LOGINนักศึกษาสาวมองเขาแล้วก็กลับมาสำรวจตัวเอง ป่านนี้เขาคงจะเปลี่ยนใจเรื่องอยากได้เธอแล้วกระมัง พริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์วันนั้นช่างสวยเย้ายวน คอนทราสต์กับสภาพวันนี้ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงมัดไว้ลวกๆ ใบหน้าซีดเซียวราวกับผีจีนไม่ได้ถูกแป้งมาตั้งแต่นอนโรงพยาบาล แถมชุดที่สวมใส่ยังเป็นเสื้อยืดตัวโคร่งสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีขาว ดูยังไงก็กะโปโลเกินกว่าจะเป็นเด็กเสี่ยให้ใครได้
“ขอบคุณนะคะ” บัวบูชาตัดสินใจพนมมือไหว้เกื้อคุณ ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไปแล้วเชิดหน้าขึ้น “แต่ดิฉันคิดว่าคงไม่รบกวนคุณเกื้อคุณดีกว่าค่ะ ดิฉันดูแลตัวเองได้”
เสียงฮึดังแผ่วพร้อมริมฝีปากที่ยกยิ้มหยัน บัวบูชาถลึงตาทันทีที่เขาทำปฏิกิริยาแบบนั้นใส่เธอราวกับว่าเรื่องที่เธอพูดดูไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้ดูน่ากลัวและร้ายลึก!
“ค่าเทอมวิศวะอินเตอร์เท่าไรนะนิธิ”
“แปดหมื่นบาทครับ”
“ต้องจ่ายเมื่อไร” คนที่นั่งไขว้ขาเต๊ะท่าปรายตามามองเธอเชิงถาม บัวบูชากำลังจะอ้าปากตอบ ทว่าลูกน้องเขากลับตอบได้คล่องแคล่วว่องไวราวกับเป็นนักศึกษาเสียเอง
“เดือนหน้าครับ”
หญิงสาวหันขวับไปมองนิธิด้วยสายตาแปลกใจ ก่อนจะเบนกลับ
มามองเกื้อคุณที่ยังยกยิ้มมุมปากไม่เลิกรา ท่าทางของเขาดูเหนือกว่าเธอมากเหลือเกิน การตอกย้ำเรื่องค่าเทอมทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง เชื่อว่าเกื้อคุณรู้เรื่องของเธอลึกพอสมควร คนของเขาก็ทำการบ้านมาดีเยี่ยมทีเดียว“คุณรู้”
“ฉันควรจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กในปกครองไม่ใช่หรือ”
‘เด็กในปกครอง’ ทำไมบัวบูชาถึงรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับคำพูดนั้น เหมือนเป็นสถานะที่น่ากลัว
“ฉันจะจ่ายค่าเทอมให้” เกื้อคุณบอกเสียงเรียบ
บัวบูชาพนมมือไหว้เขาอีกครั้ง เธอไม่อาจปฏิเสธเรื่องค่าเทอมได้ หากเขาเปลี่ยนใจที่จะช่วยอุปการะเธอโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน เธอก็จะเสนอข้อแลกเปลี่ยนนั้นเอง
“ขอบคุณค่ะ ฉันทราบดีว่าการอุปการะครั้งนี้เป็นเพราะคุณนที ดังนั้นฉันจึงตั้งใจว่าหากเรียนจบจะทยอยจ่ายเงินคืนให้คุณเกื้อคุณได้ไหมคะ ฉันรู้สึกแย่ที่ต้องเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้” เธอบอกความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา
“และถ้าฉันไม่ได้ต้องการข้อแลกเปลี่ยนแบบนั้นล่ะ”
“หมายความว่าที่คุณมาวันนี้มีข้อแลกเปลี่ยน” บัวบูชาเสียงแข็งขึ้นเล็กน้อย จับจ้องใบหน้าแสนหล่อเหลาราวกับเทพบุตรอย่างต้องการคำตอบที่ชัดเจน เธอไม่ชอบอะไรที่อ้อมค้อม
“ฉันไม่ใช่พ่อพระมาจากไหน” เขาบอกความเป็นตัวเอง ก่อนจะว่าต่อ “ฉันไม่ได้จ่ายแค่ค่าเทอม คอนโด รถยนต์ แบรนด์เนมต่างๆ จะเป็นของเธอถ้าเธอมาเป็นเด็กฉัน”
ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกที่ลำคอทันที บัวบูชาเงยหน้าขึ้นมองเพดานเมื่อน้ำตาเจ้ากรรมไหลเอ่อออกมาเสียเฉยๆ เธอกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้มันไหลคืนสู่ที่เดิม หัวใจรวดร้าวเสียยิ่งกว่ากระดูกขา จริงสินะ...ไม่มีใครยอมเสียอะไรไปฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เพียงแต่เธอไม่คิดว่าเขาจะยกเรื่องเงินมาบีบบังคับแบบนี้
“ท่านประธานใจดีมากนะครับคุณบัวบูชา ถ้าคุณบัวตกลง วันพรุ่งนี้ผมจะพาคุณบัวไปอยู่คอนโดหรูที่สมุทรปราการทันที” นิธิเอ่ยกระตุ้นหญิงสาวอย่างรู้ใจนาย เกื้อคุณไม่ใช่คนพูดมากหรือมานั่งคะยั้นคะยอใคร เขาจึงต้องทำหน้าที่นั้นแทน
“พวกคุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่สนใจ!”
