Home / โรแมนติก / Unchosen เงารักกลางลวงใจ / บทที่ 4 ในวันที่ไม่กล้ารัก...แต่ไม่อาจลืม

Share

บทที่ 4 ในวันที่ไม่กล้ารัก...แต่ไม่อาจลืม

Author: MayaHurt.56
last update Last Updated: 2025-05-06 23:41:10

หลังจากวันนั้น...

แม้มีนายังคงต้องเข้าเรียนตามปกติทุกวันเหมือนเดิม ทว่าเธอกลับไม่เคยย่างกรายผ่านใต้ตึกนั้นอีกเลย

เธอเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน เปลี่ยนเส้นทางเดิน ยอมอ้อมไกลกว่าเดิม เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องสบตากับใครบางคน แม้แต่เวลาพัก เธอยังหลีกเลี่ยงคาเฟ่หน้าตึกซึ่งเคยเป็นมุมโปรดในทุก ๆ วัน

ทุกสิ่งที่เธอทำ...เป็นเพียงความพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายคนหนึ่ง

ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แต่เพราะเธอไม่อยากรู้สึกอะไรอีก เธอไม่ต้องการให้หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นหน้าเขา ไม่อยากเผลอยิ้มเพียงเพราะความทรงจำ ไม่อยากยอมรับว่าบางอย่าง...ยังค้างคาอยู่ในใจ

ยิ่งหลีกเลี่ยง...ยิ่งคิดถึง

ยิ่งไม่อยากเจอ...ใบหน้าเขายิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีในหัว

และทั้งหมดนั้น ทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะแบกรับไหว

เหนื่อยกับการแสร้งว่าไม่เคยรู้จักกัน เหนื่อยกับการทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในความจริง เขายังคงอยู่เต็มหัวใจของเธอ ไม่เคยเลือนหายไปไหนเลย

สิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนได้...คือหัวใจตัวเอง ที่ยังคงสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขา

ด้านดนุเองก็นิ่งเงียบหลังจากวันนั้น ไม่ติดต่อ ไม่เข้าหา ไม่แม้แต่จะพูดอะไรเพิ่มเติม...ราวกับเขาเข้าใจแล้ว ว่าในท้ายที่สุด เธอไม่ต้องการใคร

ทว่า สิ่งที่ทำให้มีนาหวั่นไหวที่สุด...กลับเป็น “การยอมถอย” ของเขา

“ฉันคิดว่าเธออยากมีพื้นที่ส่วนตัวในการคิดสักพัก ฉันเลยหลบหน้า ไม่ให้เธอต้องเห็นฉัน”

เสียงจากคลิปในไลน์ที่เขาส่งมาในวันหนึ่ง

“แต่ไม่ใช่เพราะฉันหมดความรู้สึก...แต่เพราะฉันไม่อยากเป็นคนที่ทำให้เธอหายใจไม่ออก แบบที่คนอื่นเคยทำ”

มีนาฟังจบ แล้วลบคลิปนั้นออกทันทีโดยไม่ฟังซ้ำ

เพราะลึก ๆ แล้ว...เธอกลัวว่า หากได้ยินอีกครั้ง หัวใจของเธออาจจะอ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็น

…….

คาบเรียนกลุ่มวิชาหนึ่งที่มีนาไม่เคยเจอเขามาก่อน...แต่วันนี้ เธอก้าวเข้าไปในห้อง แล้วพบว่าดนุนั่งอยู่ตรงแถวหน้า กำลังเปิดโน้ตบุ๊ก

เธอหันหลังจะออกจากห้องในทันที

“มีนา”

เสียงของเขาดังขึ้น...ราวกับล่วงรู้ว่าเธอกำลังหนี

เธอหยุดเดิน ไม่หันกลับ

“ไปนั่งตรงนั้นสิ ที่ว่างข้างฉัน”

น้ำเสียงของเขาไม่ใช่คำสั่ง ไม่ได้อ้อนวอน แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ...จนเธอใจสั่น

“ที่นั่งข้างพี่...ว่างแค่ตอนเรียนหรือเปล่า?” เธอเอ่ยขณะยังไม่หันกลับ “หรือคิดว่าแค่ได้นั่งคุยกันในห้องเรียนแล้วจะช่วยลืมเรื่องคืนนั้นได้ง่าย ๆ?”

