“อื้ออ….”
อรดีกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องจูบเธอชนิดบ้าคลั่งแบบนี้ มันเกินไปหน่อยสำหรับทายาทหนี้อย่างเธอ ถือเป็นดอกเบี้ยที่อาจเรียกได้ว่ามันมีค่ายิ่งกว่าเงินต้นด้วยซ้ำ นี่เธอกำลังชดใช้หนี้หรือชดใช้เวรกรรมกันแน่
หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของสงครามอารมณ์พยัยามจะตั้งสติให้ได้แม้นมันยากเย็นแสนเข็ญ เมื่อฝ่ายรุกยังคงโจมตีไม่รู้จักอิ่ม เธอกลั้นใจเสี่ยงแสร้งเผยอรับความสำราญพร้อมปล่อยเสียงแห่งความพึงพอใจเพื่อหลอกให้เขาตายใจ
ให้ตาย เธอทำสำเร็จ ภาคินลดความบ้าคลั่งลงเมื่อรับรู้ว่าเธอเริ่มตอบสนองเขาแล้ว เจ้าหนุ่มเริ่มขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน ปลอบประโลมริมฝีปากอิ่มอย่างทะนุถนอม และในจังหวะที่เขากำลังหยามใจปล่อยกระแสความนุ่มนวลเพื่อผ่อนถ่ายลมหายใจอยู่นั้นเอง ฝ่ายรับไม่รอช้า กระโจนงับริมฝีปากบนของเขาแล้วกัดหมับ
“โอ๊ยยยย” เมื่อถูกเล่นงานขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มได้ที่ ภาคินร้องโอ๊ยออกมาจนดังลั่นไปทั้งห้อง ครั้นน้ำสีแดงซิบซึมขอบปาก อรดีผลักเขาออกและผละตัวกระโดดหนีไปยืนห่าง ๆ ทันที
“โอ้....คุณ” ฝ่ามือใหญ่กุมปากเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด ดวงตาลุกเป็นไฟจ้องไปที่ยัยตัวร้าย นิ้วชี้ของมืออีกข้างตรงดิ่งไปยังเธอ
“มันจะมากไปแล้วนะ ยัยหมาบ้า!”
อรดีถลึงตาบ้าง แล้วเท้าสะเอว ทำตาลอย
“ก็ฉันเป็นอันเซเชี่ยนไง ช่วยไม่ได้ ก็คุณทำให้ฉันหายใจไม่ออกเอง ฉันก็แค่สุนัขจนตรอกที่พยัยามจะเอาตัวรอดก็เท่านั้นเอง”
ภาคินลุกยืนขึ้นแล้ววิ่งตรงเข้าใส่หญิงสาว เธอรีบวิ่งไปที่ประตูเพื่อหนีตาย แต่เขาก้าวตามไปทันอย่างง่ายดาย คว้าข้อมือเล็กทั้งสองมาไขว้ไว้ด้านหลัง ยันเธอแนบฝาผนัง
“ปล่อยฉันนะไอ้คนทุเรศ คุณมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ คุณกำลังทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่มีทางสู้” เธอดิ้นรนขัดขืนขลุกขลัก ฝ่ามือใหญ่ดันศีรษะของเจ้าหล่อนจนแน่น
“ไม่มีทางสู้เหรอ นี่ถ้าคุณสู้ขึ้นมาผมคงจะตายไปแล้วมั้ง” เขาตะโกนเข้าไปในหูของเธอ
“ก็คุณลองมาเป็นฉันดูบ้างสิ ถูกข่มเหงรังแกโดยไร้ความเมตตาปราณีขนาดนี้ คุณจะยอมไหม”
เธอตะโกนกลับมา นั่น มันทำให้เขาอึ้งไปหลายอึดใจทีเดียว ยิ่งพอเธอร้องไห้ออกมาเหมือนเขื่อนแตก เจ้าพ่อหนุ่มรีบปล่อยเหยื่อในมือแบบไม่ต้องร้องขอ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่น้ำตา
เมื่อได้รับการปลดปล่อย อรดีไม่หันไปมองหน้าคนทำทารุณกรรมอีก รีบเปิดประตูห้อง ผละพ้นจากอาณาจักรของคนเลวไปโดยเร็วที่สุด
หญิงสาวรีบปาดน้ำตาทิ้งเมื่อยืนอยู่หลังบานประตูห้องของตนเองแล้ว เกี่ยวชายเสื้อขึ้นเช็ดจนหมดจดทั้งหน้า แล้วเจ้าหล่อนก็ยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ
“เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับอรดีก็ต้องโดนแบบนี้แหละ” แล้วเธอก็เช็ดปากที่ยังมีคราบปากเขาเกาะค้างอยู่ “ไม่รู้ว่าเป็นเอดส์รึเปล่า ถ้าเกิดหมอนี่เป็นโรคร้ายขึ้นมาล่ะก็ ซวยตายเลย”