เกื้อคุณอดสะดุ้งกับถ้อยคำตัดรอนของหญิงสาวไม่ได้ เขาแสยะยิ้มให้ ก่อนจะผุดลุกขึ้นแสดงถึงความไม่แคร์อย่างชัดเจน นิธิร้องอ้าวเบาๆ ก่อนจะรีบเดินตามเจ้านายหนุ่มจากไปทันที
บัวบูชาน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม พร้อมกับมือบางที่กำแน่นจิกเล็บเข้าเนื้อจนปวดหนึบ บนโลกใบนี้มีแต่คุณแม่ชลธารเพียงคนเดียวที่
บริสุทธิ์ใจกับเธอ คนอื่นที่เข้ามาก็หวังผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น“ท่านประธานครับ รอผมด้วยครับ”
นิธิรีบวิ่งเข้ามาในลิฟต์ทันก่อนจะปิดลง เขาเป่าปากอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกลิฟต์หนีบเข้าให้เพราะเจ้านายหนุ่มไม่ฟังเสียงร้องเรียกของเขาเลยแม้แต่น้อย เกื้อคุณขยับสูทให้เข้าที่เข้าทาง ตั้งใบหน้านิ่งตรงๆ ติดจะขึงขังมากกว่าสุขุม
“ท่านประธานจะให้ผมส่งของกำนัลให้เธอเพื่อเปิดทางก่อนไหมครับ”
“ไม่ต้อง!”
“อ้าว! ทำไมล่ะครับ ท่านประธานอยากได้เธอมาตั้งแต่งานมอเตอร์โชว์แล้วไม่ใช่หรือครับ เอ๊ะ! หรือว่าวันนี้เธอดูจืดชืดไปนิด หน้าตาไม่ได้แต่งคงจะประมาณนี้ทุกคนมั้งครับ แต่ผมว่าคุณบัวบูชาเธอสวยอยู่แล้ว ขนาดวันนี้ไม่แต่งหน้ายังสวยออราขนาดนี้” นิธิประเมินหญิงสาวที่ตอกกลับเจ้านายของเขามาหน้าหงายเมื่อครู่
เกื้อคุณไม่ปฏิเสธที่นิธิว่ามา ยอมรับว่าหัวใจดวงโตที่ไม่ค่อยตื่นเต้นกับความสวยงามของผู้หญิงมานานแสนนานกลับกระตุกไหวยามเห็นหน้าเธอชัดๆ วันนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ประดับด้วยดวงตากลมโต ริมฝีปากไม่ได้จิ้มลิ้มแต่กลับอวบอิ่มน่าจูบ ทั้งยังแดงระเรื่อราวกับแต่งแต้มลิปสติก แต่เธอไม่ได้ทาแม้เพียงสักนิด ผิวกายก็ขาวผ่อง รูปร่างดีเกินกว่าจะเป็นเด็กกำพร้ามีชะตากรรมน่าสงสารอย่างที่นทีว่าเอาไว้ วันนี้เธอสวมเสื้อตัวโคร่ง ปิดบังหน้าอกหน้าใจเอาไว้อย่างมิดชิด ทว่าการทำแบบนั้นกลับกระตุ้นแรงปรารถนาอยากรู้อยากเห็นของเขาอย่างมหาศาลเสียยิ่งกว่าเห็นวับแวม
ท่านประธานหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง การที่ต้องข่มอารมณ์ปรารถนาไม่ง่ายเลย หากเธอตกลงเขาคงเริ่มต้นรับเธอมาดูแลเสียตั้งแต่วันนี้ น่าเสียดายที่หญิงสาวหยิ่งกว่าที่คิด
“แกมองไม่ออกหรือว่าเด็กคนนี้ต้องการอัปค่าตัว”
“จริงด้วยแฮะ! นี่เจ้พอลลี่ก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกหลังจากที่ผมไม่ได้รับสายวันนั้น ไม่รู้ว่ายังไง” นิธิร้อนใจไม่แพ้นายหนุ่ม เขารู้เบื้องลึกเบื้องหลังทุกอย่างจึงอยากให้เกื้อคุณตักตวงความสุขใส่ตัวเองให้เต็มที่
