เฟิ่งหรั่นคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความรู้สึกของนางนางไม่อาจปล่อยวางได้ เฟิ่งอี้มิใช่ผู้ที่จะยอมรามือหากนางเกลียดผู้ใดสักคน เป้าหมายของเฟิ่งอี้คือการกำจัดตนเองที่เป็นพี่สาวและลู่เฟยหลง การที่นางทำเช่นนี้ย่อมต้องการทำให้ลู่อวี้กลายเป็นฮ่องเต้ ชะตาแคว้นเหลียวทั้งแคว้นขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในคราวนี้ หากคราวนี้นางและสวามีถูกลอบสังหาร ลู่ฮ่องเต้จะไร้ซึ่งเสาหลักพิทักษ์ราชบัลลังก์ อีกทั้งองค์ชายน้อยลู่เสวียนก็ไม่อาจพ้นราชภัยครั้งนี้ได้แม้จะศึกษาอยู่นอกเมืองหลวงก็ตาม
แล้วเย่ไหลเซียงที่ร่วมมือในแผนการครั้งนี้อาจโดนเฟิ่งอี้กำจัด! ไม่ได้เด็ดขาด! นางจะไม่ยอมให้มีใครตายเพราะนางอีก คราก่อนเพราะนางถูกใส่ร้าย จึงทำให้ขันทีผู้ภักดีกับลู่อ๋องต้องกลายเป็นแพะรับบาปและต้องโทษประหารนั้น คราวนี้นางจะกระชากความจริงทั้งหมดออกมาและเก็บแหในคราเดียว “สัญญากับข้าสักข้อนะอวี๋ฟางหรง...” เฟิ่งหรั่นมองสหายรักด้วยแววตาแน่วแน่ ตอนนี้นางมีความกังวลเพียงไม่กี่สิ่งเท่านั้น และหันมามองจูเชว่สลับกัน ในห้วงนิมิตอดีตชาติ นางจำได้ดีว่าเป็นเพราะวิหคเพลิงหนุ่มที่อยู่เคียงข้างไป๋หู่มาตลอด และเเฟิ่งหรั่นคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความรู้สึกของนางนางไม่อาจปล่อยวางได้ เฟิ่งอี้มิใช่ผู้ที่จะยอมรามือหากนางเกลียดผู้ใดสักคน เป้าหมายของเฟิ่งอี้คือการกำจัดตนเองที่เป็นพี่สาวและลู่เฟยหลง การที่นางทำเช่นนี้ย่อมต้องการทำให้ลู่อวี้กลายเป็นฮ่องเต้ ชะตาแคว้นเหลียวทั้งแคว้นขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในคราวนี้ หากคราวนี้นางและสวามีถูกลอบสังหาร ลู่ฮ่องเต้จะไร้ซึ่งเสาหลักพิทักษ์ราชบัลลังก์ อีกทั้งองค์ชายน้อยลู่เสวียนก็ไม่อาจพ้นราชภัยครั้งนี้ได้แม้จะศึกษาอยู่นอกเมืองหลวงก็ตามแล้วเย่ไหลเซียงที่ร่วมมือในแผนการครั้งนี้อาจโดนเฟิ่งอี้กำจัด! ไม่ได้เด็ดขาด! นางจะไม่ยอมให้มีใครตายเพราะนางอีก คราก่อนเพราะนางถูกใส่ร้าย จึงทำให้ขันทีผู้ภักดีกับลู่อ๋องต้องกลายเป็นแพะรับบาปและต้องโทษประหารนั้น คราวนี้นางจะกระชากความจริงทั้งหมดออกมาและเก็บแหในคราเดียว“สัญญากับข้าสักข้อนะอวี๋ฟางหรง...” เฟิ่งหรั่นมองสหายรักด้วยแววตาแน่วแน่ ตอนนี้นางมีความกังวลเพียงไม่กี่สิ่งเท่านั้น และหันมามองจูเชว่สลับกัน ในห้วงนิมิตอดีตชาติ นางจำได้ดีว่าเป็นเพราะวิหคเพลิงหนุ่มที่อยู่เคียงข้างไป๋หู่มาตลอด และเ
หลินเอ๋อร์เดินเข้ามาที่ตรอกเล็กๆ ตรอกหนึ่ง นางหันด้านหลังมาดูว่าบ่าวหญิงผู้นั้นสะกดรอยตามนางมาหรือไม่ แต่สุดท้ายกลับไม่พบแม้แต่เงา นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แอบหยิบเงินจำนวนหนึ่งที่พ่อบ้านได้มอบเอาไว้ให้ เพราะตั้งใจจะไปหาพี่สาวกับครอบครัวที่แคว้นเหลียวตั้งแต่แรก นางจึงได้แอบเก็บเงินจำนวนหนึ่งเอาไว้เพื่อเตรียมเดินทาง