Home / มาเฟีย / กรงปรารถนา / บทที่ 4 ในอุ้งมืออุ่น - 100%

Share

บทที่ 4 ในอุ้งมืออุ่น - 100%

last update Last Updated: 2025-07-16 18:00:38

หญิงสาวใช้เวลาจัดการตัวเองอยู่ในห้องน้ำไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เปิดประตูห้องนอนออกมา หวังในใจไว้ว่าคงจะเห็นร่างสูงสง่าของเจ้าของห้องนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ทว่ากลับไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว

ในท้องวูบโหวงพร้อมกับส่งเสียงโครกครากทำเอาหญิงสาวต้องเอามือลูบท้องเบาๆ สายตาก็พยายามสอดส่ายมองหา เผื่อว่าชายหนุ่มอาจจะอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งของเพนต์เฮาส์ห้องนี้ จนกระทั่งกลิ่นอาหารลอยมากระทบจมูก เธอจึงเพิ่งรู้ว่าตนเดินมาถึงบริเวณที่เป็นห้องครัวแล้ว

“โอ้โห...”

ต้องรักห่อปากตาโตเมื่อเห็นอาหารหลายอย่างวางเรียงกันอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นกระดาษแผ่นเล็กติดอยู่ที่ตู้เย็น

สั่งอาหารมาไว้ให้แล้ว กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอ

จะกลับมาคุยด้วยตอนบ่ายสอง

                                    ชนาธิป

“ลายมือสวยจัง”

เธอดึงกระดาษแผ่นนั้นมาดูใกล้ๆ อ่านทวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง ใบหน้าค่อยๆ ร้อนผ่าวขึ้นเมื่อนึกถึงสัมผัสนุ่มละมุนที่ริมฝีปากก่อนนอนของคืนที่ผ่านมา จนเผลอยกมือขึ้นแตะตรงบริเวณที่ได้สัมผัสกับปากของเขา

อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเธอไม่รู้จักปัดป้อง ไม่ว่าจะถูกเขาจับมือถือแขน โอบอุ้ม หรือแม้กระทั่งปากแตะกันเพียงนิดอย่างเมื่อคืน แต่แล้วเธอก็ให้เหตุผลกับตัวเองว่าคงเพราะเขาสุภาพ ไม่จาบจ้วงหยาบคายกระมัง ถึงทำให้เธอโอนอ่อนไปกับเขาได้ขนาดนี้ หรือเพราะใจลึกๆ แล้วเธอต้องการไออุ่นจากเขาเช่นกัน

ต้องรักพับกระดาษใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน แม้เขาจะบอกว่าใส่เสื้อผ้าของเขาได้ แต่...ใครจะกล้า...เธอคงไม่อาจเอื้อมไปถือวิสาสะใส่เสื้อของเขาเดินไปมาอยู่ในบ้านเขาได้หรอก

หญิงสาวนั่งลงกินอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้โดยที่ไม่ยอมอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง เพราะไม่กล้าแตะเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวของเขา ทว่ากินไปได้ไม่กี่คำก็รู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะอาหารไม่อร่อย แต่เพราะอาหารตรงหน้ามีแต่ของดีๆ และราคาก็คงแพงเอาการ เห็นแล้วก็อดคิดถึงมารดาผู้ล่วงลับไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เงินเดือนออก เธอมักจะพามารดาออกไปหาของอร่อยในห้างสรรพสินค้าด้วยกันเสมอ

หยาดน้ำเริ่มรื้นขึ้นคลอหน่วยตาจนกระทั่งไหลลงมาอาบแก้ม ต้องรักใช้หลังมือเช็ดมันลวกๆ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาเทดื่ม และทำท่าจะหย่อนตัวลงนั่งที่เดิมถ้าไม่เพราะเสียงทุ้มๆ เรียบๆ ของใครบางคนดังขึ้น

“ทำไมกินน้อยนักล่ะ ไม่ถูกปากหรือ”

ร่างสูงของชนาธิปเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว ในขณะที่ต้องรักอ้าปากค้าง รู้สึกตกใจกับการปรากฏตัวของเขาที่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง

หายตัวมาหรือไงกันนะ ทำไมถึงเดินไม่มีเสียงเลย!