“เจ้พอลลี่คงไม่ติดต่อมาแล้วล่ะในเมื่อวันนี้เราเสนอจะรับเลี้ยงดูไปแล้ว ข้อเสนอดีกว่าเห็นๆ แถมไม่ต้องแบ่งค่านายหน้าให้ด้วย มีหรือที่เด็กคนนั้นจะกลับไปหาเจ้พอลลี่” เขาส่งเสียงฮึในลำคออย่างรู้เท่าทันผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้
“ถ้าอย่างนั้น...ท่านประธานจะรอให้คุณบัวบูชาเธอซมซานมาซบ
อกเองใช่ไหมครับ”“อีกไม่นาน...บัวบูชาจะต้องทำอย่างนั้นหลังเห็นฉันเงียบไป”
ลิฟต์เปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวออกจากคอนโดที่กลายมาเป็นชื่อของเขา ห้องที่บัวบูชาอยู่เขาเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว หากเธอดื้อแพ่งเขายังมีเรื่องนี้ไว้ต่อรอง!
“น้ำรินอยากได้น้องแล้ว บัวต้องตามใจลูกนะ เนี่ยคืนนี้ใส่ชุดนอนที่ฉันซื้อมาให้ รับรองลูกมาแน่” ประโยคหลังเกื้อคุณแกล้งทำกระซิบกระซาบ จึงถูกประทุษร้ายตีเพียะที่ต้นแขนแรงๆ“ทำไมคะ บัวไม่เร้าใจสำหรับคุณแล้วหรือไงถึงต้องมีตัวช่วย”“ไม่เลยแค่เป็นบัวฉันก็รักและอยากคลอเคลียด้วยตลอดนั่นแหละ แค่อยากสร้างสีสันให้ชีวิตคู่บ้างไงจะได้ตื่นเต้น” เกื้อคุณรีบแก้ ก่อนจะบอกเสียงตลกๆ “ฉันอ่านมาน่ะว่าถ้าเซ็กซ์เร้าใจจะได้ลูกชาย”“จริงเหรอคะ” บัวบูชาตาวาวขึ้นมาทันที เธอเองก็อยากได้ลูกชายไม่แพ้เขา ที่เขาพูดวันนั้นก็เข้าที ให้น้องชายได้ดูแลพี่สาว อีกอย่างบริษัทของเขาก็น่าจะมีลูกชายไว้สืบทอดกิจการ“จริงสิ สนใจไหมล่ะบัวจ๋า”“ก็ได้ค่ะบัวจะยอมใส่ให้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ลูกชาย คุณเกื้อโดนทำโทษนอนนอกห้องหนึ่งปี!”“โห! โหดจังเลย” เกื้อคุณแกล้งทำเสียงกลัวไปอย่างนั้นเอง แต่ที่จริงเขาเจ้าเล่ห์จะตายไป “ถ้างั้นผัวจ๋าคนนี้ต้องขอเพิ่มรอบความถี่ในการได้ลูกชายหน่อยนะเพื่อความชัวร์”“คุณเกื้อบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ นี่ถ้าน้ำรินโตแล้วห้ามลามกต่อหน้าลูกเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ” บัวบูชาสั่งห้ามเสียงเข้ม ทำเอาอีกคนหงอทีเล่นทีจริง“เข้าใจจ้าเมี
หลังเกื้อคุณหายดีแล้ว บัวบูชากับน้ำรินก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่กรุงเทพอย่างถาวร เกื้อคุณตัดสินใจซื้อบ้านราคาหลายสิบล้านเพื่อตระเตรียมพื้นที่เอาไว้ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นกัน เขาปรึกษากับเมียสาวแล้วว่าอยากจะมีลูกมากกว่าสองคน ธุรกิจเคมีภัณฑ์กำลังไปได้สวย อนาคตภายภาคหน้าลูกๆ จะได้เข้ามาช่วยบริหารงาน บัวบูชาเขินอายแต่ฟังหลักการที่เขากล่าวอ้างแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยตามสามีแม้จะมีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินทองมากมาย แต่บัวบูชาก็ยังใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เธอกลายเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวและคงเป็นอีกนานเพราะเขาวางแผนมีลูกยาวเหยียดเสียขนาดนั้น ที่จริงเธออยากเข้าไปช่วยสามีทำงานมากกว่า แต่ก็คิดว่าบทบาทหน้าที่แม่ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทุกวันนี้เธอจึงดูแลน้ำรินอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พร้อมกับการปกครองดูแลส่วนของบ้านได้อย่างดีมีเมตตากับคนงานในบ้านเสมอบัวบูชามีของมีค่าแค่สร้อยเพชรจี้ดอกบัวที่เกื้อคุณสวมคืนให้เท่านั้น ไม่เคยใช้ของแบรนด์เนม นอกจากสามีจะซื้อมาให้ ซึ่งสุดท้ายบนเรือนร่างก็เต็มไปด้วยของแบรนด์เนมทั้งตัวอยู่ดีเพราะเขาขนซื้ออะไรไม่รู้มาเยอะแยะทุกวัน แม้เธอจะไม่ออกไปเลือกด้วยตนเอง เขาก็ให้เลขานุการหนุ่มท
บัวบูชาเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แม้นิธิจะเข้ามาจัดแจงที่หลับที่นอนให้ ทว่าหญิงสาวกลับปักหลักนั่งเก้าอี้ข้างเตียงไม่ยอมลุกไปไหน จนผล็อยหลับอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เมื่อสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสแสนอ่อนโยน เธอเงยหน้าขึ้นมองก็น้ำตาไหลอีกครั้งเมื่อเห็นคนป่วยลืมตาแป๋วมองเธออยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่ที่เธอคิดว่าจับอยู่ตลอดเวลา บัดนี้กลับกำลังลูบศีรษะเธอไปมา“คุณเกื้อ!”บัวบูชาไม่รอช้า เธอโผเข้ากอดเขาทันที เสียงร้องไห้ฮือๆ ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่พร่ำพูดอะไรฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ในความรู้สึกของคนป่วยนั้นช่างอบอุ่นใจ“เป็นอะไร ฉันยังไม่ตายสักหน่อยจะร้องไห้ทำไม”“บัวกลัวคุณเกื้อตาย”“ไม่ตายหรอก ตายไม่ได้ เมียยังไม่ให้อภัยเลย” เขาพูดติดตลกเสียงแหบแห้ง“ถ้าให้อภัยแล้วห้ามตายนะ” เธอพูดเสียงเครือ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กน้อย น่าเอ็นดูในสายตาของเกื้อคุณเป็นที่สุด“สัญญาว่าจะอยู่กับเธอจนแก่เฒ่า” เขายิ้มละมุนบัวบูชาเขินจนเผลอยิ้มหวาน ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ “หิวน้ำไหมคะ บัวลืมไปเลยมัวแต่ดีใจที่คุณเกื้อฟื้นแล้ว”เกื้อคุณมองหญิงสาวกุลีกุจอไปรินน้ำมาให้ดื่มแล้วก็ชื่นใจตั้งแต่น้ำยังไม
บัวบูชารับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับเกื้อคุณ เธอรีบฝากลูกเอาไว้กับคุณป้าปานวาดแล้วจองตั๋วเครื่องบินโดยเร็วที่สุด น้ำตาไหลพรากๆ ตลอดเวลาที่ยังไม่รู้ว่าเกื้อคุณเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอโทรหานิธิเป็นระยะๆ ก็พบว่าเขายังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลยหญิงสาวอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินแล้ว