“ฉันไม่ได้อยากลืมอะไรทั้งนั้น แต่ฉันแค่อยากเริ่มต้นใหม่”

“เริ่มใหม่กับคนที่เคยซื้อพี่ด้วยเงินน่ะเหรอ?”

น้ำเสียงของเธอปนขื่นขม เย้ยหยันตนเอง “ฉันไม่อยากให้ใครจำฉันจากคืนนั้น และพี่ก็ควรจะลืมมันซะ”

เงียบ...

แต่เขากลับตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และนุ่มนวลจนเธอไม่สามารถพูดอะไรตอบกลับได้

“ฉันไม่เคยจำเธอจากคืนนั้นเลย มีนา... ฉันจำเธอจากแววตา จากน้ำเสียง และจากความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญอยู่ต่างหาก”

“พอได้แล้ว...” เธอยกมือห้ามเขา ไม่อยากให้เขาพูดต่อ

“ฉันชอบเธอ”

เธอหันขวับ ดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นโครมครามอย่างไม่ทันตั้งตัว ทว่าอีกฝ่ายลุกขึ้น เดินเข้ามาใกล้ในห้องที่เริ่มมีนักศึกษาเข้ามานั่งประปราย

“ฉันไม่ได้พูดเพราะสงสาร ไม่ใช่เพราะติดค้างอะไร แต่เพราะฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ... และมันไม่เกี่ยวอะไรกับคืนนั้นด้วย”

เธอสบตาเขา...แล้วก้มหน้าลงพลางเม้มปากแน่น

“อย่ามาคาดหวังกับฉันเลย พี่จะเสียเวลาเปล่าๆ”

“ไม่เลย ขอแค่เธออย่าหนีฉันอีก ไม่ต้องชอบฉันก็ได้... แค่ขอให้ฉันได้อยู่ตรงนี้ อยู่ในฐานะใครก็ได้ที่เธอไม่ผลักไสออกจากชีวิต คนที่ไม่ว่าเธอจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม ขอให้ฉันได้เป็นคนแรกที่เธอนึกถึง”

เธอไม่ตอบ เพียงแค่ลุกเดินไปนั่งแถวหลังสุด

แต่ครั้งนี้...เธอไม่ได้เดินหนี

บางที...การไม่หนี อาจเป็นคำตอบแรกของคนที่เริ่มจะไว้ใจใครอีกครั้ง

มีนาไม่รู้ว่าทำไมถึงยังนั่งอยู่ในห้องนั้น ทั้งที่ในอดีต แค่เห็นหน้าเขา...เธอก็แทบอยากหายไปจากโลกใบนี้

เสียงหัวใจของเธอดังชัดเจนเสียยิ่งกว่าเสียงพูดคุยของเพื่อนร่วมคลาส และไม่มีเสียงใด...กลบมันลงได้

เธอเหลือบมองไปด้านหน้า ดนุยังนั่งอยู่ตรงจุดเดิม มือจด บางครั้งขมวดคิ้วเวลาฟังไม่เข้าใจ เขาดูไม่ต่างจากนักศึกษาคนอื่นเลย...

แต่สำหรับเธอ เขาคือทั้ง “เงา” และ “ความจริง” ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต

“พี่รู้ไหม...” เสียงของเธอแผ่วเบา ราวกับไม่ได้ต้องการคำตอบ

“ฉันเคยคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันเชื่อใจใครได้อีกเลย”

หลังเลิกคลาส เธอเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังเขา ขณะที่อีกฝ่ายกำลังเก็บของใส่กระเป๋า ดนุชะงัก ไม่หันกลับมา แต่ยืนนิ่ง...รับฟัง

“ฉันไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรเลย...”

