หน้าหลัก / แฟนตาซี / The Light and Shadow : เงาทมิฬ / บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่

แชร์

บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-20 14:28:09

หลังจากการเดินทางผ่านป่าต้องห้าม ไรอัน ลีอา และอาเรียน่าก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาลึก หมู่บ้านนี้เงียบสงบ เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และบรรยากาศที่ดูเหมือนจะปลอดภัยจากอำนาจของเงามืดที่ครอบงำป่ารอบนอก พวกเขารู้สึกถึงความอบอุ่นและเป็นมิตรของชาวบ้านที่ต่างออกมาต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม

"พวกท่านเดินทางมาไกล คงเหนื่อยล้ากันมาก ข้าขอต้อนรับพวกท่านเข้าสู่หมู่บ้านของเรา" ชายชราผู้หนึ่งกล่าวต้อนรับ

เขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจากกาลเวลา แต่สายตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยปัญญาและความเข้าใจ

"ข้าคือผู้เฒ่าปราชญ์แห่งหมู่บ้านนี้ เชิญพวกท่านเข้ามาพักผ่อนในบ้านของข้าเถิด"

ทั้งสามคนรับคำเชิญอย่างยินดี ผู้เฒ่าปราชญ์พาพวกเขาเข้าไปในบ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือเก่าๆ และวัตถุโบราณ ภายในบ้านมีเตาผิงที่ให้ความอบอุ่นและกลิ่นหอมของสมุนไพรที่ลอยคลุ้งในอากาศ

ลีอาเดินเข้าไปดูที่ตู้หนังสือทำจากไม้ เธอสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ปกหนังสีน้ำตาล ตรงสันปกเขียนไว้ว่า 'อาณาจักรแอสทารา'

“ท่านผู้เฒ่า ข้าขอดูเล่มนี้ได้ไหมคะ”

ผู้เฒ่าหันมาตามเสียงเรียก เขามองตามนิ้วมือลีอาที่ชี้ไปยังหนังสือหนาหนักเล่มหนึ่งในตู้ เมื่อเห็นว่าเป็นหนังสืออะไร ชายชราก็ยิ้มอย่างอบอุ่น และเอากุญแจดอกเล็กมาไขเปิดตู้ หยิบหนังสือเล่มนั้นส่งให้

ลีอารับหนังสือมาพร้อมรอยยิ้มสดใส

“ขอบคุณค่ะ”

ลีอาหาที่นั่งตรงโต๊ะไม้เล็กๆ ไม่ไกลจากเตาผิง และนั่งเปิดหนังสือออกอ่าน

‘อาณาจักรแอสทารา (Astara): อาณาจักรแอสทาราเป็นดินแดนที่งดงามและเปี่ยมด้วยเวทมนตร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและป่าทึบ ภูมิประเทศของแอสทารามีความหลากหลาย ตั้งแต่ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ไปจนถึงแม่น้ำที่ใสสะอาดและทะเลสาบที่สงบนิ่ง

ตรงกลางของอาณาจักรคือเมืองหลวงที่มีชื่อว่า "เอลดูรา (Eldura)" เมืองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรและตั้งอยู่บนที่ราบสูง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบด้านได้อย่างชัดเจนเอลดูราเป็นศูนย์กลางของอำนาจและความรู้ในแอสทารา ที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทหลวงที่สูงตระหง่าน ซึ่งเป็นที่พำนักของราชวงศ์และที่ประชุมของสภาผู้นำ ที่ประกอบด้วยขุนนางและผู้มีพลังเวทมนตร์จากทุกภูมิภาคของอาณาจักร พวกเขามีหน้าที่ปกป้องและดูแลความสงบสุขของแอสทารา รวมถึงควบคุมการใช้พลังเวทมนตร์ในอาณาจักร

พลังธาตุในอาณาจักรแอสทารา: ชาวแอสทารามีความสามารถพิเศษในการควบคุมพลังธาตุที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและจักรวาล โดยพลังธาตุเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ธาตุหลัก ได้แก่ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุลม และมีธาตุย่อยอื่นๆ ที่สืบทอดในสายเลือดพิเศษเท่านั้น ได้แก่ ธาตุแสง และ ธาตุเงามืด

ธาตุน้ำ (Water Element): ผู้ที่มีพลังธาตุน้ำสามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงน้ำในทุกรูปแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำในแม่น้ำ ทะเล หรือแม้แต่น้ำในอากาศ พวกเขาสามารถสร้างคลื่นน้ำหรือกำแพงน้ำเพื่อป้องกันตัวเอง หรือใช้พลังน้ำเพื่อรักษาบาดแผล นอกจากนี้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดยังสามารถเรียกฝนหรือควบคุมกระแสน้ำในมหาสมุทรได้

ธาตุไฟ (Fire Element): ผู้ที่ครอบครองพลังธาตุไฟสามารถควบคุมเปลวไฟและความร้อน พวกเขาสามารถสร้างเปลวไฟเพื่อโจมตีศัตรูหรือใช้ไฟในการปกป้องตนเอง ผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งสามารถควบคุมไฟในรูปแบบต่างๆ เช่นการสร้างกำแพงเพลิงหรือการสร้างระเบิดเพลิง

