ログインเอส ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแทบไม่ทัน หลังจากถูกปลุกด้วยเสียงมือถือ ปลายสายบอกว่าเวลาเก้าโมงต้องเข้ามาทำสัญญาการลงทุน เขาไม่เสียเวลาคิดลนลานอย่างที่เห็น
ตอนนี้สายตายังคงพร่ามัวแต่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าเมื่อคืนเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ทั้งที่ใส่เต็มแรงไม่เคยยัง เป็นเพราะอะไรนะ แถมร่างกายยังดูแข็งแรงขึ้นด้วย “ระบบออนไลน์แล้ว ยินดีด้วยบอสกลายเป็น เลเวล1 แล้ว” เสียงจากระบบที่หายไปกลับมาแล้ว “หมายความว่า...อะไร” “บอสได้รับการปรับโครงสร้างทางร่างกาย เพิ่มศักยภาพของร่างกาย สติปัญญา และได้รับทักษะพิเศษ: การลงทุนเหนือระดับ” ถ้าเป็นแบบนั้นมันไม่สุดยอดไปเลยเหรอ ระบบอยู่ในมือก็เหมือนเป็นพระเจ้า “แต่ ๆ ตอนนี้บอสจะต้องสำเร็จภารกิจเพื่อเพิ่มเลเวล รวมถึงเงินลงทุนด้วยนะ" “ทำไมไม่เหมือนครั้งที่แล้ว? ไม่ได้พูดแบบนี้นะ" “เพราะตอนแรก...ระบบไม่สมบูรณ์ จึงเกิดข้อผิดพลาด อีกอย่าง...ระบบจะคิดดอกเบี้ยที่ยืมเงินไปด้วย 30%” “ห๊ะ...ทำไมถึงคิดดอกเบี้ยโหดขนาดนี้” เอสร้องออกมาในใจ ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร ปกติเขาคิดแค่ 15-20% เจ้าระบบคอยดูเถอะ “ตอนนี้ ภารกิจแรกคือลงทุนให้ได้กำไร 300%” “ใครจะทำกำไรได้ขนาดนั้น ในยุคนี้ 20% ก็มากแล้วนอกเสียจากจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด" ระหว่างที่พูดในหัวก็เหมือนจะมีวิธีอยู่ ราวกับเขาเป็นอัจฉริยะ นี้คงจะเป็นผลจากการเพิ่มเลเวลใช่ไหม ก็พอจะเป็นไปได้อยู่ เสียงแผ่วเบาดังจากใต้ผ้าห่ม “ตื่นแล้วเหรอ...ทำไมรีบร้อนจัง?” เอสหันไปเห็นเพียงเสี้ยวใบหน้าของมินนี่ที่โผลออกมาจากผ้าห่มผื่นบาง ดวงตาคู่นั้นแดงนิด ๆ แก้มขึ้นสี ผิวขาวเนียนแม้ไรเคืองสำอาง แถมยังนุ่มอีก “ไม่ชอบ...เหรอ” ใบหน้าสวยถามซ้ำเมื่อชายตรงหน้าไม่พูอะไร แถมยังจ้องเธอนิ่ง ๆ เธอกลัวว่าเขาจะเข้ามาเล่นสนุกเพียงชั่วคราว ดูจากท่าทางคงจะรีบร้อนมากด้วย “ชอบสิ...แต่มีธุระด่วน" บอกตามตรงว่าไม่อยากไปจากตรงนี้เลย “ค่ะ...ไปเถอะ” เธอตอบเสียงเรียบ สายตายังคงเว้าวอน จ้องมองเขาราวกับว่าไม่ต้องการให้ไปตอนนี้ แต่ก็ไม่อยากทำตัวน่าสมเพชต่อหน้าเขา “ทำไม...อยากให้อยู่ต่ออีกเหรอ...เมื่อคืนยังไม่พอสินะ” เอสโน้มตัวลงไปนอนข้าง ๆ สวมกอดร่างบางใต้ผ้าห่มเอาไว้ ทำเอาแก้มสวยแดงเป็นพริกสุก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้อยากอยู่แบบนี้ไปอีกนาน ๆ “ไม่เอาแล้ว...เจ็บ" น้ำเสียงไม่จริงจัง แต่ยังหันหน้าเขามาซุกอกกว้างของเอส เขาจึงขยับหน้าเขาไปใกล้ ลมหายใจรดต้นคอขาว ทำเอามินนี่ใจเต้นโครมคราม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่เจ็บหรอก...เดี๋ยวก็ฟิน” “ไปทำงานเลย...ไหนว่าจะไปแล้ว” “ไม่ทันแล้ว...