LOGINอาหารเย็นมื้อแรกของชีวิตแต่งงานจบลงด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้สามี ถึงพี่พีทจะบอกว่ากินยาเดี๋ยวก็ดีขึ้น แต่เธอก็ยังไม่อุ่นใจ ด้วยความอยากรู้สึกผิดน้อยลง ก็เลยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะช่วยทายาคาลาไมน์ให้สามีไปเลยทั่วทั้งตัว
"พี่ทาเองได้ครับ" "ไม่ค่ะ ญาทาให้" คนตัวเล็กรีบแย่งขวดคาลาไมน์มากำไว้ในมือ ในเมื่อเธอเป็นต้นเหตุ เธอก็ควรจะรับผิดชอบให้ดีที่สุด เอาตรงๆ เธอไม่ไว้ใจพี่พีท เพราะถ้าพี่พีทปากโป้งและย่ามารู้ทีหลังว่าเธอนั่งมองเฉยๆ โดยไม่ทำเหี้ยอะไรเลย เธอได้โดนย่าอบรมหูชาข้ามวันข้ามคืนแน่ๆ "เดี๋ยวญาถอดเสื้อให้ค่ะ" พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไป แต่ก็ถูกมือหนาห้ามไว้ด้วยการกุมข้อมือเล็กๆ ไว้ก่อน ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ๆ ก็แดงก่ำขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุทำเธออดที่จะใช้มืออีกข้างยื่นไปแตะไม่ได้ "ทำไมหน้าแดงขนาดนี้เนี่ย" ญารินพูดพร้อมกับยื่นหน้าสวยๆ ที่เต็มไปด้วยความสงสัยเข้ามาดูใกล้ๆ "หรือว่ายาที่กินไปยังไม่ออกฤทธิ์" หญิงสาวพึมพำ โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำของเธอนั่นล่ะเป็นตัวกระตุ้น เดี๋ยวก็มาจับตรงนั้น เดี๋ยวก็มาแตะซ้ำๆ ตรงนี้ สัมผัสชวนให้คิดเลยเถิดไปไกลมันทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของชายหนุ่มเต้นแรง และถ้าเขายังปล่อยให้เธอทำตามแต่ใจ แตะไม่ดูตาม้าตาเรือ มีหวังคงทนไม่ไหวได้จับเธอกดลงตรงโซฟานี้แน่ๆ "พี่ว่าพี่ถอดเองดีกว่า" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำวับๆ แวมๆ และมันก็เป็นอาหารตาล่อให้สาวเวอร์จิ้นอย่างญารินเผลอมองตามนิ้วเรียวนั้นอย่างไม่รู้ตัว กว่าเธอจะรู้ว่าหลงใหลไปกับภาพกร้าวใจตรงหน้าก็ตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มของชายหนุ่มถามขึ้นมาว่า "สรุป...ญาจะทาให้พี่ไหมครับ" คนตัวเล็กที่รู้ตัวว่าถูกจับได้ถึงกับหน้าแดง รีบก้มหน้าซ่อนความเขินอายด้วยท่าทีเก้อเขิน ปากได้รูปพึมพำขมุบขมิบต่อว่าตัวเองเบาๆ ที่เผลอตัวจ้องมองแผงอกของสามีจนตาค้าง น่าอายจริงๆ ญารินเอ้ยยยย รีบๆ ทาดีกว่า... หญิงสาวคิด พร้อมกับเทยาใส่ฝ่ามือ เธอค่อยๆ ทาไล่ไปตามผื่นแดงที่กระจายไปทั่วทั้งตัว คนทาก็ทาไป ส่วนคนมองก็ได้แต่กลั้นขำกับท่าทีเลิ่กลั่กน่าเอ็นดู ญารินยังคงดูน่ารักเสมอในสายตาเขา เธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มเก่ง พูดเก่ง ร่าเริงสดใส หนำซ้ำยังแอบดื้อเงียบ ไม่ฟังใครเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน จะมีเปลี่ยนก็แค่..... เธอจำเขาไม่ได้!!!! นัยน์ตาสีนิลแลดูหม่นลงเล็กน้อยเมื่อหวนนึกถึงความทรงจำในอดีต แน่นอนว่าเขายังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี วันที่เขาถือช่อดอกไม้ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล แต่กลับถูกถามกลับมาด้วยสีหน้างงๆ ว่า "พี่เป็นใคร" สีหน้าที่สับสนและคำพูดที่ราวกับว่าเป็นคนไม่รู้จักกันทำเอาเขาถึงกับชาวาบไปทั้งตัว ตั้งใจว่าจะยิ้มให้เธอ แต่มันก็ยิ้มไม่ออก เธอแทบไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ แววตาที่เคยมองกัน ไม่มีที่ว่างเหลือให้เขาได้มีตัวตน