เธอพูดต่อ เสียงพร่าเล็กน้อย ราวกับกำลังสารภาพกับความว่างเปล่าตรงหน้า

“แต่ฉันใช้เวลาสองปี พยายามทำเหมือนว่าทุกอย่าง...ไม่เคยเกิดขึ้นเลย”

“คืออะไรเหรอ...” เขาถามเบา ๆ เสียงต่ำจนแทบไม่ได้ยิน

“ความรู้สึกนั่นแหละ...” มีนาหัวเราะแบบไม่มีเสียง “มันไม่ควรอยู่กับฉันตั้งแต่แรก และควรจะตายไปพร้อมกันคืนนั้นแล้วด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ในสองปีที่แล้ว”

ดนุหันมาช้า ๆ ไม่พูด ไม่แตะต้อง แต่ยืนนิ่ง พร้อมรับฟังทุกความจริงที่เธอกำลังโยนใส่เขา

“แต่พี่กลับเป็นคนที่ทำให้สิ่งที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด...เกิดขึ้นอีก”

“พี่พูดว่าชอบฉัน ทั้งที่รู้ว่าฉันไม่พร้อม แล้วพี่คิดเหรอว่าความรู้สึกแบบนั้นจะไม่ทำร้ายฉันอีก?”

“ฉันคิดว่า...” เขากลืนน้ำลาย พูดช้า ๆ ด้วยเสียงที่แผ่วลง “มันอาจทำร้ายเธอ...แต่ฉันสัญญา ว่าจะไม่ปล่อยให้เธอเผชิญมันคนเดียวอีก”

มีนานิ่ง เงียบสงัดกว่าทุกครั้ง เธอแค่รู้สึก...เหนื่อย

เหนื่อยกับการผลักทุกคนออกไปจากชีวิต เหนื่อยกับการวิ่งหนี เหนื่อย...แม้แต่กับหัวใจของตัวเอง

“บางที...” เธอกล่าวเสียงเบา “ฉันอาจไม่ได้กลัวที่จะรักพี่”

เขายกคิ้วน้อย ๆ ด้วยความหวัง

“แต่ฉันกลัว...ว่าจะรักพี่มาก แล้วพี่ก็หายไป เหมือนที่ทุกคนเคยทำกับฉัน”

ครั้งนี้ ดนุก้าวเข้าใกล้กว่าเดิม แต่ยังคงเว้นระยะไว้...ให้เธอได้หายใจ

“ฉันไม่ใช่ทุกคน” เขากล่าวช้า ๆ “และเธอ...ไม่ต้องรีบตัดสินใจอะไรเลยก็ได้ ฉันจะอยู่ตรงนี้ อยู่ในที่ที่เธอไม่ต้องหันมาก็รู้...ว่าฉันอยู่ข้างเธอเสมอ”

มีนากำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ

เธออยากพูดว่า “ไม่ต้อง”

อยากพูดว่า “ไปเถอะ”

แต่ไม่มีคำใดหลุดออกจากปากได้เลย

เพราะความเจ็บปวดที่เธอเคยได้รับมา...กำลังค่อย ๆ ละลายลง ด้วยความอบอุ่นที่ไม่เคยมีใครมอบให้เธอมาก่อน มันอบอุ่นเสียจนเธอกลัวว่า จะขาดมันไม่ได้อีกครั้ง

และสุดท้าย...เธอก็พูดเพียงเบา ๆ ว่า

“อย่าทำให้ฉันต้องเสียใจอีกนะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 6: เธอหายไปจากโลกของเขา

    บ่ายวันศุกร์ อากาศร้อนอบอ้าวปะทะกระจกใสของห้องเรียนคณะบริหาร ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง แสงแดดเจิดจ้า ทว่าในขณะเดียวกัน หัวใจของพัทธดนย์กลับมืดมนและสับสนวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเขานั่งอยู่แถวหลังสุด ปลายนิ้วเลื่อนไปบนหน้าจอโทรศัพท์ ที่ยังคงปรากฏชื่อเดิม...มีนา ข้อความล่าสุดที่เขาส่งไปเมื่อห้าวันก่อน ยังคงแสดงสถานะ "ยังไม่อ่าน" เช่นเดิมหลังจากวันนั้น วันที่เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าคอนโดของเขา พร้อมกับเอ่ยคำที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาลว่า“ฉันชอบพี่”แต่เขากลับตอบกลับไปด้วยประโยคที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ“พี่ไม่ได้ชอบเรานะ พี่รักมีนาเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง”จากวันนั้น...มีนาก็หายไปจากวงโคจรชีวิตของเขา ไม่มีข้อความ ไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีแม้แต่การอ่านข้อความจากไลน์เหมือนที่เคยพัทธดนย์ไม่อยากเชื่อว่าเธอบล็อกเขา แต่สัญญาณที่ได้รับมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใด ๆเธอ...หายไปจากชีวิตเขาแล้ว และเขาก็ไม่เข้าใจเลย...ว่าทำไมพัทธดนย์รู้จักมีนามาตั้งแต่ยังเด็ก ครอบครัวของเขาทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวของเธอ ร้านอาหารของบ้านเขาเป็นพันธมิตรกับบริษัทจัดจำหน่ายวัตถุดิบของบ้านเธอมาเป็นเวลาหลายสิบปีแ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 5 ระยะปลอดภัยของหัวใจ