“เธอเอาแต่เหม่อ ฉันมายืนอยู่ตั้งนานแล้วเธอไม่รู้ตัวเอง”

เขาพูดราวกับล่วงรู้เข้าไปในหัวของเธอว่ากำลังคิดอะไรอยู่ หญิงสาวยิ้มแหยให้เขา เห็นอาหารตรงหน้ายังมีอยู่อีกเยอะเพราะเธอแทบจะไม่แตะต้องมัน จึงลองถามเขาอย่างใส่ใจ

“คุณชนาธิปทานอะไรมารึยังคะ คือ...ถ้า...ถ้าไม่รังเกียจก็ทานกับข้าวพวกนี้ก็ได้นะคะเพราะรักทานแค่จานนี้จานเดียวเอง จานอื่นยังไม่ได้แตะเลย” พูดพลางชี้ไปยังอาหารจานหนึ่งที่พร่องไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“แล้วเธอล่ะ จะรังเกียจรึเปล่าถ้าฉันอยากจะให้นั่งกินเป็นเพื่อนฉันหน่อย” มุมปากชายหนุ่มยกเพียงนิด แต่นัยน์ตาของเขานั้นฉายแววหยอกเย้าอยู่ในที

“ฉันไม่ชอบกินข้าวคนเดียว...นะ...กินเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

คุณพระคุณเจ้า! ประโยคเมื่อครู่นี้เขาอ้อนเธอใช่หรือไม่ ต้องรักไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้ตอบตกลงพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ให้เขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ขอบคุณนะ”

เสียงนุ่มๆ ของเขาปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ในทันที พร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อจนแม้แต่เจ้าตัวยังรู้สึกเลยว่ามันคงจะแดงมาก จึงทำทีเป็นหยิบจานเปล่าที่วางอยู่ข้างๆ มาใส่ข้าวสวยจากกล่องโฟมแล้วหยิบช้อนส้อมวางลงในจานก่อนจะยื่นไปวางให้เขาตรงหน้า

ต้องรักลอบมองกิริยาตอนกินอาหารของเขาแล้วก็ได้แต่แอบกรี๊ดอยู่ในใจ เขากินดูน่าเอร็ดอร่อย ในขณะที่เธอกลืนแทบไม่ลง ไม่กล้าเคี้ยวเพราะกลัวเผลอเคี้ยวเสียงดังแล้วเขาจะหาว่าเธอมูมมาม สุดท้ายเลยได้แต่นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาเงียบๆ

กุ้งผัดซอสมะขามตัวโตถูกวางลงในจานของต้องรัก ตามมาด้วยปลาช่อนลุยสวนที่หั่นมาเป็นชิ้นๆ หญิงสาวทำตาโตก่อนจะละล่ำละลักบอกเขา

“อุ๊ย! เดี๋ยวรักตักเองก็ได้ค่ะคุณชนาธิป รักเกรงใจ”

“ธิป”

“คะ?” จู่ๆ เขาพูดมาคำเดียวสั้นๆ จนเธอไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่เธอหูแว่วไปเองหรือเปล่า

“เรียกฉันว่าธิปคำเดียวก็พอ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มหรอก”

เขาสบตากับเธอขณะพูด ต้องรักจึงก้มหน้ารับคำเพราะไม่กล้าสบตากับเขานานนัก บอกตามตรงว่าเธอกลัว...กลัวว่าจะห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับเขาไม่ได้ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอก็แทบแย่แล้ว เขาคงไม่รู้ตัวเลยกระมังว่าตัวเองได้ก้าวขาเข้ามาในโลกส่วนตัวของเธอแล้วข้างหนึ่ง

