วันนี้ผมตื่นแต่เช้า พอเวลา 8 โมงก็ให้คนขับรถไปส่งที่มหาลัย โดยไม่ลืมที่จะแวะรับเอาเพื่อนสนิทไปด้วย เพราะไหนๆ ก็ต้องไปที่คณะด้วยกันอยู่แล้ว หากแต่...
“อ้าว เบส มาทำอะไรแต่เช้าละลูก”
“อ๊ะ ก็วันนี้พวกรุ่นพี่เขานัดให้ไปทำกิจกรรมรับน้องนี่ครับ”
“อ้อ งั้นแม่ฝากขึ้นไปปลุกซันทีนะ ยังไม่ลงมาเลย” ผมได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกอย่างพยายามข่มกลั้นอารมณ์ เดินมุ่งตรงขึ้นไปที่ห้องนอนของเพื่อนสนิท พอเปิดประตูเข้าไปทำให้กำหมัดจนแขนสั่นระริกอย่างอดทน เชื่อได้เลยว่าถ้าหากในมือผมมีไม้เรียว มันคงจะสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ อยากจะฟาดลงไปที่ผิวเนื้อขาวๆ ของคนที่กำลังนอนเปลือย สวมใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์นั้นอย่างไม่ยั้งมือ
“ซัน!! มึงจะไปไหม รับน้องน่ะห๊ะ!!”
โครม!!
ฝ่าเท้างามๆ ขาวๆ ยันโครมเข้าที่สีข้างของคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จนมันกลิ้งตกเตียงในสภาพที่มึนๆ งงๆ สับสนกับชีวิตว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง
“ไปอาบน้ำ กูให้เวลา 15 นาที ไม่เสร็จกูจะทิ้งมึงไว้นี่” ผมพูดพร้อมๆ กับพลิกข้อมือตรวจดูเวลา ในตอนที่กำลังจะหันหลังออกจากห้อง ไอ้คนหัวไฟมันก็ชูมือขึ้นน้อยๆ บอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ดวงตาปรือปรอยจะปิดลงอีกครั้ง
“อุ้มหน่อย”
“อุ้มเหี้ยอะไรละ!!!” ผมพูดพร้อมกับเดินเข้าไปกระชากหัวของมันแรงๆ ก่อนจะดึงลากไปทิ้งไว้ในห้องน้ำ มันเองก็โอดโอยไม่หยุด
“โอ้ยๆ ๆ ๆ เบสๆ เบาๆ อ๊าาาา มันเย็น กรี้ดดดด มันเย็น!!” มันร้องดิ้นๆ ๆ ๆ พยายามที่จะหลบออกจากสายน้ำที่รินรดใบหน้า
“ตื่นรึยัง!!”
“จ๊ะ เต็มตาเลยจ๊ะ ตาล่างก็ตื่นจ๊ะ” มันพูดพร้อมๆ กับปาดหยดน้ำบนใบหน้าทิ้งไป ก่อนจะก้มลงมองข้างล่างของตัวเอง ผมเองก็มองตามลงไปก่อนจะพบกับ
หงึก หงึก
โป๊ก!!
“โอ้ยยยยยย ทำไมต้องดุร้ายกับกูด้วย มันเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย ทำอย่างกับมึงไม่เป็น”
“เออ!! กูเป็น!! แต่กูไม่หน้าด้านเหมือนมึง!!! อาบเร็วๆ เลยสัส ไม่งั้นกูไม่รอ” พูดพลางโยนฝักบัวทิ้งไป ไม่สนใจว่ามันจะโดนส่วนไหนของร่างกายของคนที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องมา ปิดประตูเสียงดัง แล้วจึงไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเอาชุดนักศึกษามาเตรียมไว้ให้ ไม่ลืมที่จะหาผ้าเช็ดตัวลายอุนตร้าแมนไปแขวนไว้รอหน้าประตู ก่อนจะออกไปจากห้องไม่วายย้ำเรื่องเวลาให้มันรับรู้
“15 นาทีนะมึง!!!”
“เออๆ ๆ เสร็จแล้วโว้ยยย”
แกร๊ก!
ผมได้แต่ยืนงง เมื่อมั่นใจว่ามันเข้าไปไม่ถึง 10 นาทีแน่ๆ ละ มันเอื้อมมาหยิบผ้าเช็ดตัวไปใช้ แล้วจึงเปิดประตูออกกว้าง เดินออกมาจากห้องน้ำ ไปหยิบเอาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆ
“มึงนี่ดูแลกูดียิ่งกว่าเมียกูอีกนะ สนใจมาทำหน้าที่นี้ให้กูป้ะ” ไอ้ซันหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้แบบกวนๆ
“ไว้มึงหาเมียจริงๆ ให้ได้ก่อนเหอะ กูพร้อมจะคืนหน้าที่นี้ให้เลย แม่ง ภาระกูฉิบหาย” พูดพลางส่ายหัวไปมา หันหลังเดินออกจากห้อง แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่พอลับหลังแววตากลับเศร้าหมองลงอย่างช่วยไม่ได้
“อ้าวเบส ซันตื่นแล้วหรอลูก”
“ครับ ตื่นแล้วครับ” ผมหันไปตอบแม่ของเพื่อนสนิทเบาๆ แล้วจึงนั่งรอต่อ เพียงไม่นานไอ้ซันก็เดินลงมาจากห้อง ในสภาพที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก ผมว่านะ ที่มันแต่งตัวเซอร์ๆ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยน่ะ เป็นเพราะมันตื่นสายเลยไม่มีเวลาแต่งให้มันดีๆ ซะมากกว่า
