อเล็กซิสคิดว่าบทลงโทษรุนแรงเกินไป แต่เมื่อลองคิดดูอีกที ข้อกล่าวหาเท็จสามารถทำลายชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย ตัวอย่างแรก ทั้งเวด อเล็กซิส และออสโล่หมดสิทธิ์ในการเข้าชิงทุนทันที นี่คือตัวอย่างที่เบาที่สุดแล้ว บางทีบทลงโทษที่ว่าก็ฟังดูไม่เยอะเกินไป อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่พิสูจน์ได้ว่าคนที่เหลือบริสุทธิ์ บทลงโทษจำคุกตลอดชีวิตสำหรับเบลินดาก็อาจจะรุนแรงเกินไปสำหรับเด็กสาวที่กำลังมีอนาคต
เด็กสาวอ้อนวอนขอให้ลดโทษ แต่อเล็กซิสจับคำพูดเธอไม่ออกเท่าไร เพราะเบลินดาทั้งอ้อนวอนทั้งร้องไห้จนฟังไม่รู้เรื่อง
“คุณคาร์เตอร์ คุณทำใจให้สงบก่อน (ใครจะสงบได้ อเล็กซิสคิด) ถ้าการกระทำของคุณทำให้เราจับกุมกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยงได้ แม้คุณตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือจะเพราะโชคช่วยก็ตาม เราจะลดหย่อนบทลงโทษที่ว่าให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะยกเลิกการลงโทษทั้งหมด เพียงแต่จะเป็นวิธีอื่นแทน” หญิงสาวพลิกกระดาษบนตักไปมา ไม่ยี่หระต่อคนตรงหน้า “อีกเรื่องที่น่ายินดี นั่นคือเราไม่พบหลักฐานที่ว่าคุณเข้าข่ายกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น โปรดรอคำตัดสินของเพื่อน ๆ ก่อน เราจะกลับมาตัดสินการกระทำของคุณในขั้นสุดท้าย”
เธอจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง ส่วนเบลินดาคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว บทลงโทษจำคุกคลอดชีวิตเท่ากับหมดอนาคต เด็กสาวคงไม่คาดหวังว่าจะมีบทลงโทษที่เบากว่านี้และทำให้เธอสบายใจขึ้นอีกแล้ว อเล็กซิสเกิดความรู้สึกกึ่ง ๆ ระหว่างสงสารเบลินดาและสมน้ำหน้าในเวลาเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเวดหันเหความสนใจจากเบลินดามายังเด็กหนุ่มแทน เขาจัดกองเอกสารอยู่หลายรอบก่อนที่จะเริ่มต้นถามคำถาม
“คุณมิลเลอร์ โปรดตอบคำถามของพวกเราให้ดี คุณคิดอย่างไรกับรูปพวกนี้”
เขาโชว์รูปของปีเตอร์เดินอยู่ในสระน้ำ เนื่องจากเป็นรูปที่แคปมาจากวิดีโอ ภาพจึงไม่ค่อยชัดเท่าไร
เวดกลั้นหายใจ พร้อมที่จะตอบคำถามทุกอย่าง “พวกเราพยายามจะอัดวิดีโอเล่นมายากลเพื่ออัปโหลดลงในเว็บคอมมูนิตี้ของโรงเรียน คุณก็เห็นอยู่ว่ามีแผ่นกระจกอยู่ใต้น้ำ และเด็กหนุ่มสี่คนก็จับไว้อยู่ ผมเป็นคนอัดวิดีโอนี้เอง ในวิดีโอจะทำให้ดูเหมือนว่าเขาเดินในน้ำได้ พวกเรากะจะหลอกเพื่อน ๆ และคิดว่าจะอัปโหลดวิดีโอที่สองเพื่อเฉลยกล แต่ว่านะ ตอนนั้นผมเมามาก พอเห็นรูปตอนนี้แล้ว ดูยังไงก็ดูหลอกตาชัด ๆ”
หลังเวดตอบเสร็จ อเล็กซิสไม่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อกแต่อย่างใด เธอตั้งใจฟังเป็นอย่างดี เพราะลึก ๆ รู้อยู่แล้วว่าเวดจะไม่โกหก แถมตัวเขาเองได้ลิ้มลองรสชาติความเจ็บปวดมาแล้ว คงรู้ดีว่ามันแย่แค่ไหน คำตอบของเขาชัดถ้อยชัดคำไม่มีสะดุดหรือตะกุกตะกัก อเล็กซิสคิดว่าเธอคงไม่โดนอะไร
