بيت / แฟนตาซี / The Light and Shadow : เงาทมิฬ / บทที่ 4 สายสัมพันธ์ที่รัดรึง

مشاركة

บทที่ 4 สายสัมพันธ์ที่รัดรึง

مؤلف: RainyStarSea
last update آخر تحديث: 2024-11-21 19:29:26

ระหว่างการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย ไรอัน ลีอา เอลเลียต และอาเรียน่าได้พัฒนาความสัมพันธ์และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ในหมู่พวกเขา ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุดกลับเกิดขึ้นระหว่างไรอันและลีอา ทุกครั้งที่พวกเขาร่วมเผชิญกับอุปสรรค ความใกล้ชิดและความเข้าใจในกันและกันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

เช้าวันหนึ่ง เมื่อพวกเขาตั้งแคมป์ใกล้ลำธารเล็กๆ ที่น้ำใสสะอาดสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกาย ลีอากำลังนั่งอยู่ริมลำธารพลางล้างหน้าเบาๆ ส่วนอาเรียน่า ลงไปแหวกว่ายน้ำเล่นอย่างสบายใจ

ไรอันเดินออกไปนั่งเงียบๆเพียงลำพัง ปล่อยให้สองสาวใช้เวลาทำธุระส่วนตัว

มือของเขาสัมผัสที่ด้ามดาบอย่างเงียบๆ ขณะที่สายลมพัดเบาๆ ผ่านผิวหน้าของเขา ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆครึ้มดูเหมือนจะสะท้อนความรู้สึกในใจของเขาเอง

ภาพความทรงจำจากอดีตค่อยๆ ผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา ราวกับว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขานึกถึงลูเซียส เพื่อนรักที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด พวกเขาไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนร่วมรบ แต่เป็นพี่น้องในสนามรบที่มีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเกินกว่าคำพูดจะอธิบายได้

ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ไรอันจำได้ว่าเขากับลูเซียสพบกันครั้งแรกที่ค่ายฝึกซ้อม ทั้งคู่ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความฝันและความมุ่งมั่น แม้จะมีความแตกต่างทางพื้นเพและบุคลิกภาพ แต่พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างรวดเร็ว ความผูกพันระหว่างพวกเขาเริ่มจากการฝึกซ้อมต่อสู้ด้วยกัน ลูเซียสเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการใช้ดาบ ในขณะที่ไรอันมีความเฉลียวฉลาดและสามารถวางกลยุทธ์ได้เป็นเลิศ พวกเขามักจะใช้เวลาฝึกซ้อมกันในยามเช้าและยามเย็น ทั้งสองผลัดกันเป็นคู่ต่อสู้และคู่ซ้อม เรียนรู้จากกันและกันเสมอ เมื่อใครคนหนึ่งล้มลง อีกคนก็จะช่วยพยุงขึ้นมาเสมอ ไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายความรู้สึกของพวกเขาได้ดีไปกว่าความไว้วางใจที่ลึกซึ้งนั้น

ในสนามรบที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงดาบกระทบกัน พวกเขายืนเคียงข้างกันเสมอ ลูเซียสเป็นคนที่ไรอันเชื่อมั่นว่าจะปกป้องหลังของเขา และในทางกลับกัน ลูเซียสก็รู้ว่าไรอันจะไม่มีวันทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง พวกเขาต่อสู้ด้วยกันในหลายศึก ทั้งสองผ่านความเป็นและความตายมาด้วยกันหลายครั้ง และหลายครั้งที่ไรอันรู้สึกถึงความกลัวและความหวาดหวั่น แต่เมื่อเห็นลูเซียสยืนหยัดอยู่เคียงข้าง เขาก็รู้สึกเข้มแข็งขึ้น

ไรอันจำได้ถึงคืนหนึ่งที่พวกเขานั่งรอบกองไฟ หลังจากที่เพิ่งเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของข้าศึกที่รุนแรงที่สุด ลูเซียสยิ้มให้เขาและกล่าวว่า “เจ้ารู้ไหม ไรอัน... ไม่ว่าศึกไหน ข้าก็มั่นใจว่าจะรอดมาได้ เพราะข้ามีเจ้าอยู่เคียงข้าง” คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในใจของไรอัน เขาไม่เคยคิดว่ามันจะกลายเป็นความทรงจำที่ปวดร้าวในเวลาต่อมา

