อเล็กซิสไม่สนใจเพื่อนชาย เธอหันมาหาเบ็กกี้ “เอาล่ะ หมดปัญหาแล้วนะ ฉันชื่อ อเล็กซิส คนนี้ชื่อ ออสโล่ นี่คือ เบน แล้วพวกนายชื่ออะไร”
เด็กสาวไม่จำเป็นต้องตอบเมื่อเรมีทำหน้าที่แทนหมด “เรมี ส่วนนี่ก็เบ็กกี้”
“อายุแค่สิบสี่ใช่ไหม” เบนถาม
“ไม่ ๆ ฉันสิบหกแล้ว” เรมีรีบตอบ
“เปล่า ฉันหมายถึงเด็กผู้หญิง”
“สิบห้า...ต่างหาก” เธอพูดกระซิบเหมือนเคย
“เฮ้อ มินนี่สองสินะ” คนชื่อเบนว่า เด็กสาวไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ความรู้สึกบอกว่ามันไม่ใช่คำชม
เธอสังเกตเรมี เขาดูท่าอยากร่วมสนุกกับคนกลุ่มนี้มาก สายตานั้นมองเหมือนรอคอยคำชวน และเมื่อพวกเขาเอ่ยปากชวน เด็กหนุ่มตอบตกลงทันที เขายังลากเบ็กกี้ตามไปด้วยราวกับทั้งสองกลายเป็นพี่น้องกันไปแล้ว หรือรู้จักเป็นเพื่อนกันมานาน สมาชิกใหม่อย่างเธอยังคงกลัวดวงตาของอเล็กซิส ดังนั้นจึงเอาแต่อยู่ติดกับพี่ชายป้ายแดงและพยายามไม่พูดกับเธอคนนั้น อเล็กซิสคงจับสังเกตได้ เธอจึงหันไปคุยกับเรมีแทน เขาถึงกับหน้าบานอย่างกับจานดาวเทียม จะโทษเขาก็ไม่ได้ในเมื่อคู่สนทนาน่ารักน่ามองไปหมด เรมีก็เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดา
คนที่ไม่ได้เล่นน้ำนั่งลงริมสระ ส่วนพวกที่อยู่ในน้ำว่ายมาเกาะริมขอบ มีชายร่างใหญ่กับสาวน้อยร่างเล็กเดินเข้ามาสมทบในวง พวกเขาไม่ได้ว่ายน้ำเลยแต่งชุดธรรมดา พอเธอเห็นเด็กสาวคนนั้น เบ็กกี้ค่อยรู้สึกสบายใจเหมือนเจอคนที่มีลักษณะคล้ายกัน นั่นคือ ตัวเล็กและไม่ได้หน้าตาโดดเด่น เธอได้ยินพวกเขาเรียกสองคนนั้นว่า โนเอลกับมินนี่
เด็กใหม่มองเด็กที่ชื่อมินนี่อยู่นาน แม้ว่าจะเป็นสาวร่างเล็กเหมือนกัน แต่เบ็กกี้ยังตัวเล็กกว่า และที่สำคัญเธอไม่เห็นว่าตัวเองเหมือนเด็กคนนั้นอย่างที่เบนว่า มินนี่กับพี่ชายล้วนมีผิวสีเข้ม ดวงตาสีน้ำทะเล แต่เบ็กกี้มีผมสีแดงคล้ายกับทองแดง และผิวที่ขาวจนซีด
“น้องสาวนายเหรอ” เด็กหนุ่มผมบลอนด์ทักออสโล่เหมือนกับที่เบนทัก อันที่จริง ผมสีแดงของออสโล่นั้นเข้มกว่าของเธอ และเบ็กกี้มีกระน้อยกว่าด้วย อีกทั้งสีตาของทั้งสองก็ไม่เหมือนกัน เพราะเบ็กกี้มีดวงตาสีเขียว ไม่ใช่สีน้ำตาล
“เรามีสมาชิกใหม่สองคน เอางี้ดีกว่า มาแนะนำตัวกันใหม่ พูดชื่อ แล้วบอกสถานะของตัวเอง ดีไหม” เบนเสนอ
มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธออยากทำ เด็กสาวผมแดงหวังว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับเขา แต่สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครค้านเขาเลย ทุกคนนั่งกันเป็นวงกลม พวกที่อยู่ในน้ำก็ขึ้นมาจากน้ำหมด พวกผู้หญิงพันผ้าเช็ดตัวไว้ ส่วนพวกผู้ชายนั่งลงทั้งที่ตัวยังเปียก
“ขอเพิ่มกฎอีกข้อ ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง ให้บอกด้วยว่าความสามารถคืออะไร” หนุ่มผมบลอนด์เสริม ไหล่ของเขากว้าง รูปร่างดี เขากับสาวผมทองที่ใส่เสื้อชั้นในลายลูกไม้นั่งอิงแอบกัน หนุ่มหล่อสาวสวยคงเป็นคู่รัก