“แม่ ซันไปน้า”
“จ้าๆ”
“ผมไปก่อนนะครับคุณน้า สวัสดีครับ” ผมร้องบอกพร้อมๆ กับยกมือไหว้ อีกฝ่ายก็ออกจากห้องครัวมาพยักหน้ารับน้อยๆ แล้วจึงเคลื่อนทัพไปขึ้นรถ ตอนนี้ 8 โมง 20 นาที ผมจึงไม่รอช้า ออกคำสั่งในทันที
“ซิ่งเลยครับ”
ใช้เวลาเพียง 25 นาที ก็มาถึงมหาลัยเป็นที่เรียบร้อย ผมกับไอ้ซันพากันลงจากรถ แล้วไปลงทะเบียนยืนยันตัวตน ก่อนจะไปนั่งต่อแถว พอถึงเวลาตามที่พวกพี่ๆ เขากำหนดไว้ เราก็ถูกย้ายไปที่ลานกิจกรรม แล้วเขาก็จัดให้นั่งเรียงแถวใหม่ แต่ผมกับไอ้ซันก็ยังได้นั่งข้างกันอยู่ดี โดยเปลี่ยนจากด้านหลังมาเป็นด้านข้าง เห็นไอ้ซันไปตีซี้เพื่อนอีกคนหนึ่ง ผมเองก็เหลือบมองตามเช่นกัน ไอ้ซันมันชวนเพื่อนคนนี้มาเข้าร่วมกลุ่ม ก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกปัดอย่างไม่สนใจ แล้วผุดตัวลุกขึ้นไปจับฉลากที่ด้านหน้า
“เสียดายว่ะ คิดว่าจะได้คนดึงดูดสาวๆ เข้ามาเพิ่มซะอีก”
“ในหัวมึงนี่คิดถึงแต่ผู้หญิงสินะ” ผมบ่นออกไปเบาๆ
“ก็มึงดูหน้ามันดิ ถ้ามันเข้ากลุ่มนะ สาวๆ มองกลุ่มเราแน่ๆ หล่อโหดสัสรัสเซียขนาดนั้น ขนาดกูยังเผลอใจเต้นเลย” ไอ้ซันพูดก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา เป็นสาวน้อยตกหลุมรักที่กำลังเขินอาย ทำให้ผมโบกหัวมันไปซะหนึ่งที
ป้าบ!!
“ตอแหลฉิบหาย”
“ทีนี้ผมจับได้รึยังครับ ผมชื่อ นางสาวเพชรกาญจน์ คำวงสิริ” คำแนะนำตัวของไอ้หน้าหล่อทำให้คนทั้งฮอลนิ่งอึ้ง
“ไงละมึง อึ้งไปเลยสิ”
“มัน มัน มันเป็นทอม เชี่ยยยย ทอมเหี้ยอะไรวะ แม่งหล่อกว่ากูอีก!!!” ไอ้ซันดิ้นเด่วๆ เหมือนตัวโดนทารุณกรรม เหตุเพราะมันหล่อสู้ไอ้คนที่ออกไปจับฉลากนั้นไม่ได้ ก่อนที่นั่งข้างๆ ไอ้ซันจะมีคนๆ หนึ่งมานั่งแทนที่ ไอ้ซันก็เริ่มตีสนิทในทันที
“ไงมึง มาสายหรอว่ะ”
“เออ แม่ง ตื่นสายอะดิ ว่าแต่มึงเป็นใครวะ” อีกฝ่ายหันมาถามอย่างงงๆ เมื่อโดนใครก็ไม่รู้ตีสนิท ก่อนจะมองออกไปที่ด้านหน้า เห็นไอ้หน้าหล่อทอมบอยที่ชื่อว่าเพชร กำลังล้วงมือเข้าไปในโถ่จับฉลาก
“กูชื่อซัน มึงอะ”
“กูวุฒิ”
“สนใจมาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกกูป้ะ”
“เออ เอาดิ”
“นี่เพื่อนสนิทกู ชื่อเบส”
“หวัดดี” ผมตอบรับกลับไปด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะหันไปสนใจกิจกรรมตรงหน้า ซึ่งเพชรก็เดินกลับมาพอดี มาหยุดอยู่ตรงที่นั่งเดิมของตัวเอง
“มึงแย่งที่นั่งกู” เพชรพูดเสียงเย็นอย่างไม่ชอบใจ ไอ้วุฒิเลยไถลตัวไปนั่งที่แถวหลังแทนสายตาก็เหลือบมองไอ้เพชรเป็นระยะ พวกเราเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องกันทั้งวัน วันแรกก็ไม่มีอะไรมาก ให้แนะนำชื่อ แล้วไล่ทวนให้ครบทุกคน ใครที่จำชื่อเพื่อนไม่ได้ ก็ต้องออกไปเต้นท่าแปลกๆ ที่พวกพี่ๆ เขาสอน พอถึงช่วงพักเบรก ผม ไอ้ซัน ไอ้วุฒิก็กลับมานั่งรวมตัวกัน นั่งกินขนมที่พี่เขาเตรียมเอาไว้ให้ ก่อนจะย้ายไปนั่งที่แถวตามเดิม พอช่วงบ่ายก็ถูกแบ่งคนออกเป็นกลุ่มๆ แล้วพาไปแต่ละฐาน สอนเรื่องทั่วๆ ไปที่ต้องรู้ อย่างเช่น เพลงมหาลัย เพลงคณะ เพลงสัน ก็แล้วแต่พวกพี่ๆ เขาจะสอนอะนะ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วจึงถูกปล่อยตัวกลับบ้าน
“มึงกลับไงไอ้วุฒิ”
“กูเอารถมาว่ะ พวกมึงละ ให้กูไปส่งไหม” ไอ้วุฒิถามกลับมา แต่สายตาของมันนี่สอดส่ายหาสาวๆ ไปทั่ว หรือจะเป็นหนุ่มๆ ก็ไม่รู้
“ไม่เป็นไร พวกกูมีคนที่บ้านมารับ”