“ดีมาก แล้วอันนี้ล่ะ” เจ้าหน้าที่โชว์อีกรูป มันเป็นยาเสพติดที่อยู่ในงานปาร์ตี้ มีทั้งห่อโคเคน บุหรี่กัญชา แล้วก็ถุงยาง
เวดสารภาพทันที “แค่ห่อเดียวที่เป็นของผม ที่เหลือของใคร ผมไม่ทราบครับ”
“อันไหนเหรอ”
“โคเคนที่อยู่ในถุงซิปล็อกสีฟ้าครับ”
“นี่พวกเธอจัดปาร์ตี้มั่วสุมกันแบบนี้บ่อยเลยเหรอ” เจ้าหน้าที่ทำเสียงหัวเราะเยาะ ส่วนคนที่เหลือเออออ
“หนึ่งครั้งต่อเดือน คุณว่าบ่อยหรือเปล่าล่ะ” เวดหยุดคิดสักพัก เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าปากเสีย เขามองอเล็กซิสเพื่อสำรวจให้แน่ใจว่าวิธีการตอบของเขาจะไม่ทำให้เธอโดนเล่นงาน อเล็กซิสบอกว่าไม่เป็นอะไร เวดจึงพูดต่อ “ไม่ครับ มันเป็นงานปาร์ตี้ธรรมดา คุณพบของพวกนี้ได้ทุกงานแหละ ทั้งงานปาร์ตี้ของเด็กและผู้ใหญ่มักมีของแบบนี้เสมอ”
“แต่มันผิดกฎหมายนะ แถมเธอยังเป็นผู้เข้าชิงทุนแล้วยังเป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลอีกต่างหาก”
“ถุงยางก็ผิดกฎหมายเหรอครับ”
เจ้าหน้าที่ชายหันมามองอเล็กซิสด้วยดวงตาที่ทำให้เธอขนลุก เวดเข้าใจทันทีว่าตัวเองพูดไม่ถูก จึงรีบแก้ตัว “ผมผิดเองครับ ผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันผิดกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่พยายามอดทนต่อถ้อยคำและท่าทีกวนโอ๊ยของเด็กหนุ่ม เวดอาจติดนิสัยกวนประสาทอยู่บ้าง แต่เขาควรรู้ว่าเวลาไหนควรระงับปากตัวเองให้สงบ
“คุณมิลเลอร์ คุณถูกตัดสินว่ากระทำผิดด้วยข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองจำนวนต่ำกว่า 100 กรัม และจะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 50,000 เรล หรือจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี ถ้าหากเราสืบพบกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยง โทษของคุณก็จะเบาลง ซึ่งเราจะมอบโทษอื่นให้แทน เช่นเดียวกับคุณคาร์เตอร์ เราไม่พบว่าคุณมีคุณสมบัติตรงกับกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น โปรดรอคำตัดสินในขั้นสุดท้ายอีกที”
อเล็กซิสคาดการณ์ไว้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่เป็นเรื่องยากนักที่คนเราจะควบคุมอารมณ์ให้คงที่ได้ ในเมื่อคำตัดสินมันไม่ยุติธรรม
“ขอโทษนะครับ ผมต้องรอผลตัดสินขั้นต่อไปด้วยเหรอ ถ้าพวกคุณพบว่ามีกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยงอยู่ในนี้ ผมต้องเข้าโปรแกรมด้วยใช่หรือเปล่า เพื่อปิดปากผม ปิดปากพยานในห้องนี้ใช่ไหมล่ะ ผมรู้นะว่าพวกคุณคิดทำอะไร ถามหน่อยเหอะ มันเกี่ยวกับความผิดของผมยังไง ไม่ยุติธรรมเลย ผมต้องการที่จะจ่ายค่าปรับเท่านั้น”
