Home / แฟนตาซี / The Light and Shadow : เงาทมิฬ / บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่ (1)

Share

บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่ (1)

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2024-11-20 14:28:22

ไรอันตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลข้า? ทำไมข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อน?"

"เพราะมันเป็นความลับที่ถูกปกปิดไว้อย่างยาวนาน" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบ

"ลูเซียสคือพี่น้องร่วมสายเลือดของเจ้า แต่เขาเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งเงามืด พลังที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อสมดุลของอาณาจักร ครอบครัวของเจ้าจึงตัดสินใจที่จะปกปิดเรื่องนี้และผลักไสเขาออกไปจากตระกูล"

คำพูดของผู้เฒ่าปราชญ์ทำให้ไรอันรู้สึกถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจ เขาไม่เคยรู้ว่าลูเซียสคือพี่น้องร่วมสายเลือด และไม่เคยรู้ว่าตระกูลของเขามีส่วนในการทำให้ลูเซียสกลายเป็นผู้ที่ครอบครองพลังแห่งความมืด

"เพราะความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจ ลูเซียสจึงหันไปหาพลังแห่งเงามืดและทำสัญญากับมัน เพื่อที่จะใช้พลังนั้นในการล้างแค้นต่อครอบครัวและอาณาจักรที่เขารู้สึกว่าทรยศเขา" ผู้เฒ่าปราชญ์กล่าวเสริม

"แต่พลังนั้นไม่ได้มอบเพียงความแข็งแกร่งให้แก่เขา มันยังได้ครอบครองจิตวิญญาณของเขาด้วย"

ลีอาที่ฟังอยู่เงียบๆ ตลอดการสนทนา มองดูไรอันด้วยความเห็นใจ เธอยื่นมือออกไปตบบนหลังมือเขาเบาๆ เธอเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องพบกับความจริงที่เจ็บปวด แต่เธอเชื่อว่าไรอันจะต้องสามารถก้าวข้ามมันไปได้

"ข้าต้องทำอย่างไร?" ไรอันถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสนและเป็นทุกข์

"ข้าจะหยุดลูเซียสได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นพี่น้องของข้า?"

"เจ้าต้องใช้พลังของเจ้าเพื่อฟื้นฟูสมดุลที่ถูกทำลาย และเจ้าต้องเผชิญหน้ากับลูเซียส ไม่ใช่ในฐานะศัตรู แต่ในฐานะพี่น้อง" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบ

"การต่อสู้ระหว่างเจ้าและลูเซียสไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งความชั่วร้าย แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อคืนความสงบสุขและความเข้าใจให้กับตระกูลของเจ้า"

ไรอันรู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจที่ถูกปลดเปลื้องออกมาเล็กน้อย แต่เขายังคงรู้สึกถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า การเผชิญหน้ากับลูเซียสจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหนีจากความจริงนี้ได้อีกต่อไป

"ข้าจะทำมัน ข้าจะเผชิญหน้ากับลูเซียส และจะนำพาเขากลับคืนสู่แสงสว่าง" ไรอันกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

ผู้เฒ่าปราชญ์พยักหน้าอย่างเห็นใจ

"ข้าหวังว่าเจ้าและลูเซียสจะหาทางคืนดีกันได้ และข้าขอให้เจ้ามีพลังที่จะผ่านพ้นความมืดมิดนี้ไป"

หลังจากการสนทนานั้น ผู้เฒ่าปราชญ์ได้ให้แผนที่แก่ไรอันและลีอา เพื่อช่วยนำทางพวกเขาไปยังสถานที่ที่ลูเซียสซ่อนตัวอยู่

หลังจากที่ผู้เฒ่าปราชญ์เล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลของไรอันและการทรยศในอดีต จิตใจของไรอันเต็มไปด้วยความสับสนและความเจ็บปวด ความจริงที่เขาเพิ่งได้รับรู้ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่เขาไม่เคยคาดคิด

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ถกเถียงหรือวางแผนการเดินทางต่อไป เสียงฝีเท้าที่รวดเร็วและหนักแน่นก็ดังขึ้นจากภายนอกบ้านไรอัน ลีอา และผู้เฒ่าปราชญ์หันไปมองประตูบ้านด้วยความตื่นตัว

“เกิดอะไรขึ้น?” ลีอาถามเบาๆ

“ข้าก็ไม่แน่ใจ...” ผู้เฒ่าปราชญ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

“แต่ข้ารู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลเข้ามาใกล้”

ก่อนที่ผู้เฒ่าจะพูดจบ ประตูบ้านก็ถูกถีบเปิดออกอย่างแรง เผยให้เห็นกลุ่มนักฆ่าลึกลับสามคนที่ยืนอยู่ในเงามืด พวกเขาสวมชุดสีดำทมิฬ ใบหน้าถูกปิดบังด้วยหน้ากาก และในมือของพวกเขาถืออาวุธที่เปล่งแสงสีดำออกมา พลังอันมืดมิดแผ่ซ่านไปทั่วห้อง สร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกคนในที่นั้น

"พวกเขาคือใครน่ะ?" ลีอาถามด้วยเสียงสั่นเครือ

"นักฆ่าที่ถูกส่งมาเพื่อสังหารข้า" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบอย่างสงบนิ่ง

แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา "พวกเขามาจากกลุ่มที่รับใช้เงามืดของลูเซียส"

"พวกเขามาเพื่อปิดปากข้าก่อนที่ข้าจะสามารถให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าได้" ผู้เฒ่าปราชญ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

"แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำได้สำเร็จ"

ไรอันก้าวขึ้นมาขวางหน้าผู้เฒ่า ดาบของเขาถูกชักออกมาในพริบตา

"ท่านผู้เฒ่า หาที่หลบก่อน!"

นักฆ่าคนหนึ่งพุ่งเข้าหาไรอันด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ดาบของพวกเขาฟาดฟันอย่างแม่นยำ แต่ไรอันสามารถหลบเลี่ยงได้และตอบโต้ด้วยดาบของเขาเอง การต่อสู้ระหว่างไรอันและนักฆ่าลึกลับเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด

ลีอาเองก็ไม่ยอมแพ้ เธอใช้พลังแห่งธรรมชาติเรียกเถาวัลย์ออกมาจากพื้นดินเพื่อพันรอบนักฆ่าอีกคนหนึ่ง แต่พวกเขาก็ฉลาดพอที่จะใช้พลังเงามืดเพื่อตัดเถาวัลย์ทิ้งและพุ่งเข้าหาเธอ ลีอารีบหลบอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอใช้พลังเรียกหนามแหลมขึ้นจากพื้นดินเพื่อสร้างสิ่งกีดขวาง เสียงดาบปะทะกันดังสนั่นทั่วบ้านเล็กๆ นี้ ในขณะที่ไรอันและลีอาพยายามสู้กับนักฆ่าที่แสนแข็งแกร่ง อาเรียน่าซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังตู้หนังสือได้แต่จ้องมองด้วยความหวาดกลัว แต่เด็กหญิงก็รู้ว่าตนเองต้องอดทน เธอรู้ว่าตอนนี้มีเพียงต้องแอบซ่อนตัวถึงจะไม่ทำให้พี่ชายและพี่สาวต้องกังวล

ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ประตูด้านหลังบ้านก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มวัยประมาณ 16 ปี ปรากฏตัวขึ้น เขามีรูปร่างสูงโปร่งและดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น มือของเขาถือกระบองเหล็กที่ดูหนักหน่วงและพร้อมจะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ

“ท่านตาเคยบอกแล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นสักวัน!” ชายหนุ่มตะโกน

ขณะที่เขาพุ่งเข้ามาช่วยพวกไรอัน เงื้อกระบองเหล็กฟาดลงไปที่นักฆ่าคนหนึ่งอย่างแรง ทำให้เขาล้มลงไปกับพื้นผู้เฒ่าปราชญ์มองหลานชายของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ

“เอลเลียต ข้าดีใจที่เจ้ามาทันเวลา”เอลเลียต ซึ่งเป็นหลานชายของผู้เฒ่าปราชญ์ หันมามองพวกไรอัน “ข้าได้ยินเสียงการต่อสู้เลยรีบมาช่วย ข้าคือเอลเลียต หลานของผู้เฒ่า และข้าจะไม่ยอมให้ใครโดนทำร้ายในถิ่นข้า!”

ไรอันพยักหน้ารับ

“ไป!”

การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แม้จะเป็นเพียงชายหนุ่ม เอลเลียตก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความชำนาญในการต่อสู้ เขาใช้กระบองเหล็กในการต่อสู้กับนักฆ่าลึกลับอีกคนอย่างไม่ย่อท้อ ลีอาใช้พลังแห่งธรรมชาติสนับสนุนการโจมตีของเขา ขณะที่ไรอันยังคงต่อสู้กับนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุด

ในท้ายที่สุด ด้วยความร่วมมือของทุกคน นักฆ่าลึกลับทั้งสามคนก็ถูกปราบลง พวกเขาสลายหายไปในเงามืด ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ แต่ความรู้สึกหนักอึ้งยังคงอยู่ในใจของไรอันและเพื่อนร่วมทาง

หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง เอลเลียตเดินเข้ามาหาผู้เฒ่าปราชญ์

“ข้าเคยบอกท่านแล้วว่าข้าไม่อยากให้ท่านอยู่คนเดียว ในสถานการณ์เช่นนี้ ท่านต้องการการปกป้อง และข้าจะไม่ปล่อยให้พวกมันทำร้ายท่านได้”

ผู้เฒ่าปราชญ์ยิ้มอ่อนโยน

“เจ้าทำได้ดีมาก เอลเลียต ข้าแก่เกินกว่าจะต่อสู้ได้เหมือนเมื่อก่อน ข้ารู้สึกขอบใจที่เจ้ามาช่วยข้าและพวกเขา”

เอลเลียตหันไปทางไรอันและลีอา

“พวกเขาคือใครหรือท่านตา”

ผู้เฒ่าปราชญ์เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลานชายฟัง

“เช่นนั้น ข้าขอร่วมเดินทางกับพวกท่าน ข้ามีทักษะในการต่อสู้และความรู้เกี่ยวกับพื้นที่รอบๆ นี้ และที่สำคัญข้าต้องการล้างแค้นพวกมันที่พยายามทำร้ายครอบครัวข้า”

ไรอันมองดูเอลเลียตด้วยความชื่นชม

“เรายินดีที่เจ้าจะมาร่วมทางกับเรา เอลเลียต พลังของเจ้าจะเป็นกำลังสำคัญในภารกิจของเราแน่นอน”

ผู้เฒ่าปราชญ์ยิ้มให้กับหลานชายและหันไปหาพวกไรอัน

“ข้าขอให้พวกเจ้าจงระวังตัว นักฆ่าที่มาคือสัญญาณว่าอำนาจของลูเซียสกำลังแผ่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจะต้องพบกับอันตรายที่มากยิ่งขึ้น แต่ข้าหวังว่าสุดท้ายแล้ว เจ้าจะหาทางหยุดยั้งเขาได้”

ผู้เฒ่าปราชญ์ยื่นแผนที่ให้แก่ไรอัน

“นี่คือแผนที่ที่จะนำทางพวกเจ้าไปยังสถานที่ที่ลูเซียสซ่อนตัวอยู่ มันจะเป็นการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย แต่ข้ารู้ว่าเจ้ามีพลังมากพอที่จะผ่านพ้นมันไปได้”

ไรอันรับแผนที่มาอย่างนอบน้อม

“ข้าขอขอบคุณท่านปราชญ์ ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งลูเซียสและนำความสงบสุขกลับคืนสู่แผ่นดินนี้”

หลังจากที่พวกเขาเตรียมตัวเรียบร้อย ไรอัน ลีอา อาเรียน่า และเอลเลียตก็เริ่มออกเดินทางไปตามเส้นทางที่แผนที่ชี้นำ เส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายและอันตรายรอพวกเขาอยู่ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในกัน

ก่อนออกเดินทาง ผู้เฒ่าปราชญ์พาหลานชายไปที่ห้องด้านหลังของบ้าน ที่นั่นมีกรงเหล็กขนาดใหญ่ซึ่งภายในบรรจุนกเหยี่ยวตัวหนึ่งที่สง่างามและน่าเกรงขาม

"นี่คือเฟนิกซ์ เหยี่ยววายุคู่ใจของข้า" เอลเลียตพูดพร้อมกับยิ้ม

ภาพของเหยี่ยวตัวนี้ทำให้เขารู้สึกถึงพลังและความมั่นใจที่มีมากขึ้น เฟนิกซ์คือเหยี่ยวที่มีขนสีทองประกายและดวงตาสีเหลืองอำพันที่แสดงถึงความเฉียบคม มันมีขนาดใหญ่กว่านกเหยี่ยวทั่วไป และปีกที่กว้างของมันทำให้มันสามารถทะยานสู่ท้องฟ้าได้อย่างรวดเร็วและเงียบสงบ เอลเลียตเปิดกรงและเรียกเหยี่ยววายุ มันบินออกมาจากกรงอย่างสง่างามก่อนจะร่อนลงมาที่แขนของเขา

"เฟนิกซ์เป็นเพื่อนคู่ใจของข้ามานาน มันไม่เพียงแค่สามารถส่งสารได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังมีดวงตาที่เฉียบคมและสามารถสอดส่องภัยอันตรายได้ในระยะทางหลายกิโลเมตร" เอลเลียตอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ

ไรอันและลีอาต่างมองดูเฟนิกซ์ด้วยความทึ่ง ลีอายิ้มออกมาและยื่นมือไปแตะขนของมันเบาๆ "มันสวยงามจริงๆ เอลเลียต ข้าว่าเฟนิกซ์จะเป็นประโยชน์มากในการเดินทางของเรา"เอลเลียตพยักหน้า

"มันเคยช่วยข้าหลายครั้งในการต่อสู้และการสอดแนม ข้ามั่นใจว่ามันจะช่วยให้พวกเรารอดพ้นจากอันตรายที่กำลังจะมาถึงได้"

เฟนิกซ์กางปีกกว้างก่อนจะบินขึ้นไปยังท้องฟ้าภายนอกบ้านอย่างรวดเร็ว มันทะยานขึ้นไปสูงจนเกือบจะลับสายตา ก่อนจะเริ่มบินวนไปทั่วบริเวณรอบหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ เพื่อตรวจสอบว่ามีภัยอันตรายใดๆ อยู่ใกล้เคียงหรือไม่

ผู้เฒ่าปราชญ์ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นเฟนิกซ์ทำหน้าที่ของมัน

"เฟนิกซ์จะเป็นตาของพวกเจ้าในที่ที่พวกเจ้าไม่อาจมองเห็น ข้าขอให้พวกเจ้าโชคดีและปลอดภัยในการเดินทาง"

ไรอัน ลีอา อาเรียน่า และเอลเลียตบอกลาผู้เฒ่าปราชญ์ เอลเลียตนัยน์ตาแดงก่ำ

“ข้าขอตัวไปเก็บของก่อนนะ” เอลเลียตพูดจบก็รีบเดินไปยังที่พักของเขาทันที

“ข้าฝากหลานชายคนนี้ของข้าด้วยนะ แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ย่อมจะมีประโยชน์ต่อแผนการของพวกเจ้า” ผู้เฒ่าปราชญ์พูด และมองเข้าไปในดวงตาของไรอัน

“ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องเขาด้วยชีวิต หากภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะรีบพาเขากลับมาหาท่านอย่างแน่นอน” ไรอันให้คำมั่นแก่ชายชรา

หลังจากเตรียมการทุกอย่างพร้อม พวกไรอันก็ออกเดินทางต่อไปตามเส้นทางที่แผนที่ชี้นำ

ผู้เฒ่าปราชญ์มองตามหลังสี่คนหนึ่งสัตว์ที่เดินจากไป

‘ท่านตา สิ่งนี้คืออะไรเหรอครับ?’

