Share

คาดไม่ถึง

Author: Jiraiyajung
last update Last Updated: 2025-10-24 19:04:46

เสียงผู้จัดการร่างอ้วนท้วนพยายามยื่นข้อเสนออีกครั้ง ทว่าผิงยังคงยืนยันคำเดิม แม้จะไม่มีเงินจ่าย แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือวิโรจน์กับพวกที่คบหากันมาตั้งนาน ตอนนี้กลับถอยห่างจากเธอ

เป็นเพราะอะไรนั่นเหรอ? เหตุผลมีมากมาย เพราะตอนนี้พวกเขากลายเป็นพนักงานในบริษัทใหญ่ที่มีเงินเดือน 50,000-60,000 บาท ส่วนเธอ... เป็นแค่สตรีมเมอร์ที่มีรายได้เพียง 2-3 หมื่นต่อเดือน

พวกเขาไม่อยากคบเธออีกต่อไป ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่บ้านของเธอยังทำธุรกิจรุ่งเรือง คนเหล่านั้นก็พร้อมจะเกาะกินอย่างไม่ละอาย

ที่แย่ไปกว่านั้นคือเมื่ออาทิตย์ก่อน วิโรจน์เมาหนัก — และเธอก็อยู่ที่นั่น

คืนนั้น เขาพยายามลวนลามเธอเหมือนกับว่าเธอเป็นเพียงของเล่นของเขา “ชื่อเสียงของเธอน่ะ...ห่วยจะแย่ ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันยังลดตัวมาหา” เขาว่าอย่างเหยียดหยาม

“คืนนี้มาสนุกกับฉันสิ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ ช่วงนี้เธอก็ขัดสนไม่ใช่เหรอ ฉันไม่รังเกียจหรอกนะที่เธอผ่านมือใครต่อใครมา เดี๋ยวใส่ถุงก็พอ”

“พูดบ้าอะไรของนาย! เราเป็นเพื่อนกันนะ เมาแล้วก็กลับบ้านไปนอนซะเถอะ!”

วิโรจน์ยิ้มเย้ยหยันก่อนจะกระชากตัวเธอเข้าหา แล้วกดริมฝีปากแข็งกระด้างลงบนกลีบปากของเธอ — หวาน เย้ายวน และ...เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

แต่ผิงไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ใครมาทำอะไรตามอำเภอใจง่ายๆ เธอไหวตัวทัน ตบหน้าเขาเสียงดังลั่น

วิโรจน์โกรธมาก ตอนนั้นเขาเมาเลยยังไม่ทำอะไรมาก แต่เธอรู้… เขาไม่ปล่อยเธอไว้แน่

เมื่อคิดถึงเรื่องคืนนั้น เธอก็พอเข้าใจ มิตรภาพเกือบสิบปีของเขามีค่าแค่นี้เองเหรอ?

“ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะ ถ้ายังไม่มีข้อสรุป ฉันจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ" ผู้จัดการเร่งรัด สายตาเลื่อนลงจากใบหน้าของเธอไปหยุดอยู่ที่หน้าอกขาวเนียนราวกับจะกลืนกิน

ผิงแค่นยิ้มบาง แม้จะเครียด แต่ใบหน้ารูปไข่ของเธอยังคงสง่างาม ผิวขาวอมชมพูและดวงตาเรียวยาวที่มักทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าเธอเป็นดารา เธอเงยหน้าตอบเสียงเรียบ

“จ่ายแน่ ขอเวลาฉันสักครู่ ฉันกำลังจะให้คนที่บ้านเอาเงินมาให้”

ใช่แล้ว...ตอนนี้เธอจำเป็นต้องขายคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงาน แม้มันจะเป็นอาวุธหาเลี้ยงชีพเพียงชิ้นเดียวของเธอก็ตาม

เธอโทรหาเพื่อนอีกคนให้ช่วยหาคนมาซื้อ แต่มันไม่ง่าย ไม่มีใครรับสาย ไม่มีใครช่วย ราวกับมีใครบางคนจงใจให้เธอจมลงไปในความอับจน