มันทำให้เขาที่ตั้งใจมาบอกข่าวดีให้รู้ว่าสอบติดหมอแล้วทำตัวไม่ถูก ทำได้แค่หันไปถามถามคุณหมอที่ยืนข้างๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และคำตอบที่ได้ฟังก็ทำเอาเขาแทบทรุดหมดแรง เพราะหมอบอกว่ามันเป็นผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ้างหลังจากเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีทั้งคนที่ญารินจำได้และจำไม่ได้ และหนึ่งในคนที่เธอจำไม่ได้ก็คือ "เขา" คำถามเดิมๆ วนเวียนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำไมจะต้องเป็น "เขา" ที่ถูกลืม คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวล แค่ต้องให้เวลาคนไข้ได้พัก และจากนั้นก็ค่อยๆ ปะติดปะต่อความทรงจำ ทุกอย่างจะต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะกลไกในในสมองมันเป็นอะไรที่ซับซ้อน ยิ่งไปเร่งรัดก็ยิ่งมีแต่จะแย่ลง ข้อนี้เขารู้ดี และเขาเองก็เข้าใจ แต่ทว่า... ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ ตอนที่เขาต้องห่างกับเธอเพื่อไปเรียนต่อแพทย์ที่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดด้วย แล้วอย่างนี้เขาจะเอาเวลาที่ไหนมารื้อฟื้นความทรงจำที่หายไปกับเธอ สุดท้าย..... คนที่มีหน้าที่อย่างเขาก็ทำได้แค่คิดถึง ต่างคนก็เดินไปตามทางของตัวเอง และความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกันก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากแค่หนึ่งปีก็เพิ่มเป็นหลายปี หมุนเวียนเปลี่ยนผัน จนกระทั่ง... เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำก็ได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งเพราะความบังเอิญ ความบังเอิญที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจทำให้เขาได้มาเจอผู้หญิงที่ชื่อ "ญาริน" แบบงงๆ ในค่ำคืนหนึ่งที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโวยวาย เขาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ แน่นอนว่าเขาจำเธอไม่ได้ เพราะมันทั้งมืดและเธอก็เปลี่ยนไปมาก เสียงที่แหลมสูงจนแสบแก้วหู มันทำให้เขาที่เพิ่งตื่นนั่งงงเป็นไก่ตาแตก มันทำให้เขาสบสนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะพอตื่นขึ้นมาก็ถูกทุกสายตาจับจ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียว ทุกคนดูตกใจ เขาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน และนั่นก็คือเหตุผลที่เขานั่งเป็นใบ้ ไม่หือ ไม่อือ ไม่พูด ไม่จา เมื่อได้ยินเธอเรียกแทนตัวเองอยู่หลายครั้งว่า "ญาริน" เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?? ชายหนุ่มถามตัวเองซ้ำๆ ขณะฟังหญิงสาวข้างกายแก้ตัวยาวเหยียด เขาแทบไม่ได้ฟังสิ่งที่เธอพูดเลยจริงๆ มันเหมือนกับว่าอยู่ๆ โลกทั้งใบก็หยุดหมุนไปดื้อๆ มันดีใจจนพูดไม่ออก นี่เขาได้เจอกับเธออีกครั้งแล้วจริงๆ ใช่ไหม "ญาริน" หลานสาวของย่าฤดีชื่อนี้มีแค่คนเดียว และคนๆ นั้นก็คือผู้หญิงที่นั่งทำหน้าตกใจจนตาแทบถลนแถมยังเอาแต่กระทุ้งข้อศอกใส่เขายิกๆ ให้ช่วยพูดเข้าข้างเธอ เขารู้ดีว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับเขา แต่จะให้เขาทิ้งโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร ดังนั้นคำว่า "ไม่เห็นด้วย" ที่เธออยากได้ยินจึงเปลี่ยนมาเป็น "ผมจะรับผิดชอบเองครับ" โดยทันที