ความทรงจำอีกหลายเหตุการณ์ไหลกลับเข้ามาในใจของไรอัน เขาจำได้ถึงวันที่พวกเขาช่วยกันต้านทานข้าศึกจนถึงที่สุด วันที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นตายอย่างแท้จริง ข้าศึกที่มาจากทุกทิศทุกทางเหมือนคลื่นทะเลที่ไม่มีวันหยุดพัก กองทัพของพวกเขาถูกโจมตีอย่างหนักจนแทบไม่เหลือแรงที่จะสู้ต่อ แต่ไรอันและลูเซียสไม่เคยยอมแพ้ แม้จะบาดเจ็บและเหนื่อยล้าเกินบรรยาย ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกัน สู้จนกระทั่งไม่มีแรงยืน เมื่อดาบที่ไรอันถืออยู่เริ่มหนักเหมือนแทบจะยกไม่ไหว แขนสองข้างที่จับด้ามดาบนั้นสั่นไหว ลูเซียสก็เข้ามาประคองและกระตุ้นให้เขาอย่าถอยกลับ

"อย่ายอมแพ้ ไรอัน ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าล้มที่นี่" ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอน แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและเสียงดาบกระทบกัน แต่คำพูดของลูเซียสก็เหมือนเป็นเแรงผลักดันที่คอยปลุกให้ไรอันลุกขึ้นสู้ต่อไป พวกเขาสู้ไปด้วยกัน ล้มลงและลุกขึ้นสู้ใหม่ ดาบฟาดฟันและลูกศรพุ่งเข้าใส่เหมือนพายุ แต่ไรอันและลูเซียสยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง จนกระทั่งพวกเขาต้านทานข้าศึกได้ในที่สุด ข้าศึกที่ดูเหมือนไม่มีวันหมดเริ่มถอยกลับไป ทิ้งร่างที่ไร้ชีวิตและเสียงหอบหายใจหนักๆ ไว้ในสนามรบที่เต็มไปด้วยเลือดและเหงื่อ

เมื่อการต่อสู้จบลง ทั้งคู่ต่างนั่งลงกับพื้นดินอย่างอ่อนล้า พวกเขามองไปรอบๆ เห็นเพื่อนร่วมรบที่ยังยืนอยู่และผู้ที่ล้มลงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกแล้ว ทั้งไรอันและลูเซียสต่างรู้สึกถึงความเจ็บปวดในร่างกายและจิตใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่พวกเขายังอยู่เคียงข้างกัน แม้จะผ่านความยากลำบากและอันตรายมากเพียงใดก็ตาม วันนั้นเป็นวันที่พวกเขาสาบานว่าจะปกป้องกันและกันจนวันตาย ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้ ไรอันจำได้ถึงคำสาบานนั้น ลูเซียสยื่นมือออกไปและจับมือไรอันแน่น ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความเชื่อมั่น

“ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ ไรอัน ข้าสาบาน” คำพูดนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูด แต่มันเป็นคำมั่นสัญญาที่มาจากใจ และไรอันก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาจับมือของลูเซียสตอบและยิ้มให้ “ข้าก็สาบานว่าจะปกป้องเจ้า ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

เสียงหัวเราะของพวกเขาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของสนามรบ มันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ ความสุขที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ และความภาคภูมิใจที่พวกเขาได้ปกป้องสิ่งที่พวกเขารักไว้ได้ พวกเขาแบ่งปันช่วงเวลาแห่งชัยชนะนั้นด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและมีค่า ทุกครั้งที่พวกเขาผ่านความเป็นและความตายมาด้วยกัน มิตรภาพของพวกเขาก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ

ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเขาได้พักผ่อนหลังการต่อสู้ เสียงหัวเราะและคำพูดล้อเลียนกันทำให้พวกเขารู้สึกถึงชีวิตชีวาและความหวังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แม้ในยามที่โลกดูเหมือนจะโหดร้ายที่สุด แต่ตราบใดที่พวกเขายังมีกันและกัน พวกเขาก็ยังคงเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้

แต่มิตรภาพนั้นกลับถูกทำลายลงอย่างช้าๆ เมื่อความมืดเริ่มกลืนกินลูเซียส ความเปลี่ยนแปลงที่ไรอันไม่อาจเข้าใจและไม่อาจยอมรับได้ ในวันที่ลูเซียสเลือกทางเดินที่ต่างออกไป ไรอันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้ มันเหมือนกับการสูญเสียส่วนหนึ่งของตัวเองไป

“ทำไม... ทำไมเจ้าต้องทิ้งทุกอย่างไปแบบนี้” ไรอันพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ขณะที่ความทรงจำอันแสนหวานกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืม

ไรอันถอนหายใจและเงยหน้ามองท้องฟ้า แม้ว่าลูเซียสจะเปลี่ยนไป แต่ความทรงจำที่พวกเขาเคยมีร่วมกันยังคงเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวต่อไป ในหัวใจของเขายังมีความหวังว่า... สักวันหนึ่งเขาจะสามารถดึงเพื่อนรักกลับมาจากความมืดได้ แม้ว่าจะต้องผ่านอุปสรรคมากมายเพียงใดก็ตาม

“ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”