“เออๆ งั้นกูไปละ” อีกฝ่ายร้องบอก แล้วโบกมือลาหน่อยๆ ผมกับไอ้ซันก็พากันเดินไปที่หน้าตึกคณะ ที่เดิมที่ถูกพามาส่ง ก่อนจะกระโดดขึ้นรถ แล้วมุ่งตรงกลับบ้าน
“คุณหนูจะเริ่มย้ายของเข้าคอนโดเมื่อไหร่ครับ” พี่คมถามขึ้นเบาๆ ทั้งๆ ที่มือก็ยังเลื่อนแท็บแล็ตอยู่ตลอดเวลา
“หลังรับน้องเสร็จน่ะครับ”
“ครับ คุณหนูเบสเอารถคันนี้ไหมครับ?” พี่คมถามพลางยื่นมาตรงหน้า ให้ผมได้ดู ก็เก๋งธรรมดาๆ นั่นละนะ
“ก็สวยดีนะครับ”
“ครับ ผมสั่งประกอบเลยนะครับ คุณหนูเบสจะเอาสีน้ำเงินใช่ไหมครับ”
“ครับ ฝากจัดการให้ด้วยนะครับพี่คม”
“นี่แค่มันย้ายออกมาอยู่คอนโด ต้องถอยรถใหม่ให้มันใช้เลยหรอครับพี่คม” ไอ้ซันชะโงกหัวออกมาดูรถที่พี่คมกำลังเปิดค้างไว้อยู่
“ครับ คุณท่านสั่งเอาไว้น่ะครับ เพราะจะได้มีรถไว้ใช้งานในระหว่างเรียน”
“แหม กูละอิจฉาลูกคุณหนูซะจริง”
“ถ้ามึงไม่ว่าอะไรนะ มึงสนใจมาเป็นคุณหนูแทนกูสักวันเอาไหมล่ะ” ไอ้ซันส่ายหน้าพรืด บอกปฏิเสธโดยไม่เสียเวลาคิด
“ถ้าเป็นลูกคุณหนู แต่มีพ่ออย่างพ่อมึงอ่ะ ไม่เอาหรอกโว้ยยยย”
“งั้นก็อย่ามาอิจฉากูเลย” ผมบอกด้วยเสียงเศร้า ก่อนจะหันมองออกนอกรถที่กำลังวิ่งผ่านวิวทิวทัศน์ด้านข้าง ไอ้ซันก็เอื้อมมือมา จับคว้าเข้าที่หลังคอของผม แล้วบีบเบาๆ
“อย่าเศร้าดิ ชีวิตมึงดีจะตาย” ผมหันไปมองมันอย่างไม่เข้าใจ
“ดีตรงที่มึงมีเพื่อนอย่างกูไง” ผมทำหน้าเหม็นเบื่อขึ้นมาทันที เข้าใจแหละ ว่ามันพูดเพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น แต่โทษทีเหอะว่ะ
“มึงคือความผิดพลาดที่สุดในชีวิตกู สัส! กูไม่น่ามีมึงเป็นเพื่อนเลย”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ พี่คม ดูมันพูดดิ! ใครกันหนอที่ร้องไห้แงๆ เพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยน่ะ อ๊ะๆ คุณหนูเบสตัวอ้วนจ้ำม้ำ แก้มยุ้ยๆ ผิวขาวๆ ไขมันเป็นชั้นคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ” ไอ้ซันถามพลางเอื้อมมือมาดึงยืดแก้มของผมไปมา ก่อนที่ผมจะปัดมือของมันทิ้งไป
“เจ็บนะโว้ยยยย มันจะเอาอะไรมาให้จ้ำม้ำว่ะ!! เมื่อก่อนมึงแกล้งกูสารพัดเหอะ ไขมันมันก็หายไปเพราะมึงนั่นแหละ!!”
“อ่าๆ ๆ งั้นสงสัยกูคงต้องขุนมึงหน่อยแล้ว” ไม่พูดเปล่า มันย้ายมือจากแก้มลงไปที่หน้าท้องที่มีซิกแพ็คก่อนจะพยายามดึงยืดอีกครั้ง
“คิดเหมือนผมไหมครับพี่คม คุณหนูเบสของพี่ตอนเด็กๆ น่ารักจะตายเน๊อะ”
“ฮะๆ น่ารักน่าชังมากๆ ครับ” พี่คมพูดด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ไอ้ซันจะหันมายักคิ้วหลิ่วตาส่งให้
“ลงไปเลยไปมึง ถึงบ้านมึงแล้ว” ผมพูดพร้อมๆ กับจับมือของมันที่กำลังจับหน้าท้องของตัวเองออกไป มันเองก็ขยับตัวลงจากรถ หยิบข้าวของ แล้วยกมือไหว้พี่คมกับพี่คนขับรถ แล้วจึงหันมาบอกผมด้วยเสียงทะเล้น
“พรุ่งนี้มาปลุกเค้าอีกนะตะเองงงงงง”
“ตื่นไปเองโว้ยยยยยยย” ผมตะโกนกลับไปเช่นกัน แต่อีกฝ่ายก็ปิดประตูรถเสียก่อน ผมจึงลดกระจกลง ตะโกนบอกมันแทน
“ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่ตื่นกูไม่รอนะโว้ยยยยย” พูดจบก็หดหัวกลับเข้ามาตามเดิม อีกฝ่ายก็โบกมือให้ยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้าน ส่วนผมเองก็กำลังนั่งหน้าแดงอยู่บนรถ โดยที่มือข้างหนึ่งจับแก้ม อีกข้างจับท้อง ความอุ่นร้อนจากปลายนิ้วยังคงหลงเหลือให้สัมผัสได้อยู่เลย.....
ในเช้าวันถัดมา.....
“ไอ้ซัน!!!! ถ้ามึงไม่ตื่นกูจะทิ้งมึงไว้นี่ละ!!!” ครับ มันไม่ยอมตื่นครับทุกคนนนนนนนน ผมถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหมุนตัวตั้งใจจะเดินออกจากห้อง แต่ทว่า...
