แชร์

Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา
Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา
ผู้แต่ง: Avox

บทที่ 1 แมวส้มลายสลิด

ผู้เขียน: Avox
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-07 17:19:06

สายลมเอื่อยพัดพลิ้ว  ดอกหญ้าโดยรอบเอียงลู่ไปตามลมหยอกเหย้ากับประกายแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ตกกระทบบนยอด  ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของสวนสมุนไพรเล็กๆ  ร่างๆหนึ่งกำลังง่วนกับการทำงาน  มือบางรวบผมสีเงินเส้นเล็กละเอียดยาวประบ่าของตนที่ปลิวกระจายไปตามแรงลมขึ้นมาทัดไว้ที่หู ก่อนจะลงมือเด็ดยอดสมุนไพรที่พึ่งแตกกิ่งใหม่ออกมาจากต้นลงไปในตะกร้า

“คุณหนูคะ  ได้เวลาทานข้าวเช้าแล้วนะคะ”  เสียงเรียกดังไกลๆมาจากทางประตูหลังบ้าน  หญิงสาวถึงยอมชะโงกหน้าออกไปจากแนวรั้วเตี้ยเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธออยู่ตรงไหน 

“อันนี้แปลงสุดท้ายแล้ว  เดี๋ยวเอาอันที่เด็ดมาไปแช่น้ำแล้วจะตามไปนะ”  หญิงสาวก้มหน้าทำงานไปพูดไปไม่ปล่อยให้มือนิ่งเฉย  อีกฝ่ายที่คุยด้วยคือหญิงสาวอายุไม่มากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่  ผู้มาใหม่ปัดๆมือกับผ้ากันเปื้อนที่ผูกติดกับกระโปรงก่อนจะลงมือช่วยอีกแรง

“ให้ซีล่าเอาไปแช่น้ำให้แทนดีไหมคะ  คุณหนูจะได้ไปล้างมือเตรียมทานอาหารเลย  ครั้งที่แล้วคุณหนูก็พูดอย่างนี้แต่กว่าจะไป  ท่านบารอนก็ทานเสร็จแล้ว”  หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า ‘คุณหนู’ ยิ้มแห้งๆ  คราวนี้ถ้าเธอเถลไถลอีกท่านพ่อกับซีล่าคงไม่ยอมแน่ๆ

“ถ้างั้นเอาอย่างนี้ดีไหม  พวกเรามาช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ  ซีล่าเองก็คงกำลังหิวเหมือนกันใช่ไหม” หญิงรับใช้นามว่าซีล่ายิ้มเขินๆอย่างไม่อาจปฏิเสธความจริงได้  เธอซักผ้าออกแรงทำงานตั้งแต่เช้ามืดและตอนนี้กำลังหิวเป็นที่สุด  “ดีมาก  เอาล่ะ  งั้นเจ้าช่วยยกตะกร้าตรงโน้นตามเข้าไปในโรงเรือนทีนะ” 

เธอบอกก่อนจะเด็ดกิ่งสุดท้ายเสร็จแล้วยกตะกร้าที่พึ่งใส่สมุนไพรลงไปขึ้นมา  ก้าวยาวๆไปทางโรงเรือนไม้ที่ว่านั่น  หญิงสาวผลักประตูเข้าไป  วางตะกร้าลงบนโต๊ะไม้ยาว  สองตากวาดตามองรอบๆเพื่อหาถังใส่น้ำก่อนที่คิ้วเรียวงามจะขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าของในห้องหล่นกระจายเต็มพื้น  เมื่อคืนตอนเธอออกมาทุกอย่างปกติเรียบร้อยดีแต่ทำไม...

เด็กสาวตรงไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่จำได้อย่างแม่นยำว่าปิดไว้เองกับมือเมื่อคืน  บัดนี้มันกลับเปิดอ้าออกไปหนึ่งด้านแถมยังเอียงจนเกือบจะหลุดออกจากกรอบหน้าต่างอยู่แล้ว  มือบางไล้ไปตามขอบหน้าต่าง  รอยเปื้อนสีแดงคล้ำที่ติดอยู่เป็นแถบเปื้อนติดนิ้วกลับมา  กลิ่นสนิมเหล็กตีขึ้นมาแตะจมูกจางๆ

เลือด?

ร่อยรอยสีคล้ำหยดเป็นทางไปจนถึงกองกล่องลังที่ล้มกระจายบนพื้น  ยิ่งเดินตามไปจมูกก็ยิ่งได้กลิ่นคาวของเลือดจนเริ่มรู้สึกเวียนหัว  แม้จะลังเลอยู่สักพักแต่ก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปดันกล่องกระดาษออกเพื่อเผยให้เห็นถึงสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ข้างใต้

ก้อนขนที่แห้งกรังไปด้วยเลือดปรากฏขึ้นเป็นสิ่งแรก  เมื่อมองดูให้ดีๆแล้วจึงพบว่ามันเป็นแมวสีส้มลายสลิดที่กำลังบาดเจ็บตัวหนึ่ง  มันนอนหายใจแผ่วเบาจนน่ากลัวว่าจะไม่รอด  เมือเห็นดังนั้น  หญิงสาวจึงทิ้งความสงสัยทั้งหมดไป  รีบหยิบผ้าสะอาดในห้องค่อยๆห่อมันไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นมา

“ตายแล้ว  คุณหนูคาเรนทำอะไรอยู่คะ  รีบวางมันลงเถอะค่ะ”  ซีล่าที่ตามเข้ามาทีหลังร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเจ้านายของเธออุ้มห่อผ้าเปื้อนเลือดไว้แนบอก  คาเรนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะส่งเสียงปราม

“เบาเสียงของเจ้าลงหน่อย  เห็นไหมมันก็แค่แมว”  คาเรนคลายผ้าให้ดู  ซีล่าทำหน้าเหยเกพร้อมทั้งย่นจมูก  ที่เมืองบาโทรอน ณ อาณาจักรอารอนแห่งนี้มีความเชื่อเก่าแก่ที่ว่าแมวเป็นสัญลักษณ์ของปิศาจที่น่ากลัว  เป็นลูกน้องของซาตาน และจะทำหน้าที่ขนย้ายวิญญาณคนตายไปสู่นรก

“แต่มันตายแล้วนะคะ  วางมันลงเถอะเดี๋ยวชุดจะเลอะเอา”

“ไม่  มันยังไม่ตาย เจ้าดูซิ”  ซีล่ามองมันแล้วส่ายหน้า  ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะรอด

“สภาพแย่มากเลยนะคะ  ต่อให้ช่วยไว้  ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดจนถึงพรุ่งนี้ไหม”

“ก็ต้องลองดูไงล่ะ  ข้าคงรู้สึกผิดถ้าปล่อยให้มันตายไปจริงๆ”  คาเรนยิ้ม  เธอวางห่อผ้าลงบนโต๊ะไม้ ไม่ลืมสำทับงานที่ทำค้างไว้เมื่อเห็นซีล่ามัวแต่ยืนอึ้ง  “ฝากเจ้าเอาสมุนไพรพวกนี้ไปแช่น้ำต่อทีนะ  โทษที”

“คุณหนูจะรักษามันจริงๆหรือคะ”  ซีล่าตาโต  มองหญิงสาวเดินไปเปิดตู้นู้น  หยิบของในตู้นี้ออกมาผสมในหม้อบดยาของเธอ  แม้จะรู้ว่าคุณหนูของเธอนั้นเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรแค่ไหน  แต่ที่ผ่านมาก็เป็นการใช้สมุนไพรรักษาแค่กับคนเท่านั้น  แถมในเมืองบาโทรอนแห่งนี้ตั้งแต่เกิดมาเธอก็ยังไม่เคยเห็นใครรักษาสัตว์เหมือนกับที่รักษากับคนมาก่อน  คาเรนยิ้ม

“แน่นอน  ข้ามั่นใจว่าในโรงเรือนสมุนไพรเล็กๆแห่งนี้  มีสมุนไพรเพียงพอที่จะรักษามัน”

“ไม่น่าเชื่อ”

คาเรนอดพึมพำออกมาเบาๆไม่ได้หลังจากที่ได้มองดูมัน  เจ้าแมวส้มตัวผอมที่บัดนี้ถูกพันไปด้วยผ้าพันแผลทั้งตัวกำลังนอนแผ่อยู่บนเบาะเล็กๆในห้องนอนของเธอ  เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มันยังมีชีวิตรอดอยู่ด้วยสมุนไพรห้ามเลือดและยาสมานแผลเท่าที่เธอมีอยู่ในโรงเรือน  เธอคอยดูแลมันอยู่ตลอดสองวันที่ผ่านมาแม้ไม่มีทีท่าว่ามันจะตื่นขึ้นมาเลยก็ตาม  แต่สภาพโดยรวมแล้วก็ดูดีขึ้นจากวันแรกที่เจออยู่มากล่ะนะ

เรื่องความเชื่อและตำนานเมืองเก่าแก่ที่เล่าถึงแมวนั้น  เธอไม่ได้ให้ความสนใจหรือเชื่อมากมายนักแม้จะได้ยินจนชินหูมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ตามที  กลับมองว่าพวกมันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่น่าสงสารเสียด้วยซ้ำ

หญิงสาวดึงผ้าผืนเล็กขึ้นมาห่มให้มันก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะเขียนหนังสือริมหน้าต่าง  หนังสือหลายเล่มวางซ้อนกันเป็นชั้นๆแต่มีอยู่เล่มหนึ่งที่เปิดค้างเอาไว้  ดอกไม้สีแดงสดที่คั่นหน้ากระดาษไว้เป็นดอกไม้ชนิดเดียวกันกับที่ปรากฏในหนังสือหน้าที่กำลังเปิดอยู่

ดอกทับทิม

ดอกไม้ที่มีสรรพคุณหลากหลายหนึ่งในนั้นคือช่วยห้ามเลือดและฆ่าเชื้อ  เธอลองเอามันมาบดผสมกับตัวยาอื่นๆอีก 3-4 ชนิด  แม้ตอนแรกจะไม่มั่นใจว่าจะได้ผลกับสัตว์เหมือนกับคนไหม  แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาดีไม่น้อย  เพราะในอาณาจักรอารอนแห่งนี้แม้ความรู้และวิทยาการทางด้านการแพทย์จะมีความเจริญกว่าอาณาจักรอื่นๆโดยรอบอยู่ไม่น้อยแต่ก็พัฒนาแค่ในคนเท่านั้น  นอกจากม้ากับลาที่ใช้เป็นพาหนะแล้วผู้คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจกับชีวิตของสัตว์อื่นๆนัก  เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อการปศุสัตว์  มีเพียงบ้านที่มีฐานะเท่านั้นที่จะนิยมเลี้ยงสัตว์อื่นๆไว้ดูเล่น

ลมหนาวพัดผ่าน  หอบเอาน้ำค้างยามค่ำมาสัมผัสผิวกายให้เย็นยะเยือก  คาเรนเอื้อมมือไปดึงปิดหน้าต่างก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง  ดับตะเกียงที่หัวโต๊ะแล้วล้มตัวลงนอน  ดวงตาสีมรกตมองผ่านความมืดไปยังเบาะเล็กๆตรงมุมห้อง  นึกหวังให้หนึ่งชีวิตที่เพียรรักษาไว้สามารถลืมตาตื่นขึ้นมาได้อีกครั้งในเร็วๆวัน

ฝันดีนะ...เจ้าแมวน้อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   ตอนพิเศษ 5 เจ้าดวงดาวดวงน้อย

    คาเรนนั่งเอนหลังพิงหัวเตียง สีหน้าของเธอดูเหนื่อยล้า เหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าและตามตัว มีไคล์กำลังช่วยเอาผ้าซับเหงื่อให้อยู่ข้างเตียง ในห้องยังมีหญิงวัยกลางคนอยู่อีกคนหนึ่งกำลังอุ้มทารกแรกเกิดที่ร้องให้จนเงียบเสียงไปแล้วล้างตัวในอ่างน้ำไม้ “ดีใจด้วยนะ พวกเจ้าได้ลูกสาว” หญิงวัยกลางคนบอกขณะอุ้มทารกน้อยออกมาจากอ่างแล้วซับตัวให้ด้วยผ้าสะอาด ไคล์และคาเรนมองหน้ากันด้วยสีหน้าดีใจ “ได้ยินไหมคาเรน พวกเราได้ลูกสาวแหละ” ไคล์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ข้าได้ยินแล้ว” คาเรนยิ้ม “ท้องแรกสินะ” หญิงวัยกลางคนผู้เป็นคนทำคลอดให้ถาม “ครับ ขอบคุณที่มาช่วยทำคลอดให้ถึงคฤหาสน์นะครับ เพราะคาเรนปวดท้องคลอดกะทันหันมากเลยพาไปโรงพยาบาลในเมืองไม่ทัน คนแรกที่พอจะนึกถึงได้ก็มีแต่คุณป้าที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงกันเท่านั้น” ไคล์ตอบและถือโอกาสนี้พูดขอบคุณหญิงวัยกลางคนไปด้วยเลย “ไม่เป็นไร ข้ายินดีช่วยเหลืออยู่แล้ว อีกอย่างพวกเราก็ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก เอ้านี่” หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาใกล้เตียง

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   ตอนพิเศษ 4 หญิงสาวเจ้าของร้านขายยา

    “โอ้ยหนาว” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นพลางทำท่าขนลุก ลมหายใจที่พ่นออกมาจากทางจมูกและปากกลายเป็นไอขาวๆลอยขึ้นไปในอากาศ อากาศเย็นจัด หิมะกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า มือบางถูกเข้าหากันแล้วเป่าปากใส่ให้ลมหายใจอุ่นๆพอที่จะคลายความหนาวไปได้บ้าง เธอมีผมตรงยาวสีส้ม ดวงตาสีเขียวมรกต และมีรูปลักษณ์ราวอายุ 19-20 ปี “ถ้าไม่ติดว่ามีธุระในเมืองก็ไม่อยากออกจากบ้านเลยนะ” เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะเดินผ่านตรอกเล็กๆ ฟ้าใกล้มืดแล้ว เวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่กลับเข้าบ้านไปขลุกตัวอยู่ในเตียงอุ่นๆกันหมดแล้ว บนถนนจึงเงียบเหงาไม่ค่อยมีผู้คน ในระหว่างที่เธอเดินไปเรื่อยๆหางตาเธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่มุมหนึ่งของถนน พอมองดูให้ดีก็เห็นเป็นร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเนื้อตัวมอมแมมนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มเก่าๆขาดๆ ตอนแรกเธอตั้งใจจะเดินผ่านไปอยู่แล้วแต่อะไรบ้างอย่างร้องเรียกให้เธอเดินกลับมาอีกครั้งแล้วไปหยุดยืนตรงหน้าเด็กชายคนนั้น เด็กน้อยนอนสั่นด้วยความหนาว ใบหน้ามอมแมมดูแดงก่ำเหมือนเป็นไข้ หญิงสาวลองเอามือไปแตะที่หน้าผากของเด็กชายดู ตัวร้อนจี๋เลย เป็นไข้จริงๆด้วย หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแล้ว

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   ตอนพิเศษ 3 น้องชายต่างแม่

    “นี่คือไคล์ เป็นน้องชายต่างแม่ของเจ้า ฝากดูแลเขาแทนข้าหน่อยนะ” นั่นคือประโยคที่ท่านพ่อพูดกับเขาในวันหนึ่งพลางส่งลูกแมวสีส้มลายสลิดตัวน้อยมาให้ ไครัสในวัยเด็กยื่นมือออกไปรับมาอุ้มไว้ เขาเป็นปีศาจที่เกิดมามีพลังสูงตั้งแต่เด็กจึงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังปีศาจในตัวลูกแมวน้อยนี่ได้ทันที “ท่านพ่อ ข้าจะต้องทำยังไงบ้าง” ไครัสในรูปลักษณ์เหมือนเด็กชาวมนุษย์อายุ 11 ขวบเงยหน้าถามผู้เป็นพ่อ เขามีพี่น้องต่างแม่หลายคนแต่ด้วยความที่ที่ผ่านมาเขาเป็นลูกชายคนเล็กของปราสาทจอมมารจึงเคยแต่ถูกตามเอาใจจากคนรอบตัว และด้วยความที่ถูกฝึกให้เป็นนักรบมาอย่างเดียวตั้งแต่เด็กจึงไม่รู้ว่าควรจะดูแลกับน้องชายต่างแม่ร่างจิ๋วนี่อย่างไรดี “ดูแลและเป็นเพื่อนให้เขาในช่วงระหว่างที่ข้าจัดการกับกลุ่มกบฏ ฝึกเขาให้กลายร่างเป็นคนให้ได้และคอยสอนสิ่งต่างๆที่เจ้ารู้ให้แก่เขา ส่วนเรื่องอาหารและน้ำพวกหญิงรับใช้จะเป็นผู้จัดการเอง” ท่านพ่อบอกแบบนั้นแล้วหลังจากนั้นก็ยุ่งอยู่กับการจัดการกับกลุ่มกบฏจนไม่มีเวลามาดูเขาและน้องชายต่างแม่ในร่างแมวตัวนี้อีกเลย ส่วนท่านพี่คนอื่นๆไม่ออกไปช่วยท่านพ่อรบก

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   ตอนพิเศษ 2 สัญญาร้อยปีหน

    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่สภาพและบรรยากาศภายในปราสาทราชาปีศาจแห่งนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไคล์เดินบนโถงทางเดินที่ทอดยาวไปยังเบื้องหน้า เขาไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลยจนกระทั่งวันนี้ เวลาก็น่าจะผ่านมาซักร้อยปีเศษๆเห็นจะได้นับตั้งแต่เขามาพาคาเรนกลับไปยังโลกมนุษย์ตอนราชาปีศาจสาปเมืองบาโทรอน ในมือไคล์มีสายใยพลังสีแดงผูกโยงไปยังดวงวิญญาณมนุษย์ชายที่อยู่ด้านหลัง ใช่แล้ว วันนี้เขากลับมาทำตามสัญญาที่เคยได้ให้ไว้ สัญญาที่ว่าจะนำวิญญาณมนุษย์มามอบให้กับซาตาลตลอดชั่วชีวิตของเขา ไคล์เดินเรื่อยๆโดยมีดวงวิญญาณมนุษย์ชายลอยตามหลังมาจนกระทั่งถึงประตูทางเข้าปราสาทชั้นในเขาก็ยื่นป้ายทองคำสลักตราของราชาปีศาจขึ้นมาแสดงให้ทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูดู ทหารยามรับไปดูสักครู่หนึ่งก่อนจะยื่นส่งคืนกลับมาให้ “เชิญขอรับท่านไคล์ ตอนนี้ท่านราชาปีศาจน่าจะอยู่ที่ห้องทรงงาน จากนี้ไปข้าจะนำทางท่านไปต่อเอง” นายทหารบอก ดูเหมือนทหารยามทุกคนจะรู้จักป้ายทองคำนี้กันเป็นอย่างดีและรู้จักชื่อของเขาด้วย แค่เขาแสดงมันให้ดู ทุกคนก็ยอมเปิดทางให้อย่างง่ายดายและต้อนรับขับสู่เป็นอย่างดี

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   ตอนพิเศษ 1 เริ่มต้นกันใหม่

