วันนี้ต้นหนาวได้ไปสอบเทียบเข้ามหาลัย ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นและต้นหนาวก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะออกมาดีเหมือนที่เธอคิดเอาไว้
คินน์กลับมาบ้านและรับหน้าที่เป็นคนขับรถพาเด็กสาวไปสอบแล้วก็พาเธอไปเดินห้างสรรพสินค้าต่อหลังจากที่สอบเสร็จ
อีกทั้งยังพาเธอไปกินโน้นกินนี่แต่ต้นหนาวก็ไม่เอะใจเพราะมัวแต่สนุกสนานกับการกินและเที่ยวจนแทบจะลืมไปว่ามีคินน์มาด้วย
“นึกยังไงถึงต้นหนาวมาเที่ยวคะ” ต้นหนาวเอ่ยถามระหว่างที่กำลังเดินเข้าบ้าน
“ไม่ต้องอยากรู้” คินน์ตอบด้วยน้ำเสียงดุๆ ทำให้ต้นหนาวหน้างอเล็กน้อย แต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเขาส่งสายตาดุดันมาที่เธอ
“อ้าว พี่คินน์กลับมาเมื่อไหร่คะ” ควีนที่เป็นห่วงกลัวว่าต้นหนาวอยู่บ้านคนเดียวหลังจากสอบเสร็จแล้วจะเหงาจึงแวะกลับมาพร้อมกับอาหารและขนมเต็มไม้เต็มมือ
“เมื่อวานน่ะ”
“ต้นหนาวพี่ซื้อของกินมาฝาก” ควีนชูขนมและของกินมากมายในมือให้ต้นหนาวดู ทว่าเจ้าตัวกลับรู้สึกอิ่มจนกินอะไรต่อไม่ลงแล้ว
“เอ่อ... พี่ควีนกินอะไรมาหรือยังคะ”
“พี่กินมาแล้วจ้ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวหนาวเก็บไว้กินพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ” ต้นหนาวรีบเข้าไปรับของกินมาถือไว้และเอาไปเก็บไว้ในตู้เย็นในห้องครัว เพราะถ้าหากเธอกินของพวกนี้ต่อ มีหวังได้ท้องแตกแน่นอน
“ไหนบอกว่างานยุ่งไงคะ” ควีนจ้องคินน์ตาเขม็งอย่างจับผิด
“ก็... พอดีว่าเคลียร์งานเสร็จไว เลยได้กลับมาก่อน”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” น้ำเสียงลากยาวที่คล้ายกับกำลังกวนคนตรงหน้า ทำให้คินน์เสียอาการไม่น้อยเพราะดูเหมือนน้องสาวจะรู้อะไรมากกว่านั้น
“พี่ควีนคะ คืนนี้หนาวไปนอนด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิ” ควีนตอบอย่างงุนงง จู่ๆ ต้นหนาวก็มาขอไปนอนด้วย
“พี่คินน์ไปแย่งห้องนอนของต้นหนาวเหรอคะ” ต้นหนาวที่ยังไม่ได้ฟ้องกับควีนสักคำก็งงไม่น้อย ควีนรู้ได้ยังไงกันว่าเขามาแย่งห้องของเธอ
“เปล่า นั่นห้องของพี่ต่างหาก” คินน์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“งั้นต่อไปถ้าพี่คินน์กลับมานอนบ้าน ต้นหนาวก็ไปนอนที่ห้องพี่ได้เลยนะ”
“ค่ะพี่ควีน” ต้นหนาวรีบตอบ ก่อนจะวิ่งกลับไปเตรียมของกลับไปที่ห้องของควีน
“พี่คินน์!” น้ำเสียงหวานแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน ควีนมองพี่ชายตาเขียวปั๊ดด้วยความไม่พอใจ เมื่อพี่ชายกำลังทำอะไรเป็นเด็กน้อย
“อะไรควีน”
“อย่าคิดที่จะแตะต้องตัวต้นหนาวแม้แต่นิดเดียวนะคะ ไม่งั้นควีนไม่เอาพี่ไว้แน่” พูดพลางทำท่าจะเชือดคอคนตรงหน้า
“พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นสักหน่อย”
“ให้มันจริงเถอะค่ะ ควีนไม่ห้ามแต่ว่าต้องรอให้ต้นหนาวบรรลุนิติภาวะก่อน ไม่งั้นควีนจะลากคอพี่เข้าตารางเอง”
“ก็พี่บอกว่าไม่ได้คิดอะไร”
“ปิดบ้านด้วยนะคะ ควีนจะไปนอนแล้ว” ควีนหันมาสั่งคินน์ก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเอง
“ครับ” คินน์ได้แต่รับปากน้องสาวอย่างว่าง่าย ถึงควีนจะดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและอ่อนหวาน แต่เนื้อในจริงๆ ก็โหดเหมือนแม่ไม่มีผิด หากขัดคำสั่งก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
ควีนเดินกลับมาที่ห้องนอนระหว่างนั้นก็เดินเข้าไปช่วยต้นหนาวหวีผมหลังจากที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ
“ต้นหนาว”
“คะพี่ควีน” ต้นหนาวรีบตอบรับทันที
“คราวหลังถ้าพี่คินน์มายุ่มย่ามอะไรกับเธอให้บอกพี่ทันทีนะ พี่ล่ะไม่ไว้ใจเลย”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณคินน์เขาไม่ทำอะไรหนาวหรอก แทบจะไม่เคยแตะตัวหนาวเลยด้วยซ้ำ แถมยังเคยบอกว่าหนาวสกปรกเหมือนลูกหมาด้วยค่ะ”
“หา! พี่คินน์ว่าหนาวแบบนั้นเหรอ”
“ค่ะ แต่ว่าก็นานแล้วนะคะ”
“พี่จะฟ้องพ่อแม่” ควีนเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ แต่ในใจแอบซ่อนแผนการร้ายที่จงใจจะแกล้งคินน์เอาไว้ แต่คนกังวลกลับเป็นต้นหนาวที่กลัวว่าจะทำให้คินน์เดือดร้อนเพราะตัวเอง
“อย่าเลยค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง
“ไม่ได้ คนอย่างพี่คินน์ต้องโดนซะบ้าง” ควีนไม่ยอม คราวนี้เธอจะแกล้งคนปากแข็งอย่างคินน์ให้รู้ซึ้งถึงรสชาติความแสบของเธอ
- วันต่อมา –
ควีนโทรไปฟ้องและวางแผนกับพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว ทำให้วันนี้ทุกคนกลับมาอยู่บ้านกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ต้นหนาวยืนมองด้วยความกังวล เธอกลัวว่าคินน์จะโกรธที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น ถึงจะไม่ค่อยชอบหน้าคินน์มากแค่ไหน แต่ก็ยังถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเธออยู่ดี
“คุณต้นหนาวคะ คุณครูมาหาคะ”
“หืม” มาหาทำไม?
“ไปสิต้นหนาว ปล่อยให้ครูรอนานไม่ดีนะ” ต้นหนาวถูกจับแยกออกไปอย่างไม่อาจขัดขืน ได้แต่มองคินน์ตาละห้อย
ควีนกำลังทำตามแผนการที่วางเอาไว้ หวังจะแกล้งพี่ชายอย่างคินน์ให้อกแตกตาย
สายตาอีกสี่คู่หันมาจ้องมองคินน์ที่เป็นพี่ชายคนโตสุดของบ้าน นอกจากพ่อกับแม่แล้วก็คงไม่มีใครจัดการหรือออกคำสั่งกับคินน์ได้
“พ่อสั่งห้ามแกยุ่งกับต้นหนาวเป็นเวลาสองปี” คำสั่งของวสันต์ถือเป็นเรื่องเด็ดขาด ถ้าไม่ทำตามก็จะต้องโดนทำโทษหนักไม่เว้นว่าจะเป็นใคร
สายตาของคินน์มองมาที่วสันต์อย่างไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถึงได้ต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”
“ก็ควีนไม่ไว้ใจ พี่คินน์ชอบแกล้งต้นหนาวแล้วยังแอบเข้าไปในห้องของต้นหนาวตอนกลางค่ำกลางคืนอีก ห้องในบ้านมีตั้งเยอะแยะ”
“แต่นั่นก็ห้องพี่”
“แต่แม่ยกให้ต้นหนาวแล้ว”
“แม่ครับ~” คินน์เสียงอ่อนใส่ผู้เป็นแม่อย่างขอความเห็นใจ
“ตามนั้นนะคินน์”
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับยัยเด็กนั่นสักหน่อย”
“ถ้างั้นพี่คินน์ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลยนี่คะ พ่อแค่สั่งไม่ให้พี่มายุ่งกับต้นหนาวแค่นั้นเอง ในเมื่อพี่คินน์ไม่สนใจก็แค่อยู่เฉยๆ ไปสิคะ” คำพูดของควีนทำให้คินน์แก้ตัวต่อไม่ถูก ได้แต่แยกเขี้ยวใส่น้องสาวที่พร้อมใจรุมเขาจนหาทางออกไม่เจอ
“ควีน...”
“เอาล่ะ พอๆ ต่อจากนี้คินน์ห้ามมายุ่งกับต้นหนาวอีก จนกว่าต้นหนาวจะเรียนจบ”
“ไหนตอนแรกบอกว่าสองปีไงครับ”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จนกว่าต้นหนาวจะเรียนจบ” คำสั่งของวสันต์ถือเป็นที่สิ้นสุด นับตั้งแต่วันนี้ไปคินน์จะไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งกับต้นหนาวจนกว่าต้นหนาวจะเรียนจบ ถ้าจะกลับมาบ้านก็ต้องบอกก่อนล่วงหน้า
คินน์ได้แต่เดินคอตกออกจากบ้านไปหลังจากที่โดนทั้งพ่อแม่และน้องสาวรวมหัวกันเฉดหัวเขาออกจากบ้านอย่างจงใจ จนกว่าต้นหนาวจะเรียนจบ ก็ตั้งสี่ปี แล้วเขาจะทนได้ยังไงกัน...