“โนเอล นายเริ่ม” เบนเร่งให้ชายหนุ่มร่างใหญ่เปิดคนแรก เบ็กกี้นั่งเงียบ ๆ สังเกตคนอื่น
“อ้อ ฉันเหรอ...ฉัน โนเอล ถูกส่งมาที่นี้พร้อมกับน้องสาวสองคน และในฐานะกลุ่มต้องสงสัย”
เบ็กกี้ฟังแต่ละคนเล่าเรื่องตัวเองก็เริ่มสนใจ เธอฟังจนเพลิน ปกติแล้ว เธอไม่เคยชินกับการอยู่กับคนหมู่มาก สมัยอยู่ในโรงเรียน ไม่มีใครอนุญาตให้เธอนั่งด้วย ยิ่งเวลาผ่านไป เพื่อนที่คบตั้งแต่เด็กเริ่มหายไปทีละคน จนในปีสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกส่งไปสถานพักฟื้น เธอนั่งกินข้าวคนเดียว
เด็กสาวผมแดงยังได้รู้จักพี่สาวของมินนี่ที่ชื่อ เทสซ่า เธอมีความงามที่ต่างจากคนอื่น อาจเป็นเพราะเธอมีผิวสีน้ำตาลเข้ม ที่แปลกคือ เธอเด่นกว่าน้องสาวมาก ทั้งยังมีดวงตาสีเงินเป็นประกายเข้ากันได้ดีกับบุคลิกมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้น เทสซ่ายังสามารถใช้เสียงตัวเองจู่โจมใส่คนอื่นได้
“ยัยนี่เป็นแบนชี รู้จักกันไหม ผีแบนชีที่ชอบร้องโหยหวน” หนุ่มตาสีเหลืองปล่อยมุกที่ไม่ได้ฟังแล้วตลก แบนชีเป็นหนึ่งในผีที่เธอกลัวจะแย่ โดยเฉพาะเวลานอน
“เบน ถ้าไม่มีใครด่านายสักวัน นายจะลงแดงตายไหม” พี่ชายของเทสซ่าถาม
“แน่นอน หมอนี่จะป่วยหนักเลยล่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งข้างเบนตอบแทน
เบ็กกี้รู้อยู่แล้วว่าเบนเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะเขาเพิ่งช่วยเธอเมื่อครู่ พลังของเขาคือการควบคุมสิ่งของ หากไม่นับใบหน้าหล่อร้ายนั้น เขาเป็นคนที่มีปากไว้เสียดสีคนโดยเฉพาะ แต่คนในกลุ่มไม่ค่อยมีใครถือสามากนัก บางคนยังเห็นเป็นเรื่องตลกด้วยซ้ำ
ส่วนชายหนุ่มร่างสูงชื่อ อเล็กซ์ เขาสามารถทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนและสร้างคลื่นกระแทกใส่สิ่งใดก็ได้ เรมีถามว่ามันเป็นแบบไหน ไม่ทันไรร่างผอมบางของเด็กหนุ่มก็กระเด็นออกจากวงทันที “โอเค ๆ ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ถามแล้ว” เรมีรำพัน ก่อนจะคลานกลับเข้าวงท่ามกลางเสียงหัวเราะ
ส่วนสาวบลอนด์ที่สวยราวกับราชินีเพิ่งสารภาพว่าเธอสามารถทำให้ร่างกายมนุษย์ร้อนเหมือนถูกต้มจากภายใน
“น่ากลัวจริง ๆ เธอไม่เคยบอกฉันเลยนะ” เทสซ่ากล่าว มือข้างขวาทาบอก “ฉันหลงคิดว่าเธอเป็นกลุ่มต้องสงสัยเสียตั้งนาน”
“ซาร่าห์ช่วยให้เธอฮอตขึ้นได้นะ ลองดูไหมล่ะ” เบนไม่หยุดแหย่เพื่อน บางคนหัวเราะ แต่สาวที่โดนแกล้งไม่ขำด้วย เบ็กกี้ภาวนาให้ทั้งสองทะเลาะกัน หัวข้อแนะนำตัวนี้จะได้จบลงสักทีเพราะกลัวถึงตาตัวเอง
“ต่อเลยละกัน ฝั่งเด็กซานโบซ่าว่าไง” เขาผายมือไปทางอเล็กซิส ดูเหมือนว่าเบนจะถูกใจคนนี้มากกว่าคนอื่น
“โอเค ฉันชื่อ อเล็กซิส ถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัย”
“เพราะอะไรล่ะ” เรมีโพล่งถามขึ้น
“อ้าว ฉันไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสักหน่อย” เธอย้ำกฎ
“จะว่าไป ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน พวกเธอไม่เคยเล่าให้พวกเราฟังเลยนี่นา เวด นายก็ไม่เคยบอกฉัน” ซาร่าห์หันไปเอ็ดแฟนของเธอ เขากัดปาก ดวงตาจ้องไปยังออสโล่กับอเล็กซิส
“ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกน่า”
“บอกมาเถอะ” มินนี่เร่ง แต่น้ำเสียงนั้นแหวกทุกอย่างจนคนอื่นตกใจ “พวกเราอยากรู้นะ” พอสังเกตท่าทาง เบ็กกี้รู้สึกว่าเด็กสาวค่อนข้างแปลกประหลาด พวกเราไม่เหมือนกันเลยสักนิด
“ก็ได้ พวกเราอยู่ในงานปาร์ตี้ของเวด แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็รายงานตำรวจว่ามีกลุ่มเสี่ยงอยู่ในงาน พวกเราถูกจับแล้วถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัย”
“แย่จริง” ซาร่าห์ลูบไหล่แฟนของเธอ “คล้ายกันกรณีโนเอลกับมินนี่เหมือนกันนะ แล้วพวกเขาพิสูจน์อย่างไรว่าพวกเธอเป็นกลุ่มต้องสงสัย อย่างโนเอลกับมินนี่ก็เพราะเป็นพี่น้องกับเทส แล้วพวกเธอล่ะ”
“ฉันมีความจำดีน่ะสิ”
บรรยากาศเงียบลงถนัดตา ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้น คนอื่น ๆ ระเบิดเสียงหัวเราะ
อาคุสะถอนหายใจอยู่ข้าง ๆ“อะไรอีก” อเล็กซ์ถาม“อเล็กซิสเป็นกลุ่มเสี่ยง” เขาตอบ “นายก็รู้ว่าพลังชีวิตของกลุ่มเสี่ยงมากกว่าคนปกติทั่วไป ยิ่งพวกเขาเป็นแฝด แถมยังเป็นแฝดที่เกิดจากแฝดพิเศษ สิ่งที่พวกเราเห็นอาจเป็นตัวพิสูจน์ อย่างน้อยตาเฒ่าทรอยก็ทำสำเร็จอยู่บ้าง ฉันคิดว่าพวกเขาพิเศษกว่ากลุ่มเสี่ยงอย่างพวกเราอีกนะ”ตอนนี้หัวของเขามึนตึบตามอาคุสะไม่ทัน ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอ่านสีหน้าออกจึงอธิบายต่อ “ร่างต้นแบบของลูก้าและเจมม่าเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรก ฝาแฝดที่มีพลังพิเศษ ร่างโคลนก็มีพลังพิเศษ ลูก ๆ ของพวกเขา...ไมเคิลก็มีพลังพิเศษ ตอนนี้เราก็เห็นแล้วว่าอเล็กซิสมี เป็นไปได้ไหมว่าถ้าพ่อแม่เป็นกลุ่มเสี่ยง ลูกก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงเหมือนกัน แล้วความที่พวกเขาเป็นแฝด จึงมีพลังเชื่อมเข้าหากัน เกื้อหนุนกัน”อาคุสะวางมือบนไหล่อเล็กซ์แล้วตบเบา ๆ “มันเป็นสัญญาณที่ดี เธอไม่ตายง่าย ๆ หรอก”อเล็กซ์ยืนนิ่งแต่ดวงตากวาดมองรอบ ๆ อเล็กซิสไม่ใช่คนเดียวที่บาดเจ็บ ยังมีคนเจ็บ บ้างมีแผลเล็กน้อย บ้างบาดแผลฉกรรจ์ เมื่อนั้นจึงตบหน้า
ความเงียบเปรียบดั่งมีดคมเสียบแทงเข้าไปในหัวใจ หากเพียงคนที่บาดเจ็บเป็นเขาแทน เขายอมแลกทุกอย่าง อเล็กซ์ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อมองทุกคนตายไปต่อหน้าต่อตา คนเหล่านี้ช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จทุกครั้ง ไม่ว่าจะแม่ เบน และอเล็กซิส แต่เหตุใดเขาไม่เคยช่วยชีวิตใครได้เลย ไม่มีแม้แต่โอกาสได้ช่วย“อเล็กซ์!” ไมเคิลกระชากแขน เขาหันไปเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่ม“ไม่!” เขาตวาดใส่หน้า หากไมเคิลจะแย่งไปก็ทำได้ แรงของอีกฝ่ายมีมากกว่าและอเล็กซ์ก็ไม่เหลือพลังโต้กลับ แต่เพราะมีอเล็กซิส ไมเคิลจึงทำได้เพียงอ้อนวอน“ปล่อย ฉันจะช่วยเธอ!”