เธอปลุกมันเองนะ” มินนี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าหื่นกระหายของผู้ชายตรงหน้า ข้างล่างยังถูกอะไรแข็ง ๆ ดันท้องน้อยอยู่พักนึงแล้ว ก่อนจะไปก็ขอชื่นใจสักหน่อยแล้วกัน มีเวลาอยู่นิดหน่อยก็ใช้ให้เป็นประโยชน์สิ... เอสมาถึงอาคาร บริษัท F&M ตามที่เวลากำหนดอย่างฉิวเฉียด หลังจากแจ้งพนักงานหน้าล๊อบบี้เขาจึงถูกพามาที่ห้องพิเศษ พอเดินเข้ามาข้างในสายตาของเขากวาดมองดูรอบ ๆ มีคนอยู่ประมาณสามสิบคน ห้องนี้ก่อนจะถูกพนักงานเรียกตามบัตรคิวในมือ ของเอสคือหมายเลข 88 “เชิญหมายเลข 5 ” “ครับ” สายตาเบื่อหน่ายเริ่มแสดงออกมา เขาอุสาห์ทิ้งสาวสวยเพื่อรีบมา สุดท้ายต้องรอคิวจนรากงอกอยู่ตรงนี้อีกเหรอ เขามองดูตั๋วในมือคือหมายเลข 88 แสดงว่าวันนี้มีหลายคนที่มาทำสัญญา “หมายเลข 10 เชิญค่ะ” ในเมื่อกว่าจะถึงคิวตัวเอง และไม่ชอบมีคนเยอะก็ต้องลงไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า ขยับตัวลุกขึ้นจากที่นั่งโดยที่ไม่มีใครสนใจ เพราะพนักงานส่วนใหญ่คอยดูแลแต่คนที่ถือบัตรคิว 1-30 และมีที่นั่งพิเศษเอาไว้ด้วย ด้านล่างตึกมีคาเฟ่สวย ๆ อยู่ด้วย ที่นี่ดูเงียบสงบพอสมควร มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ทว่าสายตาของเขาสะดุดกับใบหน้าสวย ๆ หุ่นเพรียวบางเข้ากับชุด สายตาคมเป็นประกาย ผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านเขาไป กลิ่นน้ำหอมราคาแพงยังติดจมูก จนเขาหันไปมองแผ่นหลังที่เดินไป “เป๋นเธอเอง?” ผู้หญิงที่เจอวันนั้น ตอนงานรวมตัวนักลงทุน เธอมานั่งคุยกับคนสองคนที่โต๊ะโซนวีไอพี พอดีมีโต๊ะที่อยู่ใกล้พอจะฟังอะไรได้บ้าง เขาเลือกนั่งที่นั้น แล้วสั่งอาหารมากินสองสามอย่าง ทว่าตอนนี้เขาสามารถฟังการสนทนาของพวกเขาได้ราวกับนั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน ทั้งที่อยู่ห่างเกือบสิบเมตร “หรือเป็นเพราะระบบ? แต่ก็สุดยอดมากเลย” เอสนั่งฟังพวกเขาคุยเรื่องธุรกิจ ทว่าคำพูดของเธอน่าจะแสดงออกว่าเสียเปรียบ คนที่เธอคุยด้วยคือนักลงทุนรายใหญ่ของประเทศ พวกเขาคุยกับเธอเพียงคนเดียว ส่วนผู้ช่วยอยู่อีกโต๊ะ “อยากให้ฉันลงทุนกับเธอ ต้องทำให้ฉันพอใจก่อน อันที่จริงจะลงทุนกับบริษัทไหนพวกเราก็ทำกำไรอยู่แล้ว" “หมานความว่าอะไร?” “เธอยังสาว ยังสวย น่าจะรู้ดีนะ ว่าคนอย่างฉันต้องการอะไร เงินทองก็มีมากแล้ว เหลือแค่สาวสวยอย่างเธอ” “ตลอดเวลาการลงทุน มาทำให้ฉันพอใจทุกครั้งที่ต้องการ แบบนี้การลงทุนถึงจะยั่งยืน” เสียงของเธอขาดหายไป อยากรู้คำตอบของเธอว่าจะเลือกทางไหน ทางที่ง่าย หรือทางที่มองไม่เห็นอะไร เท่าที่รู้บริษัทของเธอกำลังจะจบจริง ๆ แต่ถ้ายอมทุกอย่างแล้วเขาไม่ทำตาม คราวนี้คนที่จะจบคงเป็นเธอแน่นอน “ฉัน...ขอคิดดูก่อนค่ะ” “ฉันไม่ชอบคนคิดนาน...