มาหากันมาเยี่ยมเยียนกันปกติก็คงจะไม่ใช่
กชกรสะบัดหน้าหนี แสดงออกทันทีว่าเธอไม่ต้องการที่จะเสวนาด้วย และดูเหมือนว่าเขาเองก็น่าจะรู้ เพราะตอนที่เดินก้าวเข้ามา พอเห็นว่าเป็นเธอแล้ว เขาก็ไม่ยอมมองมาอีกเลย
'ผู้ชายอะไร ไม่มีมารยาท'
แน่นอนว่าพอเธอกดเลขชั้นที่จะไป เขาก็ไม่ได้กดต่อ จุดหมายของเขาก็คงจะเป็นชั้นเดียวกันกับเธอนั่นแหละ จ้างให้เธอก็ไม่มีทางถามให้เสียปากหรอก
จนกระทั่งจู่ๆไฟในลิฟท์ก็ดันมาดับ แน่นอนว่ามันคงจะเป็นอะไรอย่างอื่นไปเสียไม่ได้นอกจากว่าลิฟท์กำลังค้าง
"ว้าย!"
กชกรร้องกรี๊ดออกมาทันทีที่ลิฟท์กระตุก ทำเอาความหยิ่งยโสโอหังตั้งใจตั้งมั่นว่าจะไม่มีทางพูดกับเขาเด็ดขาดนั้นจำเป็นต้องจบลงเมื่อตัวเธอนั้นเซเข้าไปหาเขา และดีที่เขารับตัวเธอเอาไว้
"คุณช่วยฉันด้วย"
ด้วยความที่เป็นลิฟท์ใสแก้วกระจก ถึงแล้วว่าไฟในลิฟท์จะดับ หากแต่แสงไฟจากทางด้านนอกก็ยังคงสาดเข้ามา วงแขนแกร่งของเขานั้นกอดตัวเธอเอาไว้แน่นพร้อมทั้งใบหน้าของเขาและเธอก็อยู่ห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ ดวงตากลมโตที่จ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าแล้วกระพริบตาปริบๆเพื่อเรียกสติจัดการลมหายใจที่ดูเหมือนว่าจะติดขัดของตัวเองให้กลับมา ทำไมอีตาบ้านี่ถึงได้ชอบเอาหน้าหล่อๆของตัวเองเข้ามาใกล้ให้หัวใจเธอสั่นเล่นด้วยนะ
"ดื่มมาอีกแล้วหรือไง ระวังเถอะว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนอย่างคืนนั้น"
แต่เมื่อพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นปุ๊บ ต่อมความโมโหของเธอก็ทำงานปั๊บ นี่เขาจะดูถูกเธอมากเกินไปแล้วนะผู้ชายเฮงซวย ทำอย่างกับว่าเรื่องคืนนั้นเธอเป็นคนทำเองเสียอย่างนั้น ถ้ามีสติดีๆใครเขาจะยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นกัน และหัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอก็จะไม่มีทางยอมปล่อยให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยได้เด็ดขาด
"หยุดพูดบ้าๆเดี๋ยวนี้เลยนะ ถึงแม้ว่าคืนนี้ฉันจะเมา แต่ก็ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองทำอะไรบ้าๆได้อย่างคืนนั้นหรอก แล้วถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะไม่มีทางปล่อยให้คุณทำ"
"ดูเหมือนว่าสิ่งที่คุณพูดมันน่าจะสายไปนะ ยิ่งต้องมาติดอยู่ในลิฟท์กันสองต่อสองแบบนี้ ถ้าผมจะทำขึ้นมาจริงๆ คุณก็คงไม่มีทางขัดได้"
ถ้ามองไม่ผิด สายตาของเธอที่มองฝ่าทะลุความสลัวของแสงจากภายนอกลิฟท์ไปยังใบหน้าเขา เธอเห็นเต็มตาว่าริมฝีปากของเขานั้นมันหยักยิ้มลงจนน่าหมั่นไส้
"จะไม่มั่นใจตัวเองมากเกินไปหน่อยเหรอคะ ฉันไม่ใช่แฟนคุณนะที่จะได้หลงเสน่ห์คุณง่ายๆ หน้าตาแบบคุณมันก็หาได้ตามท้องตลาดทั่วไปนั่นแหละ ไม่ได้มีความพิเศษมากเกินไปกว่าผู้ชายคนอื่นหรอก นี่ถ้าต่อให้โลกนี้เหลือผู้ชายบนโลกนี้แค่คนเดียวคือคุณ ฉันว่าฉันก็จะยอมกัดลิ้นตายดีกว่าที่ต้อง อื้อๆ"