เพียงเท่านั้น กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างอเล็กซิสทันที เธอไม่อาจทำอะไรได้นอกจากกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเขาช็อกเธอเพียงหนึ่งวินาทีเหมือนกับเวด แต่เจ็บปวดราวกับไม่เคยเจ็บเท่าไหนมาก่อน ราวกับพลังงานในร่างกายถูกสูบออกไปจนหมด และเธอทำได้เพียงแค่พยายามหายใจอย่างยากลำบาก มือทั้งสองข้างบิดเกร็ง อเล็กซิสพยายามคุมสติเพื่อคุมอวัยวะที่กำลังสั่น
เครื่องจับเท็จที่ไหนกัน มีคนคุมมันชัด ๆ
“ขอโทษอเล็กซ์ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเจ็บนะ” เวดขอโทษและหุบปากเงียบโดยปริยาย เขาสูญเสียความกล้าที่จะคัดค้านคำตัดสินที่ปราศจากความเที่ยงตรง นี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าคำเตือนของเจสซี่ไม่ผิดเลย คนพวกนี้คิดคำตัดสินมาแล้ว พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากฟังคำพูดงี่เง่าที่คนเหล่านี้พ่นออกมา
“มีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า คุณมิลเลอร์”
เวดกลืนน้ำลาย “ไม่มีแล้วครับ”
“ดี”
อเล็กซิสคอตก ผิดหวัง เจสซี่อาจจะพูดถูกแต่ไม่ถูกทุกเรื่อง อย่างน้อย เขาแค่คาดการณ์ถูก ว่าหากคนใจคดขึ้นมามีอำนาจ คนพวกนี้ย่อมใช้อำนาจในทางที่ผิดตามนิสัย คนพวกนี้เลือกที่จะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าโดยไม่สนถูกผิด เหมือนอย่างกรณีของนายมิลเลอร์ พ่อของเวด ที่ปฏิบัติกับพวกตำรวจด้วยการข่มขู่เพื่อหวังจะช่วยลูกชายของเขา แต่ผลลัพธ์มันกลับตรงกันข้าม การกระทำของเขากลับกลายเป็นช่องทางให้คนพวกนี้รังแกลูกชายของเขาแทน และที่สำคัญ เวดมองออกว่าทางการพยายามจะปิดปากพวกเขาด้วยการสอบสวนที่แสนโหดร้ายและคำตัดสินทุเรศแบบนี้ อเล็กซิสรู้สึกว่าคนจากรัฐบาลพยายามที่จะยัดข้อหาในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำ เธอพยายามเตรียมใจน้อมรับต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงตาของเธอ
อเล็กซิสใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งกว่าจะค้นหาคำตอบได้ว่าทำไมเจ้าหน้าที่พยายามยัดข้อหา เพราะถ้าเหล่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด รัฐบาลจะกลายเป็นองค์กรหน้าโง่ในสายตาประชาชนทันที เพราะพวกเขาเชื่อคำโกหกของเบลินดาโดยไม่สืบสวนให้ดีเสียก่อน อเล็กซิสคิดว่าเธอรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ เด็กสาวกำหมัดแน่น ไม่เอาน่า เราจะผ่านมันไปได้ ฉันจะพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นเองว่าพวกเขากำลังข่มขู่คนบริสุทธิ์ พวกเขาไม่มีทางยัดข้อหาเราได้แน่
เจ้าหน้าที่สาวตรงหน้าเผยอรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่อ่อนหวานในแบบที่ฆาตกรโรคจิตยิ้มให้เหยื่อก่อนจะสังหารทิ้งอย่างโหดร้าย