ดูเขาเจริญอาหารมาก ผิดกับเธอที่กว่าจะจัดการกับข้าวในจานหมดก็เล่นเอาเกือบไม่รอด กับข้าวหลายอย่างบนโต๊ะจึงพร่องลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว และดูเขาจะชอบกินกุ้งเป็นพิเศษ เพราะอาหารที่ทำจากกุ้งแทบเกลี้ยงจานเลยก็ว่าได้

มิน่า...ตัวถึงโต๊ โต

หญิงสาวได้แต่พูดอยู่คนเดียวในใจ จำได้ว่าเวลาที่เขายืนขึ้นเต็มความสูงนั้น ศีรษะของเธอยังไม่เลยไหล่ของเขาเลยด้วยซ้ำ ตอนที่ยืนใกล้กันเมื่อครั้งที่อยู่ในผับ เวลาคุยกับเขาเธอถึงกับต้องแหงนมองเขาเหมือนหมามองเครื่องบิน

“เอ่อ...รักขอใช้ครัวหน่อยนะคะ จะล้างจานน่ะค่ะ”

ต้องรักเอ่ยปากขออนุญาตอย่างกล้าๆ กลัวๆ หลังจากที่จบมื้ออาหารแล้ว เห็นเขาชะงักไปเล็กน้อย และทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้าแทนการอนุญาตก่อนจะเดินออกจากครัวไปห้องนอนของตัวเอง

หลังจากล้างจานให้เขาเสร็จเรียบร้อย ต้องรักก็เดินออกจากครัว กะเอาไว้ว่าจะขอเขากลับไปที่บ้านเพื่อไปขนของที่จำเป็นแล้วออกมาหาห้องเช่าแถวที่ทำงานอยู่ชั่วคราวไปก่อน เธอยังมีเงินค่าช่วยงานศพที่คนละแวกนั้นใส่ซองให้มาอยู่บ้าง เพียงแต่ซ่อนมันเอาไว้ในห้องนอน ภาวนาให้พ่อเลี้ยงหามันไม่เจอ มิเช่นนั้นแล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาเป็นค่าเช่า

ร่างเล็กชะงักทันทีเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตานั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนโซฟาตัวยาวหน้าจอโทรทัศน์แอลซีดีขนาดใหญ่ เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีกรมท่ากับกางเกงขาสามส่วนธรรมดาๆ ที่มีกระเป๋าหลายกระเป๋าเหมือนกางเกงทหาร มองแล้วให้ความรู้สึกเป็นกันเองขึ้นมาทันที เธอกล้าพูดเลยว่าเขาดูดีเหลือเกินแม้ว่าจะอยู่ในชุดอยู่บ้านแบบนี้ก็ตาม

สายตาคมๆ ของเขาตวัดหันมามองเธอจนอดสะดุ้งขึ้นมาไม่ได้ เห็นเขาพยักหน้าเป็นเชิงเรียกให้เดินเข้าไปหา เธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาเดี่ยวอีกตัว

“พร้อมจะคุยกันรึยัง” เขายกรีโมตขึ้นหรี่เสียงโทรทัศน์ให้เบาลงแล้วหันมามองเธอนิ่งๆ

“คุย...เรื่อง?” เธอไม่รู้ว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไรของเธอบ้าง จึงต้องถามให้แน่ใจเสียก่อน

“เรื่องเมื่อคืน ทำไมเธอถึงได้ออกมานั่งร้องไห้อยู่ที่ป้ายรถเมล์ล่ะต้องรัก”

ต้องรักนิ่งไปครู่หนึ่งราวกับกำลังเรียบเรียงเรื่องราวอยู่ในหัวว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

“คือว่าเมื่อคืนรักถูก...”