เสียงใสของลีอาดึงไรอันออกจากภวังค์ เขามองเธอที่กำลังหันหน้ามาทางเขา ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอเปล่งประกายด้วยความสงสัยและความอ่อนโยนไรอันยิ้มออกมาเล็กน้อย เขามองดูเธอด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่อาจเข้าใจได้ดีนัก หัวใจของเขาเต้นรัวทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของเธอ

“ข้าแค่คิดว่า… ข้ารู้สึกโชคดีที่มีเจ้าร่วมทาง ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ข้ารู้สึกเชื่อใจได้มากเท่านี้”

ลีอายิ้ม “ข้าเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน การเดินทางครั้งนี้คงจะหนักหนากว่านี้ถ้าไม่มีท่านอยู่เคียงข้าง ข้ารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ท่านอยู่ใกล้”

คำพูดของเธอทำให้หัวใจของไรอันอบอุ่นขึ้น แต่ก็มีบางสิ่งในใจของเขาที่ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจ

“แต่ข้าก็อดคิดไม่ได้ว่า…ข้าอาจจะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ ข้าเคยล้มเหลวมาก่อน และข้ากลัวว่าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดและผิดหวัง”

ลีอามองหน้าเขาอย่างจริงจัง

“ท่านไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทุกสิ่งไว้คนเดียว ไรอัน ข้าเองก็แข็งแกร่งและพร้อมที่จะต่อสู้เคียงข้างท่าน เราต่างต้องพึ่งพากันและกัน การต่อสู้นี้ไม่ใช่เรื่องของท่านเพียงคนเดียว”

ไรอันรับรู้ถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของเธอ เขารู้สึกว่าลีอาไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงที่เขาต้องปกป้อง แต่เธอคือพันธมิตรที่เขาไว้ใจได้และเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในภารกิจของเขา

“ข้าแค่… ไม่อยากให้เจ้าต้องเสี่ยงอันตรายเพราะข้า” ไรอันพูดออกมาเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่แท้จริง “หยุด! ฟังข้าก่อน” ไรอันรีบพูดต่อ เมื่อเห็นลีอากำลังอ้าปากเตรียมพูด“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถ แต่ข้าก็ไม่อาจทนได้ถ้าเจ้าต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะการต่อสู้ที่ข้าเป็นต้นเหตุ”

ลีอาหันกลับมามองไรอันตรงๆ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเข้าใจ

“ไรอัน ข้าเลือกที่จะเดินทางไปกับท่านเพราะข้าเชื่อในสิ่งที่เรากำลังทำ ข้าเลือกที่จะเสี่ยงเพราะข้าเชื่อในท่าน ข้าอยากให้ท่านเชื่อในตัวเองและเชื่อในข้าเช่นกัน”

คำพูดของลีอาทำให้ไรอันรู้สึกถึงพลังใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในใจเขา ความกลัวที่เขามีอยู่เริ่มจางหายไป และแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาต้องทำ เขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน

“ข้าจะทำมัน ข้าจะต่อสู้เพื่อปกป้องเจ้าและทุกคนที่ข้ารัก แต่ข้าก็จะเชื่อในเจ้าและเชื่อว่าพวกเราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

ลีอายิ้มตอบและยื่นมือไปจับมือไรอัน

“เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ว่าอุปสรรคจะเป็นเช่นไร”

ทั้งสองคนสัมผัสถึงความอบอุ่นและความมั่นคงที่ส่งผ่านกันฝ่ามือและเรียวนิ้ว

ในขณะนั้นสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาได้พัฒนาขึ้นอย่างลึกซึ้ง พวกเขาไม่เพียงแค่เป็นเพื่อนร่วมทาง แต่เป็นคนสำคัญที่พึ่งพาและเชื่อมั่นในกันและกัน

ขณะที่พวกเขายืนขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางต่อ เอลเลียตและอาเรียน่าที่กำลังเก็บของอยู่ใกล้ๆ ก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศระหว่างไรอันและลีอา เอลเลียตมองสบตากับอาเรียน่า ทั้งสองพากันหัวเราะคิกคักก่อนที่เอลเลียตจะพูดขึ้นว่า

“พวกเราไปกันต่อเถอะ ข้ามีความรู้สึกว่าทางข้างหน้าอาจจะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา”

เฟนิกซ์ เหยี่ยววายุคู่ใจของเอลเลียต บินวนเหนือพวกเขา ส่งเสียงร้องเบาๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนให้พวกเขาระมัดระวัง เส้นทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย แต่ด้วยสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งได้ด้วยกัน

ในขณะที่พวกเขาเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ไรอันมองไปที่ลีอาด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เขารู้ว่าเขาไม่ได้เดินทางคนเดียวอีกต่อไป และไม่ว่าอุปสรรคจะเป็นอย่างไร เขาจะไม่ยอมให้ความกลัวมาขวางกั้นความมุ่งมั่นและความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status