หมับ!
“รอก่อนดิ แกล้งเล่นนิดเดียวเอง” ไอ้ซันมันจับแขนของผมเอาไว้ ทำให้ผมหันหน้าไปมอง ก่อนจะพบว่ามันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ซุกตัวลงบนที่นอนเฉยๆ เพราะผ้าที่มันห่มขึ้นมาถึงคอ ทำให้ผมไม่เห็นว่ามันก็พร้อมที่จะไปเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว
“เดี๋ยวกูจะทิ้งมึงไว้จริงๆ สัส เล่นไม่รู้เรื่อง”
“งุ้ยๆ ตะเองอย่าโกรธสิ นี่เค้าตื่นมาตั้งแต่ตี 4 เลยนะ”
“ตอแหล” ผมเองก็เอ่ยปากด่าออกไปทันทีเช่นกัน จะให้ผมเชื่อลงได้ยังไงละ ว่าคนน้ำหน้าอย่างมันจะตื่นขึ้นมาตอนตี 4
“ไม่ตอแหลนะตัว ตื่นมาเยี่ยวแล้วไปนอนต่อ ฮึฮึ ไปๆ ๆ เดี๋ยวสายเค้าไม่รอน้าาา”
“เออ ถ้ามึงมีปัญญาไปได้ มึงก็ไปก่อนเล้ยยยยย” ผมพูดบ่นพร้อมกับส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ แล้วเดินตามหลังไป ก็พบไอ้ซันขึ้นไปนั่งบนรถหน้าสลอนก่อนเจ้าของอย่างผมซะอีกนะ สุดท้ายผมก็ก้าวขาขึ้นรถไปด้วยกัน และก็เหมือนเดิมตรงที่ว่าเรามาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ลงทะเบียน แล้วก็นั่งรอเฉยๆ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม
“มึง วันนี้จะได้เจอพี่ท้อปด้วยอะ ฉันดีใจ”
“พี่เขาว่างมาด้วยหรอ งานเขารัดตัวขนาดนั้น”
“ก็นั่นแหละ อาจารย์เป็นคนขอให้มาเองเลยด้วยนะ"
“ก็นะ พี่เขาเป็นนายกสโมนี่น่า ความสามารถเป็นเลิศ หน้าตาก็ดี แถมยังเป็นนักกิจกรรมอีก!! ฉันอยากได้พี่เขาเป็นพ่อของลูก”
“น้อยๆ หน่อย พี่เขาไม่เอามึงหรอก นู้นนนน เขาไปเอาคนที่ฐานะใกล้เคียงกันนู้นนน” ผมคงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกพี่ๆ เขามาคุยที่ด้านหลังของพวกเรา ทำให้เรียกสายตาของคนที่นั่งอยู่แถวหลังๆ ได้เป็นอย่างดี เหตุก็เพราะพวกพี่เขาเสียงดังเกินไปยังไงละ!
“มึง อายน้องบ้างไหม เก็บอาการหน่อย น้องเขามองมึงน่ะเห็นไหม!”
“ฮะๆ พวกพี่เขาน่ารักดีว่ะ” ไอ้ซันหัวเราะเบาๆ แล้วจึงหันมาคุยกับผมต่อ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจกิจกรรมตรงหน้า
ตอนนี้เราอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ครับ เป็นห้องสโลปที่มีเวทีอยู่ด้านหน้า พวกพี่ๆ เขาก็เปิดประวัติมหาลัย เปิดประวัติคณะ ธรรมเนียบอาจารย์ แล้วก็เชิญคณบดีขึ้นมาพูดเล็กน้อย เพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่ และปิดท้ายด้วยพี่นายกสโมของคณะ
“สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน” น้ำเสียงนั้นนุ่มทุ้มน่าฟัง หากแต่ฟังดูคุ้นหู ทำให้ผมพยายามเพ่งมอง ไปที่ด้านหน้าเวที แต่เพราะมันไกลเกินไปสักหน่อย ทำให้มองเห็นหน้าตาได้ยาก ผมจึงทำได้แค่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“พี่ขอเป็นตัวแทนของรุ่นพี่ทุกคนที่อยู่ในคณะนี้ กล่าวต้อนรับน้องๆ นักศึกษาปี 1 นะครับ คณะของเราเป็นคณะบริหาร ดังนั้นน้องๆ จะได้เรียนเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการ บางคนอาจจะคิดว่ามันคล้ายกับการโรงแรม แต่ไม่ใช่นะครับ เราเรียนบริหารเพื่อเป็นนักจัดการบริหารงาน บางคนอาจจะจบไปทำงานเป็นเลขา บางคนอาจจะรับช่วงต่อของบิดามารดา หรือบางคนอาจจะเป็นผู้จัดการของโรงงานต่างๆ
น้องๆ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าจบบริหารแล้วไม่ค่อยมีงานให้ทำ คนจบคณะนี้ตกงานเยอะ พี่แค่อยากจะบอกน้องๆ ว่า ไม่ว่าน้องจะอยู่ที่ไหน ถ้าน้องทำตัวเหมือนโคลน น้องก็จะเป็นแค่โคลนครับ แต่ถ้าหากน้องเป็นเพชร ที่อยู่ในโคลน พี่เชื่อว่าใครต่อต่างวิ่งเข้าใส่อย่างแน่นอน น้องๆ ลองเลือกเอานะครับว่าอยากจะเป็นอะไร
สุดท้ายนี้พี่ขอต้อนรับน้องๆ เข้าสู่ครอบครัวบริหารของเรา หากน้องๆ มีปัญหาอะไรสามารถเข้ามาสอบถามพวกพี่ๆ ได้ตลอด อ้อ พี่คงไม่พูดว่า ยกเว้นเรื่องเงินนะครับ เพราะพี่นั้นสายเปย์ ฮะๆ เพียงน้องๆ เดือดร้อนจริงๆ พี่ก็พร้อมจะช่วยเหลือครับ ขอบคุณครับ”
จบคำที่ว่า เสียงโห่ร้องด้วยความตลกและชอบใจก็ดังขึ้น เพราะตามหลักแล้วพี่เขาต้องพูดว่ายกเว้นปัญหาเรื่องเงิน แต่นี่กลับบอกให้เข้าไปหาได้เพราะเป็นสายเปย์ ทำให้ถูกอกถูกใจเหล่าน้องๆ ไม่น้อย
“พี่เขาแม่งใจป้ำดีว่ะ ฮ่าๆ” ไอ้ซันหันไปหัวเราะกับไอ้วุฒิ แต่ไอ้วุฒิกลับกลอกตามองบน เบ้ปากอย่างหน่ายๆ
“ขี้อวดน่ะสิไม่ว่า ใครๆ ที่เข้ามาก็ลูกคนหนูทั้งนั้นแหละ ใครมันจะไปเดือดร้อนเรื่องเงินว่ะ”
“เออว่ะ กูลืม” ผมหัวเราะเบาๆ ให้กับการคุยกันเล็กๆ นั้น ก่อนจะหันมาสนใจของฝากจากพี่เทค ที่มีการเขียนระบุชื่อพวกน้องๆ เอาไว้ ซึ่งไอ้ซันกับไอ้วุฒิก็ออกไปรับของตัวเองมา จนเต็มมือ
“ของมึงละ” ไอ้ซันหันมาถามผมเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมยังไม่ได้รับอะไร
“ไม่รู้สิ ยังไม่ถึงมั้ง”
“เออ ดีละ ไม่ต้องแดกหรอก จะได้ไม่อ้วน”
“สัส! ตอนนี้กูหุ่นดีแล้วเหอะ ทำไมชอบล้อกูจังว่ะแม่ง” ผมบ่นไม่จริงจังนัก นั่งรอเรียกชื่อสายเทคของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีการเรียกออกไป ทำให้ผมห่อเหี่ยวใจเล็กน้อย สงสัยว่าพี่ของผมเขาคงไม่อยากได้ผมเป็นน้องละมั้ง
“เอาน่า มากินกับกูนี่ กูกับไอ้วุฒิได้มาเยอะแยะ แบ่งให้หมาน้อยสักตัวก็คงไม่เป็นไร ไอ้วุฒิมึง-”
“หื้ม” ผมกับไอ้ซันมองไอ้วุฒิอย่างอึ้งๆ เมื่อมันแกะขนมกินเรียบจนไม่เหลือ แถมยังนั่งดูดนิ้วที่เลอะครีมขนมแยมโรลอยู่อีกด้วย มึงจะแดกเร็วไปไหนวะครับ!!
“มึงกินของกูแล้วกัน” ไอ้ซันหันมาหาผมอีกครั้ง แล้วแบ่งขนมบางส่วนให้ แต่ในความเป็นจริง ก็แกะแล้วกินด้วยกันนั่นแหละครับ
กิจกรรมถัดมาก็เหมือนเดิม พาน้องๆ ร้องเพลง แล้วออกไปสอบเป็นกลุ่มๆ ถ้าไม่ผ่านก็ให้ร้องใหม่ซ้ำๆ พอเที่ยงก็ปล่อยไปกินข้าว แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้ง พาเล่นกิจกรรมตามฐาน เห็นบอกว่าจะได้สนิทๆ กันในรุ่น กิจกรรมที่ได้เล่นก็พวก มุดถ้ำเสื้อ วิ่งเปี้ยว แล้วก็ให้นอนส่งสัญญาณ ก็นอนทับพุ่งกันแล้วก็กดนิ้วจึ้กๆ ให้คนสุดท้ายมาบอกว่า พี่เขากำหนดตัวเลขให้เท่าไหร่ มันก็จั๊กจี้อยู่เหมือนกัน จนถึงสุดท้าย ปิดตาเดิน ก็เดินจับมือกันแล้วเดินตามทางที่พวกพี่ๆ เขากำหนดไว้ มีพวกพี่ๆ เขาแกล้งให้มือหลุดออกจากกันด้วย และผมก็ทำมือของไอ้วุฒิหลุดออกไปเสียแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยแรงกระชากที่ข้อมือด้านหน้าอย่างรุนแรง ผมก็จับกระชับมือของไอ้ซันเอาไว้แน่น เพราะเหลือมันอยู่ข้างหน้าเพียงคนเดียว ไอ้ซันก็จับมือผมแน่นเช่นกัน ก่อนจะได้ยินเสียงร้องที่ด้านข้าง
“โอ๊ย!!”
“เฮ้ย! มึง! เป็นอะไร”
“โอ้ยยยย น้องครับ!! มันเป็นกิจกรรมนะครับ มึงจะถีบกูทำไมเนี้ย!!”
“อ้อ โทษทีพี่ นึกว่าหมามันมาชนขา ก็เลยเผลอเตะออกไป” ผมได้แต่ฟังเสียงที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่ไม่ได้แกะผ้าปิดตาออกแต่อย่างใด มือทั้งสองข้างยังคงจับกระชับมือของไอ้ซันเอาไว้ มันเป็นเพียงหลักยึดเดียวที่ผมมี
“มึงไปนั่งพักก่อนเหอะไป เดี๋ยวกูดูต่อเอง” เสียงของพี่คนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนที่แรงสะกิดจะเกิดขึ้นที่ด้านหลังของผม แล้วก็มีคนจับมือของผมให้กลับไปจับกับเพื่อนตามเดิม
“ไอ้วุฒิ มึงหรอว่ะ”
“....”
“ไอ้วุฒิ ใช่มึงไหม?”
