สักพักระเบียงของชั้นพังพินาศ พลันเธอสามารถสูดหายใจได้อีกครั้ง รอบตัวชุลมุน ทุกอย่างน่าสับสน ลูล้มลงกองกับพื้นไปแล้ว เธอคงสลบไปเรียบร้อยแล้ว เหลือสุนัขปีศาจอยู่หนึ่งตัว มันหลุดจากการควบคุมจึงกลับมาเล่นงานพวกเขา อย่างไรก็ตาม อเล็กซิสไม่เคยรู้สึกมั่นใจในตัวเองเท่านี้มาก่อน เธอหยิบขวบน้ำข้างเอวแล้วเทน้ำที่เหลืออยู่ออก จากนั้นซัดเข็มน้ำแข็งใส่ทหารคนหนึ่ง ปฏิกิริยาของเขาไวมาก ถึงขนาดเปลี่ยนทิศทาง กลับตัวกลางอากาศแล้วใช้พายุทรายทำลายเข็มน้ำแข็งจนไม่เหลือชิ้นดี ทั้งที่ยังรับมือกับเฟร็ดและเซนอยู่ อเล็กซิสกำลังจะสร้างอาวุธใหม่ เม็ดทรายมากมายรวมตัวกันเป็นมือยักษ์จะตะปบลงมา เธอวิ่งหนี มันไล่ตามเรื่อย ๆ (ทรายมาจากไหน) มือยักษ์ทำลายกำแพงไปรอบ ๆ พอเหลียวหลังก็ยังเห็นมันไล่ตามเหมือนเงาตามตัว เธอวิ่งไม่คิดชีวิตจนสุดระเบียง มันเปิดออกไปสู่เขื่อน มวลน้ำมากมายอยู่ข้างใต้
มุมปากของเธอกระตุกขึ้น
อเล็กซิสกระโดดลงไปก่อนที่มือยักษ์ที่บัดนี้กลายเป็นหอคอยขนาดมหึมาจะทับบดร่างจนบี้แบน มวลน้ำโอบล้อมประหนึ่งมือที่พุ่งมารับร่างอย่างประคบประหงม อเล็กซิสดีดตัวขึ้นจากผิวน้ำพร้อมกับคลื่นลูกใหญ่กลืนกินเม็
ไมเคิลยืนกอดอกพักขาไว้ข้างหนึ่ง คอเอียงไปทางขวาเวลาใช้หมกมุ่นอยู่กับความคิดในหัว พอเธอเดินออกมา เขาเงยหน้าขึ้นทันที“เธอเห็นเขาเหมือนฉันใช่ไหม”อเล็กซิสพยักหน้าทันที“เขามีตาสีแดง” น้องชายกอดอกแน่น “ฉันไม่เคยเห็นคนตาสีแดง แล้วเขา...เขายืนดูเฉย ๆ ฉันถามก็พูดไม่ออก แต่ได้ยินเสียงเขาในหัว...เวลานั้นจะขยับตัวไม่ได้จนกว่า...”“...จนกว่าจะมีคนช่วยดึงสติ”ทั้งสองพยักหน้าให้กัน อเล็กซิสจึงเฉลยเรื่องผิวของผู้ชายคนนั้น “ฉันคิดเว่าเขาเป็นคนผิวเผือก แล้วก็มีพลังจิตเอาไว้สื่อสารคน”“โทรจิตเหรอ แล้วผิวเผือกคืออะไร”ผู้เป็นพี่พยักหน้าก่อนจะอธิบายเรื่องผิวของชายคนนั้นก่อน “...แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมมีแค่ฉันกับนายที่เห็น แล้วเขาเป็นใคร เขาไม่ทำร้ายพวกเรา แถมยังช่วยเหลือด้วย ถึงแม้จะแค่เสียงเตือนก็เถอะ”ทั้งสองไม่คิดว่าคนคนนั้นเป็นผีหรือวิญญาณ เธอเห็นเงา และสัมผัสได้ว่าเขามีตัวตน แต่ความสามารถของเขาคืออะไรกันแน่ และต้องการอะไรเย็นวันนั้น หลังจา
“พวกแก...พวกแกยังอยู่ อีกไม่นาน เจ้าชายเมเคอร์จะส่งกองทัพมากำจัดพวกแกทั้งหมด” ศัตรูที่เหลือเพียงลำพังชี้หน้า“ทำไมแกไปรับใช้คนที่ต้องการกำจัดกลุ่มเสี่ยง แกก็เป็นเหมือนพวกเราไม่ใช่หรือ!” น้องชายของเธอตวาดถามมันแสยะยิ้ม ไม่มีร่องรอยความหวาดกลัวแม้หมดหนทางเอาตัวรอด “ฉันเป็นชาวไลบราเรียน เกิดมาเพื่อรับใช้เอไลโต ต่อให้ตายตอนนี้ แต่ก็เห็นความหายนะของพวกแกล่วงหน้าแล้ว...” กระสุนเลเซอร์พุ่งตัดขั้วหัวใจ แต่ไม่หนำใจคนยิง เซนกดไกระรัวจนร่างของมันเละเทะ เขาระบายความเคียดแค้นลงกับศพของมันก่อนจะบอกให้ทุกคนรีบกลับอเล็กซิสคิดว่ามันจบลงแล้วสำหรับการต่อสู้ในวันนี้ เธอเปิดระบบหมวกอีกครั้งเพื่อติดต่อกับอาคุสะ แต่อีกฝ่ายยังไม่เปิดรับสัญญาณ ทันใดนั้นหางตาของเธอเหลือบเห็นชายในเสื้อโค้ตสีดำยืนอยู่ข้างอเล็กซ์!เธอดึงตัวอเล็กซ์ออกมาแล้วสร้างระยะห่าง เขามองตามสายตาเธอแล้วหันมามองเธออีกครั้ง ดวงตาสีดำฉายแววพิศวง “อะไรหรือ”หา? “ยังมีอีกคน”อเล็กซิสเตรียมจะซัดพลังใส่ ทันใดนั้นเกิดขยับไม่ได้ ชายคนนั้น
สักพักระเบียงของชั้นพังพินาศ พลันเธอสามารถสูดหายใจได้อีกครั้ง รอบตัวชุลมุน ทุกอย่างน่าสับสน ลูล้มลงกองกับพื้นไปแล้ว เธอคงสลบไปเรียบร้อยแล้ว เหลือสุนัขปีศาจอยู่หนึ่งตัว มันหลุดจากการควบคุมจึงกลับมาเล่นงานพวกเขา อย่างไรก็ตาม อเล็กซิสไม่เคยรู้สึกมั่นใจในตัวเองเท่านี้มาก่อน เธอหยิบขวบน้ำข้างเอวแล้วเทน้ำที่เหลืออยู่ออก จากนั้นซัดเข็มน้ำแข็งใส่ทหารคนหนึ่ง ปฏิกิริยาของเขาไวมาก ถึงขนาดเปลี่ยนทิศทาง กลับตัวกลางอากาศแล้วใช้พายุทรายทำลายเข็มน้ำแข็งจนไม่เหลือชิ้นดี ทั้งที่ยังรับมือกับเฟร็ดและเซนอยู่ อเล็กซิสกำลังจะสร้างอาวุธใหม่ เม็ดทรายมากมายรวมตัวกันเป็นมือยักษ์จะตะปบลงมา เธอวิ่งหนี มันไล่ตามเรื่อย ๆ (ทรายมาจากไหน) มือยักษ์ทำลายกำแพงไปรอบ ๆ พอเหลียวหลังก็ยังเห็นมันไล่ตามเหมือนเงาตามตัว เธอวิ่งไม่คิดชีวิตจนสุดระเบียง มันเปิดออกไปสู่เขื่อน มวลน้ำมากมายอยู่ข้างใต้มุมปากของเธอกระตุกขึ้นอเล็กซิสกระโดดลงไปก่อนที่มือยักษ์ที่บัดนี้กลายเป็นหอคอยขนาดมหึมาจะทับบดร่างจนบี้แบน มวลน้ำโอบล้อมประหนึ่งมือที่พุ่งมารับร่างอย่างประคบประหงม อเล็กซิสดีดตัวขึ้นจากผิวน้ำพร้อมกับคลื่นลูกใหญ่กลืนกินเม็
สมองคำนวณแผนการเท่าที่ขีดความสามารถจะไปถึงทั้งที่ยืนอยู่บนเส้นด้าย เธอรู้ว่ามันจะฆ่าสักคนแต่ไม่ใช่ไมเคิล พวกมันพูดเองว่าระวังอย่าให้ฝาแฝดเจ็บหนัก มันไม่ได้ต้องการให้น้องชายของเธอตาย ดังนั้นต่อให้อเล็กซิสเลือกไมเคิล มันก็คงผลักอเล็กซ์ลงไป สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือทำอย่างไรให้อาซีฟสิ้นสติครู่หนึ่งเพื่อปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการพวกเขาไว้ วินาทีที่ริงโก้ชกศีรษะของมัน พลังของพวกเขากลับคืนมา แม้ระยะสั้น แต่ทำให้เธอรู้ว่าโอกาสพลิกสถานการณ์นั้นต้องล้มอาซีฟ มันเป็นวิธีเดียวเธอรู้ว่าอีกสองคนก็มีพลังพิเศษ แต่หากพลังของพวกเขาคืนมา ก็จะมีถึงสี่คน โดยเฉพาะอเล็กซ์ พลังของเขาทรงพลังที่สุดในกลุ่ม ยังมีเฟร็ดที่อาจพาลูหลบหนีไปก่อนได้ อ้อ ใช่ ถ้าลูยังพอใช้พลังได้ สุนัขปีศาจที่เหลืออยู่อีกตัวจะกลายเป็นพวกเขาในหัวสมองมีเพียงคำตอบเดียว ต้องเสี่ยงเท่านั้น ขอเพียงพวกเขาเข้าใจความหมายในสิ่งที่เธอพูด อาจจะฟังดูหวังสูงไปหน่อย แต่อย่างน้อยเธอฝากความหวังไว้ที่ลู เธอภาวนาให้ลูยังพอใช้พลังได้ ยังมีสติ ดังนั้นเวลาพูดอะไรออกไป จึงเอาแต่จ้องหน้าสาวผมดำตลอด“อเล็กซ์” เธอให้คำตอบ
น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เขาเจ็บปวดที่ไม่อาจช่วยเธอได้ และโกรธจนใบหน้าร้อนผ่าว ภายในหัวเดือดพล่าน ทำไมมันต้องทำให้เธอรู้สึกผิดไปจนวันตาย ทำไม!“ฉันขอแค่พูด แล้วจะเลือก” อเล็กซิสยังคงต่อรองแลกกับอาการปวดแปลบครู่หนึ่งไมเคิลมองไปทางเพื่อนที่เหลือ ลูปรือตามอง เรี่ยวแรงแทบไม่มี แม้เซนคุกเข่าแต่ต้องพยุงร่างแฟนสาวไว้เพราะเธอยืนไม่ได้ ริมฝีปากหญิงสาวเริ่มเป็นสีม่วง ขณะที่ริงโก้กับเฟร็ดต่างมองไปรอบ ๆ เหมือนคิดหาหนทางอยู่ ด้านหลังพวกเขามีสุนัขปีศาจตัวเดียวคำรามขู่อยู่ตลอดเวลา แต่เพราะทหารสามนายจับตัวเขา อเล็กซิส และอเล็กซ์ไว้“เอ้า พูดเร็ว ๆ” อาซีฟยอม “แต่ต้องเลือกนะ”ครั้งนี้ไม่มีอาการทุรนทุราย อเล็กซิสกลืนน้ำลายแล้วกลั้นสะอื้น เธอหันไปหาแฟนหนุ่ม “อเล็กซ์ นายจำวันที่เราเจอกันได้ไหม”เขาพยักหน้า “ฉันไม่โกรธเธอ เลือกเขา ฉันไม่เป็นไร”แฝดสาวเม้มปากแล้วพูดอีกประโยคหนึ่ง “ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง ฉันอยากได้ตั๋วนั้นอีก นายเชื่อใจฉันใช่ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้ามองคนรัก ดวงตาสีด
คู่ต่อสู้ของเขากลอกตา “ไม่เอาน่า ฉันยังไม่สนุกเลย”คนที่จับลูเป็นตัวประกันเบ้ปาก หญิงสาวผมดำค่อย ๆ ลืมตาสะลึมสะลือ แม้มีสติแต่ไม่อาจป้องกันตัวเองได้เลย เลือดของเธอไหลหยดลงบนพื้นตลอด ทุกคนค่อย ๆ ยกมือเหนือศีรษะเมื่อเพื่อนตกเป็นตัวประกัน เซนหน้าซีดเผือดกว่าใคร เขาคุกเข่าลงกับพื้นดังปึง อาซีฟได้โอกาสเดินไปกระชากตัวอเล็กซิสออกจากอเล็กซ์ เขาดิ้นขลุกขลักไม่ยอมจึงถูกปลายกระบอกปืนกระแทกศีรษะ หมอนั่นทรุดลงไปกองข้างเซน สภาพแทบไม่ต่างกันเมื่อมันได้ตัวอเล็กซิส อีกคนจึงผลักลูไปให้เซน เขารับร่างแฟนสาวแล้วประคองกอด ทุกคนคำรามในลำคอเมื่อเห็นพวกมันทิ้งขว้างลูราวกับตุ๊กตาอาซีฟลูบศีรษะพี่สาวของเขาเบา ๆ ไมเคิลถูกจับแยกออกมาเช่นกัน เพื่อนที่เหลือถูกคุมตัวไว้แล้วนั่งคุกเข่ากันหมด มีเพียงสุนัขโลกันตร์ที่เหลืออยู่หนึ่งตัวเฝ้าไว้ และทหารอีกคนหนึ่งคุมเชิงยกปืนจ่ออยู่“อย่าทำอะไรพวกเขา” อเล็กซิสขอร้องเมื่อสุนัขไล่ดมกลิ่นทีละคน พวกมันหัวเราะ สักพักมันเลิกดมแล้วไปยืนข้างคนถือปืนอย่างเชื่อง ๆอเล็กซิสถูกจับหน้าหันมาทางแฝดน้อง อาซีฟพยักพเยิดเรียกเพื่อนท