แชร์

บทที่9

ผู้เขียน: อาภาลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 23:13:23

ณ ตึกแถวหัวมุม

"เจ่เจ้จินจิน ทำไมต้องซื้อข้าวของเยอะขนาดนี้ด้วย"น้องชายตัวผอมบ่นกระปอดกระแปด มือเล็กแต่หยาบช่วยบรรดาเฮียๆ ผู้ซึ่งเป็นลูกจ้างขนของเข้าบ้านมีทั้งหม้อ กระทะหลายขนาด ตะหลิวทัพพี อะไรที่ควรมียัยเจ่เจ้หน้าสวยตัวแสบขนซื้อมาหมด

"ของมันต้องใช้"คนเป็นพี่ตอบเสียงเรียบ มือเรียวสวยจัดแจงแยกผัก แยกหมูไข่ใส่ตู้เย็น เฟยเทียนได้แต่เบ้ปาก...ตั้งแต่จำความได้ชีวิตที่เติบโตมาด้วยกัน..พี่สาวเขาไหนเลยเคยเข้าครัว...ถ้าเป็นเจ่เจ้เซียงเซียงก็ว่าไปอย่าง 

บ้านตระกูลอื่นลูกสาวเมียรองอาจต้องเก่งงานบ้านงานเรือนงานครัว ดูแลปรนนิบัติผู้สูงวัยในตระกูล ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นครอบครัวเขานี่แหละ ตั้งแต่อาปาพาลูกสาวอันเกิดจากภรรยาที่รักกลับบ้าน ชีวิตของจินเยว่ก็ราวกับเจ้าหญิง งานบ้านงานเรือนเป็นหน้าที่ของม๊าใหญ่กับพี่สาวคนโต ส่วนอาปากับเฮียคังคือคนหาเงินเข้าบ้าน ส่วนลูกชายคนเล็กแบบเขายังมีหน้าที่ช่วยอาปา อาม๊าหยิบจับงานเล็กๆ น้อย 

เขายังจำได้ครั้งหนึ่งในวัยแรกรุ่น เจ่เจ้เซียงเซียงมีนัดกิจกรรมในวันหยุดที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ ส่งผลให้วันนั้นเจ้ไม่ได้ซักชุดนักเรียน กับถุงเท้าของเจ่เจ้จินจิน...พอเจ่เจ้เซียงเซียงกลับบ้านมา...จึงโดนม๊าใหญ่ดุ โดยมีคนเป็นพ่อนั่งหน้าขรึมจิบชามอง ข้างตัวมีน้องสาวที่ยิ้มเย้ยๆ ไม่ต้องสืบว่าคนฟ้องคือใคร

'ทำไมละม๊า เสื้อผ้าก็ไม่ใช่ของอั้ว ทำไมม๊าไม่ให้จินจินทำเอง'

'มันเป็นหน้าที่ลื้อที่ต้องดูแลน้องนะ อาเซียงเซียง'คนเป็นแม่แท้ๆ เถียงไม่เห็นด้วย

'เหอะ น้องที่อายุห่างกันเพียงสองปี งั้นทำไมเฮียคังไม่ซักผ้า ทำความสะอาดบ้านให้อั้วบ้างละ!'

'เซียงเซียง นี้ลื้อเถียงม๊าเหรอ คิดได้ยังไงให้เฮียมาทำให้ ลื้อนี้มันไม่ได้เรื่อง'

'อาม๊า นี้อั๊วลูกแท้ๆ ของม๊านะ ทำไมม๊าต้องไปเข้าข้างอีลูกเมียรองด้วย โตจนหมาเลียก้นไม่ถึง งานบ้านงานเรือนก็ทำไม่เป็น ผู้หญิงแบบนี้ผู้ชายที่ไหนเขาจะเอา'คนเป็นพี่พรั่งพรูด้วยความรู้สึกน้อยใจ ปนกรุ่นโกรธ ซึ่งคำว่า 'ลูกเมียรอง' มีผลให้น้องสาวเพียงคนเดียวไม่พอใจ และคนเป็นพ่อโกรธหนักมาก เสียงกระแทกแก้วชากระทบโต๊ะดังลั่นห้อง

'ลื้อพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงอาเซียงเซียง ลูกเมียรองก็ลูกอั้วเหมือนกัน ทำไมลื้อจะแบ่งแยกพี่แบ่งแยกน้องอย่างนั้นรึ'เสียงดุเข้มของอาปาผู้เป็นเสาหลักของบ้าน ส่งผลให้คนเป็นเมียเริ่มตัวสั่น ส่วนลูกสาวผู้ไม่ได้เป็นที่รักทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาไม่ยินยอมพร้อมใจกับความอยุติธรรมที่ได้รับ เมื่อร่างบอบบางตรงหน้านิ่งเงียบไม่ขอโทษ คนหาเงินเข้าบ้านจึงหันไปตำหนิ ใส่อารมณ์กับผู้เป็นนายหญิงของบ้านแทน

'อาหลิน ลื้อเลี้ยงลูกสาวยังไง อีถึงเป็นคนไม่เอาพี่เอาน้อง หรือลื้อเสี้ยมให้พี่น้องไม่รักกัน' 

'ไม่ใช่แบบนั้นนะ เฮียกัง คืออั้ว'หญิงสาววัยกลางคนหน้าซีด อ้ำอึ้งพยายามคิดคำเพื่ออธิบายให้สามีฟัง 'เซียงชุน' ผู้มีฐานะเป็นลูกสาวคนโตเห็นดังนั้น ยิ่งน้อยใจ

'ม๊าไม่ต้องไปอธิบายให้อาปาอีฟังหรอก อาปาก็แค่คนรักลูกไม่เท่ากัน!! อั้วไม่มีวันยอมรับอีเด็กจีนก็ไม่ใช่ ไทยก็ไม่แท้นั่นเป็นน้องเด็ดขาด!'น้ำเสียงประชดประชันเย้ยหยันของเด็กหญิงที่ยังไม่โตเป็นสาวเต็มตัว กระตุ้นความโมโหของคนเป็นพ่อได้ชะงัก ร่างสูงใหญ่ผิวขาวจัดวัยกลางคนเข้าไปดึงคอเสื้อเด็กสาว...มือหนาหยาบจากการทำงานมาตลอดชีวิตฟาดบนแผ่นหลังเล็กๆ นั่นไม่ยั้ง ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของลูกๆ ซึ่งคนเป็นแม่แท้ๆ พยายามเข้าไปห้ามปราบแต่ก็สู้แรงคนเป็นสามีไม่ไหว  เสียงคร่ำครวญเจ็บปวดของพี่สาวคนโต ผสมกับเสียงบุพการีสบถด่าลูกสาวว่าไม่รักดี.. ยังคงติดในใจเด็กชายตัวน้อย..และเหตุการณ์ตอนนั้นจบลงไปได้ เมื่อลูกรักคนเดียวของบ้านเดินหน้าซีดเข้าไปขอร้อง...มนุษย์พ่อจอมลำเอียงถึงยอมรามือ 

'จำไว้นะอาเซียงเซียง ให้ตายยังไงจินจินก็คือน้องของลื้อ..ลื้อนะใจดำ แทนที่จะเห็นใจน้องที่สูญเสียแม่แท้ๆ ตั้งแต่เล็กกลับไปดูถูกอี ทำไมไม่ใช่ลูกจีนแท้แล้วยังไง อั้วถามว่าแล้วยังไง!'

แน่ละ ณ เวลานั้นสิ่งที่ได้รับกับเป็นเสียงร้องไห้ของทั้งลูก และเมียเป็นรางวัลตอบแทน

เมื่อลูกจ้างบ้านร้านค้าส่งของหมดเรียบร้อยแล้ว สองศรีพี่น้องจึงจัดเรียงอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อความเรียบร้อย ห้องครัวจึงดูเป็นห้องครัวมากยิ่งขึ้น ดวงตาคมคู่สวยกวาดตามองโดยรอบด้วยความพึงพอใจ จะมีก็เพียงสิ่งเดียวที่เธอไม่มั่นใจ ก็คือเตาอั้งโล่จีนโบราณสีแดงที่ถูกวางอยู่ริมหน้าต่าง..เพราะยุคสมัยที่เธอหลงเข้ามายังไม่มีเตาแก๊ส..ใบหน้าสวยหวานเต็มไปด้วยความกังวล และนั่นไม่พ้นสายตาของเฟยเทียน

"อั้วละสงสารเฮียซาน มีเมียหรือมีตัวล้างผลาญก็ไม่รู้"คนที่มีสถานะน้องเมียบ่นอุบอิบ ทั้งยังถอนหายใจอย่างระอา ดวงตาคมคู่สวยของคนเป็นพี่ถึงกับเหล่มอง 

"หมายความว่ายังไงหึ? ถ้าฉันไม่ทำ จะให้ไปซื้อกินข้างนอกทุกวันหรือยังไง?"

"ทุกทีเจ้ก็ไปกินบ้านอาม่าย้งเกือบทุกมื้ออยู่แล้วนี่ เคยทำกินเองที่ไหน"

"อาม่าย้ง...ใคร?"

"ก็แม่สามีเจ้ไง นี้เจ้เป็นหนักแล้วนะ จำใครไม่ได้เลยเหรอ"

"..."

"เอาเถอะๆ เจ้อยากทำอะไรก็ทำ นี้เดี๋ยวอั้วล้างห้องน้ำอีกห้องอั้วก็กลับได้เลยใช่มั้ย"ไอ้ต้าวน้องชายบ่นอุบ เตรียมจะไปทำงานบ้านต่อ แต่คอเสื้อก็ยังถูกรั้งโดยพี่สาวตัวแสบ

"ใครสั่งให้ไป.. แล้วจะไม่อยู่กินข้าวกลางวันเหรอ?"เสียงหวานใสปนเจ้าเล่ห์จากเจ่เจ้คนสวย ส่งผลให้เด็กชายชะงัก ก่อนที่ดวงตาตี่เล็กจะเบิกกว้าง

"นี้ เจ้จะเลี้ยงข้าวกลางวันอั้วด้วยเหรอ"

"อื่ม"

และแล้วน้องชายตัวน้อยผู้ที่เห็นเรื่องกินมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็พร้อมทำทุกอย่างที่หญิงสาวสั่ง สิ่งแรกที่คนต่างภพทำคือสั่งการให้เด็กชายก่อไฟ ดวงตาคมคู่สวยเองก็แอบมองเพื่อจำวิธีการไปด้วย..ซึ่งเมนูวันนี้ที่เธอตั้งใจทำ เป็นเพียงเมนูง่ายๆ สองสามอย่าง  

ตอนที่เฟยเทียนก่อไฟเรียบร้อย เตาหนึ่งพี่สาวก็ตั้งหม้อเพื่อหุงข้าวสวย อีกเตาคนเป็นพี่ก็ตั้งกระทะ ก่อนจะใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ผัดลงไป กลิ่นผัดผักบุ้งไฟแดงหอมฉุยเรียกน้ำลายสอไม่น้อย เด็กชายมองมือเรียวสวยของคนเป็นพี่จัดแจงทุกอย่างด้วยความเพลิดเพลิน กริยาสง่าผสมกับความคล่องแคล่วทะมัดทะแมง ราวกับชินกับงานครัวมาตลอดชีวิต