เป็นนักธุรกิจเขาไม่ลังเลหรอกนะ” “ถ้าฉันเป็นหนูคงจะตกลงแล้ว มีคนใหญ่คนโตหนุนหลังให้ไม่ดีเหรอ” เสียงของชายอีกคนค่อนข้างมีอายุหน่อยพูดเสริม ทำให้ยิ่งกดดันมากขึ้น เธอจะเลือกอะไร คำตอบในหัวของเอสชัดเจนมาก เธอจะเลือกยอมทุกอย่างแน่นอน เพราะมันคุ้มค่ากว่า “ถ้าเธอเลือกแบบนั้น ฉันคงต้องหาบริษัทอื่นแล้วจริง ๆ...บริษัทพลังงาสะอาดน่าสนใจไหม?” “ข้อมูลบริษัทพลังงานสะอาด ตอนนี้มีหลายบริษัทที่น่าจับตา ถ้าอยากลงทุนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก” ระบบตอบกลับมาอย่างกับผู้เชี่ยวชาญ ในหัวของเขาก็มีบริษัทหลายแห่งที่น่าสนใจ คงจะช่วยไม่ได้แล้วสินะ"อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยเหลือประเทศ หรือเห็นแค่กำไรเหมือนบางคนพูด เพราะมีแค่ทางนี้ที่พอเป็นไปได้"เอสพูดน้ำเสียงหนักแน่น ตรงไปตรงมาที่สุด พร้อมกับหันมาส่งสายตามองยาหยีเธอกำลังจะตอบกลับ แต่ถูกบิดาห้ามเอาไว้ก่อน คราวนี้เธอยอมเชื่อฟัง แล้วส่งสายตาไม่พอใจใส่เอส'ก็แค่พวกเห็นแก่ตัว จะหวังดีอะไร'เอสนั่งรอคำตอบจากทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากัน แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ง่าย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เขากู้เงินไปทำการวิจัย แต่เพราะระบบห้ามณัทพงศ์ครุ่นคิดเงียบ ๆ เขาจะสามารถไว้ใจคนอื่นได้เหรอ เพราะแม้แต่ในหน่วยงานรัฐยังมีคนของพวกนั้นแฝงตัวอยู่ ถ้าหากสิ่งที่กำลังจะผลิตหลุดออกไป พวกนั้นคงรู้ตัว และลงมือจัดการเสียก่อน'จะทำไงดี...ไม่มีทางอื่นอีกเหรอ'"เอาเป็นว่าเรื่องนี้ฉันคงต้องปรึกษากันก่อน แล้วจึงให้คำตอบนะ"เข้าดูลังเลจริง ๆ เพราะยังไม่ไว้ใจเอส จึงอยากขอเวลาคิดอีกหน่อย"ได้ครับ...ผมยินดีช่วย""ขอบคุณมาก มีคนแบบนะเธอประเทศชาติคงพัฒนาไปอีกระดับแน่"เอสยิ้มตอบก่อนจะขอตัวกลับ พร้อมอเล็กซ์ที่เดินออกมา ทว่าก่อนจะออกจากบ้าน ทั้งสองต้องหยุดเท้าที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะสาวสวยเดินมาขวา
ทหารติดอาวุธพอเห็นหน้าทั้งสองก็เหมือนจะรู้จักอเล็กซ์ พวกเขาไม่ได้ห้าม พร้อมกับเปิดประตูให้ทั้งสองเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูไว้เหมือนเดิมเอสมองรอบห้องโถงขนาดใหญ่ ราวกับพระราชวัง ทุกซอกทุกมุมตกแต่งด้วยของเก่า ทำให้ได้กลิ่นบรรยากาศของยุคนั้น เอสสะดุดกับชุดโซฟาตรงกลางชุดโซฟาดูไม่ธรรมดา มีลวดลาย และดีไซน์สวยงาม เข้ากับการตกแต่งห้อง และคนสองคนที่นั่งอยู่ ทำให้เอสประหม่าเล็กน้อย"มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ" ชายวัยหกสิบกว่า รูปร่างกำยำเอ่ยปากเชิญ"สวัสดีครับ"ทั้งสองคนกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งลงช้า ๆ ด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะเอส ที่เพิ่งเคยเจอคนใหญ่คนโตของประเทศ ทำให้รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รนรานมาก"นี่คือ...