ชายหนุ่มคิดพลันยิ้มจางๆ ที่มุมปาก นัยน์ตาคมเข้มแอบมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังตั้งอกตั้งใจในการทายาแก้คัน อยากจะบอกว่าพอก่อนแต่ใจมันก็ชอบให้มือนิ่มๆ นั้นลูบไล้ ปล่อยให้ลูบไปลูบมา จนตอนนี้กลายเป็นว่าทั่วทั้งตัวของเขาทั้งแขน ขา หน้า หลัง ถูกเธอละเลงยาจนทั่วทุกซอกทุกมุม "ดีขึ้นไหมคะ" หญิงสาวช้อนตามอง "ดีมากๆ เลยครับ" ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยื่นหน้าหล่อๆ เข้าใกล้หญิงสาวจนได้ยินเสียงลมหายใจ คนที่ตั้งตัวไม่ทันถึงกับผงะ เพราะกลัวว่าจะโดนเหมือนตอนกลางวัน ดังนั้นเธอก็เลยทำตัวไม่ถูก จะอยู่ก็กลัว จะเดินหนีไปเลยก็น่าเกลียด สุดท้ายก็เลยหาทางเลี่ยงด้วยการบอกว่าจะเอาขวดยาไปเก็บซะเลย ง่ายดี ดูมีเหตุผลด้วย "เกือบไปแล้ว..." หญิงสาวพึมพำในลำคอพลางยกมือขึ้นมาแนบอกที่กระเพื่อมขึ้นลง หัวใจของเธอเต้นเร็วและแรงจนพาลให้หายใจไม่ทั่วท้อง เธอไม่รู้ว่าอาการอย่างนี้มันเรียกว่าอะไร แต่มันทำให้เธอหงุดหงิดตัวเองยังไงพิกล มุมปากหยักยกยกยิ้มจางๆ ขณะมองตามแผ่นหลังบอบบางที่ผละออกไป คนจริงจังอย่างเขาถ้าได้มุ่งมั่นว่าจะทำอะไรสักอย่าง ก็จะตั้งใจทำให้ถึงที่สุด ดังนั้น.... ถึงญาจำพี่ยังไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะพี่ตั้งใจว่าจะทำให้ญาตกหลุมรักพี่อีกครั้งให้ได้เลย คอยดู!! "ถอนหายใจทำไมล่ะญา"คุณฤดีเอ่ยถามหลานสาวที่พอมาถึง ก็นั่งใจลอยเท้าคางเหมือนคนมีอะไรเก็บงำไว้ในใจ"เปล่าค่ะ""อย่ามาโกหก!!!'คนแก่ทำแสร้งทำเสียงเข้ม เลี้ยงหลานมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย มีหรือคนแก่หัวหงอกอย่างเธอจะอ่านสีหน้าของหลานสาวคนโปรดไม่ออก"ทะเลาะกับพ่อพีทเหรอ"ถามเข้าประเด็น จากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาคนเพิ่งแต่งงานกัน จะมีอะไรให้ต้องคิดมากถ้าไม่ใช่น้อยใจผัว"ไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ ก็แค่....."เงียบไปก่อนถอนหายใจ เธอปิดบังอะไรย่าไม่ได้ เธอรู้ดี แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายให้ย่าเข้าใจยังไง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในสมองเธอ ภาพจำที่ผลุบๆ โผล่ๆ มาแบบไม่ปะติดปะต่อมันกวนใจเธอ ยิ่งอยากรู้ มันก็ยิ่งคาใจ เพราะเหมือนกับว่าบางครั้งเธอจะนึกออก แต่สุดท้ายมันก็นึกไม่ออก"แค่อะไร"เสียงนุ่มนวลชวนฟังของย่าดึงคนที่กำลังตกในภวังค์ให้เงยขึ้นมองสบตาที่เจือความเป็นห่วง"แค่รู้สึกหงุดหงิดตัวเองน่ะค่ะ""พ่อพีทไปเผลอทำอะไรขัดใจล่ะ"มือเหี่ยวย่นยื่นไปลูบหัวหลานสาวเบาๆ ก่อนจะผุดยิ้มจางๆ และพูดต่อว่า"ถ้าอึดอัดก็ระบายให้ย่าฟัง"คำพูดอ่อนโยนและน้ำเสียงที่แสดงความเข้าใจทำให้ญารินกล้าที่จะเล่าเรื่องที่เก็บไว้ให้ผู้เป็นย่าฟัง แ
เราเคยเจอกันมาก่อนไหมคะ??ถามพลางมองหน้าของสามีอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เธออาจจำผิด หรือคิดมากไปเองก็ได้ ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ทำไมช่วงนี้เธอถึงได้รู้สึกว่าการกระทำบางอย่างของพี่พีทมันคุ้นเคย จนต้องร้องเอ๊ะ!! ในใจอยู่บ่อยๆ ยิ่งได้ใช้เวลาร่วมกันก็ยิ่งรู้สึกมีบางสิ่งปะทุขึ้นมาในใจ!!"