ในขณะที่เธอกำลังมืดแปดด้าน เอส...ก็นั่งอยู่ตรงนั้น

เขานั่งพิงพนักโซฟา ผ่อนคลายราวกับอยู่ในคฤหาสน์ของตัวเอง สูทเก่าๆ ไม่อาจบดบังรูปร่างสูงโปร่งและท่วงท่านิ่งสงบของเขาได้เลย

ผิวขาวซีดอย่างคนที่อยู่ในร่มมานาน ผมดำสนิทจัดทรงอย่างลวกๆ กลับขับให้ใบหน้าคมเข้มของเขาดูมีเสน่ห์แปลกตา ดวงตาเรียวยาวของเขามองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาก็คงลำบากเหมือนผิง แต่ตอนนี้...เขากลับมีวิธีจ่ายทุกอย่างได้ง่ายดาย ทว่าเขายังนั่งเงียบ...เพราะเขาอยากให้เธอเป็นฝ่ายขอ

ผิงเดินวนไปวนมา ก่อนจะหันขวับมามองเขา

“นายดูไม่เป็นกังวลเลยนะ ก็แหงสิ นายไม่มีงาน ไม่มีสังคม ต่อให้โดนโทษก็ไม่เป็นอะไร คนอย่างนาย...ก็เป็นได้แค่นี้แหละ”

เขายิ้มมุมปากบางๆ ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ หันมาสบตาเธอ

“ผิดแล้ว ที่ฉันนิ่งๆ แบบนี้ ไม่ใช่เพราะไม่มีปัญญาจ่าย เงินแค่นี้ ฉันจ่ายไหว”

เขาลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้า แผ่นหลังกว้างของเขาเคลื่อนเข้าใกล้ราวกับหมาป่าที่รู้จังหวะล่า ก่อนจะนั่งลงข้างเธอ แล้วเอาขามาถูไถเหมือนที่เธอเคยทำกับเขา

ผิงขมวดคิ้วทันที

“อย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉัน ก็บอกแล้วไงว่าคนอย่างนาย หางตาฉันยังไม่อยากมอง” เสียงของเธอแข็งขึ้น ต่างจากเมื่อตอนเริ่มงานเลี้ยงที่เคยพยายามอ่อยเขา

เธอไม่ชอบคนจน เพราะเธอก็จนอยู่แล้ว...เธออยากได้ผู้ชายรวยๆ เท่านั้น

“ถ้าฉันจ่ายให้เธอ เธอจะยอมเล่นสนุกกับฉันไหม?” เอสกระซิบข้างหู เสียงของเขาแหบต่ำอย่างจงใจ

ผิงหัวเราะออกมาอย่างขบขันจนตัวสั่น เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดทำนองนั้นจากชายที่ดูเหมือนขอทาน เธอหัวเราะ แล้วมองเขาอย่างสมเพช

“คิดว่าตัวเองเป็นใคร เงินในบัญชีนายมีถึงพันเหรอ? ถ้านายจ่ายได้ ฉันจะไปเล่นสนุกกับนายก็ได้”

เธอพูดเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

เอสมองสีหน้าระรื่นของเธอ ใบหน้าหวานของเธอกำลังหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ปากอวบอิ่มแดงสดที่เขาเห็นมาหลายครั้งกำลังเคลื่อนไหวอย่างยั่วเย้า

"ก็เอาสิ ถ้าจ่ายได้จริง ฉันจะไปเล่นสนุกกับนายให้สมใจเลย” เธอพูดพลางยืนขึ้น กอดอก ยักไหล่ส่งท้ายอย่างท้าทาย

เอสไม่ตอบอะไรทันที เขาเพียงยกมือเรียกพนักงาน

“ฉันจะเป็นคนจ่ายเอง เอาบัตรนี้ไปรูด”

ทุกสายตาในห้องต่างหันขวับไปที่เขา บัตรที่เขายื่นออกมาดูไม่คุ้นตา สีดำด้านเรียบไม่มีแม้แต่โลโก้ แต่มันดูแพง...และอันตรายอย่างประหลาด

พนักงานรับบัตรด้วยมือสั่นๆ เหลือบมองหน้าผิง กับผู้จัดการ แล้ววิ่งออกจากห้องไปราวกับกลัวจะช้า

ผิงขมวดคิ้ว...สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที ความมั่นใจที่เคยล้นปริ่มตอนนี้กลับมีรอยร้าวเล็กๆ