คนที่พูดถึงเหรอ"ชายคนนั้นถามขึ้น พร้อมกับสายตาที่มองสำรวจเอส เขาดูตกใจไม่น้อย หลังจากสืบข้อมูลของเขา จากคนที่ล้มเหลวที่สุด กลายเป็นคนที่รวยเทียบเท่ามหาเศรษฐี ในเวลาไม่ถึงเดือน ทำให้นายทหารทึ่งในตัวเขามาก'เบื้องหลังของคุณคืออะไรกันนะ คนที่ฉันไม่สามารถตรวจสอบได้เลยเหรอ'ประธานใหญ่ BKAS หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะแนะนำตัวให้ทั้งสองคนรู้จัก คนที่ถามก่อนหน้า คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไป อย่างครื้นเครงแม้ว่าบริษัทซัพพลายเออร์หลายแห่งจะทยอยกลับ แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังอยู่ แต่น้อยจนนับนิ้วได้ทำให้สีหน้าของวิโรจน์ไม่ค่อยพอใจ เพราะแบบนี้บริษัทจะไปรอดยังไง แต่ในสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากเตรียมตัวปรับโครงสร้าง และ ประธานใหญ่ไม่ใช่เขา แต่คือตัวแทนบริษัท BBOSSพนิดาเดินมานั่งพัก หลังจากทักทาย และสานสัมพันธ์กับแขกในงาน เธอดื่มไปเยอะจนแก้มแดงทั้งสองข้าง"หึ...แกคงพอใจสินะ บริษัทกำลังจะจมลงเหวแบบนี้ พวกแกจะทำให้บริษัทพังไม่เป็นท่า"อนันต์นั่งอยู่ข้างวิโรจน์ ที่ยังนั่งอยู่ กับหลานชาย และคนอื่นที่ยอมรับความจริงไม่ได้ พวกเขาไม่อยากกลับไป เพราะไม่สามารถข่มตาหลับลงได้"ทำไมคุณลุงพูดแบบนั้นละคะ การปรับโครงสร้างเป็นวิธีบริหารแบบสากล มีความโปร่งใส และ ทำให้บริษัทก้าวหน้ากว่าเดิม นี่ถึงจะเป็นประโยชน์ของบริษัท"'ทำไมยังไม่เข้าใจ หรือไม่อยากเสียผลประโยชน์ที่เคยได้ มากกว่าเงินปันผลเหรอ'พนิดาตอบกลับ พร้อมสีหน้าสงสัยในตัวของลุง เธอไม่เคยเห็นเขาคิดเพื่อบริษัทสักครั้ง คิดแต่จะทำยังไงให้ได้เงินเข้ากระเป๋ามากขึ้นพอเธอพูดแบบนั้นยิ่งท
"เรื่องนี้พิสูจน์ง่ายมาก ใช่ไหม" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์"หมายความว่าไง ก็เห็นชัดว่าแกทำธุรกิจสีเทา หรือไม่ก็แกล้งรวยยังไง" มังกรอดไม่ได้รีบตอบเอสยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบบัตรธนาคารสีดำด้านขึ้นมา เขาวางไว้บนโต๊ะ และดึงดูดความสนใจไม่น้อย พวกเขาอยู่ในวงการธุรกิจมานาน ย่อมรู้ดีว่าบัตรธนาคารที่ใช้ หมายถึงอำนาจทางการเงินของคนนั้น"เอาบัตรธนาคารกระจอกมาทำไม หรือจะบอกว่าแกรวยเพราะมีมันเหรอ" มังกรพูดเสียงดังในขณะที่คนอื่นเงียบกริบ แม้แต่ภัทรกับวิโรจน์ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร"หุบปากก่อนไอ้ลูกเวร นั่งลง" อนันต์ตวาดด่าลูกชายที่โง่จนมองไม่ออกประธานใหญ่คนอื่น ๆ ต่างจับจ้องที่บัตรธนาคารของเอส แค่เห็นชื่อของธนาคารพวกเขาก็เหงื่อตก รู้โล่งที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แต่พอมองดูวิโรจน์ที่ปากดีตั้งแต่ต้น ดูถูกเขาทุกอย่าง ก็ทำให้พวกนั้นยิ้มเยาะ คราวนี้บริษัท F&M คงได้เปลี่ยนมือแล้วละ"คุณอเล็กซ์...เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง..." ภัทรพูดติดขัด รู้สึกงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น"อ่อ...เขาเป็นลูกค้าวีวีไอพีของเรานะครับ คงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขารวยจริง"ทุกคนอ้าปากค้างกับคำว่าวีวีไอพี ลูกค้าที่มีเงินในบัญชีแสนล้านขึ้นไปวิโรจ
