“เรียกอะไรนักหนา คุณเพิ่งรู้จักชื่อฉันวันนี้คุณก็เรียกชื่อฉันจนฉันเริ่มรำคาญชื่อตัวเองแล้วนะ หรือว่าชอบชื่อฉันมากกว่าชื่อเมียตัวเอง ระวังเรียกมาก ๆ แล้วจะติดปากจนเผลอครางชื่อฉันตอนยัยนี่ขย่มอยู่บนตัวนะคะคุณฟรังซ์”
ผู้หญิงคนนี้กำลังทำให้ผมปวดหัว อันธพาลแล้วก็ปากร้ายสิ้นดี ผมไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้มีเรื่องบาดหมางอะไรกันมา อาจจะเป็นเรื่องงาน เรื่องผู้ชายที่ชื่อกายอะไรนั่นหรือเรื่องอื่นแต่การที่เธอบุกเข้ามาตบคนอื่นยามวิกาลแบบนี้มันเกินไป
“พี่ฟรังซ์ช่วยซีด้วยค่ะ” ซีแนมก็โดนตบจนล้มผมแค่จะเข้าไปลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากห้องแต่เธอดันตาไวคว้ามีดปอกผลไม้มาเป็นอาวุธซะก่อน
“ออกไปซะเพลงขวัญ อย่ามาบ้าแถวนี้ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจ”
“ก็เรียกสิคุณคิดว่าฉันกลัวเหรอ แลกกับการได้ตบเมียคุณจะโดนกี่กระทงฉันก็รู้สึกคุ้ม” สุดยอดจริง ๆ เอามีดชี้หน้าปากกล้าแล้วยักคิ้วให้ผมอีกต่างหาก
“แกมันบ้าเพลงขวัญ!”
“ฉันไม่บ้าแบบนี้แน่นอนถ้าไม่มีอีหมาลอบกัดส่งข้อความไปด่าฉัน แน่จริงทำไมไม่เคลียร์ให้จบตั้งแต่แรกฮะ! หรือเห็นผัวเก่าแล้วเกรงใจผัวใหม่จนต้องรีบกลับ”
“พูดอะไรของเธอ อย่าไปฟังนะคะพี่ฟรังซ์” ผมไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกครับกับการที่เธอพูดเรื่องผัวเก่าผัวใหม่ มันก็ไม่ได้แปลกอะไรสักนิด ซีแนมก็ไม่ได้บริสุทธิ์มาจากไหน เรื่องแบบนี้มันธรรมดาสำหรับผมมาก เพราะผมก็ไม่ได้บริสุทธิ์มากจากไหน และที่สำคัญผมไม่ใช่ผัวซีแนม
“เฮ้อ! ออกไปซะเพลงขวัญ มีดแค่นั้นเอามาขู่ไม่ให้ฉันเข้าไปลากตัวเธอออกไปไม่ได้หรอก” มีดเล็ก ๆ แค่นั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ
“ฮึ! อย่ามาขู่ ฉันไม่ได้กลัวคุณเข้ามาลากฉันเลยสักนิดแต่ฉันไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวผัวอีซีแนม!”
“เพลงขวัญ!” มันชักจะมากเกินไปแล้วจริง ๆ โตมายังไงทำไมถึงได้นิสัยเสียขนาดนี้วะ
“หุบปากไปเลยไม่ต้องเรียกชื่อฉัน ฉันรู้จักชื่อตัวเองดี รู้ยันนามสกุลและวันเกิด แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผู้หญิงทะเลาะกัน ฉันแค่มาเช็คบิลที่อีนี่มันส่งข้อความไปด่าฉันเมื่อกี้ ถ้ายัยนี่ไม่ด่าหยาบยิ่งกว่าหน้าด้าน ๆ ของตัวเองฉันไม่มาเหยียบห้องนี้หรอก!” เอาปากร้าย ๆ ออกไปจากหน้าสวย ๆ ของเธอได้ไหมครับ มันมีวิธีไหนบ้างผมจะทุ่มเงินไปหมดหน้าตักเลย ผมเสียดายหน้าตาสวยหวานแต่มีปากเหมือนปีศาจของเธอจริง ๆ
“แกต้องการอะไรเพลงขวัญ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“ต้องการอะไร? ถามมาได้นะซีแนม ฉันต้องการเข้ามาบอกราตรีสวัสดิ์แกมั้ง ก็ประกาศอยู่โต้ง ๆ ว่าเข้ามาตบ!”
“อีเพลง!”
“แอ๊บหลุด”
ปวดหัวโว้ย! ค่ำคืนที่ผมจะได้กินของหวานชิ้นโต ๆ ทำไมผมต้องมาเจอกับยัยปีศาจคนนี้ด้วยวะ!
“พี่ฟรังซ์คะซีว่าพี่ฟรังซ์กลับไปก่อนเถอะนะคะอย่าอยู่รับรู้การกระทำของผู้หญิงไร้สติแบบนี้เลย” คราวนี้กลับกลายเป็นซีแนมที่ไล่ผมกลับ ผมก็เซ็งนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจครับว่าผมกับเธอยังใหม่อยู่ เธอคงไม่อยากให้ผมเห็นด้านอื่นในตัวเธอไปมากกว่านี้
“เขายังถือมีดแล้วพี่จะปล่อยซีให้อยู่แบบนี้ได้ยังไง”
ตุบ!
“ปล่อยแล้ว ออกไปสิฉันกับอีนี่จะได้ตบกันให้มันหลุดโลกซะที” ผมบอกซีแนมด้วยความเป็นห่วง ผมเป็นผู้ชาย ถึงจะรักสนุกไม่ผูกพันแต่ก็ไม่ได้แค่ฟันอย่างเดียวโดยที่ไม่สนใจเลยว่าตอนนี่เพื่อนร่วมเตียงกำลังโดนมีดชี้หน้าแต่เพลงขวัญกลับปามีดในมือทิ้งทันทีที่ผมพูดจบ
“ซีไม่เป็นไรค่ะพี่ฟรังซ์ ซีขอเคลียร์นะคะ” ซีแนมมองผมด้วยแววตาขอร้องแต่ผมไม่ใช่ผู้ชายใจหมาที่จะปล่อยให้ผู้หญิงตบกันหรอกนะครับ
“พี่ไม่กลับ แยกกันก่อนพี่ถึงจะวางใจ”
“ถ้าผัวเธอไม่กลับแล้วจะตบไม่มันสินะซีแนม เฮ้อ! เสียเวลาคุย”
เพี้ยะ!
เพลงขวัญบ่นพึมพำส่ายหน้าทำเหมือนเซ็งใส่ซีแนมแล้วก็ตบหน้าซีแนมฉาดใหญ่
“เพลงขวัญ! มันจะมากไปแล้วนะ!” ผมตรงเข้าไปชาร์จเพลงขวัญด้วยการล็อกแขนเธอจากด้านหลังแล้วก็เบี่ยงตัวให้หันหลบซีแนมด้วยความเร็ว ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าผมไปล็อกตัวเพลงขวัญให้ซีแนมตบซะเปล่า ๆ
“นี่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะจะล็อกฉันให้เมียคุณตบใช่ไหม! / พี่ฟรังซ์จับมันไว้เลยค่ะซีจะตบยัยนี่ให้หายบ้า!”
“หยุดซีพอแล้วอย่าตบกันเหมือนพวกไร้การศึกษา!” ซีแนมปรี่เข้ามาจะตบเพลงขวัญส่วนเพลงขวัญเองก็พยายามดิ้นให้หลุดจากการล็อกของผม ผมก็เลยตะคอกลั่นห้องจนเธอสองคนหยุดชะงัก
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยซีแนม ที่เหลือพี่จะจัดการเอง” ผมสั่งซีแนมด้วยความรู้สึกโคตรอารมณ์เสีย โคตรเกลียดผู้หญิงที่ชอบตะโกนแหกปากโวยวายเอะอะก็จะตบกันแบบนี้ที่สุดเลยว่ะ
“นี่ปล่อย! จะพาฉันไปไหนฮะ! ปล่อยสิ!” ผมดันเพลงขวัญให้เดินไปข้างหน้าหลังจากที่สั่งซีแนมจบ
“พากลับห้องเธอไง ไปแหกปากโวยวายคนเดียวในห้องของเธอโน่น” แรงโคตรเยอะผมก็เลยต้องดันแรงขึ้น
“ฉันจะกลับเอง ปล่อย!” ฮึ! ขืนปล่อยก็คงได้วิ่งเข้าไปตบกับซีแนมต่ออีกรอบน่ะสิครับ
“ห้องอยู่ชั้นไหน”
“ปล่อย!”
“ถ้าไม่บอกฉันจะลากเธอโยนเข้าบันได้หนีไฟ นี่ชั้น 20 อยากเดินลงไปถึงชั้นล่างแล้วค่อยกลับห้องก็ตามใจ” บันไดหนีไฟมันเปิดเข้าแต่เปิดออกไม่ได้อยู่แล้วต้องลงไปถึงชั้นล่างเท่านั้น นอกจากเธอจะบ้าเคาะเรียกให้คนช่วยเปิดประตูให้เท่านั้นล่ะถึงจะออกมาได้
“ปล่อยแล้วฉันจะกลับเอง! อย่ามาแตะตัวฉัน!” เพลงขวัญเลิกโวยวายเสียงดังแล้วก็บอกผมเสียงแข็งแทน
“ไม่ บอกมาดี ๆ เพลงขวัญ”
“ไม่!” ไม่บอกผมก็ไม่แคร์แล้วครับเพราะผมเห็นวิธีอื่นที่จะลากเธอกลับห้องแล้ว
“เฮ้ย! นี่จะทำอะไรไอ้บ้า ว้าย!” ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเธอ กระเป๋าอยู่ตรงก้นซะด้วยสิ ก้นแน่นเป็นบ้าเลยขนาดไม่ได้ตั้งใจบีบแล้วสุดท้ายผมก็ได้คีย์การ์ดห้องเธอมาไว้ในมือ มันมีตัวเลขเล็กๆ บอกเลขห้องอยู่จากนั้นผมก็ลากเพลงขวัญขึ้นลิฟต์พาไปส่งที่ห้อง
“โอ๊ย!” พอเปิดประตูห้องเธอได้ผมก็ผลักเพลงขวัญเข้าไปในห้อง เธอคงไปชนกับชั้นอะไรสักอย่างในห้องของเธอมั้งถึงได้ร้องเหมือนเจ็บแบบนั้น
ผมตามเข้ามาในห้องแล้วก็เปิดไฟให้มันสว่าง ชนจริงด้วยครับแต่แค่ชนกับโต๊ะตัวเล็กไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่ คนบ้าบิ่นแบบนี้โดนแค่นี้ยังไงก็ไม่หายซ่าหรอก
“เธอเป็นผู้หญิงที่อันธพาลและไร้สติที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา”
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอกับซีแนมมีเรื่องอะไรกันมาแต่การกระทำของเธอวันนี้มันแย่ที่สุดเลยเพลงขวัญ” ขอผมดุหน่อยเถอะครับ รู้สึกอยากดุผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาสุดใจทั้งที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันเพิ่งรู้จักแบบผิวเผินด้วยซ้ำ แต่ผมอยากดุเธอชนิดที่ถ้าไม่ได้ดุผมต้องหงุดหงิดไปทั้งคืนแน่
“แล้วไง? มีแค่ฉันคุณแล้วก็ยัยนั่น ฉันต้องแคร์สายตาใคร?”
“นิสัยเสีย” เกิดและโตมายังไงทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้วะ
“ก็ดีกว่าเมียคุณอยู่นิดหน่อยนะฉันมั่นใจ” นิสัยเสียแล้วก็เถียงเก่งสุด ๆ ไปเลยว่ะ
“ช่วยพูดเพราะ ๆ ให้มันเหมาะกับหน้าตาของเธอหน่อยได้ไหมเพลงขวัญ” ผมไม่เคยโดยผู้หญิงพูดจาร้ายใส่ทุกคำแบบนี้เลยครับ ผมไม่ชอบเลยสักนิด
“เป็นผัวฉันเหรอฉันถึงต้องพูดดีด้วย นอกจากไม่ใช่ผัวฉันคุณยังเป็นผัวศัตรูนัมเบอร์วันของฉันอีกด้วยเผื่อคุณยังไม่รู้สถานะของตัวเอง” เธอไม่กลัวอะไรเลยรึไงวะ เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่กับผมสองต่อสองในห้องและมันดึกมากแล้ว พูดจาชวนโดนจับปล้ำให้หายปากดีจริง ๆ
“ฉันก็ไม่คิดจะเอาเธอมาเป็นเมียฉันเหมือนกัน” ผมไม่ได้พูดกวนประสาทหรอกนะครับแต่ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นเมียแน่นอน แค่คิดว่าต้องเอามาเป็นคู่นอนก็หมดอารมณ์แล้ว
“ถ้างั้นก็กลับไปได้แล้วมั้ง ยัยซีแนมร้องหาแล้วล่ะ ต้องให้บอกไหมว่ายัยนั่นจะร้องยังไง”
“เพลงขวัญ!”
“คะ?”
“เลิกพูดจาถึงคนอื่นแย่ ๆ แบบนี้สักที!” ความซวยอะไรในชีวิตที่ทำให้ผมต้องมาบังเอิญพบเจอผู้หญิงแบบนี้กันนะ ปากร้ายไม่ว่าแต่อันธพาลเหมือนที่เธอทำผมโคตรไม่ชอบ แล้วก็พูดจาดูถูกว่าร้ายคนอื่นแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่ชอบ
“เอาคำนี้ไปบอกซีแนมคนดีของคุณก่อนไหมคะ ถ้ายัยนั่นทำได้สักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฉันจะยอมงดพูดคำหยาบไปตลอดชีวิตเลย”
“เธอเข้าไปตบซีแนมก่อนนะเพลงขวัญ ฉันไม่แจ้งความก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“191 เบอร์ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็โทรได้ โทรไปแจ้งเลยสิ”
“อ่าส์! ท่าทางเธอจะไม่สำนึกหรือรู้สึกผิดเลยนะ” ผมปวดหัวกับผู้หญิงคนนี้จริง ๆ
“ไม่เลยสักนิดค่ะเพราะฉันไม่ทำร้ายใครก่อนอยู่แล้ว ทำเฉพาะเวลาโดนหมากัดก็เลยซัดกลับเท่านั้น แล้วทำไมฉันต้องสำนึก” ^^
“...” ผมมองหน้าเพลงขวัญด้วยความอึ้งแล้วก็ตัดสินใจได้ว่าเถียงหรือสอนเธอไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่รู้จะมายืนเถียงกับคนไม่มีเหตุผลทำไม ยิ่งเถียงกับผู้หญิงด้วยผมก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่ตัวผมแล้ว
“จะกลับรึยังคะ หรือสนใจจะค้างที่นี่ ไม่ได้หรอกนะเดี๋ยวแฟนฉันจะขึ้นมาแล้วเขาลงไปเอาของที่รถ”
“ฮึ!” เธอลอยหน้าลอยตาตอบได้น่าหมั่นไส้ที่สุดผมก็เลยแค่นเสียงใส่เธอแล้วก็เดินออกมาจากห้องเธอซะ
ปัง!
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
(ฮัลโหลพี่ฟรังซ์อยู่ที่ไหนคะทำไมไปนานจัง)
“พี่จะกลับแล้วนะซีแนม”
(ทำไมคะพี่ฟรังซ์ ซีทำอะไรผิดทำไมถึงจะกลับเลย) ซีแนมเริ่มทำเสียงไม่พอใจใส่ผม
“ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เหตุการณ์เมื่อกี้ทำพี่ปวดหัวมาก พี่ขอกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่านะ”
(ก็มาพักที่ห้องซีสิคะ เดี๋ยวซีทำให้ผ่อนคลายเอง) ซีแนมเริ่มเหวี่ยงปนยั่วขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ดื้อสิซีแนม” ผมไม่ได้กะล่อนเอาแต่ตามใจผู้หญิงเพื่อฟันอย่างเดียวหรอกนะครับ ถ้าผมบอกว่าอยากพัก ผมจะกลับบ้านก็คือตามนั้น ผมไม่ใจดีให้ใครมาเซ้าซี้เท่าไหร่
“...ก็ได้ค่ะ” เสียงซีแนมตอบรับเหมือนจำใจแต่ผมก็ไม่ได้สนใจจะคุยอะไรต่อ เหตุการณ์เมื่อกี้ผมไม่ประทับใจเท่าไหร่ค่ำคืนที่น่าจะสนุกมันหายไปจนผมรู้สึกเซ็ง เซ็งไปหมดโดยเฉพาะ...
...เพลงขวัญ ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงบ้า ๆ ที่ผมขอเจอแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นในชีวิต!
-สามเดือนต่อมา-“มองเหี้ยไรวะ!” พี่ฟรังซ์ยืนเท้าเอวท่าทางหัวเสียอยู่ข้างเวทีขนาดใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ ด้านบนมีแลมโบกินี่ราคาหลายสิบล้านถูกนำมาโชว์เปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งนำเข้ามาในไทยภายในงานมอเตอร์โชว์ แต่เจ้าของบริษัทที่เอารถมาเปิดตัวกลับยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงตะคอกแขกและลูกค้าในงานอยู่ข้างเวทีจนฉันดึงเข้ามาด้านหลังเวทีแทบไม่ทัน“พี่ฟรังซ์! ตะโกนแบบนั้นได้ยังไงคะเดี๋ยวก็ขายรถไม่ได้พอดี” พอมาด้านหลังเวทีเพลงขวัญคนนี้ก็เลยจัดการดุพี่ร่านยกใหญ่“ขายไม่ได้ก็ช่างแม่ง ไอ้เหี้ยพวกนี้มันไม่ได้มาซื้อรถแต่มันมาดูนมพริตตี้ต่างหากแถมยัง...”“หวง?” ฉันถามเสียงเย็นเพราะเขาทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงและพูดเหมือนโมโหที่ผู้ชายในงานมาดูนมพริตตี้ที่เขาจ้างมา โถไอ้ติ่งร่องนมตัวพ่อ! มีแฟนและจะแต่งงานกันเดือนหน้าอยู่แล้วยังกล้าหวงร่องนมอื่น แล้วหวงแบบไม่เกรงใจอีเพลงที่ยืนหัวโด่อยู่ข้าง ๆ เลย คนร่านอยากเป็นหม้ายขันหมากสินะ“เออหวง หวงมากด้วยแม่ง!”“พี่ฟรังซ์!” ฉันตะคอกด้วยความเหลืออด นี่กล้าหวงร่องนมผู้หญิงคนอื่นแล้วก็สารภาพต่อหน้าฉันขนาดนี้เลยเหรอ เกรงใจกันบ้างไหมน้ำตาอีว่าที่เจ้าสาวตกในแล้วค่ะ จะมาดีแตกตอนที่ร่อน
“เสียวค่ะ ซี๊ด~ พี่ฟรังซ์เข้ามาเลยได้ไหม”“...อยากเหรอครับเมีย”“อยากค่ะ อื้ม~ พี่ฟรังซ์ขา ใส่เข้ามาเลยได้ไหมเพลงค้างนานแล้ว”“หือ?” อ่าส์ พี่ก็ค้างค่ะที่รักแต่ขอแกล้งเมียก่อนห่างอกผัวไปนานที่รักของผมหื่นขึ้นเยอะเลย แต่พอผมลีลาเพลงขวัญก็จิกลงมาที่แขนผมเต็มแรง“อย่าแกล้งค่ะพี่ฟรังซ์...นี่เมียนะ”“...เมีย พี่โคตรชอบเวลาเพลงแทนตัวแบบนี้เลยครับ” เวลาได้ยินเธอเผลอแทนตัวแบบนี้ทีไรหัวใจมันโคตรพองโต“อื้อ~ อย่าแกล้ง ซี๊ด~” เพลงขวัญร่อนสะโพกใส่เพราะผมเอาท่อนเอ็นจ่อทางเข้าร่องรักแล้วถูร่องรักเปียกเยิ้มของเธอแต่ไม่ยอมใส่เข้าไปอย่างที่เธอต้องการ“เสียวไหม~” ท่อนเอ็นใหญ่ส่วนปลายค่อย ๆ กดเข้าไปในร่องรักสีชมพูสวยที่ไม่ว่าจะมีอะไรกันบ่อยแค่ไหนแต่ก็ยังปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน“อื้ม~ เสียว เสียวค่ะ ซี๊ด~” เพลงขวัญสูดปากแล้วก็ยันตัวขึ้นมาเพื่อมองผม“อ่าส์~ โคตรแน่นเลยครับเมีย” ห่างกันไปแค่สิบกว่าวันเพลงขวัญแน่นกว่าเดิมเยอะเลย เข้าไปได้แค่ครึ่งลำผมก็เสียวจนขยับท่อนเอ็นไม่ไหวเพราะกลัวว่าโดนบีบรัดมากกว่านี้แล้วมันจะเสร็จก่อนได้ทำให้เมียเสียว“อื้อ~ เข้ามา พี่ฟรังซ์เข้ามา~” เพลงขวัญยันตัวขึ้นแ
“เดี๋ยวเพลงว่าเพลงไปเก็บของต่อดีกว่านะคะ” ฮึ ๆ จะหาเรื่องหนีสินะเพลงขวัญ“จะอยู่ทั้งที่มันเพิ่งฉาบปูนจริง ๆ” ผมมองหน้าคนสวยที่ยืนคุยกับผมด้วยหน้าตาเอ๋อ ๆ ทันที่ที่กลับมาถึงคอนโด หน้าตาเอ๋อไม่สมกับเพลงขวัญมือตบอันดับหนึ่งเลยสักนิด แต่ก็ดีแล้วครับผมเคยบอกแล้วไงว่าผมจะเป็นคนแรกที่ไม่กลัวเมีย แต่ไม่ใช่ว่าอยากให้เมียมากลัวผมหรอกนะ แค่เชื่อฟังสามีสักนิดหรือเกรงใจในบางเรื่องก็พอ“ก็...เพลงเชื่อฟังพี่ฟรังซ์นี่นา”“ตลกแล้วเพลง พี่ขำด้วยเหรอ?” ผมตอบกลับแล้วก็เดินย่างสามขุมเข้าไปหาเพลงขวัญที่กำลังถอยหลังหนีผมช้า ๆ เหมือนกัน“แหะ ๆ แต่มันเพิ่งจะเที่ยงเองนี่เนอะ แต่เพลงยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนี่นา หูยเพลงลืมไปเลยค่ะ”“กินไส้กรอกก่อนไหมอร่อยนะเดี๋ยวพี่จะป้อนให้จุกเลย” พูดจบผมก็โยนเสื้อไปทางโซฟาแล้วก็เริ่มจัดการกับกางเกงต่อ ดื้องี่เง่าดีนักจะเอาให้เป็นโรคกระเพราะเลยคอยดู เดี๋ยวจะเอาให้หายซ่าส์“พี่ฟรังซ์...” พอเห็นผมไม่ยอมคล้อยตามเธอ ยัยขี้เมาก็หยุดยืนแล้วก็เรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงงอน“อย่างอนเพราะพี่ไม่อ่อนโยน”“ชิส์! ขออาบน้ำก่อนก็แล้วกันนะคะ ขออาบน้ำทานข้าวเอาแรงแล้วจะไปนอนรอรับศึกหนักที่เตียง หร
เขาบอกให้เก็บก็เก็บสิคะ เก่าไปใหม่มามันเป็นเรื่องธรรมดา เก็บไปพร้อมน้ำตาที่ไหลอยู่ในอก“จะไม่กินข้าว?”“ค่ะ” ใครจะกินลง ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าเป็นคนบอกเลิกเองแต่ฉันไม่ได้เตรียมใจมาโดนไล่ให้เก็บของนี่คะ ขอตัวรีบเก็บของแล้วกลับไปกินข้าวเคล้าน้ำตาที่ห้องตัวเองดีกว่า“แต่พี่ทำไว้แล้ว กินหน่อยเถอะถือซะว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของที่นี่” พอเห็นฉันงี่เง่าไม่หัวอ่อนอย่างที่ต้องการก็ได้ทีกวนตีนใส่พร้อมกับถีบหัวส่งเลยสินะ“ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณที่ทำเผื่อนะคะแต่เพลงว่าเพลงรีบเก็บของดีกว่าจะได้ไม่ต้องรบกวนพี่ฟรังซ์นาน ๆ”“ตามใจ” เขาเดินไปนั่งบนโต๊ะเครื่องแป้งของฉันที่ฉันเก็บทุกอย่างบนนั้นใส่กระเป๋าหมดแล้ว ต่อไปนี้ก็คงไม่ใช่ของฉันแล้วสินะ เดี๋ยวก็คงมีคนมาใช้มันต่อ เฮ้อ! อย่าหวงเลยกับอีแค่โต๊ะเครื่องแป้ง ขนาดคนที่เขาบอกว่าเขาเป็นของเธอก็ยังมีคนมาเอาไปใช้ต่อเลย เจ็บไหมล่ะเพลงขวัญในระหว่างที่ฉันเก็บของไปเรื่อย ๆ เขาก็นั่งกอดอกมองฉันอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละ ไม่รู้นั่งมองหรือนั่งกดดันให้รีบเก็บ ตอนนี้ในหัวคิดดีโลกสวยไม่ได้เลยจริง ๆ ก็รู้ว่าเป็นคนบอกเลิกแต่ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายไล่ให้เก็บของตอนนี้เลย“เพลง”
อื้อ~ พี่ฟรังซ์ หยุด~ อื้อออ~” ตอนนี้เธอเริ่มทุบและผลักผมออกแต่ผมก็ยังกอดเธอเอาไว้แน่น เดี๋ยวจะดูดให้เสียวจนหมดแรงเลยยัยขี้เมา“พี่...อุ๊บ! อ้วก!!!”ผมนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีอะไรในร่างกายที่จะขยับนอกจากปาก ผมรีบผละออกจากหน้าอกเพลงขวัญแล้วเม้มปากให้สนิททันทีที่รู้สุกหนักที่หัว...กูแม่งทำเวรทำกรรมอะไรมานักหนาวะ!“อื้อ! ออกไปเพลงเหม็น!” พออ้วกใส่หัวผมเสร็จเพลงขวัญก็ผลักหัวผมออกจากตัวเธอ ผลักแรงมากและมันก็ทำให้สิ่งที่ผมพยายามนิ่งเป็นหินเมื่อกี้หมดความหมายเพราะตัวผมไปกระแทกกับแผงคอนโซลรถเต็มแรงมันก็เลยทำให้อ้วกที่รดบนหัวกระจายไปที่อื่นเป็นหย่อม ๆ สบายหัวมากขึ้นแต่รถผมต้องเต็มไปด้วยซากอ้วกแน่นอน“เฮ้อ! ยัยมนุษย์อ้วกเอ้ย!” ผมค่อย ๆ ขยับตัวลงจากรถส่วนยัยเมียขี้เมาก็ปล่อยให้นั่งสะลึมสะลืออยู่บนรถต่อไปพอลงมาก็พยายามก้มหัวให้ต่ำที่สุดแล้วสะบัดอ้วกออกจากหัวเต็มแรง ที่เป็นปัญหาคือมันไม่ได้มีแค่เศษนี่สิ อย่าลืมว่าเพลงขวัญดื่มมานะครับและท่าทางจะดื่มมาหนักด้วยเพราะฉะนั้นไอ้อ้วกที่อยู่บนหัวผมมันก็เลยเป็นน้ำเหนียว ๆ ค่อนข้างเยอะ“อ้วก!!!” ไม่ใช่เสียงอ้วกเพลงขวัญหรอกครับ เสียงผมนี่แหละ รักมากเก็บอ้วกได้แ
-หนึ่งชั่วโมงต่อมา-ฉันตัดสินใจมารอพี่ยาหยีที่บ้านพร้อมกับซื้อเบียร์มาหลายขวด ดีนะที่รู้ที่ซ่อนกุญแจก็เลยเข้ามานั่งซดเบียร์ในบ้านได้“เพลงเป็นอะไรทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้” ในระหว่างที่นั่งน้ำตาไหลรินอยู่คนเดียวพี่ยาหยีก็มาถึงพร้อมกับรีบเข้ามาถามฉันด้วยน้ำเสียงตกใจ“ฮึก! พี่หยี ฮื่อ ๆๆ เพลงเสียใจ” พอเห็นหน้าพี่สาวน้ำตามันก็ยิ่งไหล“ใจเย็น ๆ ก่อนเพลงเกิดอะไรขึ้นเล่าให้พี่ฟังได้ไหม”“ไอ้คนเลว! ไอ้หล่อหน้าซาลาเปา! ไอ้ร่าน! ไอ้เจ้าชู้!” ฉันเกริ่นด้วยคำด่าสารพัดเท่าที่จะขุดมาด่าไอ้คนนิสัยไม่ดีคนนั้นได้แล้วก็ค่อยตั้งสติเล่าทุกอย่างให้พี่ยาหยีฟังทั้งน้ำตา เล่าแค่เรื่องราวแต่ไม่แม้แต่จะเอ่ยชื่อให้เป็นกาลากิณีปาก“ฮื่อ ๆๆ ไอ้คนร่าน! ผู้ชายใจทรามรักกามเป็นชีวิตจิตใจ!” ฉันเล่าจบก็ตามด้วยการด่าและกระดกเบียร์ไม่หยุด กินให้พุงแตกตายไปเลย ดื่มนี้เพื่อลืมไอ้ร่าน!“ผู้ชายคนนั้นดูงง ๆ นะพี่ว่า ทางที่ดีพี่ว่าเพลงทบทวนให้ดีก่อนดีกว่าว่าความดีที่เขาคอยอยู่ข้าง ๆ กับการที่ทิ้งเราไปนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าอันไหนที่มันมีน้ำหนักในการตัดสินใจให้รักเขาต่อหรือหยุดเจ็บปวดได้สักที” พี่ยาหยีให้คำแนะนำหลังจากที่ฉันระบ