"อั้วไม่เห็นรู้เลยว่าเจ้ทำกับข้าวเป็น"คำถามเรียบเรื่อยไม่คิดอะไรของน้องชาย ทำคนเป็นพี่ชักร้อนตัว..นึกกลัวว่าเด็กชายจะสงสัยว่าเธอเป็นวิญญาณหลงยุคเข้ามาสิงร่าง 

"แต่งงานแล้วก็ต้องฝึกซิ"ไอ้ต้าวหน้าสวยยังแถไปเรื่อย..ที่ไหนได้วิชาหุงข้าวบนเตาอั้งโล่ได้มาจากวิชาลูกเสือเนตรนารีสมัยประถมโดยแท้ ส่วนฝีมือทำกับข้าวก็มาจากที่ม๊ะม๊าเธอในชาติที่แล้วเปิดร้านอาหารตามสั่งออนไลน์ ส่วนตัวเธอก็เป็นลูกมือตั้งแต่จำความได้

"พึ่งฝึกซินะ แล้วแบบนี้จะกินได้มั้ยเนี่ย"คนเป็นน้องยังอุบอิบบ่น เล่นเอาพี่สาวคิ้วกระตุก..ร่ำๆ จะไล่ไอ้ต้าวน้องชายออกจากบ้านให้รู้แล้วรู้รอด กว่าข้าวจะหุงเสร็จ และต้มจับฉ่ายจะเรียบร้อยก็ใช้เวลาพอสมควร

หญิงสาวยกหม้อที่หุงข้าวสวยวางบนผ้า ก่อนจะสั่งให้เด็กชายคดข้าวใส่จาน..คนเป็นแขกรู้ความไม่ใช่น้อย เขาจัดแจงทำทุกอย่างที่พี่สาวสั่ง ทั้งยังหยิบจานข้าว รวมทั้งกับข้าวที่พี่สาวทำไปไว้บนโต๊ะกลมกลางห้อง แต่พอเห็นร่างเพรียวยังจัดแจงตั้งกระทะเพื่อทำเมนูอื่นเพิ่มอีก ถึงกับต้องแปลกใจ

"นั่นเจ้จะทำอะไรอีก"

"ทอดไข่เจียวไง นายตัวเล็กขนาดนั้นได้กินโปรตีนดีๆ บ้างมั้ย?"

"แต่เรามีกับข้าวหลายอย่างแล้วนะเจ้ ทั้งผัดผักบุ้ง ไหนจะต้มจับฉ่ายอีก"คนเป็นน้องชักไม่สบายใจ กลัวคนเป็นพี่จะหมดเปลืองเยอะ แล้วจะโดนพี่เขยดุ หญิงสาวตรงหน้ากับจดจ่อกับกระทะตรงหน้า มือเรียวสวยพลิกไข่สีเหลืองฟูกลิ่นหอมยั่วยวนกระเพาะเป็นที่สุด

"เป็นเด็กเป็นเล็กคิดอะไรมากหึ แค่ไข่ไก่ไม่กี่ฟองไม่ทำให้เจ้จนลงหรอกนะ อีกอย่างต้มจับฉ่ายทำไว้หม้อใหญ่ยังอุ่นกินได้หลายวัน ไม่หมดเปลืองหรอก"

"..."

"อายุยังน้อยอย่าปล่อยให้ตัวเองหิวโหยซิเข้าใจมั้ย?"น้ำเสียงหวานใส กับใบหน้างดงามราวรูปปั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ส่งผลให้ใจคนตัวเล็กอ่อนยวบ..นานแค่ไหนแล้วนะที่มีคนมาใส่ใจว่าเขาจะอิ่มจะอดมั้ย? เฟยเทียนไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์แค่มื้อไข่เจียวเล็กๆ นั่น จะติดเป็นความทรงจำที่ทำให้ใจฟูไปจนโต  

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ2

    ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ1

    ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่81 จบ

    รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่80

    "หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่79

    เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่78

    ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status