"ได้...เรามาเริ่มกันดีกว่า พวกคุณบอกว่าผมไม่รวยจริง และ ไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัท BBOSS คุณทุกคนก็พิสูจน์ได้เลย" เอสพูดยืดยาว"แน่นอน พวกเรามีเบอร์ติดต่อของบริษัท BBOSS แค่โทรไปก็รู้แล้ว" ภัทรหยิบมือถือขึ้นมา"คราวนี้แกจะแก้ตัวยังไง ก็หนีไม่รอดหรอก" อนันต์กัดฟันพูด พร้อมกำหมัดขว่าแน่น"เตรียมตัวได้เลย รปภ รีบไปคุมตัวเขาไว้ก่อน เดี๋ยวพอถึงเวลาแล้วจะหนีไปได้" มังกรยิ้มมุมปาก แววตาแฝงไปด้วยแผนการพนิดานั่งฟังอย่างใจเย็น แต่ถึงขั้นนี้เธอคิดว่าเกินไป"หยุดนะ...เขายังไม่ผิดพวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไร"รปภ ร่างกำยำสามคนหยุดนิ่ง เพราะไม่กล้าขัดคำสั่ง ตอนนี้จึงรอให้ผู้มีอำนาจตัดสินกันเองค่อยลงมือตาม"เธอกล้าดียังไง คิดว่าตัวเองเป็นใครเหรอ หลังจบเรื่องนี้เธอต้องถูกทำโทษแน่ ใช่ไหมครับคุณภัทร"อนันต์ตะคอกใส่ ไม่ไว้หน้าประธานเลยสักนิด ก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มให้ภัทร เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรกับ หลานสาวตน"ฉันจะจัดการเธอทีหลัง ตอนนี้จับตัวมันไว้ได้แล้ว"รปภ รับคำสังจึงเดินเข้าไปหาเอส แต่พวกเขาก็ต้องหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงของอเล็กซ์"พวกคุณไม่ให้เกียรติผมเลยนะครับ อยู่ต่อหน้าผมยังทำตัวแบบนี้ได้เหรอ" เขาพู
"คุณอเล็กซ์ครับ ผมขอยืมเงินคุณได้ไหม พอดีอยากเอาไปพนันเล่นนิดหน่อย" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์อเล็กซ์อดขำในใจ คนที่มีเงินเยอะกว่าเขาเนี่ยนะ จะมาขอยืมเงิน แต่ถึงยังไงก็ต้องเล่นไปตามน้ำ เรื่องสนุกต่อจากนี้ต่างหาก"ได้สิ ผมจะรับประกันเอง อยากรู้ว่าเขาจะจัดการยังไง ถ้าความจริงถูกเปิดเผย""ขอบคุณ...ได้ยินแล้วใช่ไหม"ทั้งสามคนยิ้มเยาะก่อนจะกันมาหาอเล็กซ์ พวกเขาไม่คิดว่าเอาจะถูกช่วยไว้ เพราะภัทรอยากให้เอาเดิมพันชีวิต เขาจะได้ทรมานให้สาสมที่กล้ามาขวางทาง"เอ่อ...ผมว่าไม่ต้องถึงมือคุณอเล็กซ์ก็ได้ครับ เอาอย่างนี้เดิมพันชีวิตของนาย" มังกรหันไปพูดกับเอสในตอนท้าย"ใช่แล้ว ถึงแพ้เขาก็ไม่มีปัญญาจ่าย ให้เขาใช้ชีวิตตัวเองแทนดีกว่า""ได้...ใครกลัว"ทุกอย่างเข้าแผนของพวกเขา ตอนนี้มีอเล็กซ์เป็นพยาน ไม่ว่ายังไงพวกเขาคงคิดว่าชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เอสนั่งเผชิญหน้ากับทั้งสามคน โดยมีคนอื่น ๆ ที่มีหน้ามีตาในวงการธุรกิจ นั่งเป็นพยานด้วย อย่างเช่น อเล็กซ์ กับประธานใหญ่บริษัทอื่นจากการสังเกตพวกเขา มานานเอาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งหมดเป็นเพราะนิสัย และ สันดานเดิมคล้ายกัน ไม่ว่าใครก็เลวพอกัน ต