“ไม่ใช่” เสียงนั้นตอบกลับมา ทำให้ผมไม่ถามอะไรอีก แล้วเดินตามแรงดึงของคนด้านหน้า จนเหมือนว่าเราจะถูกพากลับมาที่จุดเริ่มต้น พี่เขาก็ให้ยืนรอ ก่อนที่จะถูกจับแยกเป็นคนๆ ไป เพราะพี่เขาบอกให้ปล่อยมือ เราก็นั่งหลับตากันนิ่งๆ มันเงียบมากครับ ก่อนที่พี่เขาจะบอกให้เปิดตาได้ ทำให้พวกเรากะพริบตาปริบๆ เพื่อปรับแสง ก่อนจะเห็นเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า ที่ด้านข้างมีกองเครื่องสำอางวางกองไว้อยู่
“เอาละครับ พี่เข้าใจว่าน้องๆ ผู้ชายมักจะไม่ค่อยดูแลตัวเองกันซักเท่าไหร่ เพราะงั้นขอให้น้องๆ ผู้หญิงช่วยแต่งหน้าให้เพื่อนทีนะครับ”
“เฮ้ย! /เฮ้ย! /ไม่เอานะ!” พวกผมพยายามตะเกียกตะกายออกจากพื้นที่ด้านหน้า แต่ก็ถูกพี่ๆ เขาล้อมเอาไว้พร้อมกับยางมัดผมในมือ บ้างก็เป็นที่คาดผม ใครที่หนีก็จะได้ของพวกนั้นมาประดับเพิ่มแทน ผมเองก็ไม่รอดเช่นกัน โดนมัดจุกไป 5 มัด ถึงได้ยอมกลับมานั่งให้เพื่อนแต่งหน้าให้ ซึ่งก็อย่าคาดหวังเลยครับว่ามันจะแต่งออกมาดี เหี้ยครับ! เหี้ยมากกกกกกก
ผมหันไปมองไอ้ซันที่หัวร่าอย่างสนุกสนาน ไอ้วุฒิที่มีสีหน้าอมทุกข์ พร้อมกับที่คาดผมรูปหูกระต่ายสีชมพูวิปวับ ก่อนจะมองเลยไปอีกเล็กน้อยที่สาวๆ กำลังรุมล้อมอยู่
“เสร็จแล้วค่ะ!!”
“น้องครับ พี่ให้แต่งหน้าฮ่าๆ นี่มันอะไรกันละครับเนี้ย”
“โหยพี่ ใครจะใจร้าย ทำร้ายเพชรได้ลงละคะ นี่น่ะ คนหล่อของรุ่นเลยนะ!!”
“ถ้าแม่งไม่ได้เป็นทอมกูว่ามันต้องได้เดือนแหง๋ๆ ออร่าความเป็นผัวออกซะขนาดนั้น” ไอ้ซันเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ทำให้ผมเอ่ยสำทับต่อไปอีก
“กูได้ยินมาตอนกินข้าว พี่เขาจะให้มันลงประกวดเดือนจริงๆ นะมึง แต่มันบอกว่ามันเป็นทอมนี่ละ มันก็เลยรอดตัวไป”
“กูอยากได้อย่างงี้ กูจะเอาหน้าอย่างงี้!!!”
“ตายแล้วเกิดใหม่นะมึง” ผมตบบ่าเพื่อนตัวเองเป็นกำลังใจ ก่อนจะมองพวกพี่ๆ เขารุมล้อมแต่งหน้าให้ไอ้ทอมนั่นใหม่ ครั้งนี้ก็วาดแมววาดตา วาดหนวดกันสนุกสนาน แต่ไม่ได้ทำให้ออร่ามันลดลงแต่อย่างใด กลับดูน่ารักตะมุตะมิเพิ่มขึ้นซะอย่างนั้น!!! เล่นเอาสาวๆ เพ้อไปเลยวุ้ย!!
พอเล่นกิจกรรมกันเสร็จ พวกพี่ๆ เขาก็ปล่อยกลับบ้านในสภาพนั้น โดยมีคำสั่งที่ว่า ถึงบ้านแล้วให้ถ่ายรูปรายงานตัวด้วย ห้ามลบออกระหว่างทางกลับบ้านเด็ดขาด ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครบ่นเท่าไหร่ เพราะต่างก็มีรถส่วนตัวกันทั้งนั้น พวกที่กลับรถสาธารณะก็ลำบากหน่อย ยกเว้นก็แต่เพื่อนผมนี่ละ
“เวรเอ้ย นี่กูต้องกลับบ้านไปถ่ายรูปส่งแม่งด้วยหรอ อุตส่าห์จะออกไปแดกเหล้าสักหน่อย ต้องเสียเวลากลับไปล้างหน้าแต่งตัวใหม่อีก!” ไอ้วุฒิครับที่มันบ่น
“ยังไงมึงก็ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ดีป่ะ ควาย” เสียงผมเองครับ
“เออว่ะ” ผม ไอ้ซัน บอกลาไอ้วุฒิที่แยกตัวออกไป แล้วผมกับมันก็พากันขึ้นรถตามเดิม มุ่งตรงกลับบ้าน โดยที่ไอ้ซันก็เล่นจุกบนหัวผมไปด้วย
“น่ารักดีนะครับคุณหนูเบส”
“พี่คม ไม่ต้องมาแกล้งผมเลยนะ สภาพตอนนี้ดูได้ที่ไหน”
“พี่คมเขาพูดจริงเหอะ น่ารักจะตายเนี้ย! แล้วมึงดูกูสิ!!” ไอ้ซันพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมากดถ่ายภาพของผมไว้ ก่อนจะส่งให้ผมดู ใบหน้าของผมถูกทาแก้มเป็นวงกลมแดงๆ จมูกแดงๆ แล้วก็เครื่องหมายขี้โมโหที่เป็นตัวงอๆ 4 ด้าน ที่ขมับข้างหนึ่ง มีเขี้ยวโค้งขึ้นด้านบนทั้งสองข้าง ในขณะที่ของไอ้ซัน รูปฝ่าเท้าอยู่บนใบหน้า ใต้ตามีหยาดน้ำตากำลังร้องไห้อยู่
“คนวาดเขาก็เข้าใจคิดดีเน๊อะ ไอ้หน้าส้นตีน!”