    บ่ายวันนั้น ห้องเรียนรวมขนาดกลางที่จัดไว้สำหรับคลาสกลุ่ม ถูกปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่พอดีสบาย เสียงเครื่องปรับอากาศเบา ๆ แทรกอยู่ในบรรยากาศคล้ายกล่อมใจ ก่อนจะผสานกับเสียงปลายนิ้วที่พิมพ์ลงบนแป้นโน้ตบุ๊กของนิสิตคนแล้วคนเล่า คลอไปกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันจัดการงานกลุ่มซึ่งเด้งขึ้นบนจอ LED กลางห้อง ทั้งหมดนั้นสร้างความรู้สึกสงบแต่แฝงไว้ด้วยความวุ่นวายของวันที่ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติมีนาเลือกนั่งชิดริมสุดของห้อง ติดกับผนังโปร่งแสงที่เปิดมุมมองสู่สวนเล็ก ๆ ระหว่างคณะ ข้างตัวเธอวางไอแพดไว้หนึ่งเครื่อง พร้อมชีทเรียนที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากระบบกลางของคณะไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ดนุก็เดินเข้ามาในห้องเขาเห็นเธอตั้งแต่ก่อนก้าวผ่านประตูสแกนเข้าเรียน แต่ไม่ได้เดินตรงเข้าไปหาตามเคย หากเลือกนั่งอยู่แถวถัดหลังเธอหนึ่งแถวพอดี ทิ้งระยะไว้อย่างตั้งใจ ราวกับจะบอกเธอผ่านความเงียบว่า...เขาจะไม่ก้าวล้ำไม่มีคำทัก ไม่มีเสียงเรียก มีเพียงความรับรู้ที่วางตัวนิ่งอยู่ในบรรยากาศระหว่างกัน เป็นช่องว่างที่เขาเว้นไว้ เพื่อให้เธอได้หายใจอย่างเป็นอิสระมีนาเหลือบมองเขาผ่านเงาสะท้อนจากจอแท็บเล็ต ก่อนจะถอนหายใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 4 ในวันที่ไม่กล้ารัก...แต่ไม่อาจลืม

    หลังจากวันนั้น...แม้มีนายังคงต้องเข้าเรียนตามปกติทุกวันเหมือนเดิม ทว่าเธอกลับไม่เคยย่างกรายผ่านใต้ตึกนั้นอีกเลยเธอเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน เปลี่ยนเส้นทางเดิน ยอมอ้อมไกลกว่าเดิม เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องสบตากับใครบางคน แม้แต่เวลาพัก เธอยังหลีกเลี่ยงคาเฟ่หน้าตึกซึ่งเคยเป็นมุมโปรดในทุก ๆ วันทุกสิ่งที่เธอทำ...เป็นเพียงความพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แต่เพราะเธอไม่อยากรู้สึกอะไรอีก เธอไม่ต้องการให้หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นหน้าเขา ไม่อยากเผลอยิ้มเพียงเพราะความทรงจำ ไม่อยากยอมรับว่าบางอย่าง...ยังค้างคาอยู่ในใจยิ่งหลีกเลี่ยง...ยิ่งคิดถึงยิ่งไม่อยากเจอ...ใบหน้าเขายิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีในหัวและทั้งหมดนั้น ทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะแบกรับไหวเหนื่อยกับการแสร้งว่าไม่เคยรู้จักกัน เหนื่อยกับการทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในความจริง เขายังคงอยู่เต็มหัวใจของเธอ ไม่เคยเลือนหายไปไหนเลยสิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนได้...คือหัวใจตัวเอง ที่ยังคงสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขาด้านดนุเองก็นิ่งเงียบหลังจากวันนั้น ไม่ติดต่อ ไม่เข้าหา ไม่แม้แต่จะพูดอะไรเพิ่มเติม...ราวกับเขาเข้า

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 3 ไม่ต้องการ

    หน้าอาคารเรียน ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งจับกลุ่มใต้ร่มไม้บังแดด บ้างก็นั่งจิบกาแฟ บ้างเปิดโน้ตบุ๊ก พูดคุยเสียงดังสลับกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาไม่หยุดบรรยากาศดูเหมือนเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับมีนามีนาเดินช้า ๆ เข้ามาในพื้นที่ที่เธอเคยคุ้น แต่ไม่เคยรู้สึกเป็นของตัวเองอีกเลยหลังจากวันนั้นเสื้อช็อปคณะตัวใหม่ที่เธอสวม ดูไม่เข้ากับบุคลิกนิ่ง ๆ ของเธอสักเท่าไหร่ ผมถูกมัดรวบไว้แบบไม่ตั้งใจ ใบหน้าเธอดูอิดโรยกว่าคนอื่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะนอนไม่พอ...แต่เพราะเธอนอนไม่หลับเลยเมื่อคืน“เจอหน้ากันอีกแล้วเหรอวะ...” เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ เมื่อสายตาเธอกวาดผ่านโต๊ะไม้ตัวยาวข้างต้นพิกุลหน้าตึก และเห็น เขา นั่งอยู่ตรงนั้นดนุในเสื้อโปโลคณะสีกรมท่าตัวเดิม ผมยุ่งนิด ๆ แบบที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ดันดูดีแบบคนไม่พยายาม เขากำลังนั่งอ่านเอกสารอะไรบางอย่าง โดยมีเด็กปีหนึ่งสองสามคนนั่งอยู่ไม่ไกล คุยกันคิกคักเหมือนชื่นชมพี่ปีสี่สุดเท่มีนารีบหันหลังกลับ พยายามเลี่ยงเหมือนคนที่เห็นผีแล้วไม่อยากถูกมองเห็น แต่สายเกินไป“มีนา” เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่มันดังก้องในใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 2 ไม่เคยลืม

    แสงแดดยามบ่ายคล้ายเจือจางลงในวันนั้น ท้องฟ้าสีเทาคลุมคล้ายฝนกำลังมาแต่ยังไม่ตก ลานกิจกรรมกลางคณะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงเรียกชื่อ เสียงแนะนำตัวปนเปกับเสียงดนตรีคลอเบา ๆ จากลำโพงด้านหลังเวทีไม้ที่ถูกตั้งขึ้นชั่วคราวมีนา ยืนอยู่ตรงขอบวงกลมกิจกรรม ในชุดเสื้อคณะสีเลือดหมูตัวเดิมจากสองปีก่อนเธอจำมันได้ดี...เธอเคยอยู่ตรงนี้...รอยยิ้ม เสียงหัวงเราะกับเกมรับน้อง โดนล้อชื่อเล่น โดนพี่ปีสามแกล้งให้บอกรักเพื่อนข้าง ๆ สารพัดกิจกรรมที่เคยทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด เป็นอีกวันที่สดใสสำหรับเธอ และได้รับมิตรภาพใหม่ๆ รวมถึงรู้จักรุ่นพี่และได้รับการยอมรับในสังคมใหม่อีกด้วยตอนนั้น เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพร้อมโอบกอดเธอไว้ตอนนั้น...เธอมีรอยยิ้มตอนนี้...เธอกลับยืนเงียบ มองทุกอย่างเหมือนคนภายนอกที่กำลังเฝ้ามองตัวเองในอดีตไม่มีใครรู้ว่า... สองปีที่เธอหายไป ไม่ใช่การย้ายมหาลัยแต่เพราะโรคซึมเศร้ารุนแรงและภาวะว่างเปล่าที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ ในช่วงเวลานั้นหัวใจของเธอแตกสลายจนกว่าจะเยียวยาให้เหมือนเดิมได้อีก ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องผ่านช่วงเวลาอันแสนโหดร้ายเพียงลำพังนั้นทรมานมากแค่ไหน มีเพียบหมอกับพยาบ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ     บทที่ 1 เงาที่ถูกซื้อมา…เพื่อแทนที่ความทรงจำแสนเจ็บปวด