เมื่อคิดได้ดังนั้นสาวเจ้าก็รีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว รุดไปยังห้องน้ำ เพื่อทำการล้างปากทันที ทั้งถูทั้งแปรง แถมบ้วนปากด้วยน้ำยาล้างปากรสแรงซ้ำหลายๆรอบ
“มันสะอาดพอรึยังนะ ยังมีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่รึเปล่า” มือสาวแตะที่ริมฝีปาก แล้วมองไปที่กระจก มองใบหน้าตัวเองด้วยความงงกับความรู้สึกบางอย่างที่จู่ๆก็เกิดขึ้น “แล้วเราจะติดบุหรี่ไหม กว่าจะใช้หนี้ได้หมด ลองคิดดูสิอรดี”
ความหวานประหลาดๆยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก กลิ่นของมันรุนแรงกว่ากลิ่นคาวเลือดหนุ่มเสียอีก
‘มันมหัศจรรย์จะตายไปค่ะคุณน้อง’
อยู่ๆเลือดในกายก็ไหลสูบฉีดไปทั้งร่าง
“ทำไมขนลุก”
อรดีรีบลูบแขนให้ขนที่พากันลุกนอนสงบ ทั้งยังเร่งสลัดความปั่นป่วนในสมองทิ้งไปให้เร็วที่สุด เธอถอดเสื้อผ้ากองลงพื้น แล้วลงไปแช่ในอ่างน้ำ น้ำอุ่นกลิ่นหอมอาจช่วยชะล้างอาการประหลาดที่เกิดขึ้นในกายได้ เธอหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
นานนับชั่วโมงที่หญิงสาวปล่อยร่างกายให้จมอยู่ในความสุข ใต้สายน้ำสะอาดบริสุทธิ์ ได้ผ่อนคลายความตึงเครียดพอสมควร ขณะยังหลับตาพริ้ม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันส่งเสียงมาจากเตียงนอนของเธอ อรดีจึงลุกจากอ่างน้ำ เดินเปลือยกายล่อนจ้อนออกสู่ห้องนอนอย่างไม่รอช้า
เธอหวังว่าจะมีงานใหม่ๆเข้ามา
“ว่าไงคะพี่นก”
“จะเอาจริงเหรออร เรื่องถ่ายแบบน่ะ บิกินีนะอร”
“โถ่พี่นก อรเคยพูดเล่นซะที่ไหนล่ะ ยิ่งร้อนเงินอยู่ด้วย แล้วมันก็เป็นงานอย่างหนึ่งนี่ ไม่ได้ไปขายตัวซะหน่อย”
หญิงสาวปิดโทรศัพท์แล้วขว้างไปนอนนิ่งที่เดิม ยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่ได้ปวดหัวแต่ปวดใจจี๊ดๆ หมุนตัวหันหลังขวับ คิดว่าจะหวนกลับเข้าไปในห้องน้ำ ทว่า สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาครานี้ มันทำให้หัวใจของเธอตกผลุงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เนื้อเย็นตัวแข็งค้างราวกับหินพันปี มันชาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ผู้ชายคนนั้น…ฆาตกรที่ปล้นความสุขไปจากชีวิตของเธอ มันนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟามุมห้อง ไขว่ห้างอย่างสง่า ดวงตาคมกริบจ้องนิ่งอยู่ที่เธอ
เธอผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างขาวอมชมพูทุกอณูเนื้อ อวดสัดส่วนเว้าโค้งกลมกลึงสมบูรณ์แบบ เส้นผมที่ยาวสลวยยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ละลงปิดเนินอกอวบอิ่มจนมองไม่เห็นปลายยอดของภูเขาลูกโต ส่วนรูเล็กจิ๋วตรงหน้าท้องนวลเนียนดูเหมือนมันกำลังยิ้มพรายทีเดียว
ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั
“ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน
“ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ
“แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด
“รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว