“นี่คุณ!”
อรดีรีบหันกลับไปหาเตียงนอนแล้วลากผ้าห่มมาพันตัวพัลวัน ตกใจสุดขีดกับสิ่งเลวร้ายที่เธอกำลังเผชิญอยู่ ไม่คิดไม่ฝัน ไม่ทันตั้งตัวรับกับมหันตภัยร้ายที่เข้าขู่คุกคามแบบไม่แจ้งล่วงหน้า เธอด่า ด่า ด่า ด่าจนแทบจะหมดคำศัพท์หยาบคาย แต่เขายังคงนั่งเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ที่ริมฝีปากบนแปะติดปลาสเตอร์ยาแผ่นเล็กไว้ด้วย
“คุณเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง แล้วเข้ามาทำไมมิทราบ!” เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แม้แต่นิ้วชี้ที่ตรงดิ่งไปที่ประตูยังสั่น ”ออกไป! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยไอ้คน…”
เขาเป็นมนุษย์ที่เกินจะบรรยัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาพัฒนาก้าวล้ำไปมากกว่าเส้นปกติแล้ว เธอตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธที่สุดในชีวิต คิดว่าต้องฆ่าเขาให้ตายในวันนี้เลย
“ก็แค่จะมาทานอาหารเช้าด้วยแค่นี้ ทำไมต้องทำท่าเหมือนคนจะตายด้วยนะ”
บอกน้ำเสียงปกติ แถมยังทำหน้าตายไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ห้องนอนคุณสวยดีนะ สวยหมดจดทุกรายละเอียดเลย” เขากระดกคิ้วหลิ่วตา ไอ้สวยทุกรายละเอียดที่เขาว่านะ เธอรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร เขาลุกขึ้นยืน เดินเป่าปากออกจากห้องนอนของเธอไป…
เจ้าของห้องถึงได้นั่งลงตรงปลายเตียงอย่างหมดเรี่ยวขาดแรงแม้แต่จะหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเธอ ไม่มียกเว้น แม้นยังไม่สูญเสียเอกราชให้กับอริร้าย แต่เธอก็สูญสิ้นซึ่งความลับในทุกดินแดนไปแล้ว สองฝ่ามือเล็กประคองใบหน้าแล้วเริ่มต้นกระวีกระวาดฟูมฟาย
“พระเจ้าช่วย ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้ หมด หมดกัน อรดี ฉันไม่น่าเกิดมาเป็นเธอเลย ให้ตายเหอะ”
ฟูมฟายคร่ำครวญยังไง แต่เธอก็ยังอยู่อยู่ดี แม้จะหายใจรวยรินเต็มทีก็ตาม ครั้นจู่ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นเตือน เธอตกใจผวาสุดตัว ใจเต้นตึกตักราวกับนอกประตูมีฆาตกรเลือดเย็นกำลังตามมาฆ่าเธออย่างไรอย่างนั้น
“ที่รักโว้ย กรุณารีบออกมาทำอาหารให้กินหน่อยสิ หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว”
อรดีท่องพุทโธในใจเพื่อระงับความแค้นที่กำลังเดือดพล่าน เธอกลั้นใจลุกขึ้นยืน รีบรุดไปยังตู้เสื้อผ้า จัดการสวมเสื้อใส่กางเกงด้วยความรวดเร็ว ขณะเสียงเคาะประตูชนิดรัวไม่เลิกยังกวนประสาทเธออย่างต่อเนื่อง หญิงสาวอยากจะถีบประตูออกไป ให้บานประตูทับไอ้มนุษย์มารยาททรามตายเหมือนจิ้งจก
พอประตูเปิดออก เขาทำหน้ากวนประสาทรับทันที สองดวงตาจ้องเขม็งกันอย่างเอาเรื่อง มือแบบบางกำจนแน่น สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ดวงตาเจ้าเล่ห์ส่องประกายวิบวับไล่มองเธอทั่วเรือนร่าง เพื่อจะยุให้เธอมีอารมณ์ อารมณ์ที่อยากจะฆ่าเขาเพิ่มขึ้นอีก
“ถอยไปสิ ฉันจะได้เข้าครัว” แล้วไปหยิบมีดปอกผลไม้ เอามาแทงหมอนี่ให้ยับจนนับแผลไม่ได้…โอ้ว พระเจ้า ดาราสาวดาวรุ่งตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย โดยเธอจะให้การกับตำรวจว่า
‘ไอ้โรคจิต มันจะเข้ามาข่มขืนฉันค่ะ ฉันแค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง’
อรดีส่งสายตาประหัตประหารเชิงหยันหยามทิ้งให้เขา แล้วก็ก้าวฉับๆไปยังห้องครัวโดยทันที ภาคินลดสายตาเจ้าเล่ห์ลงแล้วเปลี่ยนเป็นความหนักใจแทน เขารู้ตัวดีว่าได้ทำเรื่องร้ายแรงต่อความรู้สึกของหญิงสาวลงไปแล้ว บุกรุกดินแดนส่วนตัวของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เธอคงไม่รู้ว่า ในความเป็นเธอที่เพิ่งผ่านตาเขามาหมาดๆนั้น มันมีผลร้ายแรงต่อความเป็นชายชาติชาตรีของเขาแค่ไหน เธอกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งสันดานดิบของเขาให้ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ปราณี
ผู้หญิงอะไร…สวยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
เจ้าพ่อภาคินเป่าลมออกปากเพื่อระบายความอัดอั้น ความอัดอั้นที่คุขึ้นรวดเร็วและยังไม่รู้วิธีดับ ก่อนจะกลับหลังหัน เพื่อตามเธอเข้าไปในครัว แต่สิ่งที่เขาเผชิญก็คือ นางเอกสาวยืนถือมีดปอกผลไม้เล่มยาว ดวงตาอำมหิตทอประกายความมุ่งมั่นแรงกล้า
“คุณ…จะทำอะไรน่ะ”
“ฉันก็จะฆ่าคุณไง”
น้ำเสียงเข้มข้นดุดัน แต่เขากลับหัวเราะขบขันกับท่าทางเอาจริงของคนที่กำลังจะเป็นฆาตกร เธอได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“นี่ฉันไม่ได้ขู่นะ ฉันจะฆ่าคุณจริงๆ ถ้าขืนคุณยังไม่ยอมออกไปจากห้องของฉันล่ะก็”
เขาส่ายหน้าระอาใจ ก่อนจะสูดลมเข้าเต็มปอด แล้วทำหน้าบิดเบี้ยว
“สงสัยผมคงจะต้องสั่งหูน้ำแดงมนุษย์มาเสิร์ฟคุณสักมื้อแล้วล่ะ เพราะผมชักจะเริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมกัดไม่เลิกของลูกหนี้แล้วนะสิ” น้ำเสียงเข้มข้นพอกัน ทำเอามือที่ถือมีดปล่อยลงข้างตัวฉับพลัน
“อย่านะ คุณอย่าทำอะไรพ่อฉันเด็ดขาดนะ”
“นั่นก็คงจะขึ้นอยู่กับว่าผมจะทนพฤติกรรม…”
“ก็ได้ๆ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำตัววุ่นวายอีกแล้ว” แล้วอรดีก็โยนมีดไปในมุมหนึ่งของห้อง ใบหน้านวลตื่นตระหนกเต็มที่ ยกสองนิ้วขึ้นชูเป็นสัญญา “ฉันจะเป็นลูกหนี้ที่ดี จะพยัยามหาเงินมาคืนคุณให้เร็วที่สุด และจะประพฤติตัวดี ไม่ทำเรื่องเดือดร้อนให้คุณอีกแน่นอน”
ริมฝีปากเขาฉีกขึ้น แววตายิ่งกว่าปิศาจ
“แล้วถ้าเกิดคุณทำให้ผมไม่พอใจอีกล่ะ”
เธอเงียบไปหลายอึดใจ กว่าจะตอบแบบเงอะงะ
“ฉัน…ฉัน ฉันรับรองด้วยเกียรติของเนตรนารีว่าจะไม่ทำอะไรให้เจ้าหนี้ขัดอกขัดใจอีกแล้ว จริงๆ เชื่อฉันนะ แต่อย่าทำอะไรพ่อฉันก็พอ ฉันจะยอมทำทุกอย่าง”
เขาหัวเราะ ขณะเธอทำหน้าเหมือนคนตาย
“รีบไปทำอะไรก็ได้มาให้ผมกินหน่อยไป เร็วเข้า อย่าให้ผมโมโหหิวนะจะบอกให้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณเองนั่นล่ะที่จะซวย”
เธอก้มหน้าแล้วก็เดินหันหลังกลับเข้าไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ของครัว หยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปแกะใส่ถ้วยแล้วก็กดน้ำร้อนจากกระติกไฟฟ้า เขาเดินตามเข้าไปดู มือกอดอกนิ่งๆ ก่อนจะพูดทำลายอาการเหม่อของหญิงสาว
ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั
“ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน
“ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ
“แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด
“รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว