Share

กรงขังรัก ซุปตาร์
กรงขังรัก ซุปตาร์
Author: โอชิม่อน

1 - หนุ่มบ้านนา

last update Last Updated: 2025-10-12 16:57:22

หนุ่มบ้านนา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือที่ขนานเรียกกันติดปากว่า ‘ภาคอีสาน’ นั่นเอง ในพื้นที่ของถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในชนบท ปลายฤดูหนาว มีเพียงฝูงวัวควาย ที่ชาวบ้านต่างนำออกมาเลี้ยงที่กลางทุ่งนา เพราะเป็นช่วงที่ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว

บ้างก็ขุดปูหาปลาตามหนองน้ำ และน้ำที่พอยังขอดอยู่ตามซอกหลุมเล็ก ๆ (ปลาข่อน) เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้มีชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ส่วนคนหนุ่มสาวนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งหน้าสู่เมืองกรุงกัน เพื่อหางานทำเลี้ยงชีพต่อไป...

“บักหล่า แน่ใจแล้วบ้อลูก ว่าสิไปเรียนต่อกรุงเทพฯอีหลี” (ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯจริง ๆ) เสียงหญิงวัยสี่สิบปีเอ่ยถาม เมื่อลูกชายในวัยเพียงสิบแปดปี ซึ่งเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในบ้าน และเป็นลูกชายคนโต ยื่นรายชื่อนักศึกษาใหม่ที่ลูกชายสอบติดมาให้ดู

คำนาง หญิงวัย 40 ปี ตอนนี้กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อผู้เป็นสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยอุบัติเหตุ นับจากนั้นมาคำนางจึงทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้แก่ลูก ๆ ทั้งสอง และผู้เป็นแม่ในวัยชราด้วย

คำนางมีลูกสองคนเป็นชายและหญิงที่อายุห่างกันมาก ลูกชายคนโต(ลูกชายกก) มีชื่อว่า ชนาวิชญ์ หรือ บักวิด เป็นชื่อเรียกติดปาก ของคนที่สนิทมักใช้เรียกขานกัน พึ่งจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และกำลังจะเข้าไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่เมืองหลวง เพราะสอบได้ทุนติดที่นั่น

ส่วนคนที่สองนั้น คือลูกสาว(ลูกสาวหล่า) ซึ่งมีนามว่า ชนิดา หรือที่ทุกคนเรียกขานกันในนามของ หนูนิด เด็กหญิงอายุพึ่งได้ 7 ขวบ และพึ่งจบการศึกษาในระดับชั้นอนุบาล ลูกทั้งสองคนของเธออายุห่างกันตั้งสิบสองปี

เดิมทีคำนาง ตั้งใจที่จะมีลูกแค่คนเดียว เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ลูกสาวเลยกลายมาเป็นลูกหลงที่ห่างกันกับพี่ชายเป็นรอบ

“แน่ใจแล้วครับแม่ ไปอยู่กรุงเทพฯกะดีคือกัน สิได้ลดค่าใช้จ่ายแม่ทางนี้ แล้ววิดสิหางานเฮ็ดไปนำเลย” (แน่ใจแล้วครับแม่ ไปอยู่กรุงเทพฯก็ดีเหมือนกัน จะได้ลดค่าใช้จ่ายแม่ทางนี้ด้วย แล้ววิชญ์จะหาทำไปด้วยเลย) เสียงหนักแน่เอ่ยตอบคนเป็นแม่ออกไป เพราะตั้งใจแล้วว่าจะไปหางานทำและศึกษาเล่าเรียนต่อที่นั่น

ชนาวิชญ์ หนุ่มวัยเพียง 18 ปีกว่า ที่ตอนนี้เป็นเสาหลักของครอบครัวแทนผู้เป็นบิดา ต้องหารายได้ระหว่างเรียนในช่วงปิดเทอมและในวันหยุด เพื่อช่วยจุนเจือครอบครัว เพราะคิดว่าการที่ได้ไปอยู่ในเมืองแห่งความเจริญแบบนั้น จะสามารถหางานทำได้ง่าย และเงินจะดีกว่าทางนี้ เลยเลือกสมัครสอบชิงทุนตามคำแนะนำของครูที่ปรึกษาดู แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสอบติดจริง ๆ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากพอสมควร

และตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ระหว่างที่รอมหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียนนั้น เขาจะเดินทางไปล่วงหน้า เพื่อหางานทำก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิด เพื่อที่จะได้มีเงินส่งกลับมาให้แม่และน้องสาวที่บ้าน

“แล้วบักหล่าสิไปมื้อใด” (แล้วลูกจะไปวันไหน) เสียงของหญิงชรา ผู้เป็นยายถามขึ้นมา

ยายนา หญิงวัยชราในวัย 70 ปี ที่ร่างกายยังคงแข็งแรงดีอยู่ และยังเป็นคนที่ลี้ยงดูหลานชายเพียงคนเดียวมาตั้งแต่แบเบาะอีกด้วย

“ไปอาทิตย์หน้าเลยครับยาย วิดโทรฯไปบอกลุงหมานไว้แล้ว” (ไปอาทิตย์หน้าเลยครับยาย วิชญ์โทรฯไปบอกลุงหมานไว้แล้ว) เขาตอบผู้เป็นยายออกไปตามตรง

เพราะลุงหมานที่เขาเอ่ยถึง ก็คือลุงสมานที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับแม่ของเขา เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯตั้งแต่ยังหนุ่ม ๆ แถมอยากให้เขาเข้าไปทำงานด้วย เมื่อรู้ว่าหลานชายจะไปเรียนที่นั่น เพราะเขาปรึกษาเรื่องที่อยู่กับลุงหมานก่อน ค่อยมาบอกแม่และยาย

ส่วนเรื่องเรียน เขาไม่กังวลแล้ว เพราะเมื่อถึงเวลาเปิดเรียน เขาจะเข้าพักที่หอพักนักศึกษาแทน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย

*

*

*

*

สัปดาห์ต่อมา

และเมื่อถึงวันเดินทางจริง ๆ ที่ชนาวิชญ์ต้องจากบ้านเกิดไปอยู่เมืองกรุงจริง ๆ ผู้เป็นยาย จึงนำฝ้ายผูกแขนให้แก่หลานชาย และสร้อยคอทองคำ แต่เป็นลายสำหรับผู้หญิงน้ำหนักหนึ่งบาทให้แก่หลานชายไปด้วย เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่อยากจะมอบให้แก่หลานชาย

เขาเดินทางด้วยรถตู้ เพราะส่งถึงที่ จะได้ไม่ลำบากลุงหมานมารับด้วย และมีของฝากที่คนเป็นแม่ของเขานำไปให้ลุงหมานด้วย จึงเลือกนั่งรถตู้แทนรถบัสประจำทาง

เมื่อมาถึงที่พักของลุงหมาน ซึ่งเป็นตึกแถวอยู่ในชุมชน แถมยังใกล้กับมหาวิทยาลัยของเขาพอดี และลุงหมานเปิดร้านขายข้าวแกงอาหารตามสั่ง เขาจึงทำหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ช่วยงานเกือบสามเดือน โดยที่ไม่ขอรับค่าจ้างเลย เพื่อตอบแทนที่ลุงหมานและป้าสะใภ้ให้ที่อยู่อาศัยตน แต่ลุงหมานก็ให้เขาอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร แต่ลุงหมานก็หาวิธีอ้างจ่ายค่าจ้างอยู่ดี

*

*

*

สามเดือนต่อมา

 แล้วเมื่อถึงวันที่มหาวิทยาลัยเปิด และเขาก็ได้ย้ายออกไปอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยแทน ส่วนทุกวันหยุดก็จะเข้ามาช่วยลุงหมานและป้าสะใภ้อยู่ตลอดเหมือนเช่นเดิม

และวันนี้หนึ่งเดือนเต็มแล้วที่เขาเป็นนักศึกษาอย่างเต็มตัว เขายังไม่มีเพื่อนหรือใคร เพราะเขาเป็นคนที่พูดน้อย และไม่กล้าที่จะเข้าไปหาใครก่อน

เขากำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะฯ เมื่อเดินออกมาจากตึกในช่วงก่อนเวลาพักกลางวัน แต่สายตาดันสะดุดเข้ากับอะไรบ้างอย่างที่ล่วงอยู่ หลังจากหญิงสาวพึ่งจะลุกออกไปได้ไม่ไกลมากนัก เขาหยิบมันขึ้นมา แล้วตามเอาไปให้หญิงสาวทันที

“ขอโทษครับ นี่ใช่กระเป๋าสตางค์ของพี่หรือเปล่า พอดีผมเห็นว่ามันตกอยู่ที่พื้นตรงโต๊ะหินอ่อนที่พี่นั่งอยู่ ก่อนที่ผมจะไปนั่ง” เขาเอ่ยเรียกตามหลังหญิงสาวที่กำลังเดินออกไป ดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่ แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอทันที

หญิงสาวหยุดชะงักนิ่ง เพราะยังอึ้งที่คนร่างสูงตรงหน้าใบหน้าหล่อเหลาเอาการถึงแม้จะไม่ถึงขั้นที่ว่าฟ้าประทาน แต่ใบหน้าเจ้าเสน่ห์สามารถทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ได้ ก่อนที่จะพยักหน้ารับเมื่อตั้งสติได้

“ใช่จริง ๆ ด้วย ขอบคุณนะ” เธอรับกระเป๋าสตางค์มาจากมือของเขา แล้วเขาก็จากไปทันที โดยที่เธอเอ่ยเรียกไว้ไม่ทัน เพราะอยากตอบแทนเขา อย่างน้อยก็เลี้ยงน้ำเขาก็ยังดี

นับแต่จากนั้นมาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย หญิงสาวรู้สึกแปลกใจ ทั้งที่อยู่คณะเดียวกัน ทำไมไม่เจอหน้าชายหนุ่มปีหนึ่ง ผู้หวังดีคนนั้นเลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   6 - ชอบกลิ่นนี้

    ชอบกลิ่นนี้“ถ้าฉันพูดออกไป แล้วนายจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า อีกอย่างนายจะไม่ต่อว่าไม่โกรธฉันใช่ไหม แล้วนายจะไม่คิดว่าฉันใส่ร้ายเมย์เหรอ” เธอลองถามดูเชิงขึ้นมาก่อน เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนมาก เธอก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเท่าไหร่นัก“ก็ลองเล่ามาก่อนสิ” ตอนนี้เขามีท่าทีที่ดูปกติ ไม่ได้แสดงกิริยาอะไรออกมา เหมือนคนที่กำลังอกหักอยู่ก่อนหน้านั้นเลย“นายเป็นแฟนกันกับเมย์ แล้วที่นายดื่มจนเมาแทบไม่มีสติแบบนี้ ก็เพราะถูกเธอหักอกมาใช่ไหม” ปาณิศาจึงสรุปได้ทันที ว่าที่เขาเมาแทบไม่ได้สติแบบนี้คือคงจะมีปัญหากันแน่นอน ถ้าเธอคิดไม่ผิด“ทำไมพี่ถึงรู้ อาการผมมันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามเธอกลับไปทันที เมื่อเธอพูดเหมือนกับว่ารู้อะไรมาสักอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องของเขาปาณิศามีท่าทางลำบากใจขึ้นมา จึงหันไปมองหน้าเขา เมื่อเขาพยักหน้าบอกให้เธอเล่าออกมา เธอจึงจอมเล่าต่อ“คือ...ฉันเห็นแฟนนาย เอ่อ เมย์มาเที่ยวกับหนุ่มวิศวะเกือบทุกครั้งที่ฉันไปดื่มกับเพื่อนที่่นั่น” เธอจึงตัดสินใจเล่าบอกเขาต่อ ก็ในเมื่อเล่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องไปให้สุด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่พี่เจอพวกเขาอยู่ด้วย” เ

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   5 - คนที่เพ้อถึง  

    คนที่เพ้อถึงซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ ชนาวิชญ์ชะงักนิ่ง เมื่อได้ยินชื่อคนที่เขารู้จัก และเป็นคนที่ให้ความเมตตาเขามาตลอด ถึงแม้เป็นเวลาเพียงแค่สั้น ๆ ที่เขาได้ทำงานให้แก่บุคคลนี้ ถือว่าเขามีพระคุณคนหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้“ก็ใช่นะสิ” เธอเสียงยืนยันอีกที“ขอโทษครับ ผมเมามากไปหน่อย...” อาการเมาได้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าคนใต้ร่างที่เขาพยายามทำรุ่มร่ามนี้เป็นใคร ก็รีบขอโทษเธอขึ้นมาทันที อย่างรู้สึกผิด“ลุกขึ้นได้แล้ว ฉันหนักหายใจไม่ออกด้วย” เธอเอ่ยบอกเขาอีกครั้ง เพราะเขายังไม่ยอมลุกขึ้นจากตัวเธอสักที ทั้งที่มีสติแล้ว“หายใจไม่ออก เดี๋ยวผมผายปอดให้นะ” แต่เขากลับแซวหยอกเธอขึ้นมาเสียอย่านั้น พร้อมกับก้มหน้าลงมาหาเธอใกล้ ๆ อีก“ไอ้วิชญ์!!!” เธอขึงตาพร้อมกับตวาดเสียงดุใส่เขา พร้อมกับรวบรวมแรงกำลังที่มี ผลักเขาออกทันที เมื่อเขาเริ่มทำรุ่มร่ามใส่เธออีก แล้วบิดเข้าไปที่สีข้างอย่างแรง“โอ้ยยย...เจ็บน่ะ” ร่างสูงร้องโอดครวญขึ้นมาทันที“เจ็บสะบ้าง จะได้สร่างเมาสักที” เธอต่อว่าเขาออกมาอย่างเหลืออด แล้วลุกขึ้นนั่งจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที“ทำไมถึงพาผมมาที่นี่ล่ะ” ชนาวิชญ์ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อ

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   4 - เมามาย

    เมามายเธอเห็นเขาฟุบแนบลงกับโต๊ะ จึงเรียกให้พนักมาคิดบิล แล้วเธอจึงเข้าไปช่วยพยุงคนร่างสูงออกจากตรงนี้ไปยังรถของเธอที่จอดอยู่ลานจอดรถต่อ“นายเดินให้มันดี ๆ หน่อยสิวิชญ์ ฉันหนักนะ” เธอตำหนิเขาออกไปทันที เมื่อเขาเอาแต่ทิ้งน้ำหนักมาที่เธอ ตั้งแต่ที่เดินออกมาจากโต๊ะแล้ว แต่ยังไม่ถึงลานจอดรถ“จ่มได้แท้ว่ะ เมย์...” (บ่นได้จริง ๆ เลย เมย์...) คนเมาเอ่ยออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดด้วยความหงุดหงิดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แถมยังเปล่งเรียกชื่อหญิงสาวอีกคนออกมาอีก เมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยพยุงร่างของเขานั้นคือผู้หญิง“ช่วยพูดภาษาที่ฉันฟังออกด้วย แล้วฉันก็ไม่ใช่เมย์ของนาย ฉันปลาไง...” เธอตอกกลับทันทีอย่างเหลืออด เมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่ออีกคนออกมา“ปลา ปลาอีหยังละ...ปลาแข่ง ปลาคอ หรือปลาปักเป้า” (ปลา ปลาอะไรละ...ปลาหมอ ปลาช่อน หรือปลาปักเป้า) ไม่เพียงแค่ปากที่ยังคงพูดออกมา มือยังยกขึ้นมาขยี้แก้มของเธออีกด้วย“โอ้ยยย เมาแล้วยังจะกวนตีนอีกนะ ไอ้วิชญ์!” เธอต่อว่าออกมาอย่างเหลืออด แล้วกัดฟันฝืนพาเขาขึ้นรถของเธออย่างทุลักทุเล เพราะเขานั้นตัวใหญ่และสูงกว่าเธอ จากนั้นจึงรีบเดินไปทางฝั่งคนขับทันที“ฮู้จักซื่อบักวิดพ้อม..

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   3 - โดนสวมเขา

    โดนสวมเขา เขากลับมาถึงที่ห้องพักของเขาในเวลาสองทุ่มกว่า ๆ แต่ก็ไม่พบเธอแล้ว นั่นแสดงว่าเธอคงกลับคอนโดฯของเธอไปแล้ว เขาจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจตรงไปยังคอนโดฯเธอทันที เขาไม่ได้บอกว่าจะไปหาเธอ เพราะตั้งใจจะไปง้อ และอยากเซอร์ไพรส์เธอด้วยเขาสามารถเข้าหรือออกคอนโดฯของเธอได้ทุกเมื่อทุกเวลา เพราะเธอนั้นให้คีย์การ์ดไว้ที่เขาด้วย เผื่อว่าเขาอยากไปหาเธอตอนไหนจะได้สะดวก“อ๊ะ พี่เจ แรง ๆ ค่ะ เเรงกว่านี้อีก เมย์ชอบแรง ๆ”“อ่าสสส ได้เลยยัยร่าน ไอ้แฟนเด็กของเธอมันทำไมถึงใจเหรอ เธอถึงเรียกใช้งานฉันอยู่ตลอดเลย”“อยู่กันสองคน อย่าเอ่ยถึงคนอื่นสิคะ พี่มีหน้าที่ทำให้เมย์มีความสุขก็พอแล้ว...”“ได้เลย...อ่า เธอนี่แม่งโคตรเด็ดเลย”เพี๊ยะ!ชนาวิชญ์ไม่อาจยืนดูภาพชายหญิงร่วมรักกันอย่างเร้าร้อนแบบชนิดที่ดุเดือด ภายในห้องนอนที่ประตูไม่ได้ปิดเอาไว้ได้ เขาจึงเดินมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง เผื่อที่จะได้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยเขานั่งรออย่างใจเย็น ใบหน้าคมขบกรามแน่น มือกำหมัดด้วยความเคียดแค้น เขารู้ตัวดีว่าไม่เคยให้ความสุขกับเธอได้ แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะสวมเขาแบบนี้...เมื่อศึกรักจบลง เมยาวีเดินออกมาข้างนอกห้อง บนกา

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   2 - แฟนคนแรก

    แฟนคนแรกหนึ่งปีต่อมาจนเวลาล่วงเลยมาเขาขึ้นปีที่สอง อายุถึงยี่สิบปีเขาสามารถเข้าสถานบันเทิงได้แล้ว จึงไปรับงานพาร์ทไทม์ และย้ายออกมาเช่าห้องพักอยู่นอกมหาวิทยาลัยแทน เพื่อที่จะสะดวกต่อการไปทำงาน และอีกอย่างตอนนี้ลุงหมานและป้าสะใภ้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดแล้ว เพราะมีอายุที่เพิ่มขึ้น และสู้ค่าครองชีพไม่ไหว“วิชญ์ พักที่ไหนเหรอ” เสียงหวานของร่างบอบบางที่เดินมาตามหลังถามเขาขึ้นมาทันทีเมยาวี หรือ เมย์ หญิงสาวคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่สาม รุ่นพี่ที่คณะและควบตำแหน่งของดาวคณะไปด้วยเพราะความสวยที่ไม่มีใครเทียบติด“รู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ” ชนาวิชญ์มองหญิงสาวอย่างพิจารณา แล้วถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ เพราะส่วนน้อยนักที่จะมีคนเข้ามาทักเขา และเขาแทบจะไม่มีเพื่อนเลย เพราะไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ แต่หญิงสาวรุ่นพี่ดีกรีดาวคณะคนนี้กลับเข้ามาทัก แถมยังรู้จักชื่อเขาอีก“รู้จักสิ ฉันเมย์ปีสามไง ไม่รู้จักเหรอ เหมือนเราจะอยู่คณะเดียวกันนะถ้าจำไม่ผิด”“ผมรู้จักพี่ดีครับ ดาวคณะใครจะไม่รู้จัก”“เรียกเมย์ก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องเรียกพี่หรอก แล้วนี่จะไปไหน เห็นนายรีบกลับเร็วกว่าคนอื่น ๆ ทุกวันเลย”“ต้องรีบไปทำง

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   1 - หนุ่มบ้านนา

    หนุ่มบ้านนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือที่ขนานเรียกกันติดปากว่า ‘ภาคอีสาน’ นั่นเอง ในพื้นที่ของถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในชนบท ปลายฤดูหนาว มีเพียงฝูงวัวควาย ที่ชาวบ้านต่างนำออกมาเลี้ยงที่กลางทุ่งนา เพราะเป็นช่วงที่ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วบ้างก็ขุดปูหาปลาตามหนองน้ำ และน้ำที่พอยังขอดอยู่ตามซอกหลุมเล็ก ๆ (ปลาข่อน) เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้มีชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ส่วนคนหนุ่มสาวนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งหน้าสู่เมืองกรุงกัน เพื่อหางานทำเลี้ยงชีพต่อไป...“บักหล่า แน่ใจแล้วบ้อลูก ว่าสิไปเรียนต่อกรุงเทพฯอีหลี” (ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯจริง ๆ) เสียงหญิงวัยสี่สิบปีเอ่ยถาม เมื่อลูกชายในวัยเพียงสิบแปดปี ซึ่งเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในบ้าน และเป็นลูกชายคนโต ยื่นรายชื่อนักศึกษาใหม่ที่ลูกชายสอบติดมาให้ดูคำนาง หญิงวัย 40 ปี ตอนนี้กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อผู้เป็นสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยอุบัติเหตุ นับจากนั้นมาคำนางจึงทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้แก่ลูก ๆ ทั้งสอง และผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status