ว่ายังไงคะพี่พีท"เธอถามย้ำเมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไปพักใหญ่ๆ จนผิดสังเกตุ เธอพูดอะไรผิดไปรึเปล่า ทำไมมุมปากที่เปื้อนยิ้มถึงค่อยๆ จางหายจนกลายเป็นนิ่งเฉย "พี่ไม่แน่ใจครับ""งั้นเหรอคะ"ดวงตาที่เป็นประกายแลดูผิดหวัง นึกว่าจะหายข้องใจ แต่เธอกลับยิ่งคาใจหนักกว่าเดิม ถ้าคนในภาพจำนั้นไม่ใช่พี่พีท แล้วเขาคือใคร ทำไมถึงได้มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับสามีของเธอมากเหลือเกิน"ครับ""ไม่เป็นไรค่ะ ญาคงเข้าใจผิดเอง"ถึงเรียวปากสวยจะฝืนยิ้ม แต่ทว่าแววตาสดใสกลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เธอกำลังคาดหวังอะไร เธอย่อมรู้ดี แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ เธอก็แค่ต้องยอมรับมัน จะไปคาดคั้นให้พี่พีทลำบากใจก็คงไม่ใช่เรื่องคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกบางที...เธออาจจะดูซีรี่ย์มากเกินไปก็เลยเก็บเอามาคิดเป็นตุเป็นตะเอง!!หาเหตุผลให้กับตัวเอง ก่อนจะ
"อร่อยจัง"คนชมยิ้มแก้มปริ ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวงั่มๆ ไม่หยุด ก็คนมันหิวเนอะ ผัวเล่นคึกเป็นม้าศึกทั้งคืนมันก็ต้องหมดพลังงานกันบ้าง อันที่จริงมันก็อายนะ อายมากด้วย เพราะตอนที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเจอหน้าหล่อๆ ของพี่พีท อารมณ์คือแบบถามตัวเองว่าเฮ้ย!! มันคือความจริงใช่ไหม??ฉันตกเป็นของพี่พีทแล้วจริงๆ เหรอ??แก้มเนียนร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เมื่อก้มมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง รอยรักที่ฝากไว้ยังเป็นจ้ำแดงชวนให้นึกถึงกิจกรรมอันร้อนฉ่าที่ทำเธอเสียงแหบแห้ง เซ็กส์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด จริงอยู่ว่าครั้งแรกมันเจ็บ แต่มันก็เจ็บแค่ไม่นานก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านจนเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ผ้าปูที่นอนยับๆ ตรงหน้าคือคำตอบว่ากิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อคืนนั้นได้สร้างความวาบหวามให้กับเธอและเขามากแค่ไหนเอาน่า....คนที่ได้เวอร์จิ้นเธอไปก็คือ "ผัว"หญิงสาวพึมพำ ยกมือเรียวขึ้นแนบอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นรัว คำว่า "สามี" ในความคิดของเธอตอนนี้บอกเลยมันต่างกับตอนที่ยังไม่มีอะไรกันอย่างสิ้นเชิง คำพูดของย่าที่เคยบอกเธอว่าอยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองผุดขึ้นมาในหัว ตอนนั้นเธอเถียงย่าสุดใจขาดดิ้นว่า "ไม่มีทาง" แต่มา
อ๊ะ!!เสียงหวานร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ มือของคนเมาก็เลื่อนจากสองเต้าอวบอิ่มลงมาลูบไล้ยังบริเวณหน้าท้องขาวผ่อง ยิ่งเธอโยกตัวขยับหนี ก็เหมือนไปกระตุ้นให้มืออุ่นๆ ของสามีเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ถึงจะตกใจกับสิ่งที่สามีทำอยู่บ้าง แต่เหตุผลมันก็พอรับได้ คนเมาอ่ะเนอะ จะไปคิดอะไรมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ร้องเอะอะโวยวายให้คนเมาตื่น รวมถึงเหตุการณ์ที่เกือบทำให้เธอกับพี่พีทมีอะไรกัน มันส่งผลกับความรู้สึกบางอย่างในใจ ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ที่รู้แน่ๆ คือ "ไม่ได้รังเกียจ" แถมยังมีอารมณ์ร่วมไปด้วยอีกต่างหาก พูดแล้วก็อาย แต่มันคือความจริง และคงถึงเวลาที่เธอควรต้องยอมรับสถานะ "เมีย" หมอจริงๆ สักที กลัวนะกลัวได้....แต่ "ผัว" ยังไงก็คือ "ผัว" อยู่วันยังค่ำคำพูดจิกกัดเบาๆ ของเพื่อนสนิทที่เธอไปปรึกษาเด้งขึ้นมาในหัว รู้แหละว่าสถานะผัวมันเปลี่ยนไม่ได้ และไม่ว่าเธอจะเลี่ยงจะหลบยังไง สุดท้ายก็หนีสถานะ "เมีย" หมอไม่พ้นอยู่ดี ก็นะ...แค่ฉีดยายังกลัวถ้าเจอเข็มที่ใหญ่กว่านั้น....เธอจะไม่สลบคาเข็มไปเลยเหรอหญิงสาวคิดพลางหลุดขำออกมากับสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้กับเพื่อนสนิท ซึ่งเข็มที่ว่าก็หมายถึงไอ้นั