“คุณเดวิส คุณตอบพวกเราได้ไหมว่า ที่คุณสตีเว่นพยายามจะปกปิดความสามารถพิเศษของคุณ มันเป็นความสามารถแบบไหนกันแน่”
อเล็กซิสรู้สึกได้ว่าพวกเพื่อน ๆ กำลังมองเธออยู่ แต่เธอไม่เข้าใจ พยาบาลคนนั้นเกี่ยวกับอะไรกับเธอ “คุณสตีเว่นเหรอคะ” อเล็กซิสเจอกับนางพยาบาลคนนี้บ่อย ๆ เมื่อตอนเด็ก แต่นานมาแล้ว ถ้าให้พูดตรง ๆ แมรี่ สตีเว่นไม่ได้สนิทกับครอบครัวเธอเท่าไร และเบียนน่า แม่ของเธอก็ไม่ชอบให้อเล็กซิสไปเล่นกับนางพยาบาลคนนี้ด้วย
หางตาข้างซ้ายทันเห็นว่าออสโล่ทำตัวลีบ เหมือนกลัวว่าจะถูกไฟฟ้าช็อก แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครเป็นอะไร
เราพูดความจริงนี่นา และเราก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนกดปุ่มทำร้ายพวกเรามากกว่า
“ใช่จ้ะ แมรี่ สตีเว่น” เจ้าหน้าที่ย้ำคำ แต่เด็กสาวยังคงงุนงง
อเล็กซิสส่ายหน้า “หนูไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ไม่เข้าใจเลย ด้วยความสัตย์จริง”
และออสโล่ยังคงปลอดภัยดี
เบลินดาวิ่งจ้ำอ้าวร้องขอความช่วยเหลือ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังใกล้เข้ามา เธอวิ่งกระโดดเข้าไปในห้องหนึ่งแล้วลากเก้าอี้เข้ามาสกัด ทว่าห้องนั้นกลับเล็กและแคบ มีเพียงแผงวงจรเป็นตู้ตั้งเรียงกัน ไม่มีทางให้หนีต่อ เมื่อเหลียวหลังก็เห็นว่าศัตรูยืนจังก้า มันเงื้อดาบขึ้น “ไม่ ๆ” น้ำตาไหลทะลักออกมา เบลินดาย่อตัวลงแต่คมดาบใกล้ตัวแล้ว เธอกรีดร้องกลัวตาย ทว่ามันล้มลงข้างตัวหากแต่ยังไม่ตายสนิท เบลินดาคลานหนีแล้วลุกขึ้นตั้งหลัก คนที่ยิงด้านหลังคือเด็กผู้หญิงจากเมืองเดียวกันอเล็กซิส เดวิสแต่มันดันสวมเกราะครอบไปทั้งตัว ยกเว้นด้านหน้า กระสุนของอเล็กซิสจึงทำลายเกราะเพียงชั้นนอกเท่านั้น “ยิงสิ!” เธอสั่งทั้งที่ยืนตัวงอหน่อย ๆ คงยังจุกอยู่ เบลินดายกปืนช่วยยิงระรัว มันปัด ๆ ก่อนจะพุ่งตัวใส่คนข้างหลัง อเล็กซิสไถลตัวลอดขามันไปยืนด้านหลัง มันเอี้ยวตัวมาแล้วซัดใส่ พอโดนทีเดียวก็กระเด็นมาชนตัวเบลินดาล้มไปด้วยกัน“อะ” คนข้างตัวกุมไหล่“หะ หักเหรอ” เธอถามทั้งสองรีบลุกขึ้น“ไม่รู้” อเล็กซิสส่ายหน้าแต่แขนซ้ายตกไปข้
แต่แล้วเขาก็พูดต่อ “เธออยู่กลุ่มเทสซ่า”เธอกลัวว่าเขาจะฆ่าเธอเหมือนกับที่ฆ่าพวกเพื่อนคิตแคต โชคดีที่เขาจำเธอได้ “พวกเขาจะจับกลุ่มต่อต้านให้ทางการ ถ้าฉันไม่เออออไปด้วยก็จะ...” ลิ้นของเธอแทบพันกันดวงตาเด็กหนุ่มเบิกกว้าง เขายกปืนขึ้นมาทันที และตอนนั้นเองเบลินดาหลับตาปี๋เพราะนึกว่าเขาจะยิงเธอ แต่เปล่าเลย มีเสียงดังตุบข้าง ๆ กลับเป็นคิตแคตตายสนิท ถูกยิงกลางศีรษะ“ถ้าคิดจะยืนตรงข้ามกันก็ต้องทำแบบนี้ ใจดีนิดเดียว เมื่อกี้เธอก็อาจจะเป็นยัยนั่นแทน” พลูทักซ์ชี้ไปที่ศพหญิงสาว คิตแคตคงคิดจะจัดการเธอแต่พลูทักซ์ต่างหากช่วยไว้ เบลินดารีบหันกลับมา แม้คนฆ่าคือพลูทักซ์ แต่อีกครั้งที่เธอต้องทำแบบนี้เธอไม่ใช่คนผิด ก่อนหน้านี้พวกคิตแคตก็ไม่ได้คิดดีกับเธอเท่าไร เธอยังจำสีหน้าผู้ชายสองคนที่ตายนั้นได้ถ้าหากตอบว่าไม่เสี่ยงไปกับพวกเขา ก็คงโดนจับแทน“แล้วเพื่อนเธอล่ะ” เด็กหนุ่มถามเบลินดาอึกอัก จะให้ตอบได้ไงว่าทิ้งทุกคนไป ถ้าไม่ใช่เพราะประกาศเธอคงไม่กลับมา แล้วก็คงไม่ต้องเจอสามคนนี้ด้วย“เอาเถอะ ขึ้นไปข้าง
ในที่สุดเธอก็ต้องเดินเข้าส่วนที่อันตรายที่สุด ด้านหน้าคือศูนย์บัญชาการกลางเขตเดอะ วาล พวกเขาเห็นกลุ่มบลูเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินเข้าไป ยังมีคนอยู่ภายนอก ดูเหมือนไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะเข้าไปดีไหม หรือจะกลับไปหาที่หลบซ่อน เบลินดาเริ่มลังเล กลุ่มต่อต้านมีจำนวนมากขึ้นเพราะคนที่หลบซ่อนตั้งแต่ต้นเริ่มหันมาจับอาวุธสู้ แต่ศพที่นอนตายเกลื่อนปะปนกันไปบ่งบอกว่าความตายไม่แยกแยะว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ยิ่งมีเสียงต่อสู้ภายใน เธอยิ่งลังเล ไม่รู้ว่าพวกเทสซ่าอยู่ด้านในแล้วหรือยัง แต่เธอค่อนข้างแน่ใจว่าคนอย่างเทสว่าจะไม่เปลี่ยนใจทิ้งกลุ่มจนกว่าทุกคนเห็นพ้องให้เลิกราเด็กสาวเหลือบมองพวกคิตแคต พวกเขาสูบบุหรี่แล้วนั่งมองประตู เบลินดาเคยเกลียดกลิ่นบุหรี่มาก แต่ตอนนี้เธอไม่แน่ใจว่ากลิ่นนิโคติน กลิ่นเลือด และกลิ่นไหม้ กลิ่นไหนรุนแรงกว่ากัน ต่อมรับกลิ่นตอนนี้พังยับเยินเสียงต่อสู้ดังลอดออกมาถึงข้างนอกไม่หยุดหย่อน พวกที่ยังลังเลก็ถอดใจเดินออกจากบริเวณนี้ บางคนวิ่งเข้าไปสมทบหวังช่วยคนข้างใน บางคนยังยืนรอดูเหมือนเบลินดา“เรา...ถอยเถอะ”คิตแคตเหยียดปากเล็กน้อย เด็กสาวนึก
เธอจำหน้าผู้หญิงคนนี้ได้ เมื่อก่อนผมสีน้ำตาลแดงของเธอสั้นเป็นทรงพิกซี่ แต่ตอนนี้ยาวประมาณคอ ท่าทางดูเป็นมิตรกว่าทุกครั้งที่เจอ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนวาววับดูซุกซน ริมฝีปากบางเล็กเป็นกระจับยกขึ้นมุมหนึ่ง เธออยู่กับเพื่อนชายอีกสองคนคิตแคตผู้หญิงคนนี้ชอบอเล็กซ์อย่างเปิดเผย แต่ตั้งแต่ชายหนุ่มย้ายมาอยู่ในเดอะ วาล เบลินดาก็ไม่ค่อยเห็นเธอมาคอยเกาะแกะเขาเท่าไร อาจจะถอดใจไปแล้วก็ได้ คิตแคตชอบเข้ามาทักอเล็กซ์แล้วเมินเพื่อนของเขาทุกคน (รวมทั้งพวกผู้ชายด้วย) ไม่ค่อยมีใครชอบเธอนัก แม้เบลินดาแทบไม่สนิทกับทายาทโวลคอฟเลย แต่มารยาทของคิตแคตก็พลอยทำให้เธอชังน้ำหน้าทั้งที่ไม่ได้หวงเพื่อนอย่างเทสซ่า และทั้งที่เธอออกจะรำคาญความสัมพันธ์ของอเล็กซิสกับอเล็กซ์ด้วยซ้ำ ทว่าในเวลานี้เบลินดาต้องวางอคติลง เธอหลับไปสักพักแต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไร หากแต่นั่งดื่มน้ำกันเงียบ ๆ สถานการณ์ในตอนนี้คงไม่เอื้อให้คนเป็นศัตรูกันหรอก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นมิตรเพราะในตัวเธอมีเสบียงอยู่เล็กน้อย“ฉัน...ไม่รู้ตัวเลย”หญิงสาวพยักหน้า “ก็คงงั้น ขนาดประกาศเมื่อกี้ เธอก็ยังนิ่ง นี่พวกเ