“ไม่!” เขาตะโกนใส่หน้าเด็กหนุ่ม “ทุกครั้งที่ฉันปล่อยมือ เธอก็ห่างฉันไปทุกที...” ก้อนสะอื้นจุกในคอ เขาไม่อาจโต้ตอบได้อีกกล้ามเนื้อบนหน้าไมเคิลกระตุก เขาโกรธ โกรธมาก แต่ก็ยังพยายามควบคุมอารมณ์ “นี่พี่สาวฉัน ฝาแฝดของฉัน ปล่อยตัวเธอ ฉันอาจช่วยเธอได้ เมื่อกี้...”“ก็ทำสิ!” เขาดึงแขนเด็กสาวกลับ จ้องดวงตาสีฟ้าที่คล้ายกับของอเล็กซิสหากแต่สีนั้นอ่อนกว่า “ช่วยชีว
ไมเคิลไม่มีหลุมพราง และอเล็กซ์กลัวว่าอเล็กซิสจะไป พวกเขามีสายใยบางอย่างที่น่ากลัว หลังจากผ่านด่านทดลอง จากคนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนสนิท ไมเคิลเกาะติดอเล็กซิสแจทั้งที่ก่อนหน้าไม่ยอมเข้าสังคม อเล็กซ์ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเกลียดชังหนุ่มผมเงินมากขนาดนั้น อเล็กซ์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ถ้าหากถึงเวลานั้นจริง ๆ วันที่เธอเลือกไมเคิล เขารู้ว่าตัวเองคงทำใจไม่ได้ สู้ตัดใจแต่ตอนนี้ยังดีเสียกว่าเขาปล่อยมือเธอมันกลายเป็นความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจจนถึงตอนนี้ ทั้งที่แทบเป็นบ้าเมื่อเธอหายไป แต่กลับโกรธแทบตายที่ไมเคิลเจอเธอ ทำไมต้องหมอนี้ด้วย(วะ) ไอ้หัวเงินดูแลเธอตลอด อเล็กซ์ใช้เวลาอันมีค่าไปกับการปฏิเสธความรู้สึกตนเอง ใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์เพื่อโกรธและเกลียด เพื่อตอบสนองความกลัวและขลาดเขลาด้วยการเดินออกจากแสงสว่างนั้น จนเมื่อไมเคิลบอกว่าเธอกำลังจะตาย มันไม่ต่างอะไรจากวันที่อเล็กซิสบอกว่าเบนไม่กลับมา และวันที่เบนเดินมาบอกว่าแม่ไปแล้ว ความกลัวพัฒนาจนความรู้สึกมากมายงอกเงย โมโห หึงหวง โกรธ เกลียด สุดท้ายอารมณ์ทั้งหมดก็มาลงที่ตัวเอง เขาเกลียดตัวเองที่สุดยามเห็นอเล็กซิสทรมานไม่ว่
สองครั้งที่อเล็กซ์เผชิญหน้ากับความตาย เหมือนหลับไปตื่นหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นคนที่เขารักก็จากไป ครั้งแรกคือแม่ และครั้งที่สองคือเบน เคยคิดว่าตัวเองชินชากับความตาย แต่ไม่เลย เขาไม่พร้อมเจอครั้งที่สามอเล็กซานเดอร์ โวลคอฟอาจถูกกำหนดให้อยู่เพียงลำพังและตายโดยลำพัง แต่สุดท้ายเขาก็ยังหายใจอยู่ช่วงแรกที่เขาพบเธอ เคยคิดว่ามันอาจเป็นแค่อารมณ์อ่อนไหว เขายังยี่สิบต้น ๆ และเธอก็อ่อนกว่าไม่กี่ปี รูปร่างหน้าตาสวยงามที่เหมือนเดินออกมาจากนิตยสาร นิสัยใจคอที่ทำให้คนหลงรักได้ไม่ยาก มันก็แค่นั้น แต่นานวันเข้า กลับกลายเป็นว่าเธอเหมือนแสงสว่างดวงน้อยที่มักอยู่ในสายตาเสมอ วันที่เขารู้ว่าเบนจะไม่มีวันกลับมา วันที่มืดมนที่สุดจนอเล็กซ์อยากหายไปจากโลกนี้ อเล็กซิสกลับอยู่เป็นแสงอันอบอุ่นปลอบโยนจนการมีชีวิตดูมีความหมายมากขึ้นก็ไม่ยากเท่าไรนักกับการมีชีวิตในโลกที่เขาไม่รู้จักมันเริ่มต้นมาจากวันนั้น...ในท้องฟ้าจำลอง แม้มองเห็นเพียงแผ่นหลังก็ยังรู้สึกถึงดวงจิตที่แตกสลายย่อยยับอยู่ภายใน ชั่ววูบหนึ่งเขาเห็นเงาของแม่ซ้อนทับ ดวงตาคู่งามแสนเศร้าและปลงตกในคราวเดียวกัน ประหนึ่งร่างของเ