“เข้ามานั่งใกล้ๆ หน่อยสิ นั่งห่างขนาดนั้นฉันฟังไม่ค่อยได้ยิน”

เขาพูดออกมาเสียงเรียบๆ ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉยเย็นชาอย่างเคยพร้อมกับเอามือตบที่ว่างข้างตัวเบาๆ แต่ทำเอาคนฟังใจสะท้านจนเรื่องที่เตรียมจะพูดให้เขาฟังกระเจิงกระจายหายไปกับอากาศ รู้สึกราวกับสมองว่างเปล่าขาวโพลน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 100%

    ชนาธิปไม่ใช่ผู้ชายปากหวาน ไม่ใช่คนที่ใช้คำพูดพร่ำเพรื่อมาเอาใจผู้หญิง เวลาเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไรจึงมักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะด้วยคำพูด หรือการกระทำ“คุณธิปคะ” เรียกเขาแล้วแต่กลับไม่กล้าเอ่ยต่อ เธอมีคำพูดมากมายที่อยากบอกกับเขา โดยเฉพาะคำว่า ‘รัก’ แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะพูดมันออกไป สุดท้ายจึงได้แต่นิ่งเงียบจนปลายสายต้องทวงถามด้วยตัวเอง“ว่าไง เรียกฉันมีอะไรรึเปล่า”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่อยากถามคุณธิปว่า...เอ่อ...กลับเร็วกว่านั้นไม่ได้หรือคะ” เป็นครั้งที่สองที่เธอขอร้องให้เขากลับมาเร็วขึ้น แม้จะกังวลอยู่ลึกๆ ว่าเขาจะมองเธอเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า แต่เธอก็คิดถึงเขามากจริงๆ“ถ้าทำได้ ฉันอยากกลับไปวันนี้ เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ”“ถ้าคุณธิปกลับมาแล้วเราไปเที่ยวทะเลกันนะคะ รักจำได้ที่คุณธิปสัญญาเอาไว้ว่าจะพารักไป”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เธอกลายเป็นคนขี้อ้อน เดี๋ยวนี้เธอกล้าเรียกร้องกับเขามากขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนจะเอ่ยปากขออะไรแต่ละทียังคิดแล้วคิดอีก“ได้สิ แต่เธอ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 75%

    ร่างสูงสง่าของชนาธิปเดินเคียงคู่มากับเคธี่ ทั้งสองเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมภายใต้สายตาหลายสิบคู่ที่มองมาอย่างสนใจ หลายคนหันไปพูดคุยซุบซิบกันเกี่ยวกับข่าวลือหนาหูเรื่องงานแต่งงานของคนทั้งคู่ที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่ช้า ในขณะที่หลายคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ เพราะมีคนไม่น้อยอยากเกี่ยวดองกับนิโคลัสเพื่ออาศัยอิทธิพลของเขา“นายฟังสิทิม ใครเขาก็รู้กันทั้งนั้นเรื่องงานแต่งงานของเรา นายปฏิเสธมันไม่ได้หรอก ยอมรับเถอะ” เคธี่กระซิบกระซาบกับเขาเบาๆ ขณะที่คลี่ยิ้มทักทายบรรดาคู่ค้าอีกกลุ่มหนึ่ง“ผมตัดสินใจแล้ว และผมก็ไม่เปลี่ยนใจ” มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ค้อมศีรษะทักทายผู้ร่วมธุรกิจเหล่านั้น“นายก็น่าจะรู้ว่าฉันปล่อยให้นายตายไม่ได้” หญิงสาวหยุดยืนอยู่กับที่พลางหันหน้ามาเผชิญกับเขาตรงๆ“เพราะนายเป็นเหมือนพี่น้องเพียงคนเดียวที่ฉันมี” แม้ริมฝีปากยังคงยิ้มพราย แต่แววตากลับแฝงความจริงจังในทุกประโยคที่พูดออกไปเมื่อครู่“คุณหนู” ชนาธิปเรียกเธอเสียงแผ่ว รู้ซึ้งถึงความหมา