“อย่าบอกนะว่ามีจริง...นายจ่ายได้จริงเหรอ?” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง

ผู้จัดการเองก็หน้าซีด เขาไม่เคยเห็นลูกค้าห้องนี้คนไหนกล้ายื่นบัตรแบบนั้น พนักงานของเขาก็ไม่มีใครเคยเห็นเหมือนกัน

เอสยืนสงบนิ่ง สายตายังมองมาที่ผิงไม่วางตา

“ฉันทำตามที่พูดแล้วนะ หวังว่าเธอคงไม่เบี้ยว”

“อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ” ผิงตอบเสียงเบา แววตาเริ่มไม่แน่ใจ “ตอนนี้ยังไม่ชำระเงินเลยนะ นายคิดว่าตัวเองมีเงินมากพอขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เธอแค่นหัวเราะกลบเกลื่อนอีกครั้ง “บัตรอะไรก็ไม่รู้ ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน อย่าทำให้ฉันเสียเวลาเลย ไม่งั้น...นายเจ็บตัวแน่”

เธอหันไปพูดกับผู้จัดการเพื่อดึงเกมกลับมา แต่ยังไม่ทันที่ผู้จัดการจะเปิดปาก เสียงโทรศัพท์ของพนักงานก็ดังขึ้น

“...รูดผ่านครับ”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ — เสียงเดียวที่ได้ยินคือไวน์ในแก้วของเอสที่ยังไม่หมดกำลังไหลลงคอเขาอย่างเนิบนาบ

ผิงยืนตัวแข็ง ราวกับถูกตบหน้าแรงๆ ทั้งที่ไม่มีใครแตะต้อง

ผู้จัดการอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบโค้งหัวให้อย่างรวดเร็ว พร้อมผละออกไปแบบไม่หันกลับมามองแม้แต่นิดเดียว

เอสลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าเข้าไปใกล้ผิงช้าๆ

“พูดเองนะ ว่าถ้าฉันจ่าย เธอจะยอมเล่นสนุกกับฉัน...”

ผิงเบิกตากว้าง สีหน้าเครียดจัด ปากที่เคยแย้มยิ้มกลายเป็นเม้มแน่น

“ฉะ...ฉันพูดเล่น นายไม่คิดจะเอาจริงหรอกใช่ไหม?”

“ฉันจ่ายจริง เธอก็ต้องจริง”

น้ำเสียงของเขานิ่ง เย็น เยือก — แต่สายตากลับลุกวาวด้วยความสนุกแบบแปลกๆ

ผิงถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนที่หลังจะชนกับผนัง

ตอนนั้นเอง เธอเพิ่งรู้ว่าเธอเล่นกับคนที่ไม่ควรเล่นด้วย

เขาไม่ใช่คนจนอย่างที่เธอคิด

เขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอเคยดูถูก

และเธอ...อาจจะเพิ่งเปิดเกมที่ไม่ควรเล่นตั้งแต่แรก

แต่ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาเงินก้อนนี้อาจจะเป็นก้อนสุดท้ายของเขาก็ได้ แค่พยายามจะเอาชนะเธอเท่านั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องเป็นเขาเองที่เดือดร้อน

“ได้ฉันคิดว่านั่นคือเงินก้อนสุดท้ายของนาย” เธอเชิดหน้ามองเขาที่อยู่สูงกว่าสายตาจับจ้องไม่กระพริบ “แค่เล่นสนุกกับนายถือว่าสงเคราะห์ก็แล้วกัน”

ใช้มือเดียวคล้องคอเขาพร้อมเขย่งไปกระซิบข้างหูเบาๆ น้ำเสียงท้าทายไม่เกรงกลัวสักนิดสมแล้วกับชื่อเสียงของเธอ

สายตาเจ้าเล่ห์ของเอสจ้องมองริมฝีปากสีเชอรี่ของเธอสุดจะยั่วยวน ยิ่งอยู่ใกล้ขนาดนี้ยิ่งน่าหลงใหล เธอก็ไม่เลวนี่นาถ้าไม่ติว่าเป็นคนกินไม่เลือกเขาก็สนใจอยู่บ้าง

ถึงยังไงในที่สุดเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการผู้หญิงหยิ่งๆอย่างเธอก็มีวันนี้เหมือนกันแต่จะทำยังไงดีคืนนี้นัดกับมินนี่เอาไว้แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   หาเงินล้านล้านได้หรือเปล่า

    "อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยเหลือประเทศ หรือเห็นแค่กำไรเหมือนบางคนพูด เพราะมีแค่ทางนี้ที่พอเป็นไปได้"เอสพูดน้ำเสียงหนักแน่น ตรงไปตรงมาที่สุด พร้อมกับหันมาส่งสายตามองยาหยีเธอกำลังจะตอบกลับ แต่ถูกบิดาห้ามเอาไว้ก่อน คราวนี้เธอยอมเชื่อฟัง แล้วส่งสายตาไม่พอใจใส่เอส'ก็แค่พวกเห็นแก่ตัว จะหวังดีอะไร'เอสนั่งรอคำตอบจากทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากัน แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ง่าย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เขากู้เงินไปทำการวิจัย แต่เพราะระบบห้ามณัทพงศ์ครุ่นคิดเงียบ ๆ เขาจะสามารถไว้ใจคนอื่นได้เหรอ เพราะแม้แต่ในหน่วยงานรัฐยังมีคนของพวกนั้นแฝงตัวอยู่ ถ้าหากสิ่งที่กำลังจะผลิตหลุดออกไป พวกนั้นคงรู้ตัว และลงมือจัดการเสียก่อน'จะทำไงดี...ไม่มีทางอื่นอีกเหรอ'"เอาเป็นว่าเรื่องนี้ฉันคงต้องปรึกษากันก่อน แล้วจึงให้คำตอบนะ"เข้าดูลังเลจริง ๆ เพราะยังไม่ไว้ใจเอส จึงอยากขอเวลาคิดอีกหน่อย"ได้ครับ...ผมยินดีช่วย""ขอบคุณมาก มีคนแบบนะเธอประเทศชาติคงพัฒนาไปอีกระดับแน่"เอสยิ้มตอบก่อนจะขอตัวกลับ พร้อมอเล็กซ์ที่เดินออกมา ทว่าก่อนจะออกจากบ้าน ทั้งสองต้องหยุดเท้าที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะสาวสวยเดินมาขวา

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   ล้านล้านไม่ใช่ค่าขนม

    ทหารติดอาวุธพอเห็นหน้าทั้งสองก็เหมือนจะรู้จักอเล็กซ์ พวกเขาไม่ได้ห้าม พร้อมกับเปิดประตูให้ทั้งสองเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูไว้เหมือนเดิมเอสมองรอบห้องโถงขนาดใหญ่ ราวกับพระราชวัง ทุกซอกทุกมุมตกแต่งด้วยของเก่า ทำให้ได้กลิ่นบรรยากาศของยุคนั้น เอสสะดุดกับชุดโซฟาตรงกลางชุดโซฟาดูไม่ธรรมดา มีลวดลาย และดีไซน์สวยงาม เข้ากับการตกแต่งห้อง และคนสองคนที่นั่งอยู่ ทำให้เอสประหม่าเล็กน้อย"มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ" ชายวัยหกสิบกว่า รูปร่างกำยำเอ่ยปากเชิญ"สวัสดีครับ"ทั้งสองคนกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งลงช้า ๆ ด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะเอส ที่เพิ่งเคยเจอคนใหญ่คนโตของประเทศ ทำให้รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รนรานมาก"นี่คือ...คนที่พูดถึงเหรอ"ชายคนนั้นถามขึ้น พร้อมกับสายตาที่มองสำรวจเอส เขาดูตกใจไม่น้อย หลังจากสืบข้อมูลของเขา จากคนที่ล้มเหลวที่สุด กลายเป็นคนที่รวยเทียบเท่ามหาเศรษฐี ในเวลาไม่ถึงเดือน ทำให้นายทหารทึ่งในตัวเขามาก'เบื้องหลังของคุณคืออะไรกันนะ คนที่ฉันไม่สามารถตรวจสอบได้เลยเหรอ'ประธานใหญ่ BKAS หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะแนะนำตัวให้ทั้งสองคนรู้จัก คนที่ถามก่อนหน้า คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   ปล่อยเหยื่อล่อ

    ในระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไป อย่างครื้นเครงแม้ว่าบริษัทซัพพลายเออร์หลายแห่งจะทยอยกลับ แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังอยู่ แต่น้อยจนนับนิ้วได้ทำให้สีหน้าของวิโรจน์ไม่ค่อยพอใจ เพราะแบบนี้บริษัทจะไปรอดยังไง แต่ในสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากเตรียมตัวปรับโครงสร้าง และ ประธานใหญ่ไม่ใช่เขา แต่คือตัวแทนบริษัท BBOSSพนิดาเดินมานั่งพัก หลังจากทักทาย และสานสัมพันธ์กับแขกในงาน เธอดื่มไปเยอะจนแก้มแดงทั้งสองข้าง"หึ...แกคงพอใจสินะ บริษัทกำลังจะจมลงเหวแบบนี้ พวกแกจะทำให้บริษัทพังไม่เป็นท่า"อนันต์นั่งอยู่ข้างวิโรจน์ ที่ยังนั่งอยู่ กับหลานชาย และคนอื่นที่ยอมรับความจริงไม่ได้ พวกเขาไม่อยากกลับไป เพราะไม่สามารถข่มตาหลับลงได้"ทำไมคุณลุงพูดแบบนั้นละคะ การปรับโครงสร้างเป็นวิธีบริหารแบบสากล มีความโปร่งใส และ ทำให้บริษัทก้าวหน้ากว่าเดิม นี่ถึงจะเป็นประโยชน์ของบริษัท"'ทำไมยังไม่เข้าใจ หรือไม่อยากเสียผลประโยชน์ที่เคยได้ มากกว่าเงินปันผลเหรอ'พนิดาตอบกลับ พร้อมสีหน้าสงสัยในตัวของลุง เธอไม่เคยเห็นเขาคิดเพื่อบริษัทสักครั้ง คิดแต่จะทำยังไงให้ได้เงินเข้ากระเป๋ามากขึ้นพอเธอพูดแบบนั้นยิ่งท

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   ประธานใหญ่ออกหน้า

    "เรื่องนี้พิสูจน์ง่ายมาก ใช่ไหม" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์"หมายความว่าไง ก็เห็นชัดว่าแกทำธุรกิจสีเทา หรือไม่ก็แกล้งรวยยังไง" มังกรอดไม่ได้รีบตอบเอสยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบบัตรธนาคารสีดำด้านขึ้นมา เขาวางไว้บนโต๊ะ และดึงดูดความสนใจไม่น้อย พวกเขาอยู่ในวงการธุรกิจมานาน ย่อมรู้ดีว่าบัตรธนาคารที่ใช้ หมายถึงอำนาจทางการเงินของคนนั้น"เอาบัตรธนาคารกระจอกมาทำไม หรือจะบอกว่าแกรวยเพราะมีมันเหรอ" มังกรพูดเสียงดังในขณะที่คนอื่นเงียบกริบ แม้แต่ภัทรกับวิโรจน์ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร"หุบปากก่อนไอ้ลูกเวร นั่งลง" อนันต์ตวาดด่าลูกชายที่โง่จนมองไม่ออกประธานใหญ่คนอื่น ๆ ต่างจับจ้องที่บัตรธนาคารของเอส แค่เห็นชื่อของธนาคารพวกเขาก็เหงื่อตก รู้โล่งที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แต่พอมองดูวิโรจน์ที่ปากดีตั้งแต่ต้น ดูถูกเขาทุกอย่าง ก็ทำให้พวกนั้นยิ้มเยาะ คราวนี้บริษัท F&M คงได้เปลี่ยนมือแล้วละ"คุณอเล็กซ์...เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง..." ภัทรพูดติดขัด รู้สึกงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น"อ่อ...เขาเป็นลูกค้าวีวีไอพีของเรานะครับ คงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขารวยจริง"ทุกคนอ้าปากค้างกับคำว่าวีวีไอพี ลูกค้าที่มีเงินในบัญชีแสนล้านขึ้นไปวิโรจ

