Inicio / แฟนตาซี / Undisclosure / การสอบสวน

Compartir

การสอบสวน

last update Última actualización: 2025-02-12 15:11:43

เวดสั่นหัว “ไม่มีทาง หยุดพูดแบบนั้นได้แล้วออสซี่”

“ออสโล่ ชื่อออสโล่โว้ย” หนุ่มผมแดงตะคอก “เบล ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ” เขาหันไปหา

เบลินดาแทน เวดไม่จุดชนวนทะเลาะแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีมาก เขาปิดปากเงียบ คงอยากรู้สาเหตุเหมือนกัน

เบลินดากอดอกตัวเองแน่น แล้วเขยิบถอยไปที่มุมห้อง ตอบกลับสั้น ๆ ว่า “ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นย่ะ”

เวดหัวเราะอย่างดูถูก “ยัยนี่ ทุกคนเขารู้กันหมดแล้วโว้ยว่าเธอพยายามจะกำจัดพวกเราออกจากลิสต์ เธออาจหลอกตัวเองได้นะ คิดตามที่เธอพอใจเลย...ยัยบ้าเอ๊ย” เขาเขยิบถอยห่างจากเด็กสาวราวกับเธอเป็นแมลงที่น่ารังเกียจที่สุดจนเขาทนไม่ได้แม้แต่จะอยู่ใกล้ ขณะเดียวกัน อเล็กซิสกับออสโล่ได้แต่ถอนหายใจ

อเล็กซิสเข้าใจเวดดีที่เขาฉุนเฉียวง่าย แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเค้นเอาความจริงจากคนที่ไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดเลยสักเศษเสี้ยวหนึ่ง สถานการณ์ในตอนนี้ต่างหากที่เธอพะวงมากกว่า และมากกว่ามานั่งโทษเบลินดาด้วย เพราะมันเกี่ยวกับอนาคตของเธอ

ฉันจะยังเชื่อพี่ได้อยู่หรือเปล่า ฉันยังเชื่อพี่ได้ใช่ไหม เจสซี่ เธอรำพันในใจ เจสซี่ไม่เคยผิดสัญญาหรือพูดโกหกเพื่อให้เธอสบายใจ แต่มันต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแน่ ๆ เธอแน่ใจว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น

วันต่อมา เจ้าหน้าที่คนเดิมปลุกพวกเขาในตอนเช้า ทีแรกพวกเขาดีใจคิดว่าจะถูกปล่อยตัว แต่กลับเจอความผิดหวังอีกระลอก เมื่อนายตำรวจแค่นำขนมปังมาให้กินเป็นอาหารเช้าเท่านั้น เวดไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมือนเดิม เขาเริ่มโทษเบลินดาเหมือนเมื่อวาน แต่ครั้งนี้คู่กรณีเลือกที่จะใช้วิธีนอนหลับและไม่สนใจเขาแทน ซึ่งมันทำให้บรรยากาศสงบลงมากเมื่อเวดไม่มีคนให้ทะเลาะด้วย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศยังคงคุกรุ่นเมื่อเวดพยายามที่จะให้เบลินดาตอบเขาให้ได้ว่าทำไมเธอถึงทำลายงานปาร์ตี้ของเขา จนกระทั่งออสโล่หมดความอดทนที่จะฟัง

“มิลเลอร์! นายช่วยหุบปากสักทีได้ไหม น่ารำคาญเป็นบ้า ฉันจะประสาทแดกเพราะนายนี่แหละ!”

ก่อนที่เวดจะตอกกลับ อเล็กซิสรีบห้ามทัพทั้งคู่ได้ทัน ดีกว่าปล่อยให้เกิดมวยคู่ใหม่ “อย่าทะเลาะกันเลย ขอร้องล่ะ พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก อย่าเถียงกันอีกเลยนะ เวด เชื่อฉันเถอะ ต่อให้นายตะโกนหรืออ้อนวอนหรือกล่าวโทษใครต่อใคร ก็ไม่มีใครมาปล่อยตัวพวกเราหรอก ถ้าพวกตำรวจไม่ได้รับคำสั่งก็เปล่าประโยชน์ ทำใจให้สงบเถอะนะ ฉันขอล่ะนะ อย่าลืมที่พี่ชายฉันเคยเตือนสิ”

เธอวางมือลงบนไหล่ของเขาเป็นการปลอบโยน ดูเหมือนว่าอเล็กซิสเพิ่งรู้วิธีกดปุ่มควบคุมสติและปุ่มอดกลั้นของเวดได้ เด็กหนุ่มเหมือนนึกขึ้นได้ว่าเธอเคยเตือนเขาเรื่องทำนองนี้มาก่อนจึงหุบปากในที่สุด ไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเดินมา

“พวกเธอตามฉันมา คณะสอบสวนรอพวกเธออยู่”

ทั้งหมดมองหน้ากัน ส่วนเบลินดาเอาแต่พึมพำกับตัวเองว่า “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก”

“ทำไมพวกเราต้องถูกสอบสวนด้วยคะ” อเล็กซิสถามเจ้าหน้าที่สาว

เธอไม่ตอบ เด็กทั้งหมดจำต้องตามเธอไปเหมือนเดิม ไม่มีใครให้ข้อมูล ไม่มีใครอธิบาย เจ้าหน้าที่พวกนี้ไม่ชอบให้พวกเขาถามมากความ ทั้งหมดทำสีหน้าไร้อารมณ์ด้วยกันทุกคน พวกตำรวจไม่ใช่คนในเมือง แต่เป็นคนที่มาจากเมืองอื่น เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะสลับกันมาประจำในพื้นที่ทุก ๆ สองหรือสามปี จึงไม่มีใครสนิทสนมหรือรู้จักคนในพื้นที่เท่าไรนัก

เมื่อไปถึงห้องสอบสวน อเล็กซิสพบว่ามันไม่เหมือนกับห้องที่เธอเคยเห็นในหนังเลยสักนิด ห้องสืบสวนที่เธอรู้จักจะมีโต๊ะหนึ่งตัววางไว้ตรงกลางระหว่างตำรวจที่ทำหน้าที่สอบสวนกับผู้ต้องหา ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นจะยืนฟังบทสนทนาหลังหน้าต่างกระจก ห้องที่อยู่ตรงหน้าห่างไกลจากในหนังมาก หนำซ้ำยังน่ากลัวกว่า เพราะมันไม่มีโต๊ะสักตัว มีแต่เก้าอี้สำนักงานจำนวนสี่ตัว กับเก้าอี้ไฟฟ้าอีกสี่ตัวที่ดูเหมือนเครื่องทรมานในหนังสยองขวัญ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเก้าอี้ไฟฟ้าพวกนั้นเตรียมไว้ให้ใคร นอกจากพวกอเล็กซิส บรรยากาศเริ่มไม่ชอบมาพากลแล้ว พวกเจ้าหน้าที่จะทำอะไรกับพวกเขากันแน่ อเล็กซิสไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนพวกนี้ถึงปฏิบัติกับพวกเธอราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรง

มือของเธอเย็นเยียบ

ยุคสมัยแห่งความหวาดกลัวยังคงอยู่

พวกเขาให้เบลินดานั่งเก้าอี้ตัวแรก เด็กสาวร้องไห้หวาดผวาจนถูกกดลงไป เวดนั่งตัวที่สอง เด็กหนุ่มปิดปากเงียบ คงอึ้งพอสมควร อเล็กซิสนั่งตัวที่สามและยังคงเชื่อฟังแต่โดยดี ส่วนออสโล่นั่งตัวสุดท้าย

ขาของอเล็กซิสเหมือนอ่อนแรงลงประเดี๋ยวนั้น เธอมองเจ้าหน้าที่ที่กำลังล็อกแขนของเธอกับที่วางแขน จากนั้นเขาหยิบหมวกเหล็กมาสวมให้เธอ มันมีสายไฟโยงหากันกับเก้าอี้ ออสโล่และอเล็กซิสสบตากันอีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย และทำไมต้องวิธีนี้ ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนในชุดสีดำเดินเข้ามาพร้อมกันสี่คน พวกเขานั่งลงบนเก้าอี้ว่างที่เหลือ เป็นชายสองหญิงสอง ผู้หญิงนั่งตรงข้ามกับเด็กผู้หญิง ส่วนผู้ชายนั่งตรงข้ามกับเด็กผู้ชาย เจ้าหน้าที่สาวตรงหน้าอเล็กซิสมีใบหน้ารูปไข่ เธอปั้นหน้านิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตาจดจ่ออยู่กับอเล็กซิส ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่พาพวกเขามาที่นี่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่โจเซฟยืนเฉย ๆ  เหมือนกับเป็นเพียงผู้ช่วย ความเงียบค่อย ๆ เขย่าประสาทคนที่นั่งรออยู่ เวลาที่กำลังไหลไปช้า ๆ ทำลายกำลังใจไปทีละนิด ทีละนิด อเล็กซิสได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายดังเอื๊อก กับเสียงหัวใจที่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ

เธอยังไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

“สวัสดีนะพวกเธอ สบายดีกันหรือเปล่า ที่พวกเราพาพวกเธอเข้ามาในห้องนี้ก็เพื่อขอสอบถามข้อมูลที่มีประโยชน์และความจริงจากปากเท่านั้น อย่ากลัวไปเลย” ชายที่นั่งตรงข้ามกับเวดเกริ่นนำ “เรามีคำถามธรรมดาจะถามพวกเธอ ขอเพียงแค่พูดความจริง พวกเธอก็เห็นว่านั่งอยู่บนเครื่องจับเท็จ อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องจับเท็จเพียงอย่างเดียว เพราะหากพวกเธอพูดโกหก เก้าอี้จะปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อกร่างทันที”

เขาหยุดแล้วยิ้มเหมือนเอ็นดู คงคิดว่าตัวเองกำลังสาธิตวิธีแปรงฟันให้เด็กอนุบาลฟังอยู่ “ฟังให้ดี โกหกครั้งหนึ่ง เพื่อนของพวกเธอทางด้านซ้ายจะถูกไฟฟ้าช็อกทันที และเจ้าหนุ่มหัวแดง” เขาพูดกับออสโล่ “นายโกหกเมื่อไร คุณคาร์เตอร์โดนแน่ ๆ

“ขอเตือนไว้ก่อนนะ หากไม่อยากให้เพื่อนตัวเองเจ็บตัวก็อย่าเสี่ยง เข้าใจกันใช่ไหม”

พวกเขาพยักหน้าช้า ๆ เวดจ้องอเล็กซิสเขม็ง พยายามจะสื่อสารผ่านดวงตาว่าเขาไม่ควรนั่งข้างเบลินดาเลย เพราะคนที่โกหกได้หน้าตาเฉยก็คือเบลินดานี่แหละ

“ฉันโดนย่างสดแน่ ๆ” เธอได้ยินเสียงเขากระซิบ ซึ่งมันไม่ใช่มุก แต่เป็นน้ำเสียงที่กล่าวออกมาจากความกลัวข้างใน

“เอาล่ะ เริ่มกันเลยดีกว่านะจ๊ะ คุณคาร์เตอร์” หญิงสาวทางด้านขวาสุดพูดขึ้น “คุณคาร์เตอร์ ตอบฉันได้ไหมจ๊ะ ว่าคุณแจ้งความเท็จหรือไม่ โดยกล่าวหาว่าเพื่อนของคุณที่อยู่ในงานปาร์ตี้ที่คฤหาสน์ครอบครัวมิลเลอร์มีพฤติกรรมบางอย่างตรงกับคุณสมบัติที่เข้าข่ายว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง”

“เปล่าค่ะ”

เวดร้องโหยหวนเสียงดังทันทีเมื่อกระแสไฟฟ้าช็อกเข้าตัว อเล็กซิสตัวแข็งทื่อขึ้นมาเดี๋ยวนั้น เธอตกตะลึงเมื่อเห็นร่างกำยำของเพื่อนชายดิ้นพล่านรุนแรง เสียงร้องของเขาทำให้เลือดในตัวเย็นเฉียบ กระแสไฟฟ้านั้นช็อกร่างเด็กหนุ่มเพียงหนึ่งวินาที ใช่ แค่หนึ่งวินาที แต่เป็นวินาทีที่ทำลายความหวังในใจลงจนหมด ไม่มีรอยไหม้ปรากฏบนตัวเวด แต่เด็กหนุ่มหายใจหอบแรง แล้วยังตัวสั่นอยู่อีกหลายนาที