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 50%

    ชายหนุ่มหันหลังกลับเพื่อจะเข้าไปยังห้องโถงอีกครั้ง วันนี้ช่วงสายๆ เขาต้องไปคุยกับคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่พร้อมเคธี่ ดูเหมือนมาคราวนี้ นิโคลัสเริ่มให้บุตรสาวเข้ามามีบทบาทเกี่ยวกับธุรกิจในเครือมากยิ่งขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนพยายามกันเคธี่ให้ห่างจากงานเหล่านี้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเขาเองก็คาดเดาความคิดของนิโคลัสไม่ได้ว่าฝ่ายนั้นกำลังคิดจะทำอะไร ตอนนี้จึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูและวิเคราะห์อยู่เงียบๆ ในใจเท่านั้นระหว่างที่เขากำลังเดินเข้าไปด้านใน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแล้วรีบกดรับสายทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนโทร.เข้ามา“ว่าไง!” เขาถามเสียงห้วนอย่างเก็บอาการอยากรู้ไว้แทบไม่อยู่ ซึ่งปลายสายก็ตอบออกมาทันทีโดยเช่นกัน“คนทำคือคุณแพรวา ลูกสาวเจ้าสัวบดินทร์ครับ”คิดไว้แล้วไม่ผิด!ชนาธิปข่มอารมณ์เดือดดาลไว้ในอก สมองคิดถึงบทลงโทษสำหรับคนที่ทำให้คนของเขาต้องบาดเจ็บทันที โชคดีที่แพรวาไม่ใช่ผู้ชาย เขาจึงไม่คิดทำอะไรเธอเพราะไม่ชอบรังแกผู้หญิงชัชวาลเห็นเจ้านายเงียบไปจึงได้แต่รอรับคำสั่งจากอีกฟากโลกอยู่เงียบๆ เ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 25%

    ชนาธิปเดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าที่ปกปิดความอ่อนเพลียไว้ไม่มิด เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับทั้งที่ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า เขาคิดว่าคงเกิดจากอาการเจ็ตแล็กกระมัง เพราะเวลาที่นี่กับประเทศไทยห่างกันถึงสิบชั่วโมงทันทีที่เขามาถึงห้องโถงใหญ่ เอกรัฐที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วก็ลุกขึ้นยืนทันที มองสีหน้าอีกฝ่ายก็พอรู้แล้วว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องการรายงานให้เขาทราบ“มีอะไร” เขาถามเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเกริ่น“ต้องรักถูกคนผลักตกบันไดเลื่อนที่ห้างฯ ครับ โชคดีที่อาการไม่เป็นอะไรมาก มีแค่รอยถลอกและฟกช้ำเพราะมีคนช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา”เอกรัฐรายงานรวดเดียวจบพร้อมกับสังเกตสีหน้าของเจ้านายไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่นัยน์ตากลับแฝงความมุ่งร้ายทำลายนั้นทำเอาลูกน้องอย่างเขาซึ่งติดตามรับใช้มานานหลายปียังอดกลืนน้ำลายลงคอด้วยความพรั่นพรึงไม่ได้ เพราะแววตาอย่างนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก“ชัชจัดการแล้วใช่ไหม”สายตาคนถามจ้องไปยังลูกน้องตาแทบไม่กะพริบ แม้น้ำเสียงจะไม่แสดงออกถึงความโกรธกรุ่น หรือใส่อารมณ์ แต่ในฐานะที่เป็นมือขวาคนสนิท มีหรือที่จะไม่รู้ว่าพายุลูกนี้กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ และรอเวลาถล่มราบเป