ธาตุดิน (Earth Element): ผู้ที่มีพลังธาตุดินสามารถควบคุมแผ่นดิน หิน และพืชพันธุ์ต่างๆ พวกเขาสามารถยกพื้นดินขึ้นมาสร้างกำแพงหรือสร้างอาวุธจากหินดิน หรือแม้กระทั่งใช้พลังในการทำให้พืชพันธุ์เติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างป่าที่หนาทึบเพื่อเป็นเกราะกำบัง

ธาตุลม (Wind Element):ผู้ที่มีพลังธาตุลมสามารถควบคุมกระแสลมและอากาศ พวกเขาสามารถสร้างพายุลมหรือใช้ลมในการเคลื่อนย้ายวัตถุหรือแม้กระทั่งใช้พลังลมในการบินขึ้นฟ้า ผู้ใช้ที่มีความชำนาญสูงสามารถสร้างพายุที่รุนแรงหรือทำให้ตนเองและผู้อื่นล่องหนด้วยการพรางตัวในสายลม

ธาตุแสง (Light Element): ธาตุแสงเป็นพลังที่หาได้ยากในอาณาจักร มีผู้ครอบครองเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ผู้ที่มีพลังนี้สามารถควบคุมแสงและใช้มันในการรักษา ปัดเป่าความมืด หรือสร้างแสงสว่างที่แรงกล้าพอที่จะทำลายศัตรู นอกจากนี้พลังแสงยังสามารถเสริมสร้างพลังของผู้อื่นและปกป้องพวกเขาจากการโจมตีทางเวทมนตร์

ธาตุความมืด (Dark Element): ธาตุความมืดเป็นพลังที่ทรงอำนาจและลึกลับ ผู้ที่มีพลังนี้สามารถควบคุมเงาและความมืดได้ พวกเขาสามารถสร้างภาพลวงตา ทำให้ศัตรูหลงทางในความมืดมิด หรือแม้กระทั่งทำให้ตนเองหายตัวไปในเงามืด ผู้ที่มีพลังนี้ส่วนใหญ่มักจะถูกดึงดูดเข้าสู่ด้านมืด แต่ก็มีบางคนที่ใช้พลังนี้เพื่อปกป้องผู้อื่น

วัฒนธรรมและความเชื่อ: ชาวแอสทาราเชื่อว่าพลังธาตุเหล่านี้คือพรจากเทพเจ้าแห่งธรรมชาติและจักรวาล ผู้ที่มีพลังเวทมนตร์จะได้รับการฝึกฝนในสถาบันเวทมนตร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เพื่อเรียนรู้การใช้พลังของตนอย่างถูกต้องและยุติธรรม พวกเขาเชื่อในความสมดุลระหว่างแสงและเงามืด ความดีและความชั่ว และการใช้พลังเวทมนตร์เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน’

อ่านมาถึงตรงนี้ ลีอาเงยหน้าขึ้น เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร

หลังจากที่พวกเขาได้พักผ่อนและรับประทานอาหารเพื่อฟื้นฟูพลัง ผู้เฒ่าปราชญ์ก็เริ่มพูดถึงเรื่องราวที่เขารู้

"ข้ารู้ว่าพวกท่านไม่ได้เดินทางมาเพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่มีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านั้น โดยเฉพาะเจ้า... ไรอัน อีวานส์"

ไรอันชะงักเมื่อได้ยินชื่อของตนจากปากของผู้เฒ่า "ท่านรู้จักข้า?"

"ข้ารู้จักเจ้าและตระกูลของเจ้าดี" ผู้เฒ่าปราชญ์พยักหน้าเบาๆ

"ข้ารู้ว่าทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่ หลังจากที่เจ้าได้ละทิ้งหน้าที่ของเจ้าไปเมื่อหลายปีก่อน"

ไรอันรู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น "ข้าต้องการรู้ความจริง ท่านบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูเซียส และทำไมเขาถึงหันไปสู่ด้านมืด?"

ผู้เฒ่าปราชญ์ถอนหายใจยาวก่อนจะเริ่มเล่า "ตระกูลของเจ้ามีหน้าที่ปกป้องอาณาจักรและคุ้มครองสมดุลของพลังที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ พลังแห่งน้ำที่เจ้าครอบครองนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังที่ตระกูลของเจ้าสืบทอดมาแต่โบราณกาล แต่ก็มีอีกพลังหนึ่งที่ถูกปกปิดไว้... พลังแห่งเงามืด"

"พลังแห่งเงามืด?" ลีอาถามด้วยความสงสัย

"นั่นคือพลังที่ลูเซียสครอบครองใช่ไหมคะ?"

ผู้เฒ่าปราชญ์พยักหน้า

"ใช่แล้ว ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเจ้ามาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาถูกปฏิเสธและผลักไสออกจากครอบครัว ทำให้เขาเกิดความแค้นและความโกรธที่ฝังลึกในใจเขา"

ไรอันตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลข้า? ทำไมข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อน?"

"เพราะมันเป็นความลับที่ถูกปกปิดไว้อย่างยาวนาน" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status