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   ไม่ใช่ตัวแทนงั้นเหรอ

    "ได้...เรามาเริ่มกันดีกว่า พวกคุณบอกว่าผมไม่รวยจริง และ ไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัท BBOSS คุณทุกคนก็พิสูจน์ได้เลย" เอสพูดยืดยาว"แน่นอน พวกเรามีเบอร์ติดต่อของบริษัท BBOSS แค่โทรไปก็รู้แล้ว" ภัทรหยิบมือถือขึ้นมา"คราวนี้แกจะแก้ตัวยังไง ก็หนีไม่รอดหรอก" อนันต์กัดฟันพูด พร้อมกำหมัดขว่าแน่น"เตรียมตัวได้เลย รปภ รีบไปคุมตัวเขาไว้ก่อน เดี๋ยวพอถึงเวลาแล้วจะหนีไปได้" มังกรยิ้มมุมปาก แววตาแฝงไปด้วยแผนการพนิดานั่งฟังอย่างใจเย็น แต่ถึงขั้นนี้เธอคิดว่าเกินไป"หยุดนะ...เขายังไม่ผิดพวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไร"รปภ ร่างกำยำสามคนหยุดนิ่ง เพราะไม่กล้าขัดคำสั่ง ตอนนี้จึงรอให้ผู้มีอำนาจตัดสินกันเองค่อยลงมือตาม"เธอกล้าดียังไง คิดว่าตัวเองเป็นใครเหรอ หลังจบเรื่องนี้เธอต้องถูกทำโทษแน่ ใช่ไหมครับคุณภัทร"อนันต์ตะคอกใส่ ไม่ไว้หน้าประธานเลยสักนิด ก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มให้ภัทร เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรกับ หลานสาวตน"ฉันจะจัดการเธอทีหลัง ตอนนี้จับตัวมันไว้ได้แล้ว"รปภ รับคำสังจึงเดินเข้าไปหาเอส แต่พวกเขาก็ต้องหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงของอเล็กซ์"พวกคุณไม่ให้เกียรติผมเลยนะครับ อยู่ต่อหน้าผมยังทำตัวแบบนี้ได้เหรอ" เขาพู

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   แพ้อย่างสมศักดิ์ศรี

    "คุณอเล็กซ์ครับ ผมขอยืมเงินคุณได้ไหม พอดีอยากเอาไปพนันเล่นนิดหน่อย" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์อเล็กซ์อดขำในใจ คนที่มีเงินเยอะกว่าเขาเนี่ยนะ จะมาขอยืมเงิน แต่ถึงยังไงก็ต้องเล่นไปตามน้ำ เรื่องสนุกต่อจากนี้ต่างหาก"ได้สิ ผมจะรับประกันเอง อยากรู้ว่าเขาจะจัดการยังไง ถ้าความจริงถูกเปิดเผย""ขอบคุณ...ได้ยินแล้วใช่ไหม"ทั้งสามคนยิ้มเยาะก่อนจะกันมาหาอเล็กซ์ พวกเขาไม่คิดว่าเอาจะถูกช่วยไว้ เพราะภัทรอยากให้เอาเดิมพันชีวิต เขาจะได้ทรมานให้สาสมที่กล้ามาขวางทาง"เอ่อ...ผมว่าไม่ต้องถึงมือคุณอเล็กซ์ก็ได้ครับ เอาอย่างนี้เดิมพันชีวิตของนาย" มังกรหันไปพูดกับเอสในตอนท้าย"ใช่แล้ว ถึงแพ้เขาก็ไม่มีปัญญาจ่าย ให้เขาใช้ชีวิตตัวเองแทนดีกว่า""ได้...ใครกลัว"ทุกอย่างเข้าแผนของพวกเขา ตอนนี้มีอเล็กซ์เป็นพยาน ไม่ว่ายังไงพวกเขาคงคิดว่าชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เอสนั่งเผชิญหน้ากับทั้งสามคน โดยมีคนอื่น ๆ ที่มีหน้ามีตาในวงการธุรกิจ นั่งเป็นพยานด้วย อย่างเช่น อเล็กซ์ กับประธานใหญ่บริษัทอื่นจากการสังเกตพวกเขา มานานเอาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งหมดเป็นเพราะนิสัย และ สันดานเดิมคล้ายกัน ไม่ว่าใครก็เลวพอกัน ต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status