‘หนอนขนเม่นน่ะ เจ้าต้องระวังนะ หากไปแตะโดนขนมัน เจ้าจะทรมานเพราะพิษของมันอันตรายมาก’

‘ข้าไม่กลัวหรอก’ เด็กชายวัยห้าขวบ ใช้มือจับหนอนขนเม่น ก่อนที่ผู้เป็นตาจะช่วยทัน

‘โอ๊ยยย’ เด็กชายร้องลั่น พร้อมเอามือซ้ายกุมมือขวาทึ่บาดเจ็บไว้

‘นั่นไง ตาบอกแล้วใช่มั้ย ดื้อจริงๆ’ ถึงปากจะดุหลาน แต่ชายชราก็รีบเข้าไปดูมือของหลานชายตัวน้อย

‘นี่มัน…’ คนเป็นตาพึมพำออกมาด้วยความประหลาดใจ จากที่คิดว่าจะเห็นแผลไหม้พุพองน่ากลัว แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงรูเล็กๆหลายสิบรูที่เกิดจากหนามพิษของหนอนขนเม่นแทงเท่านั้น

‘ท่านตา ข้าเจ็บ ต่อไปข้าไม่ดื้อแล้ว’

วันต่อมา หลานชายตัวน้อยวิ่งมาหาตาอย่างร่าเริง พร้อมชูนิ้วข้างที่บาดเจ็บให้คนเป็นตาดู

‘ท่านตา แผลข้าหายแล้ว ยาของท่านดีจริงๆ’

หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าหลานคนนี้จะโดนอะไร ก็จะหายได้อย่างรวดเร็ว

“ท่านผู้เฒ่า ไม่ต้องไปห่วงเด็กๆมันหรอก เอลเลียตน่ะแข็งแรงไม่เหมือนเด็กอื่น ท่านก็รู้นี่ อีกอย่างเขาก็โตแล้วนะ”

ชายวัยกลางคนร้างท้วมคนหนึ่งเดินมาสะกิดแขนผู้เฒ่าปราชญ์ เมื่อเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้นนานมาก

“นั่นสินะ หลานตัวน้อยของข้า เติบใหญ่แล้ว”

ชายชราถอนหายใจยาว แล้วหันกายเข้าที่พักไป

ผู้เฒ่าปราชญ์ไม่คาดคิดเลยว่า การจากกันของเขากับหลานชายครานี้ จะจากกันไปนานเสียจนเขาแทบรอไม่ไหว ร่างกายชราทรุดลงไปทุกวัน

เฟนิกซ์บินนำหน้าเป็นระยะทางไกล สอดส่องและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ ดวงตาที่เฉียบคมของมันสามารถมองเห็นอันตรายที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเงามืดที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาหรือสัตว์ร้ายที่ซุ่มอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้ระหว่างการเดินทาง

เฟนิกซ์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของกลุ่ม มันส่งสารไปยังหมู่บ้านข้างเคียงที่พวกเขาต้องผ่าน เพื่อเตือนชาวบ้านถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้พวกไรอันสามารถวางแผนล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ครั้งหนึ่งเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับฝูงหมาป่าที่ถูกพลังเงามืดครอบงำ เฟนิกซ์ก็ใช้ความเร็วของมันบินวนล่อหลอกรอบฝูงหมาป่า ทำให้พวกมันเสียสมาธิ และเปิดโอกาสให้ไรอัน ลีอา และเอลเลียตสามารถโจมตีและผ่านพ้นอันตรายไปได้

ความสามารถและความจงรักภักดีของเฟนิกซ์ทำให้มันกลายเป็นสมาชิกที่ขาดไม่ได้ของกลุ่ม ทุกคนต่างรู้สึกขอบคุณที่มีมันคอยสนับสนุนและช่วยเหลือในการเดินทางครั้งนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status