Home / โรแมนติก / Unchosen เงารักกลางลวงใจ / บทที่ 5 ระยะปลอดภัยของหัวใจ

Share

บทที่ 5 ระยะปลอดภัยของหัวใจ

Author: MayaHurt.56
last update Last Updated: 2025-05-07 20:58:56

บ่ายวันนั้น ห้องเรียนรวมขนาดกลางที่จัดไว้สำหรับคลาสกลุ่ม ถูกปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่พอดีสบาย เสียงเครื่องปรับอากาศเบา ๆ แทรกอยู่ในบรรยากาศคล้ายกล่อมใจ ก่อนจะผสานกับเสียงปลายนิ้วที่พิมพ์ลงบนแป้นโน้ตบุ๊กของนิสิตคนแล้วคนเล่า คลอไปกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันจัดการงานกลุ่มซึ่งเด้งขึ้นบนจอ LED กลางห้อง ทั้งหมดนั้นสร้างความรู้สึกสงบแต่แฝงไว้ด้วยความวุ่นวายของวันที่ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ

มีนาเลือกนั่งชิดริมสุดของห้อง ติดกับผนังโปร่งแสงที่เปิดมุมมองสู่สวนเล็ก ๆ ระหว่างคณะ ข้างตัวเธอวางไอแพดไว้หนึ่งเครื่อง พร้อมชีทเรียนที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากระบบกลางของคณะ

ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ดนุก็เดินเข้ามาในห้อง

เขาเห็นเธอตั้งแต่ก่อนก้าวผ่านประตูสแกนเข้าเรียน แต่ไม่ได้เดินตรงเข้าไปหาตามเคย หากเลือกนั่งอยู่แถวถัดหลังเธอหนึ่งแถวพอดี ทิ้งระยะไว้อย่างตั้งใจ ราวกับจะบอกเธอผ่านความเงียบว่า...เขาจะไม่ก้าวล้ำ

ไม่มีคำทัก ไม่มีเสียงเรียก มีเพียงความรับรู้ที่วางตัวนิ่งอยู่ในบรรยากาศระหว่างกัน เป็นช่องว่างที่เขาเว้นไว้ เพื่อให้เธอได้หายใจอย่างเป็นอิสระ

มีนาเหลือบมองเขาผ่านเงาสะท้อนจากจอแท็บเล็ต ก่อนจะถอนหายใจในใจอย่างแผ่วเบา

“ยังจะตามอีกเหรอ…”

...

หลังจบคลาส พวกเขาคุยกันเพียงเรื่องหัวข้อพรีเซนต์ เหมือนเพื่อนร่วมกลุ่มทั่วไป ไม่มีคำพูดเกี่ยวกับอดีต ไม่มีการเอ่ยถึงคืนฝนตก และไม่มีแม้แต่การแตะต้องความรู้สึกที่เคยเจ็บปวด

ทว่าทุกครั้งที่เธอเผลอมองไปที่เขา...สิ่งที่เห็นกลับเป็นความใส่ใจที่ไม่เคยจาง เขายังคงจำได้ดีว่าเธอไม่ชอบกาแฟร้อน ชอบชาใส่นมอัลมอนด์ และเวลาที่หงุดหงิด เธอจะชอบเปิดเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง

เขาไม่เคยพูดถึงสิ่งเหล่านั้นเลยสักครั้ง

แต่ทุกครั้งที่เธอถอนหายใจแรง...เครื่องดื่มโปรดของเธอก็จะมาปรากฏอยู่บนโต๊ะอย่างเงียบงัน พร้อมกระดาษโพสต์อิทแผ่นเล็ก ๆ ที่เขียนไว้ว่า

“วันนี้ลืมกินข้าวเช้าอีกใช่ไหม”

เขาไม่เคยเร่ง ไม่เคยจี้ ไม่เคยขอคำตอบหรือคาดคั้นจากเธอเลยสักครั้ง เขาแค่...อยู่ตรงนั้น อย่างเงียบ ๆ ในมุมของตัวเอง รอเพียงเวลาเท่านั้น

...