เฮ้อ!!!หญิงสาวนั่งถอนหายใจ ใบหน้าหวานดูกลัดกลุ้มเหมือนกำลังคิดอะไรในหัวอยู่ตลอดเวลา เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานอย่างอ่อนล้า ดวงตาอิดโรย เพราะเมื่อคืนมีเรื่องให้ต้องคิดจนเธอข่มตาลงไม่ได้เลยสักนาทีผู้ชายคนนั้นคือใคร??ทำไมเธอถึงนึกชื่อไม่ออกคื้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากันอย่างหงุดหงิด นั่งคิดก็แล้ว นอนคิดก็แล้ว แต่คำตอบที่เธอได้ก็มีแต่ความว่างเปล่า พี่....ญาขอโทษ!!คำพูดคลุมเคลือไม่ปะติดปะต่อยังคงดังก้องวนเวียนในหัว เธอกำลังขอโทษใคร ใช่คนที่วิ่งเข้ามาช่วยเธอหรือเปล่า ญารินพยายามนึกถึงใบหน้าของชายคนนั้น แต่ภาพมันก็พร่ามัวเกินกว่าที่เธอจะจำได้ ความรู้สึกอึดอัดที่นึกเท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออกมันทำเธอหงุดหงิด มันเหมือนมีอะไรติดค้างในใจ และมันเหมือนกับย้ำเป็นนัยๆ ว่าเธอกำลังหลงลืมบางสิ่งที่สำคัญสำคัญถึงขั้นที่ว่า....ทำให้เธอนอนไม่หลับเลยทั้งคืน!!ครืด~ ครืด~เสียงจากโทรศัพท์ดึงให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ความคิดที่หมกมุ่น ดวงตาคู่สวยปรายมอง และเมื่อเห็นชื่อคนโทรมา เธอก็ถึงกับดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจโอ้ย!!"ฉันลืมไปเลย"หญิงสาวพึมพำ เธอรีบคว้ากระเป๋าสะพายไหล่วิ่งไปยังรถหน้าตั้ง วันนี้เธอออกมาทำ
"พะ...พี่พีทจะทำอะไรคะ"ถามออกไปด้วยความตื่นตระหนก คำว่า "พร้อม" ของพี่พีท ก็เหมือนคำชวนให้ทำเรื่องอย่างว่า "ผัว" ก็คือ "ผัว" อยู่วันยังค่ำ ข้อนี้เธอรู้ดี แต่ไม่ต้องรีบตอกย้ำสถานะความเป็น "ผัว" เร็วขนาดนี้ก็ได้ คิดพลันมองหน้าหล่อๆ ของสามีที่โน้มลงมาใกล้ๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่รินรดข้างพวงแก้ม "พี่ขอจูบได้ไหมครับ"คำขอที่เลี่ยงไม่ได้มาพร้อมกับแววตาอ้อนเมียหนักมาก พี่พีทเป็นผู้ชายที่หล่อ เธอยอมรับ แต่คือเข้าใจไหมว่า คนมันไม่เคยมีแฟน พออยู่ๆ โดนสามีจูบปากเข้าให้มันก็เลยเกร็งตัวแข็งทื่อ คิดว่ามันน่ากลัว คิดว่าคงทำไม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับกลายเป็นว่าเธอถูกริมฝีปากได้รูปนั้นดึงดูดให้จมลึกลงไปในห้วงอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก กลีบปากนุ่มนิ่มถูกสามีบดคลึงจนเธอเผลอครางหวิวในลำคออื้อ~หญิงสาวส่งเสียงครางประท้วงเมื่อสัมผัสอ่อนโยนของสามีเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นกว่าเดิม ขนอ่อนลุกชันด้วยความเสียวเมื่อถูกมือหนาเค้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มจนร้อนวูบ ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามที่สามีปรนเปรอให้ อารมณ์ที่เตลิดทำให้เธอลืมความกลัวในใจและถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้จนบดเบียดตัวเข้าหาความแข็งแ