    “จะยกเจ้านี่เหรอ มาเดี๋ยวข้าช่วย” เสียงดังมาจากทางด้านหลัง อีวานที่กำลังจะยกหม้อต้มสมุนไพรใบโตออกจากเตาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าซาร่าเดินเข้ามาช่วยจับที่หูหิ้วด้านหนึ่งไว้ “จะยกไปไหนเหรอ”“จะเอาไปตั้งเอาไว้ให้เย็นตรงโต๊ะนู้น” อีวานชี้ไปที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้อง“อ๋อ ได้เลย” หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ อีวานจับที่หูหิ้วอีกด้านที่เหลือแล้วนับให้สัญญาณ“งั้นยกพร้อมกันนะ หนึ่ง สอง สาม เอ้า ฮึบ” หม้อใบโตที่ใส่น้ำต้มสมุนไพรไว้ค่อนหม้อถูกยกลอยขึ้นอย่างง่ายดายเมื่อมีคนยกพร้อมกันสองคน อีวานกับซาร่าช่วยกันยกหม้อไปวางที่โต๊ะตัวที่อีวานชี้บอก“ขอบใจ” อีวานพูดขึ้นเมื่อหม้อถูกวางลงบนโต๊ะเรียบร้อยดีแล้ว“ไม่เป็นไร” แล้วซาร่าก็เดินไปทำงานอย่างอื่นต่อ อีวานมองตามหลังของเธอไป นับตั้งแต่หายดีจากโรคระบาดประหลาดเขาก็พึ่งจะกลับมาทำงานได้ไม่นาน เขารู้สึกว่าซาร่าไม่ได้เขม่นเขาเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว แถมบางทีถ้าเธอผ่านมาเห็นในจังหวะที่เขาต้องทำอะไรหนักๆคนเดียว เธอก็จะอาสาเข้ามาช่วยเขาอยู่บ่อยๆ อ้อ จำได้แล้ว เธอเริ่มกลับมาคุยกับเขาตอนช่วงที่ต้องพลัดเวรกันไปช่วยพวกรุ่นพี่ดูแลผู้ป่วยที่ป่วยจากโร

  • Starry Night ค่ำคืนใต้หมู่ดาวมีเพียงแค่สองเรา   บทที่ 33 จากนี้จวบจนนิรันดร์

    ประตูมิติที่ไคล์สร้างเปิดขึ้นภายในห้องพักห้องเดิมที่คาเรนเคยนอนอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนที่เธอจะถูกพาไปยังโลกปีศาจ ไคล์อุ้มคาเรนที่หลับไม่ได้สติเดินออกมาจากประตู พอเดินพ้นออกมาประตูมิติก็ปิดตัวลงและหายไป ไคล์วางร่างของคาเรนลงบนเตียง ใช้มือปัดปอยผมที่ตกลงมาบดบังใบหน้าขาวนวลออกแล้วจ้องมองใบหน้ายามหลับของเธอ “เรากลับมาที่โลกมนุษย์แล้วนะคาเรน คำสาปก็ถูกถอนออกไปแล้ว ข้าทำตามที่สัญญาแล้ว ทีนี้เจ้าก็ฟื้นได้แล้วนะคนดี” ไคล์ก้มลงพูดกับคาเรนเบาๆ ราวกับรอให้ไคล์ปลุกให้ตื่นขึ้นจากห้วงฝัน ฉับพลันแพขนตาหนาก็ขยับน้อยๆตอบรับคำพูดของไคล์ ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆลืมตาขึ้นจ้องมองมายังชายหนุ่มด้วยความงุนงง “ไคล์? ทำไมข้าถึงมานอนอยู่ที่นี่?” คาเรนถามเสียงเบาอย่างยังคงค่อยไม่มีแรง ภาพสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังขึ้นเวรดูแลผู้ป่วยอยู่ แต่พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงนี่แล้ว “เจ้าหลับไป...นานมาก” ไคล์บอก ยกมือเธอขึ้นมากุมไว้อย่างดีใจที่เธอฟื้น “แต่ตอนนี้เจ้าก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว” “ข้าหลับไปนานแค่ไหน” คาเรนถาม“12 ชั่วโมงได้” ไคล์ตอบ“น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status