ซูเปอร์ของเดอะวาลไม่ต่างอะไรจากในเครสเตอร์ สภาพด้านนอกและด้านในเละเทะ เศษซากอาหารกระจัดกระจายเต็มพื้น คลุกเคล้าไปกับฝุ่นและเลือด ศพคนตายถูกลากไปกองสุมกันยังมุมหนึ่งทั้งไหม้เป็นตอตะโกสลับและไหม้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะอยู่ใจกลางเมืองจึงได้รับความเสียหายหนัก แต่เธอก็ยังเจอเสื้อกันหนาวสภาพดีอยู่หลายตัว จึงหยิบขึ้นมาเปลี่ยน แม้ควรจะหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อมอันน่าสยดสยองนี้ แต่เบลินดาไม่ใช่คนเดียวที่มองโลกในมุมมองต่างออกไปแล้ว นี่คือโลกวิปลาส ยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาเพื่อหาเสบียงสะสมในนี้ เด็กสาวโกยถุงซีเรียลที่แตกออกแต่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งข้างใน ไม่จำเป็นต้องโกยเยอะเพราะจะดึงดูดสายตา อย่างไรเสียถ้าเจอคนที่แข็งแรงกว่าก็อาจโดนปล้นไปได้ เธอมีอาวุธ คนอื่นก็มี ดังนั้นจึงแค่ซื้อเวลาเป็นชั่วโมงไปก็พอขอเพียงแค่ผ่านพ้นไปได้ ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ เราก็ไม่เกี่ยว เธอคิดแบบนี้แม้จะถูกป้อนชื่อไปแล้วว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน แต่ถ้าเหตุการณ์สงบลงแล้ว หากสารภาพว่าทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ อาจจะไม่แย่เท่าไรนักเธอไม่คิดว่าตัวเองฉลาดนักที่แยกออกจากกลุ่มมาคนเดียว และไม่คิดว่าตัวเองทำถูก ตอนนั้นสติเตลิดเมื่อเห็นว่าคนเกือบสิบล้
ไมเคิลไม่ตอบสนองคำขอร้องของเร็กกี้หากแต่พยายามรวบรวมสมาธิภายในเวลาอันจำกัด เขาเคยช่วยอเล็กซิสจากระเบิดมาแล้ว ทำไมครั้งนี้เขาจะช่วยตัวเองและเร็กกี้จากความร้อนไม่ได้ เด็กหนุ่มพยายามนึกถึงตอนที่ตัวเองสู้กับไซบอร์กตัวแรก ยามนั้นเขาอยู่กับอเล็กซิส และเมื่ออยู่กับแฝดสาว ดูเหมือนพลังและความคิดอ่านจะเพิ่มทวีคูณภาพของร่างของพ่อหายวับไปกลับเปลวเพลิงผุดขึ้นมาในหัว เขาจะปล่อยให้ตัวเองและแฝดอีกคนตายแบบพ่องั้นหรือ ชะตากรรมของแฝดทั้งสองจะเหมือนลูก้าใช่หรือไม่ใช้ประสบการณ์ในตอนนั้น ไมเคิล คิด! เขาต้องออกไปให้ได้ และต้องช่วยให้เร็กกี้มีชีวิตอยู่ต่อ ทักษะของชายคนนี้จำเป็นต่อการอพยพ พ่อแม่ ปาสคาล ได้โปรดเถอะ ชี้ทางสว่างที เขาไม่รู้จักพระเจ้า ไม่เคยเชื่อว่าใครอยู่เบื้องบนหรือจะมีจริงหรือไม่ หรือตอนนี้เขาเป็นเพียงฝุ่นในจักรวาล แต่ในเมื่อฝุ่นตัวนี้มีชีวิตจิตใจและมีคนที่ต้องปกป้อง เขาอยากจะเชื่อว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างจะประทานทางออกมาให้“ฆ่าฉัน!” เร็กกี้ตะโกนอีกครั้ง แก้มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกดูเหมือนเลือดฝาดหน่อย ๆ แต่เมื่อผ่านไปสักพักผิวกลับแดง