  • กรงปรารถนา   บทที่ 12 คนที่ควรค่า หรือคนที่คู่ควร - 100%

    หญิงสาวหยิบเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลเข้มออกมาจากราว ระหว่างที่กำลังนึกไปถึงรูปร่างของเขาว่าควรจะสวมไซซ์อะไร แต่สมองกลับคิดไปถึงเรือนกายสูงใหญ่เปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อหนั่นแน่น ท่อนแขนทรงพลังยามโอบรัดเธอเข้าสู่แผงอกอบอุ่น เสียงทุ้มสั่นพร่าครางแผ่วอยู่ชิดริมหู ยามร่างใหญ่โตของเขาเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธออย่างเร่าร้อนหวามไหวตายแล้ว! เลือกซื้อเสื้อให้เขาอยู่ดีๆ แล้วทำไมไปคิดถึงตอนที่นัวเนียกับเขาบนเตียงได้เล่าผิวแก้มร้อนผ่าวจนต้องรักต้องรีบหันหน้าหลบไปอีกทางเพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น พยายามตั้งสติอยู่กับเสื้อที่ถืออยู่ในมืออีกครั้งพร้อมกับยกมันขึ้นยืดออกไปจนสุดแขนเพื่อมองขนาดของมันให้ชัดเจน“พี่โอ๋คะ เสื้อของผู้ชายนี่ไซซ์มันมาตรฐานเท่ากันทุกยี่ห้อรึเปล่า”ต้องรักหันไปถามคนที่กำลังยืนดูเสื้ออีกฝั่ง ชนิดาหันหน้ามาทางคนถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“เอ...พี่ก็ไม่แน่ใจนะ คงต้องกะขนาดตัวคนใส่เอาเองแล้วละ”ชนิดาไม่กล้าฟันธงลงไป เนื่องจากครั้งหนึ่งเคยซื้อเสื้อให้น้องชายใส่ เธอจำได้ว่าน้องชายใส่เสื้อไซส์ M แต่พอซื้อไปให้กลับกลายเป็นว่าไซส์ M ของยี่ห้อที่เธอซื้อไปขนา

  • กรงปรารถนา   บทที่ 12 คนที่ควรค่า หรือคนที่คู่ควร - 75%

    “ทำอะไรอยู่” มุมปากของคนพูดโค้งขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมกล้าจริงจังก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันทีที่ได้ยินเสียงของคนที่อยู่ปลายสาย“กำลังนั่งดูซีรีส์กับพี่โอ๋ค่ะ...คุณธิปเป็นอย่างไรบ้างคะ เดินทางเหนื่อยไหม”รอยยิ้มบางๆ เมื่อครู่คลี่ออกกว้างทันทีเมื่อได้ฟังคำถามที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยที่มีต่อเขา“ได้ยินเสียงเธอก็หายเหนื่อยแล้ว” ร่างสูงเอนหลังไปพิงกับพนักโซฟา เห็นอีกฝ่ายเงียบไป ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าคนฟังคงกำลังยิ้มเขินจนหน้าแดงก่ำ อารมณ์ขุ่นมัวที่เคธี่สร้างไว้มลายหายไปแล้ว แทนที่ด้วยความคิดถึงแสนหวานล้ำที่ค่อยๆ โอบล้อมหัวใจเขาเสียจนอยากกลับไปเห็นหน้าเธอวันนี้และเดี๋ยวนี้“จริงสิ...ต้องรัก ฉันต้องอยู่ที่นี่ยาวไปสองอาทิตย์นะ มีธุระด่วนเข้ามาพอดีน่ะ” พูดพลางปิดเปลือกตาลงด้วยความเหนื่อยหน่าย หากรู้ตั้งแต่แรก เขาคงไม่มาอาทิตย์นี้ คงรวบยอดมาอาทิตย์หน้าเลยทีเดียว เจตนาของนิโคลัสเห็นได้ชัดว่าต้องการรั้งเขาให้อยู่ที่นี่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้จึงไม่ยอมปริปากเรื่องงานเลี้ยงอาทิตย์หน้าให้เขาฟังเลยแม้แต่ประโยคเดีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status