“นี่เราแกล้งกันแรงไปหรือเปล่าคะคุณ” นายหญิงของบ้านหันมาถามสามีหลังจากที่เห็นลูกชายคอตกออกจากบ้านไป
“ไม่หรอก ตอนนั้นผมโดนพ่อคุณกันท่าตั้งหลายปี ผมยังทนได้เลย”
“คุณนี่นะ”
“ควีนก็คิดว่าไม่แรงหรอกค่ะ ให้โดนซะบ้าง เอาให้คลั่งไปเลย” ควีนที่ดูเหมือนจะได้นิสัยของพ่อมามากกว่าแม่ก็เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ต้นหนาวที่เพิ่งร่ำลาจากคุณครูที่มาเยี่ยมก็รีบกลับเข้ามาในบ้าน หลังจากที่เห็นคนตัวสูงรีบออกจากบ้านไปโดยไม่ร่ำลาเธอเลยสักคำ
“ต้นหนาว มาทานข้าวกันสิลูก” อรดาเอ่ยเรียกอย่างเอ็นดู ทุกคนคลี่ยิ้มพลางมองมาที่เด็กสาวที่เพิ่งจะเดินกลับเข้า
“ค่ะแม่อร”
“พ่อสั่งให้แม่บ้านทำของโปรดต้นหนาวทั้งนั้นเลยนะ ฉลองที่ลูกสาวคนเล็กของบ้านสอบเสร็จแล้ว”
“ขอบคุณค่ะพ่อสันต์” ต้นหนาวเปรียบเสมือนคนในครอบครัวไปแล้วจริงๆ
ช่วงแรกๆ รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย แต่เพราะทุกคนใจดีกับเธอมาก ทำให้เธอเริ่มสนิทกับโคลด์และควีนรวมถึงพ่อกับแม่ได้อย่างรวดเร็ว
“ต่อจากนี้ไป ห้องนี้จะเป็นของต้นหนาวคนเดียว”
“แล้วคุณคินน์ล่ะคะ”
“ปล่อยให้ไปนอนห้องรับแขกไง” ควีนพูดอย่างไม่ใส่ใจ ห้องรับแขกก็ใช่ว่าจะไม่ดี เพียงแต่ค่อนข้างเล็กกว่าห้องนอนของคนในบ้านนิดหน่อยเท่านั้น
“ทำไมคุณคินน์ถึงรีบออกจากบ้านไปเหรอคะ”
“เป็นห่วงเหรอ” คำถามของควีนทำให้เด็กสาวเลิ่กลั่ก พลันรีบปฏิเสธทันควัน
“เปล่าค่ะ แค่สงสัย”
“พี่คินน์แค่โดนคุณพ่อลงโทษนิดหน่อย”
“ลงโทษ?” ต้นหนาวทวนถามซ้ำอย่างงุนงง
ควีนพยักหน้าซ้ำอีกครั้ง แต่กลับไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุที่คินน์โดนลงโทษให้ต้นหนาวฟังต่อ
“เรื่องงานน่ะ”
“ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับ แม้จะไม่ค่อยเชื่อที่ควีนพูดว่าคินน์โดนลงโทษเพราะเรื่องงานสักเท่าไร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
“แล้วจะเข้าคณะอะไร”
“หนาวคิดว่าจะเรียนบัญชีค่ะ” จากที่ปรึกษากับคุณครูแล้ว ต้นหนาวก็ได้คำตอบว่าเธอเหมาะที่จะเรียนคณะบัญชีมากที่สุดแล้ว
“หืม งั้นก็ดีสิ จะได้กลับมาช่วยงานที่บริษัท” ควีนสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าเด็กสาวจะเลือกเรียนอะไรก็ตาม หากต้นหนาวชอบ ทุกคนก็พร้อมสนับสนุน
“ค่ะ หนาวก็ตั้งใจไว้แบบนั้น”
“ตั้งใจเรียนนะ ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ”
“หนาวยังไม่ติดมหาลัยเลยนะคะ” ผลคะแนนสอบจะออกเดือนหน้าและประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าสู่รอบสัมภาษณ์ในเดือนถัดไป แม้จะรู้สึกว่าการสอบเป็นเรื่องง่ายสำหรับต้นหนาว แต่ก็กดดันไม่น้อยเช่นกัน
“เก่งขนาดนี้ ยังไงก็ต้องติดอยู่แล้วล่ะ เดี๋ยวถ้าสอบติดพี่จะพาไปเที่ยวทะเลแล้วกัน” คำสัญญาของควีนพลอยทำให้ต้นหนาวรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเมื่อจะได้ไปเที่ยวทะเล...
หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงสามเดือน ต้นหนาวก็สอบติดมหาลัยในคณะที่อยากเรียนจริงๆ ทั้งครอบครัวเลยพากันไปเที่ยวทะเลในรอบปี วสันต์และอรดาต่างก็ตามใจต้นหนาว เช่นเดียวกับควีนและโคลด์ที่ตามใจน้องสาวไม่แพ้กัน ส่วนคินน์ก็หายเงียบไป นับตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้มาเจอหน้ากับต้นหนาวอีกเลย