บราวน์ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า วาร์กเนอร์เป็นหัวหน้าทีมคนก่อน“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ แต่นัยน์ตาจับจ้องที่ดวงหน้าผู้ถาม สีหน้าของเดวิสดูซีดลงเล็กน้อย นัยน์ตาหม่นแสงลงคล้ายกับไม่สบายใจ เขาไม่แน่ใจนักว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไปถึงขั้นไหน แต่คงมากพอที่จะให้วาร์กเนอร์พยายามหาข้อมูลไปประเคนชายหนุ่มคนนี้ได้งี่เง่า โดยเฉพาะวาร์กเนอร์ที่ดันผันตัวจากไฟเป็นหิ่งห้อย“พวกเราตกใจนิดหน่อยว่าอาจมีปัญหาอะไรหรือไม่...” ดูเหมือนเขาพยายามจะหาเหตุผลเพื่อไม่ให้ตัวเองดูผิดปกตินัก นายน้อยโวลคอฟคลี่ยิ้มน้อย ๆ “...หรือมีข้อตกลงที่ฝ่ายคุณไม่พอใจเป็นต้น”“ไม่หรอกครับ” บราวน์ตอบทันที “ทุกอย่างเรียบร้อยดี เพียงแต่คุณวาร์กเนอร์ถูกย้ายไปประจำตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมกว่า ทีแรกผมกังวลที่ต้องมาประสานงานต่อ แต่อย่างที่เห็น ทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกอย่างการโยกย้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเบื้องบน มัน...ค่อนข้างจะเป็นเรื่องภายใน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ...” เขาวางมือลงบนโต๊ะ “...งานตรงนี้หรอกครับ”ในห้องเงียบไปสักพัก เค
ปัญหาไม่ใช่เนื้อหางานหรือรูปแบบของงานแต่อย่างใด แต่มันคือเหตุใดต้องเป็นเขาระแคะระคาย? ก็อาจเป็นไปได้ แต่อย่างที่บราวน์สรุปไปก่อนหน้า เมื่อไม่ลงมือก็แปลว่าขาดหลักฐาน เมื่อไม่จัดการก็แปลว่ายังต้องการอยู่ดังนั้นหากบราวน์จะรู้สึกเสียวสันหลังนิดหน่อยก็ไม่แปลกนัก การประสานงานกับคนภายนอก ทั้งยังต้องระมัดระวังข้อมูลไม่ให้รั่วไหล ยิ่งบราวน์ตงิดใจว่าถูกจับตามอง หากแม้เขาระวังตัวเพียงใด แต่คนใต้อำนาจเกิดสะเพร่าขึ้นมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างไรเสียเขาก็ต้องโดน...ก็นะ ถ้านี่ไม่ใช่กับดักขอเถอะ อย่างน้อยให้ส่งของก่อนสักพัก เคย์ซี่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟ เมื่อเธอหันหลัง บราวน์อดไม่ได้เหลือบมองบั้นท้ายกลมกลึง กระโปรงของเธอยาวพอดีเข่า แต่เพราะมันรัดรูปจนเห็นเป็นทรงสวย...ผลของการสควอทสินะ เขาสังเกตเรียวขาที่มีเส้นกล้ามเนื้อบ่งบอกว่าออกกำลังกายอย่านอกเรื่อง เขาส่ายหัว อย่างไรก็เป็นผู้ชาย มองนิดมองหน่อยไม่เป็นไรแต่อย่าทำให้สมาธิเสียก็เท่านั้น เขายักไหล่ให้ตัวเองแล้วมองข่าวบนจอโทรทัศน์“...กองทัพส่งกำลังเสริมเข้าต้านฝ่ายก่อกา