แล้วจากนั้นตัวเธอก็ถูกเขาดันถอยหลังให้ไปติดผนังกระจกพร้อมทั้งริมฝีปากหนักก็ประกบเข้ามาฉกจูบ ด้วยความที่ยังมึนงงและไม่ทันได้ตั้งตัว จึงทำให้เธอทำได้เเค่เพียงครางอู้อี้ประท้วง ในขณะที่สองมือเล็กถูกเขาตรึงเอาไว้เหนือศรีษะด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็พยายามบีบแก้มบีบปากให้เธอตอบรับกับรสสัมผัสที่แสนรุกรานนั่น ภายใต้ความสูงของคนตรงหน้าทำเอาตัวเธอที่สูงเพียงปลายคางของเขาเท่านั้นต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อยอมรับจูบจากเขา
กชกรยังคงดิ้นรนขัดขืนเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้เต็มใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดจะใส่ใจมันเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังคงตั้งหน้าตั้งตาบังคับจูบเธอ ลิ้นเล็กของเธอถูกเขาดูดเกี่ยวเข้าไปไว้ในปากเขาได้จนสำเร็จ พอเห็นว่าไม่มีทางขัดขืนเขาได้จึงจำต้องปล่อยให้คนตัวใหญ่จูบได้ตามแต่ใจ
"ผมคิดถึงคุณ"
ในขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัส อยู่ๆก็มีน้ำเสียงกระซิบที่แสนจะแผ่วเบาดังแว่วเข้ามาในหูจนใจเต้น นี่เธอเป็นอะไร หรือว่าดื่มมากไปคนเมาแล้วหูเพี้ยน
ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเพียงใดที่ยอมให้เขาจูบ จนกระทั่งมาได้สติอีกทีก็ตอนที่ไฟมาและลิฟท์เคลื่อนตัวต่อไปยังจุดหมาย กชกรจึงลืมตาขึ้นและพยายามผลักเขาออกอีกครา แต่พอบานประตูลิฟท์ถูกเปิดออก ร่างของเธอกลับถูกเขาอุ้มลอยหวือขึ้นไปในอ้อมแขน
"นี่คุณปล่อยนะ จะทำอะไร"
"พาคนเมาไปส่งห้อง ไม่รู้ตัวหรือไงว่าเดินเซจนไม่เหมือนคนอยู่แล้ว"
"แต่ฉันเดินเองได้ กรุณาปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้"
ลิฟท์กับห้องเธอก็อยู่ห่างกันแค่นี้ ขายาวๆแบบเขาก้าวเพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็พาเธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู
"เปิดห้อง ถ้าไม่อยากให้คนอื่นออกมาเห็นว่าผมอุ้มคุณมาส่ง"
หึ กชกรนึกหมั่นไส้ผู้ชายคนนี้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลยจริงๆ นี่เขาคงจะกลัวว่าผู้หญิงของเขาจะออกมาเห็นมากกว่าถึงได้ทำเป็นพูดแกล้งให้เธอกลัวแบบนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องยิ่งรีบปล่อยเธอลงสิ จะมาอุ้มเธอไว้แบบนี้ทำไม
"คนอื่นที่ว่านี่ใช่คนที่พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่ห้องฝั่งตรงข้ามฉันหรือเปล่านะ"
"จะใครก็ช่าง แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากให้เขาเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเจ้าของห้องเก่าหรอกจริงไหม"
ไม่ แน่นอนว่าเธอไม่เคยอยากให้ณภัทรต้องมารับรู้เรื่องราวอะไรเหล่านี้