    ฝนตก...อีกแล้วเหมือนในทุกคืนที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหลือใครกรุงเทพฯ ยังคงเปียกปอนไปด้วยแสงไฟสลัว น้ำฝนไหลเป็นเส้นเล็ก ๆ บนกระจกบานใหญ่ของบาร์ลับชั้นดาดฟ้า “ลิโอจิน” กลิ่นเปียกชื้นผสมกับความหรูหราเบาบางของเหล้าวิสกี้และน้ำหอมแพง ๆ คลุ้งอยู่ในอากาศมีนา นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง VIP มือของเธอกำแน่นรอบแก้วไวน์แต่ไม่ได้จิบสักหยด ริมฝีปากแตะแก้วเพียงเพื่อกลบอาการสั่นไหวของความรู้สึก แววตาของเธอไม่มองอะไรเลยนอกจากจอโทรศัพท์ที่ยังเปิดอยู่“พัทธดนย์ ควงคู่หมั้นเปิดตัวกลางงานแฟชั่นวีค”ภาพข่าวบาดตา บาดลึกยิ่งกว่ามีดเล่มไหน เพราะผู้หญิงคนนั้น...ใส่นาฬิกาเรือนเดียวกับที่มีนาเคยใช้เงินเก็บทั้งปีซื้อให้เขาเธอกดปิดหน้าจอ แล้วหันไปทางผู้จัดการบาร์ที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ“ที่นี่มีอะไร...ที่ลบความรู้สึกเจ็บปวดตอนนี้ได้ดีกว่าเหล้าไหม?” เธอถามเสียงแผ่ว เบาเสียจนแทบกลืนลงคอไม่หมดผู้จัดการหญิงยิ้มบางอย่างรู้ทัน เธอไม่พูดมาก เพียงยื่นแฟ้มหนังสือเล่มหนึ่งให้มีนาเปิดแฟ้มอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมาถึงหน้า ๆ หนึ่ง... มือของเธอก็หยุดนิ่งในรูปถ่าย ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตดำยืนพิงผนังอย่างไม่ใส่ใจ แววตาในภาพเหมือนก

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทนำ

    เวลาผ่านไปสิบปีกรุงเทพฯ ยังคงจอแจและเร่งรีบเหมือนเดิม แต่สำหรับมีนา ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้วหญิงสาวในวัยสามสิบปลาย ก้าวออกจากรถลีมูซีนสีดำหน้าศูนย์ประชุมแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เธอสวมเดรสผ้าไหมสีครีมเรียบหรู ผมถูกรวบขึ้นหลวม ๆ เผยให้เห็นแววตาที่ผ่านทั้งน้ำตาและความสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วนนี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ แต่คือ “การกลับบ้าน” ที่เธอหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิตหนังสือเล่มนั้นชื่อว่า เงารักกลางลวงใจ และในวันนี้…มันคือกระแสนิยายอันดับหนึ่งของประเทศภายในห้องประชุมหรู แสงไฟอบอุ่นสาดส่องเวทีที่จัดตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เสียงปรบมือกึกก้องดังกระทบผนังห้องเมื่อพิธีกรกล่าวชื่อของเธอ มีนาเดินขึ้นเวที ยิ้มอย่างอ่อนโยน“ขอบคุณที่ยังรอฉันนะคะ”เธอกล่าวสั้น ๆ ขณะนั่งลงบนโซฟาสีเบจตรงกลางเวที ผู้ดำเนินรายการเริ่มถามถึงแรงบันดาลใจ เนื้อหา ความตั้งใจ คำถามที่เธอเตรียมตัวมาตอบทั้งหมดจนกระทั่ง มีหญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแถวหน้า เธอสวมแว่น มีหน้าตาเรียบร้อยแต่ดวงตาคมชัด นั่นอาจเป็นนักข่าว หรืออาจเป็นเพียงผู้อ่านที่กำลังแบกรักบางอย่างไว้เหมือนกับที่มีนาเคยทำ"ขอโทษนะคะ" หญิงสาวถาม "ฉันอยาก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status