“ฮะฮะ อุ้บ อะแฮ่ม” เสียงพี่คมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบเก็บอาการด้วยการกระแอมในลำคอ แต่สายตาไอ้ซันนี่แทบจะกระโดดไปขบหัวพี่คมได้อยู่แล้ว
“พี่คมนะพี่คม อย่าเผลอนะพี่” ไอ้ซันพูดเสียงเหี้ยม ทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะส่งมันที่หน้าประตูบ้าน มันก็โบกมือลาน้อยๆ แล้วจึงเดินเข้าบ้านของตัวเองไป ผมเองก็ขยับมือเล่นจุกผมของตัวเองไปมา ทำไงดี ไม่อยากแกะออกเลยแฮะ....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....ก๊อก ก๊อก ก๊อก....“อืมมม”ก๊อก ก๊อก ก๊อกหมับ!!! พรึ่บ!!!แกร๊ก!“แม่ออกไปก่อน”“เด็กๆ อะ อ่า...... แม่ไม่กวนแล้วกันนะ ฮึฮึ”ปัง!“หึหึ”ตอนนี้ผมได้แต่นอนเขินอายหน้าแดงซุกลงที่อกของไอ้ซัน ไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งสิ้น ต่างจากเจ้าตัวที่ทำเพียงหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ กอดก่ายผมเอาไว้เต็มรัก สาเหตุนั้นก็เพราะ เราทั้งคู่ตื่นสายครับ กว่าจะรู้สึกตัวก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว ส่วนสาเหตุที่ตื่นก็ไม่ใช่อะไรคุณแม่ท่านตั้งใจมาปลุกเราให้ลงไปทานข้าว คิดว่าใช่นะครับ เคาะประตูรัวเชียวละ ผมเองก็มึนๆ เลยผุดตัวลุกขึ้น หมายจะไปเปิดประตูให้คุณแม่เข้ามาหา หากแต่ตอนที่กำลังจะลุกอยู่นั้นเอง ไอ้ซันก็ฉุดดึงข้อมือของผมให้ล้มตัวนอนลงอย่างแรง พร้อมๆ กับประตูที่ถูกเปิดเข้ามาพอดี จนไอ้ซันรีบตวั
Bass Part“ไอ้ซัน ไอ้เบส มึงสองคนดูแปลกๆ ไปนะ” ไอ้นายเอ่ยทักขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งของการไปเรียน ทำให้ไอ้ซันที่กำลังกุมมือผมอยู่ถึงกับสะดุ้ง แล้วหันหน้าไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว“มึงจะสะดุ้งทำไมไอ้วุฒิ กูไม่ได้พูดกะมึง” ไอ้นายหันไปว่าไอ้วุฒิอีกครั้งอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่นัก เมื่อผมเลื่อนสายตาไปมองจึงผมว่าไอ้วุฒิมันมองจ้องผมกับไอ้ซันรออยู่ก่อนแล้ว“กะ กูแปลกไปหรอ แปลกไปยังไงวะ” ไอ้ซันถามเสียงสั่นๆ ต่างจากผมที่หน้าซีดลงเรื่อยๆ ผมกลัวครับ กลัวการยอมรับความจริง ถึงแม้จะรู้ว่าไอ้นายกับพี่เนมเขาเป็นแบบนั้นกัน แต่ก็ใช่ว่าเพื่อนๆ จะรับเรื่องของพวกผมสองคนได้ มันทำให้ผมกังวลจนมือไม้เย็นเฉียบ ไอ้ซันได้แต่กุมกระชับฝ่ามือเอาไว้ บีบนวดไปมาให้คลายอาการตื่นตระหนกลง“กูว่า มึงสองคนดูสนิทกันขึ้นนะ” ไอ้นายพูดขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทางครุ่นคิด“ไอ้วุฒิ มึงก็ด้วยนะ ทำไมช่วงนี้ดูเหม่อๆ เอาแต่มองไอ้ซันกับไอ้เบสอยู่นั่น” ไอ้วุฒิทำหน้าตาเลิ่กลั่ก คำถามของไอ้นายเป็นเหตุให้ผมหั
Top Partผมสนใจเขาตั้งแต่แรกเจอ......วันนี้ผมต้องมามหาลัยเพื่อส่งงานให้กับอาจารย์ครับ ไหนๆ ก็มาแล้วเลยคิดจะแวะไปดูการรายงานตัวของน้องๆ ปี 1 สักหน่อย แต่ว่าผมไปไม่ทันครับ น้องเขาทยอยกลับกันหมดแล้ว เห็นพวกน้องๆ ปี 2 กำลังเก็บกวาดกันอยู่ หากแต่ว่า.....มีน้องนั่งอยู่ 2 คนครับ คนหนึ่งกำลังฟุ้บหน้าหลับ ส่วนอีกคนกำลังทอดมองอยู่ สายตาของผมไปสะดุดกับสีผมที่ไม่น่าจะมีในคณะแห่งนี้ คณะบริหารที่ต้องรักษากิริยามารยาทเป็นที่หนึ่ง แต่เด็กคนนี้กลับทำผมสีส้มส่องประกายเจิดจ้าท่ามกลางหมู่คนผมสีดำ มันน่าแปลกนะครับที่คนเรียนบริหารจะมีหลุดคนบ้าๆ ติ๊งต๊องออกมาสักคนหนึ่งเพราะความเป็นห่วงว่าน้องเขาจะไม่สบายรึเปล่าจึงสาวเท้าเข้าไปหา และเพื่อนน้องเขาก็ตอบกลับมาแทนว่าเพื่อนแค่หลับเฉยๆ ผมจึงบอกให้น้องเขาปลุกเพื่อนได้แล้ว พวกปี 2 จะได้ทำความสะอาดต่อ ใบหน้าที่ดูเซื่องซึมเพราะพึ่งตื่นนอน ใบหน้ายับย่นปรือตาหน่อยๆ ยกมือขึ้นขยี้ตานิดๆ เงยหน้ามองน่าเอ็นดู.....คำๆ นี้ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที
Sun Part“ฮึม ฮืม ฮึม” ผมเดินควงกุญแจไปพลางฮัมเพลงไปพลางด้วยความอารมณ์ดี เพราะอะไรน่ะหรอครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 15 นาทีก่อน“ไอ้ซัน วันนี้มึงไม่ต้องขึ้นร้องแล้วนะ”“อ้าว ทำไมอะพี่” ผมถามกลับไปด้วยความงุนงง ขณะนั่งพักรอขึ้นร้องในอีก 10 นาทีข้างหน้านี้ เงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ เมื่อพี่ต้องมีใครอีกคนเดินตามหลังมาด้วย“นี่นักร้องใหม่ กูจะลองให้ร้องดูก่อนสัก 2 ชั่วโมง ว่ามันไหวรึเปล่า” พี่ต้องตบหลังคนมาใหม่ปุๆ คนๆ นั้นตัวเล็กผอมบาง ดูผอมแห้งแรงน้อย ใบหน้าจัดได้ว่าน่ารัก ถ้าเขาเป็นผู้หญิงละก็นะ“อ้อ ได้ครับ หวัดดีมึง” ผมตอบรับพี่ต้องแล้วร้องทักมันไปเบาๆ มันก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ“สวัสดี”“ชื่ออะไรวะ กูซันนะ”“อืม ชื่อไม้ ใบไม้น่ะ” ผมกับไม้ทำความรู้จักกันอีกเพียงชั่วครู่ แล้วจึงเก็บของ เดินออกจากร้านมาและตอนนี้ผมก
“เหี้ย!!!” นั่นมันตัวอะไรวะนั่น!!!“พ่อรูปหล่อ สนใจไปต่อกับฉันไหม” ฝ่ามือใหญ่ที่หยาบกระด้างเล็กน้อย จีบปากจีบคอพูด พร้อมกับเชยคางของคนข้างๆ ผมให้เงยหน้าขึ้น อีกคนขยับเข้าหาผมอีกนิด เพื่อหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกะเทยควายร่างโตหากแต่คนๆ นั้นกลับดึงกระชากผู้ชายที่ผมไม่รู้จักชื่อคนนี้ให้ออกห่าง แล้วทรุดตัวนั่งลงบนตัก ร้องออกมาอย่างออดอ้อน“ฉันน่าสนใจกว่าพ่อหนุ่มนี่เยอะนะ” ผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ กะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่ามันจะมาไม้ไหนกันแน่ คนที่แปลงร่างเป็นกะเทยควายโน้มตัวลงจนริมฝีปากแทบจะชิดใบหูของผู้ชายคนนั้น เอ่ยปากเสียงเย็น“ไสหัวไปซะ อย่ามายุ่งกับเมียกู” พูดให้ได้ยินชัดเจน รวมถึงผมด้วย เพราะสายตาของมันมองจ้องผมด้วยความโกรธ จนผมตัวสั่นเบาๆ ด้วยความกลัว ไอ้ซันถอยกลับไปช้าๆ ผุดตัวลุกขึ้นยืน ตบหน้าอีกฝ่ายแปะๆ พร้อมกับร้องบอก“ไป” คนๆ นั้นรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่ากลัวไอ้ซันกระทืบหรือทะลวงประตูหลังกันแน่ พอคนๆ นั้นไปแล้ว ไอ้ซันก็ทรุดตัวนั่งลงข้าง
วันนี้ผมตื่นเช้ามา ก็เจอไอ้ซันที่นอนอยู่ข้างๆ กัน ยกมือขึ้นลูบหน้าคนรักนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมอาหารเช้า ก่อนจะนึกขึ้นได้ โทรหาไอ้วุฒิ บอกข่าวว่าไอ้นายเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้มันฟัง มันก็บอกว่าจะพาไอ้เพชรไปด้วย โดยที่นัดกันไว้ในเวลา 10 โมงเช้า พอโทรบอกเพื่อนเสร็จ ก็เข้าไปหาไอ้ซัน เห็นมันนั่งหน้ามึนอยู่บนเตียง หัวยุ่งฟูไม่เป็นทรง“ไอ้ซัน ไอ้นายเข้าโรงพยาบาล ไปอาบน้ำแต่งตัวซะ กูจะไปเยี่ยมมันตอน 10 โมง” ว่าจบก็เดินออกจากห้อง ไปนั่งกินข้าวโดยไม่รอ พอกินเสร็จก็ลุกขึ้นเอาจานไปเก็บล้าง แล้วมาเปิดทีวีรอ เพียงไม่นานไอ้ซันก็ตามมาออกมา เดินไปนั่งกินข้าวของตัวเองเงียบๆRrrrrrrr Rrrrrrr“ว่าไง..... อ้อ.... อืม.... เออ”“เดี๋ยวไอ้วุฒิจะขับรถมารับ” ผมพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมอง ไอ้ซันตอบรับในลำคอเบาๆ ไอ้วุฒิมันบอกว่ามันจะขับรถมารับครับ ทางผ่านพอดี แล้วจะแวะรับไอ้เพชรเป็นคนสุดท้าย พอมันมาถึง พวกผมก็พากันลงไปหา ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง ตั้งใจให้ไอ้ซันนั่งห