วันหนึ่งหลังเลิกเรียน ฝนเทลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แอปรถเรียกก็ไม่มีคันไหนว่าง ทุกคนต่างหลบฝนกันใต้หลังคาทางเดิน มีนาเองก็ยืนอยู่หน้าตึกใกล้คาเฟ่ประจำคณะ ชุดนิสิตของเธอเปียกเล็กน้อยจากการเดินฝ่าสายฝนไม่กี่ก้าว

ทันใดนั้น...ชายหนุ่มในเสื้อฮู้ดสีดำก็เดินเข้ามายืนเคียงข้าง พร้อมยื่นร่มมาให้เธอหนึ่งคัน

“อันนี้กันลมได้”

มีนาเงยหน้ามองเขา แต่ดนุกลับไม่พูดอะไรต่อ

“พี่ไม่ได้ตามฉันมาใช่ไหม?”

“เปล่า แค่มาซื้อชาเย็นร้านเดียวกัน”

เขายิ้มบาง รอยยิ้มที่เธอรู้ดีว่าคือ ยิ้มการละคร

“ฉันเดินไปส่งได้ไหม แค่ไปลานจอดรถก็พอ”

“งั้นพี่ก็เปียกสิ”

“อืม...แค่โดนฝนนิดหน่อยเอง ไม่เป็นไรหรอก”

เธอจ้องหน้าเขาสักพัก ก่อนจะถอนหายใจ แล้วยื่นมือออกไปจับร่มอีกด้าน

“งั้น...ก็อย่าเดินตามฉันเหมือนที่ทำทุกวันสิ อย่าทำตัวเป็นเงา ฉันไม่ชอบ”

...

หลังจากวันนั้น แม้จะยังไม่ได้คบกัน ยังไม่มีสถานะชัดเจนอะไร แต่ระยะห่างระหว่างเราสองคน...มันเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

มีนาเริ่มส่งข้อความสั้น ๆ แทนคำว่า “ขอบคุณ”

ดนุยังคงส่งเพลย์ลิสต์ใหม่มาให้ทุกอาทิตย์ พร้อมโน้ตเล็ก ๆ ว่า “อันนี้ฟังตอนเครียดแล้วใจไม่เต้นแรง”

บางวัน เธอนั่งคาเฟ่คนเดียว...ส่วนเขาก็นั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไป

บางวัน เธอพิมพ์เพียงแค่คำว่า “เหนื่อย” เขาก็จะตอบกลับว่า “เดี๋ยวซื้อชานมไปให้นะ”

ไม่มีใครพูดถึงความรู้สึกในตอนนี้

แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น...บ่งบอกว่ากำลังก่อเกิดสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ความรู้สึกดี”

ซึ่งหมายความว่า...ต่างฝ่ายต่างกำลังเปิดใจให้กันทีละนิด จากคนแปลกหน้าในค่ำคืนหนึ่ง กลายมาเป็นใครบางคนในชีวิตอีกครั้ง อย่างช้า ๆ

...

ช่วงเย็นวันหนึ่ง หลังคลาสเรียนสิ้นสุดลง คาเฟ่เล็กหน้าคณะเงียบกว่าปกติ เสียงเพลงอินดี้เบา ๆ ลอยคลอเหนือเสียงฝนที่พรำอยู่ข้างนอก กลิ่นกาแฟหอมละมุนผสานกับแสงไฟโทนอุ่นที่ตกกระทบพื้นไม้และโต๊ะมินิมอล ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นราวกับเวลาหยุดนิ่ง

มีนานั่งอยู่ริมหน้าต่าง มือวางข้างแก้วชาอู่หลงนมสดเย็น รอยหยดน้ำค้างที่เกาะข้างแก้วเหมือนกำลังนับถอยหลังของความรู้สึก ดวงตาเธอเหม่อมองออกไปยังหยดฝนที่เกาะบนกระจกใส

ดนุนั่งอยู่ตรงข้าม มองเธอผ่านไอเย็นจากเครื่องดื่มกลางโต๊ะ

“วันนี้เรียนเหนื่อยมากเลยเหรอ?” เขาถามเบา ๆ พลางยื่นกระดาษทิชชูให้เธอโดยไม่ต้องรอคำขอ

“ก็...นิดหน่อย” เสียงเธอเบากว่าปกติเล็กน้อย

จังหวะที่เขาเอื้อมมือไปหยิบทิชชูอีกแผ่น นิ้วของเราสองคนเกือบสัมผัสกัน

เธอสะดุ้งเล็กน้อย แล้วดึงมือกลับโดยอัตโนมัติราวกับโดนของร้อน ดวงตาเธอเบิกกว้าง ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบ สองมือกำกระดาษทิชชูแน่นโดยไม่รู้ตัว

ดนุก็ชะงักไปเช่นกัน เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ขอโทษ... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธออึดอัด”

“ไม่ได้อึดอัด...” เธอเงยหน้าขึ้น สบตาเขาด้วยแววลังเล “แค่...กลัวใจจะเต้นเร็วเกินไป”

คำพูดนั้นเหมือนหยุดเวลาไว้ในจังหวะนั้น ดนุยิ้มจาง ดวงตาเขาอ่อนโยนแฝงความเข้าใจ

“งั้นฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้ เงียบ ๆ” เขาวางมือไว้บนโต๊ะ ทิ้งระยะห่างระหว่างกันไว้อย่างระมัดระวัง

“ขอแค่อยู่ข้าง ๆ...ในระยะที่เธอสบายใจ”

มีนามองมือเขา แล้วเหลือบตาขึ้นสบตาอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรง ทั้งที่เขาแทบไม่ได้ทำอะไรเลย

แต่นั่นแหละ...คือสิ่งที่ทำให้เธอกลัวที่สุด

“บางทีฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกปลอดภัย...กับคนที่ฉันเคยซื้อมาในคืนที่แย่ที่สุดในชีวิต”

“สำหรับฉันไม่ใช่แค่คืนนั้นไง” เขาตอบนิ่ง “ฉันคือคนที่ยังอยู่ตรงนี้ ต่อให้เธอจะผลักไสอีกกี่ครั้ง...ฉันก็ยังอยู่”

เธอเงียบอยู่นาน ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบชาอย่างเงียบงัน

“แล้วถ้าฉันยังไม่พร้อมล่ะ”

“ก็รอ”

“ถ้าฉันพร้อมแล้ว...แต่ก็ยังไม่กล้าอยู่ดีล่ะ?”

“ก็อยู่ตรงนี้...เหมือนเดิม”

เธอเผลอยิ้ม เล็กน้อย

“พี่เป็นพวกดื้อหัวรั้นหรือไง?”

“เปล่า...แค่ไม่ยอมแพ้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 6: เธอหายไปจากโลกของเขา

    บ่ายวันศุกร์ อากาศร้อนอบอ้าวปะทะกระจกใสของห้องเรียนคณะบริหาร ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง แสงแดดเจิดจ้า ทว่าในขณะเดียวกัน หัวใจของพัทธดนย์กลับมืดมนและสับสนวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเขานั่งอยู่แถวหลังสุด ปลายนิ้วเลื่อนไปบนหน้าจอโทรศัพท์ ที่ยังคงปรากฏชื่อเดิม...มีนา ข้อความล่าสุดที่เขาส่งไปเมื่อห้าวันก่อน ยังคงแสดงสถานะ "ยังไม่อ่าน" เช่นเดิมหลังจากวันนั้น วันที่เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าคอนโดของเขา พร้อมกับเอ่ยคำที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาลว่า“ฉันชอบพี่”แต่เขากลับตอบกลับไปด้วยประโยคที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ“พี่ไม่ได้ชอบเรานะ พี่รักมีนาเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง”จากวันนั้น...มีนาก็หายไปจากวงโคจรชีวิตของเขา ไม่มีข้อความ ไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีแม้แต่การอ่านข้อความจากไลน์เหมือนที่เคยพัทธดนย์ไม่อยากเชื่อว่าเธอบล็อกเขา แต่สัญญาณที่ได้รับมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใด ๆเธอ...หายไปจากชีวิตเขาแล้ว และเขาก็ไม่เข้าใจเลย...ว่าทำไมพัทธดนย์รู้จักมีนามาตั้งแต่ยังเด็ก ครอบครัวของเขาทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวของเธอ ร้านอาหารของบ้านเขาเป็นพันธมิตรกับบริษัทจัดจำหน่ายวัตถุดิบของบ้านเธอมาเป็นเวลาหลายสิบปีแ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 5 ระยะปลอดภัยของหัวใจ

    บ่ายวันนั้น ห้องเรียนรวมขนาดกลางที่จัดไว้สำหรับคลาสกลุ่ม ถูกปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่พอดีสบาย เสียงเครื่องปรับอากาศเบา ๆ แทรกอยู่ในบรรยากาศคล้ายกล่อมใจ ก่อนจะผสานกับเสียงปลายนิ้วที่พิมพ์ลงบนแป้นโน้ตบุ๊กของนิสิตคนแล้วคนเล่า คลอไปกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันจัดการงานกลุ่มซึ่งเด้งขึ้นบนจอ LED กลางห้อง ทั้งหมดนั้นสร้างความรู้สึกสงบแต่แฝงไว้ด้วยความวุ่นวายของวันที่ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติมีนาเลือกนั่งชิดริมสุดของห้อง ติดกับผนังโปร่งแสงที่เปิดมุมมองสู่สวนเล็ก ๆ ระหว่างคณะ ข้างตัวเธอวางไอแพดไว้หนึ่งเครื่อง พร้อมชีทเรียนที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากระบบกลางของคณะไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ดนุก็เดินเข้ามาในห้องเขาเห็นเธอตั้งแต่ก่อนก้าวผ่านประตูสแกนเข้าเรียน แต่ไม่ได้เดินตรงเข้าไปหาตามเคย หากเลือกนั่งอยู่แถวถัดหลังเธอหนึ่งแถวพอดี ทิ้งระยะไว้อย่างตั้งใจ ราวกับจะบอกเธอผ่านความเงียบว่า...เขาจะไม่ก้าวล้ำไม่มีคำทัก ไม่มีเสียงเรียก มีเพียงความรับรู้ที่วางตัวนิ่งอยู่ในบรรยากาศระหว่างกัน เป็นช่องว่างที่เขาเว้นไว้ เพื่อให้เธอได้หายใจอย่างเป็นอิสระมีนาเหลือบมองเขาผ่านเงาสะท้อนจากจอแท็บเล็ต ก่อนจะถอนหายใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 4 ในวันที่ไม่กล้ารัก...แต่ไม่อาจลืม

    หลังจากวันนั้น...แม้มีนายังคงต้องเข้าเรียนตามปกติทุกวันเหมือนเดิม ทว่าเธอกลับไม่เคยย่างกรายผ่านใต้ตึกนั้นอีกเลยเธอเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน เปลี่ยนเส้นทางเดิน ยอมอ้อมไกลกว่าเดิม เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องสบตากับใครบางคน แม้แต่เวลาพัก เธอยังหลีกเลี่ยงคาเฟ่หน้าตึกซึ่งเคยเป็นมุมโปรดในทุก ๆ วันทุกสิ่งที่เธอทำ...เป็นเพียงความพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แต่เพราะเธอไม่อยากรู้สึกอะไรอีก เธอไม่ต้องการให้หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นหน้าเขา ไม่อยากเผลอยิ้มเพียงเพราะความทรงจำ ไม่อยากยอมรับว่าบางอย่าง...ยังค้างคาอยู่ในใจยิ่งหลีกเลี่ยง...ยิ่งคิดถึงยิ่งไม่อยากเจอ...ใบหน้าเขายิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีในหัวและทั้งหมดนั้น ทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะแบกรับไหวเหนื่อยกับการแสร้งว่าไม่เคยรู้จักกัน เหนื่อยกับการทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในความจริง เขายังคงอยู่เต็มหัวใจของเธอ ไม่เคยเลือนหายไปไหนเลยสิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนได้...คือหัวใจตัวเอง ที่ยังคงสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขาด้านดนุเองก็นิ่งเงียบหลังจากวันนั้น ไม่ติดต่อ ไม่เข้าหา ไม่แม้แต่จะพูดอะไรเพิ่มเติม...ราวกับเขาเข้า

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 3 ไม่ต้องการ

    หน้าอาคารเรียน ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งจับกลุ่มใต้ร่มไม้บังแดด บ้างก็นั่งจิบกาแฟ บ้างเปิดโน้ตบุ๊ก พูดคุยเสียงดังสลับกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาไม่หยุดบรรยากาศดูเหมือนเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับมีนามีนาเดินช้า ๆ เข้ามาในพื้นที่ที่เธอเคยคุ้น แต่ไม่เคยรู้สึกเป็นของตัวเองอีกเลยหลังจากวันนั้นเสื้อช็อปคณะตัวใหม่ที่เธอสวม ดูไม่เข้ากับบุคลิกนิ่ง ๆ ของเธอสักเท่าไหร่ ผมถูกมัดรวบไว้แบบไม่ตั้งใจ ใบหน้าเธอดูอิดโรยกว่าคนอื่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะนอนไม่พอ...แต่เพราะเธอนอนไม่หลับเลยเมื่อคืน“เจอหน้ากันอีกแล้วเหรอวะ...” เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ เมื่อสายตาเธอกวาดผ่านโต๊ะไม้ตัวยาวข้างต้นพิกุลหน้าตึก และเห็น เขา นั่งอยู่ตรงนั้นดนุในเสื้อโปโลคณะสีกรมท่าตัวเดิม ผมยุ่งนิด ๆ แบบที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ดันดูดีแบบคนไม่พยายาม เขากำลังนั่งอ่านเอกสารอะไรบางอย่าง โดยมีเด็กปีหนึ่งสองสามคนนั่งอยู่ไม่ไกล คุยกันคิกคักเหมือนชื่นชมพี่ปีสี่สุดเท่มีนารีบหันหลังกลับ พยายามเลี่ยงเหมือนคนที่เห็นผีแล้วไม่อยากถูกมองเห็น แต่สายเกินไป“มีนา” เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่มันดังก้องในใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 2 ไม่เคยลืม

    แสงแดดยามบ่ายคล้ายเจือจางลงในวันนั้น ท้องฟ้าสีเทาคลุมคล้ายฝนกำลังมาแต่ยังไม่ตก ลานกิจกรรมกลางคณะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงเรียกชื่อ เสียงแนะนำตัวปนเปกับเสียงดนตรีคลอเบา ๆ จากลำโพงด้านหลังเวทีไม้ที่ถูกตั้งขึ้นชั่วคราวมีนา ยืนอยู่ตรงขอบวงกลมกิจกรรม ในชุดเสื้อคณะสีเลือดหมูตัวเดิมจากสองปีก่อนเธอจำมันได้ดี...เธอเคยอยู่ตรงนี้...รอยยิ้ม เสียงหัวงเราะกับเกมรับน้อง โดนล้อชื่อเล่น โดนพี่ปีสามแกล้งให้บอกรักเพื่อนข้าง ๆ สารพัดกิจกรรมที่เคยทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด เป็นอีกวันที่สดใสสำหรับเธอ และได้รับมิตรภาพใหม่ๆ รวมถึงรู้จักรุ่นพี่และได้รับการยอมรับในสังคมใหม่อีกด้วยตอนนั้น เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพร้อมโอบกอดเธอไว้ตอนนั้น...เธอมีรอยยิ้มตอนนี้...เธอกลับยืนเงียบ มองทุกอย่างเหมือนคนภายนอกที่กำลังเฝ้ามองตัวเองในอดีตไม่มีใครรู้ว่า... สองปีที่เธอหายไป ไม่ใช่การย้ายมหาลัยแต่เพราะโรคซึมเศร้ารุนแรงและภาวะว่างเปล่าที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ ในช่วงเวลานั้นหัวใจของเธอแตกสลายจนกว่าจะเยียวยาให้เหมือนเดิมได้อีก ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องผ่านช่วงเวลาอันแสนโหดร้ายเพียงลำพังนั้นทรมานมากแค่ไหน มีเพียบหมอกับพยาบ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ     บทที่ 1 เงาที่ถูกซื้อมา…เพื่อแทนที่ความทรงจำแสนเจ็บปวด