“สัตว์! อีนี่” แต่อย่างน้อยก็ยังมีแรงไว้ด่าคู่กรณี

“นายเป็นอะไรหรือเปล่า” อเล็กซิสถาม ยังคงตกใจอยู่ หัวใจของเธอแทบหยุดเต้นไปแล้วเมื่อครู่ เพราะเสียงร้องที่บ่งบอกว่าเจ็บปวดไปถึงกระดูกของเวด เด็กหนุ่มส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นอะไร อเล็กซิสมองไม่เห็นเบลินดา แต่ได้ยินเสียงร้องไห้ดังลั่น บางทีเธออาจจะเสียใจที่เผลอทำร้ายเวด หรือไม่ก็กลัวว่าตัวเองจะโดนบ้าง

พ่อพูดถูก ไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด นี่มันห้องทรมานชัด ๆ ไม่ใช่ห้องสอบสวนสักหน่อย อเล็กซิสพยายามอย่างยิ่งที่จะหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมพวกเจ้าหน้าที่ถึงทำแบบนี้กับพวกเธอ แต่นึกเท่าไรก็หาเหตุผลมาตอบไม่ได้

“ฉันขอถามคุณอีกครั้งนะจ๊ะ คุณ-โก-หก-พวก-เรา-หรือ-เปล่า” หญิงสาวเน้นคำ

“...ค่ะ”

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครถูกไฟฟ้าช็อก เวดถอนหายใจโล่งอก

“ทำไมคุณถึงโกหกจ๊ะ”

แทนที่จะตอบคำถาม เบลินดาเลือกที่จะร้องไห้แทน ไม่กี่วินาที เวดร้องอีกครั้ง พอตัวเองตั้งหลักหายใจได้ เขาตวาดทันที “ตอบไปเซ่

“ฉะ...ฉะ...ฉันอยากจะชนะทุนค่ะ ฉันอยากกำจัดเธอออกไป ถ้าเธอถูกถอนชื่อออก ฉันคิดว่าฉันจะชนะทุน”

เธอเหรอ เบลินดาต้องการให้เราถูกจับเพียงคนเดียวเหรอ นี่มันอะไรวะเนี่ย อเล็กซิสลืมความกลัวไปชั่วขณะ เธออยากจะร้องตะโกนออกมาดัง ๆ ระบายความซวยที่โถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน

“เธอที่ว่า หมายถึง คุณเดวิสเหรอจ๊ะ”

“ค่ะ...ใช่ค่ะ...ถูกแล้ว เดวิสมีโอกาสชนะมากที่สุด...ฉันอยากได้ทุนมาก ไม่ได้ตั้งใจจะใส่ร้ายคนอื่น ตะ...แต่ ฉันหาวิธีกำจัดเดวิสคนเดียวไม่ได้ค่ะ”

“โธ่เด็กน้อย ต่อให้คุณเดวิสชนะ คุณก็ยังสามารถชนะทุนได้อยู่ดี ทุนการศึกษาของรัฐมีไว้เฉพาะนักเรียนห้าคนที่คุณสมบัติผ่านเท่านั้นก็จริง แต่เราไม่ได้จำกัดโควตาเฉพาะเขตสักหน่อย โอกาสที่พวกคุณทั้งสี่คนจะชนะพร้อมกันก็เป็นไปได้เหมือนกัน”

เบลินดาร้องไห้หนักกว่าเดิม

“ขอบคุณสำหรับคำตอบ คุณคาร์เตอร์ คุณทำผิดกฎหมายตามรัฐบัญญัติเฝ้าระวังและควบคุมกลุ่มเสี่ยงภัยต่อมนุษยชาติปี 2966 มาตรา 31 บทลงโทษต่อการกล่าวหาเท็จด้วยจุดประสงค์เพื่อใส่ร้ายผู้อื่นว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มต้องสงสัย ผู้กระทำผิดจะถูกระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และคุณถูกตัดสินว่ากระทำผิดด้วยความผิดนี้”

จำคุกตลอดชีวิตเลยเหรอ

Continúa leyendo este libro gratis
Escanea el código para descargar la App

Último capítulo

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Más capítulos
Explora y lee buenas novelas gratis
Acceso gratuito a una gran cantidad de buenas novelas en la app GoodNovel. Descarga los libros que te gusten y léelos donde y cuando quieras.
Lee libros gratis en la app
ESCANEA EL CÓDIGO PARA LEER EN LA APP
DMCA.com Protection Status