"งั้นคุณก็ปล่อยฉันลงสิ แล้วก็กลับไปหาแฟนคุณซะ"
"ผมโสด ยังไม่มีแฟน แล้วถ้าขืนคุณยังเอาแต่พูดไม่ยอมเปิดอยู่แบบนี้ ผมอยากจะบอกคุณเพิ่มให้อีกอย่างหนึ่งว่าผู้หญิงคนที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามรู้จักกันดีกับคนที่ขายห้องให้เธอ"
จังหวะนั้นอยู่ๆเสียงลูกบิดห้องตรงข้ามที่อยู่เยื้องๆกันไปก็ลั่นดังก็อก ราวกับว่ามันกำลังจะถูกเปิดออกมาจริงๆ กชกรจึงรีบยกกดรหัสปลดล็อกห้องด้วยความรวดเร็วแล้วรีบผลักประตูเข้าไปทันก่อนที่คนที่อยู่ในห้องนั้นจะเปิดออกมา
พอทันทีที่ขึ้นไปนั่งบนรถคันข้างหลังที่จอดรออยู่ปุ๊บและบานประตูถูกปิดลง แขนยาวๆนั่นก็เอื้อมข้ามฝั่งมาโน้มดึงใบหน้าเธอเข้าไปหอม ก่อนที่ริมฝีปากเธอจะถูกประกบปิด ณวัฒน์ทั้งดูดและกัดริมฝีปากของคนที่พึ่งขึ้นมาใหม่นั้นแรงพอได้ ทำเอาคนที่ถูกกัดต้องร้องค้านขึ้นตาแดงด้วยความเจ็บ"อื้อๆ พี่น่าน กั้งเจ็บนะคะ""นี่คือการลงโทษที่กั้งกับนายนะบังอาจมาว่าพี่แก่""เดี๋ยวนะ นี่พี่แอบฟังกั้งกับน่านคุยกันเหรอ""พี่เปล่าแอบฟัง แต่เป็นกั้งต่างหากที่ลืมปิดโทรศัพท์ พี่ก็เลยได้ยินว่าความจริงแล้วกั้งน่ะชอบนินทาผัว พอลับหลังผัวก็แอบนินทาฉ่ำ""ขอโทษนะคะผัวเผออะไร กั้งยังไม่ได้แต่งงานเสียหน่อย แฟนก็ยังไม่เคยมี พูดแบบนี้กั้งเสียหายนะคะ""งั้นถึงบ้านแล้วพรุ่งนี้ก็ไปจดทะเบียนกัน"จากนั้นกชกรก็เงียบไปเลยไม่หือไม่อือจนณวัฒน์ใจหาย นี่เขาพูดอะไรผิดไปตรงไหนหรือเปล่า ทำไมกชกรถึงได้เงียบหลังจากที่เขาบอกว่าจะพาไปจดทะเบียน"นี่พี่ พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมอยู่ดีๆกั้งถึงได้เงียบไปล่ะ"จากนั้นกชกรก็รีบหันมาด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา พอณวัฒน์เห็นก็ยิ่งตกใจจนต้องตีไฟเลี้ยวเพื่อขอจอดข้างทาง ส่วนณภัทรนั้นนำโด่งทิ้งระยะห่า
เพียงแค่ไม่นานตำรวจที่ณภัทรโทรแจ้งความเอาไว้ก็มากันจริงๆ ยลรดาถูกนำตัวไปสอบสวนทันที แม้ว่าจะไม่ใช่ข้อหาพยายามฆ่าอย่างที่ณภัทรบอกไว้ แต่ก็เป็นการจงใจทำร้ายผู้อื่น ดีที่ว่าทั้งเขา กชกร และณรายานั้นไม่มีใครเป็นอะไร หากแต่ทางตำรวจก็ยังยืนยันว่าต้องการให้ทั้งหมดพากันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอยู่ดี "ผลตรวจร่างกายของทุกคนปลอดภัยดีนะคะ ไม่มีอะไรร้ายแรง จะมีก็แต่เพียงแค่ว่าคุณกชกรนั้นต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวเองมากขึ้นหน่อย เพราะว่าตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วค่ะ ยังไงเดี๋ยวหมอขอเชิญคุณแม่ตามหมอไปตรวจร่างกายเพิ่มหน่อยนะคะ"เมื่อแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายออกมาแจ้งผลตรวจ ปรากฏว่าทั้งเธอและณภัทรต่างก็ตกใจไปตามๆกัน ในเมื่อสิ่งที่ณภัทรบอกกับเธอนั้นเป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง..กับณวัฒน์ แต่พอหันกลับไปมองหน้าคนที่เป็นสาเหตุทำให้เธอตั้งท้องนั้นเขากลับมีใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่มีอาการยินดียินร้ายอะไรทั้งสิ้น นั่นเพราะมันอาจจะเป็นไปได้ว่า ที่เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ตลอดเวลาที่ผ่านๆมาเขาและเธอต่างฝ่ายต่างก็อารมณ์พาไปด้วยกันทั้งคู่ และในที่สุดเธอเองก็พลาดจนได้"กั้
"พี่น่าน มาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเลยเหรอคะ""พอดีว่าเมื่อคืนพี่นอนไม่ค่อยจะหลับก็เลยขับรถออกมาตีหนึ่งตีสอง จอดพักบ้างกลางทางนิดหน่อยแล้วก็ขับต่อยิงยาวมาจนถึงนี่""ไหนๆนี่ก็ยังเช้าอยู่เลย ยี่หวาว่าพี่น่านเข้าไปนอนพักในห้องยี่หวาก่อนดีไหมคะ ขนมก็อยู่ที่นั่น""ไม่ล่ะ นายนะอยู่ที่ไหน พอดีว่าพี่มีเรื่องต้องคุยกับนายนะนิดหน่อยน่ะ ยี่หวาพาพี่ไปที""เอ่อ มันจะดีเหรอคะ นี่ก็พึ่งจะเจ็ดโมงเช้าอยู่เลย ยี่หวากลัวว่าจะไปรบกวนเวลาของพี่นะกับพี่กั้ง""หมายความว่ายังไง แล้วเมื่อกี้ยี่หวาพูดว่าอะไรนะ ขนมอยู่ที่ห้องยี่หวาอย่างงั้นเหรอ แล้วทำไมขนมถึงต้องไปอยู่ที่นั่น แล้วนายนะกับกั้งทำอะไรทำไมถึงไม่มีใครยอมดูขนม""ใจเย็นๆก่อนสิคะพี่น่านก็ ทำเป็นไม่เข้าใจหัวอกคนรักกันไปได้ พี่นะอุตส่าห์พาพี่กั้งมาเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาสองคนก็ต้องอยากจะมีโอกาสจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันบ้างเป็นธรรมดา เมื่อคืนยี่หวาก็เลยอาสาเอาขนมมาดูแลให้ ทั้งสองคนเขาจะได้...""พาพี่ไปห้องนายนะเดี๋ยวนี้ เร็วสิยี่หวา! ไอ้นะกับกั้งอยู่ที่ไหน"ณวัฒน์เหมือนคนขาดสติหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ยลรดาพึ่งจะพูดออกมาทั้งหมดให้ฟัง โดยเธอบอกว่าณภัทรและกชกรนั้นต้อ
"มาถึงกันแล้วเหรอคะพี่นะ พี่กั้ง"กชกรยังคงยืนงงเมื่อตอนที่ณภัทรพาเธอขับเข้ามาในบริเวณบ้านพักที่ดูเหมือนว่าพึ่งจะสร้างเสร็จใหม่ แต่คนที่ออกมายืนต้อนรับนั้นกลับเป็นยลรดา หนึ่งในผู้หญิงของณวัฒน์ ถึงแม้ว่าฝ่ายนั้นจะออกมาต้อนรับขับสู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดี แต่บอกตามตรงว่าเธอไม่เคยรู้สึกได้ถึงความจริงใจของผู้หญิงคนนี้สักที"เดี๋ยวยี่หวาพาพี่นะกับพี่กั้งเข้าไปดูบ้านพักกันนะคะว่าชอบหรือเปล่า ส่วนกระเป๋าเดี๋ยวให้คนมายกไปให้ค่ะ เชิญพี่นะกับพี่กั้งตามยี่หวามาทางนี้""พอดีว่ายี่หวาเขาพึ่งลองหันมาทำธุรกิจพวกรีสอร์ตบ้านพักริมทะเลดูน่ะ นะเห็นว่าพึ่งจะเปิดใหม่ก็เลยอยากช่วยอุดหนุน อีกอย่างยี่หวาเขาก็ชวนอยากให้นะพากั้งกับขนมมาเที่ยวด้วย แล้วกั้งเองก็ไม่ได้เปิดหูเปิดตามานานแล้ว ถ้านะรู้มาก่อนว่าระหว่างกั้งกับพี่น่านมันเป็นแบบนี้นะก็คงจะไม่พากั้งมา แต่ไหนๆก็พามาแล้ว ถือเสียว่านะพาหลานมาเที่ยวนะ"ณภัทรยิ้มให้แล้วจึงยกมือขึ้นมาแตะวางไว้ที่บนสะโพกของกชกรเบาๆ ก่อนจะพากันเดินตามยลรดาไป ส่วนอีกข้างก็อุ้มลูกสาวตัวน้อยใส่บ่า เพราะว่าณรายายังนอนหลับไม่อยากจะยอมตื่นขึ้นมาง่ายๆ"ได้ยินแว่วๆว่าพี่กั้งท้อง ขอโทษนะคะยี
"แกว่าอะไรนะ นะ จะพากั้งกับขนมไปเที่ยวทะเลงั้นเหรอ ที่ไหน เมื่อไหร่ ไปกี่วัน แล้วไหนงานการที่ค้างไว้อยู่จะทำยังไง ช่วงนี้ฉันเองก็ไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปโรงแรมเท่าไหร่ด้วย กลัวว่างานการจะเสียหายเอาได้น่ะสิ""ผมว่าจะพากั้งกับขนมไปปราณบุรีสักสองสามวันครับ เรื่องงานพี่น่านไม่ต้องห่วงนะครับ ผมยื่นขอลาพักร้อนกับคุณชิดชัยไว้แล้วคุณชิดชัยก็เซ็นอนุมัติให้พอดี""งั้นเหรอ แกว่าปราณบุรีใช่ไหม แล้วจะไปเมื่อไหร่เผื่อว่าจะได้ไปด้วยกันเลย พอดีว่าฉันก็มีธุระต้องไปที่นั่นเหมือนกัน""นี่พี่น่านก็มีงานที่นั่นด้วยเหรอครับ""อื้ม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกี่ยวกับธุรกิจอะไรหรอก เป็นแค่ธุระส่วนตัวน่ะ ว่าไงล่ะแกจะไปเมื่อไหร่""ตอนนี้เลยครับ กั้งกำลังเข้าไปเก็บกระเป๋าเตรียมตัวอยู่ แล้วธุระพี่น่านล่ะครับมีเมื่อไหร่""ฉันก็..ฉันก็ มีวันนี้พรุ่งนี้เหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่าธุระของฉันมันเลื่อนได้ไม่เป็นไร งั้นเอาเป็นว่าเราไปพร้อมกันพรุ่งนี้ไม่ดีกว่าเหรอ แกจะได้ช่วยฉันเปลี่ยนขับรถด้วย""เห็นทีว่าคงจะไม่ได้ครับ ผมต้องขอโทษพี่น่านด้วย พอดีว่าผมจองบ้านพักสำหรับวันนี้เอาไว้แล้ว แล้วอีกอย่างก็อยากขับรถไปแบบเรื่อยๆสบายๆมากกว่า งั้นเอาเป
หลังจากวันนั้นที่ณภัทรกลับมาท่าทีเขาก็ดูแปลกไป เธอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ บอกเพียงแค่ว่ามีเรื้องให้ต้องคิดและตัดสินใจอีกหน่อย บอกตามตรงว่าพักหลังๆมานี้เธอเองก็ตามอารมณ์เขาไม่ค่อยจะถูก หรืออาจจะเป็นเพราะว่าณภัทรยังคงเสียใจกับเรื่องที่ถูกพนักงานรุ่นน้องที่โรงแรมบอกเลิก ก็เลยทำให้เขาเป็นแบบนี้ส่วนณวัฒน์ หลังจากที่บรรลุข้อตกลงกับเธอ รายนั้นก็มักจะหาทางฉกฉวยโอกาสเข้าใกล้และเอากำไรจากเธอตลอด ต่อให้เธอห้ามยังไงเขาก็ไม่ฟัง แถมบางครั้งยังเกิดอาการน้อยอกน้อยใจไปเสียยกใหญ่ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ยังมีผู้หญิงสองคนนั้นสลับกันแวะเวียนมาหาไม่ได้ขาด พอเธองอนบ้างก็รีบวิ่งตามมาง้อ บอกว่ากับสองคนนั้นนั่นไม่เคยคิดอะไรด้วย ยี่หวานั้นเป็นน้องสาวเพื้อนรุ่นเดียวกัน ส่วนวุ้นเส้นก็แค่อดีตคนคุยเก่า แต่ตอนนี้เขาก็บอกตัดความสัมพันธ์ไปแล้ว หากแต่ว่าฝ่ายนั้นก็แค่แวะเวียนมาหาตามประสาคนเคยคุย แล้วคิดเหรอว่าเธอจะเชื่อคำพูดของเขา และส่วนคืนไหนที่ณภัทรขอเอาตัวณรายาไปนอนที่ห้องของตัวเองด้วย คืนนั้นแหละที่ณวัฒน์จะต้องแอบย่องเข้ามาทุกที จนช่วงหลังมานี้ เธอต้องแอบอ้างกับณภัทรว่าอยากขอเอาตัวณรายามานอนด้วย ช่วงนี้เด็กน้อยติดเธ