    ฝนตก...อีกแล้วเหมือนในทุกคืนที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหลือใครกรุงเทพฯ ยังคงเปียกปอนไปด้วยแสงไฟสลัว น้ำฝนไหลเป็นเส้นเล็ก ๆ บนกระจกบานใหญ่ของบาร์ลับชั้นดาดฟ้า “ลิโอจิน” กลิ่นเปียกชื้นผสมกับความหรูหราเบาบางของเหล้าวิสกี้และน้ำหอมแพง ๆ คลุ้งอยู่ในอากาศมีนา นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง VIP มือของเธอกำแน่นรอบแก้วไวน์แต่ไม่ได้จิบสักหยด ริมฝีปากแตะแก้วเพียงเพื่อกลบอาการสั่นไหวของความรู้สึก แววตาของเธอไม่มองอะไรเลยนอกจากจอโทรศัพท์ที่ยังเปิดอยู่“พัทธดนย์ ควงคู่หมั้นเปิดตัวกลางงานแฟชั่นวีค”ภาพข่าวบาดตา บาดลึกยิ่งกว่ามีดเล่มไหน เพราะผู้หญิงคนนั้น...ใส่นาฬิกาเรือนเดียวกับที่มีนาเคยใช้เงินเก็บทั้งปีซื้อให้เขาเธอกดปิดหน้าจอ แล้วหันไปทางผู้จัดการบาร์ที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ“ที่นี่มีอะไร...ที่ลบความรู้สึกเจ็บปวดตอนนี้ได้ดีกว่าเหล้าไหม?” เธอถามเสียงแผ่ว เบาเสียจนแทบกลืนลงคอไม่หมดผู้จัดการหญิงยิ้มบางอย่างรู้ทัน เธอไม่พูดมาก เพียงยื่นแฟ้มหนังสือเล่มหนึ่งให้มีนาเปิดแฟ้มอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมาถึงหน้า ๆ หนึ่ง... มือของเธอก็หยุดนิ่งในรูปถ่าย ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตดำยืนพิงผนังอย่างไม่ใส่ใจ แววตาในภาพเหมือนก

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทนำ

    เวลาผ่านไปสิบปีกรุงเทพฯ ยังคงจอแจและเร่งรีบเหมือนเดิม แต่สำหรับมีนา ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้วหญิงสาวในวัยสามสิบปลาย ก้าวออกจากรถลีมูซีนสีดำหน้าศูนย์ประชุมแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เธอสวมเดรสผ้าไหมสีครีมเรียบหรู ผมถูกรวบขึ้นหลวม ๆ เผยให้เห็นแววตาที่ผ่านทั้งน้ำตาและความสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วนนี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ แต่คือ “การกลับบ้าน” ที่เธอหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิตหนังสือเล่มนั้นชื่อว่า เงารักกลางลวงใจ และในวันนี้…มันคือกระแสนิยายอันดับหนึ่งของประเทศภายในห้องประชุมหรู แสงไฟอบอุ่นสาดส่องเวทีที่จัดตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เสียงปรบมือกึกก้องดังกระทบผนังห้องเมื่อพิธีกรกล่าวชื่อของเธอ มีนาเดินขึ้นเวที ยิ้มอย่างอ่อนโยน“ขอบคุณที่ยังรอฉันนะคะ”เธอกล่าวสั้น ๆ ขณะนั่งลงบนโซฟาสีเบจตรงกลางเวที ผู้ดำเนินรายการเริ่มถามถึงแรงบันดาลใจ เนื้อหา ความตั้งใจ คำถามที่เธอเตรียมตัวมาตอบทั้งหมดจนกระทั่ง มีหญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแถวหน้า เธอสวมแว่น มีหน้าตาเรียบร้อยแต่ดวงตาคมชัด นั่นอาจเป็นนักข่าว หรืออาจเป็นเพียงผู้อ่านที่กำลังแบกรักบางอย่างไว้เหมือนกับที่มีนาเคยทำ"ขอโทษนะคะ" หญิงสาวถาม "ฉันอยาก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status