อย่างน้อยนางก็พอรู้มาว่าพวกมนุษย์ส่วนใหญ่มักเดินทางด้วยรถม้าหรือไม่ก็หาซื้อม้าสักตัว แต่ทว่าการเดินทางไปต้าเหลียวนั้นเห็นทีว่าเดินทางทางเรือจะเหมาะสมที่สุดเด็กสาวพยายามหาทางเดินออกจากตรอกนั้นเพื่อมุ่งไปท่าเรือของหนานจิง ก่อนหน้านี้นางทราบมาว่ามีท่าเรือแห่งหนึ่งเป็นเรือขนสินค้ามุ่งสู่ต้าเหลียว หากนางว่าจ้างสักหน่อยก็คงเดินทางไปถึงต้าเหลียวได้และไป๋ซูเหวินก็คงตามหานางไม่พบ ไม่ต้องมาก่อกวนนางอีก ทว่า...“ท่านแม่ ไม่ใช่สิ! นายหญิง...” หลินเอ๋อร์ชะงักฝีเท้า ใบหน้าของนางตื่นกลัวตกใจเมื่อเห็นเฟยเซียงมาปรากฏตรงหน้าแบบไม่คาดคิด“ตกใจมากหรือยังไงที่เห็นข้า แทนที่จะเป็นคนจากจวนเจ้าเมือง” เฟยเซียงกรีดยิ้มร้าย นางมองหลินเอ๋
เฟยเซียงเดินค้นหาหลินเอ๋อร์ทั่วเรือนพักของตนเอง จนกระทั่งนางเดินเข้ามาในห้องลับแห่งหนึ่งที่หลินเอ๋อร์ไม่มีทางรู้จัก นางนั่งลงบนพื้นเย็นภายในห้องแห่งนั้นแล้วหลับตาทำสมาธิ การบำเพ็ญเพียรพลังมารของนางเกือบถึงขีดจำกัดแล้ว มันมีพลังมากพอที่จะจับตาหาผู้ที่ต้องการพบ ทว่าภาพที่ปรากฏขึ้นมาในห้วงสมาธินั้นคือภาพที่หลินเอ๋อร์ลอบลงไปที่เมืองมนุษย์!‘หรือว่านางจะหาความจริงเรื่องชาติกำเนิดของตนเอง!’เฟยเซียงพยายามคิดหาคำตอบในใจ หมากตัวสุดท้ายที่นางจะเก็บเอาไว้เล่นงานศัตรูบัดนี้กลับหายหลุดมือไป!นัยน์ตาของปีศาจหงส์แดงก่ำด้วยเพลิงโทสะ นางลุกขึ้นจากสมาธิทันใดนั้นปีกสีดำพลันสยายออกจากกลางแผ่นหลัง ไอสีดำซึ่งบ่งบอกถึงปราณมารที่มากล้นเกือบเกินขีดจำกัดทำให้รู้ว่าผู้นั้นบำเพ็ญเพียรถึงระดับใดแล้ว ยามนี้ความโกรธของเฟยเซียงมีมากพอที่จะสังหารผู้คนให้ตายในบัดดล!“เห็นทีข้าคงต้องลงมือขั้นเด็ดขาดกับพวกเจ้าทุกคน!”หลายวันแล้วที่เย่ไหลเซียงไม่ได้ความเคลื่อนไหวเรื่องแผนการร้ายของลู่อวี้ เนื่องด้วยอีกฝ่ายเอาแต่เก็บตนอยู่ในห้อ
รัตติกาลมาเยือนแสงจันทร์นวลลออสาดส่องไปทั่วท้องนภา หมู่ดวงดาราทั้งหลายจับกลุ่มกันทอประกายเป็นกลุ่มดาว ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง ผิวน้ำในสระบัวกระเพื่อมไหวเล็กน้อยตามแรงลมที่พัดโชยเอื่อยมา ลมหนาวเย็นที่พัดปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณทำให้เฟิ่งหรั่นกับลู่เฟยหลงรู้สึกถึงความหนาวเย็นและความอบอุ่นไปพร้อมกันแม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองทัวปา เป็นเมืองที่มีขนาดเล็กเพียงแค่หนึ่งในสี่ของแคว้นเหลียว แต่ทว่าหากศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ดีๆ นั้น สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การลอบสังหารอย่างยิ่งหากลู่อวี้วางกับดักสังหารนางกับลู่เฟยหลงที่นี่ เฟิ่งหรั่นใช้นิ้วของตนเองชี้ไปที่ดวงดาราทีละดวงและนับมันอย่างเพลิดเพลิน โดยมีพระสวามีอย่างลู่เฟยหลงนอนหนุนตักนางอย่างสบายใจหลังจากกลับมาจากประชุมศึกกับทัวปาอวี้ เขาแทบไม่ได้ความคืบหน้าอันใด เพราะแม่ทัพนายกองของเมืองทัวปาล้วนแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องข้าศึกที่โจมตีทำให้ยากต่อการวางกลยุทธ์ แต่ทว่าดูเหมือนทัวปาอวี้คงได้ตระเตรียมการกับลู่อวี้มาอย่างดี เรื่องที่คาดไม่ถึงว่าเขาอาจจะรู้ทันแผนการลอบสังหารครั้งนี้ก็ย่อมได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลิกประชุมนายกองและกลับ
การเดินทางไปเมืองทัวปาค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากทัวปาเป็นเมืองที่มีอาณาเขตติดกับเผ่าซยงหนู นอกจากจะต้องเผชิญการรุกรานบ่อยครั้งแล้ว ยังต้องเผชิญภัยธรรมชาติที่มาจากผืนดินและทะเลอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากทะเลทางเบื้องทิศบูรพามีอาณาเขตเชื่อมต่อไปถึงมหาสมุทรใหญ่ ซึ่งมหาสมุทรใหญ่นี้คือสายน้ำหลักที่ไหลลงสู่แว่นแคว้นต่างๆ ให้มีน้ำในการดำรงชีพเหล่าทหารหลายพันนายที่ลู่เฟยหลงนำมาด้วยนั้นล้วนเป็นทหารกองทัพเสวียนอู่ ทั้งเขาและเฟิ่งหรั่นต่างนั่งอยู่บนเกี้ยวของรถม้าด้วยกันทั้งคู่ บัดนี้ไหล่หนาของรัชทายาทหนุ่มถูกผู้เป็นภรรยาหนุนซบอย่างแผ่วเบา ดวงตาของนางเหม่อลอยราวกับมีเรื่องมากมายในใจที่อยากปลดปล่อย“มีเรื่องทุกข์ใจอันใดงั้นหรือ?” ฝ่ามือจากไหล่อีกข้างของลู่เฟยหลงประคองศีรษะของผู้เป็นภรรยาให้นอนหนุนตักเขาอย่างอ่อนโยน เฟิ่งหรั่นกำลังจะลุกขึ้นแต่ทว่ากลับถูกเขาดันหน้าผากให้นอนหนุนอยู่เช่นนั้น“ท่านพี่ หม่อมฉันเป็นชายา หาสมควรให้พระองค์ทำเช่นนี้นะเพคะ หม่อมฉันอาจถูกตำหนิ” นางกล่าว เดิมทีสามีควรหนุนนอนบนตักภรรยา มีที่ใดกันที่สามีเสียสละตักของตนเองให้ภรรยาหนุนนอนเช่นน
นับวันปราณมารที่ถูกซ่อนอยู่ภายในหุบเขาเตี่ยนถังจะยิ่งกำเริบหนักขึ้นทุกที ลำพังเฟิ่งหรั่นในตอนนี้นางถูกกัดกินลมปราณจนร่างกายอ่อนแอ แต่ทว่าด้วยตบะเซียนที่นางสั่งสมมายาวนานทำให้นางสามารถต่อสู้กับปราณมารที่กัดกินจิตวิญญาณและพลังเซียนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น‘ผู้ที่ลอบทำร้ายข้าจะต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีอย่างแน่นอน’นางคิดในใจ ยามนี้ร่างกายเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง แต่ไม่อาจนอนพักผ่อนได้ หากนางล้มนอนพักผ่อนเมื่อใด ลมปราณในกายอาจแตกซ่านได้ทุกเมื่อ นางจำเป็นต้องรักษาลมปราณและกายนี้เอาไว้มิให้แตกดับ หากไม่แล้วแดนสวรรค์จะเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ยากจะหยั่งรู้อึก!นางสะอึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นโลหิตสีแดงฉาน บ่งบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของนางย่ำแย่เพียงใด หากสภาพร่างกายนางย่ำแย่อยู่แบบนี้ อีกไม่นานกองทัพมารคงฉวยโอกาสนี้บุกแดนสวรรค์ หลังจากที่ไป๋หู่และนางต้องราชทัณฑ์ กองทัพสวรรค์ในยามนี้จึงมีเพียงจูเชว่และชิงหลงที่ยังเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านกองทัพมาร แต่ทว่านางทราบมาจากเหล่าทหารที่เฝ้านางอยู่หน้าถ้ำว่ากองทัพสวรรค์นั้นพ่ายแพ้จนเกือ