จำใจต้องปิดเครื่องมือสื่อสารด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เธอกลัวเหลือเกินว่าระหว่างนั้นนิธิจะโทรศัพท์มารายงานอาการของเกื้อคุณ ได้แต่ทำใจดับอารมณ์ร้อนรุ่มในอกให้สงบลงมือน้อยหยิบรูปถ่ายของเขาขึ้นมาดู น้ำตาไหลนองหน้า ได้แต่หวังว่าเธอไม่ช้าเกินไปสำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ บัวบูชาไม่คิดเลยว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่เธอปฏิเสธจะบอกสิ่งที่อยากบอกกับเขา เกื้อคุณกลับประสบอุบัติเหตุแบบนี้“คุณเกื้อต้องปลอดภัยนะคะ บัวรักคุณเกื้อ”บัวบูชารีบวิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำใสกบดวงตาจนมองเห็นภาพข้างหน้าไม่ชัดเจนเอาเสียเลย เมื่อมาถึงห้องฉุกเฉินก็พบเกื้อคุณถูกเข็นออกมาพอดี เธอรีบปราดเข้าไปหา มองใบหน้าซีดเซียวที่ยังไม่ได้สติอย่างแสนปวดร้าว“คุณพยาบาลคะ คนไข้เป็นยังไงบ้าง”“ปลอดภัยแล้วค่ะ กำลังพาไปห้องพักฟื้นค่ะ”เธ
หลังกลับจากเที่ยวเชียงราย เกื้อคุณก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามานอนในห้องเดียวกันได้ โดยเขาเลือกที่จะนอนโซฟาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่อยากผลีผลามเพราะหากบัวบูชาเอ่ยปากไล่ เขาคงต้องกลับไปปูที่นอนบนพื้นหน้าห้องดังเดิม ไม่รู้ว่าค่ำคืนนั้นเขาเอาความกล้าหาญมาจากไหน อยากกล้านอนกอดเธออย่างคืนนั้นอีกจัง...“บัวจ๋า”“อย่าเรียกแบบนี้เลยค่ะ บัวขนลุก”“อยากหวานกับเมียบ้าง”“บัวว่าไม่เหมาะหรอกค่ะ” เธอยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันกลับไปพับเสื้อผ้าลูกลงตะกร้าอย่างตั้งใจ น้ำรินหลับปุ๋ยไปแล้วจึงเป็นเวลาที่เธอจะทำโน่นทำนี่ให้ลูกต่อ“เหมาะสิ...ต่อไปมีลูกอีกคนก็ต้องเรียกแม่จ๋าแล้ว ตอนนี้เลยเรียกบัวจ๋าไปก่อน”“คุณเกื้อ!”เขาดึงมือเล็กมากดจูบให้ชื่นใจ ทอดสายตามองเธออย่างเชื่อมหวาน บัวบูชาหายใจไม่ทั่วท้อง ท่าทางของเขาไม่ได้คุกคามจนน่ารังเกียจ แต่กลับทำให้หัวใจสั่นไหวเกินควบคุม เธอกลัวใจตัวเองเหลือเกิน“ฉันอยากมีลูกอีกสักคน ไว้เป็นเพื่อนกับน้ำริน” เขาว่าเสียงจริงจัง ก่อนนึกจินตนาการไปไกล “หรือถ้าเป็นน้องชายก็จะได้คอยดูแลปกป้องพี่สาว ดีไหม”“ตอนนี้บัวยังไม่พร้อมค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบพลางเสหลบสายตาเขา“ไม่เป็นไร ฉันจะรอจนกว่าบัวจ
รวงข้าวยิ้มเจ้าเล่ห์ มองซ้ายมองขวา ก่อนจะป้องปากกระซิบ “ถ้าอยากให้เหมือนน้องบัวก็มีเพิ่มอีกคนสิคะ”“คุณรวงข้าว!”“เมื่อคืนข้าวได้คุยกับพี่เกื้อเรื่องน้องบัว...พี่เกื้อเองก็อยากมีลูกกับน้องบัวอีกนะคะ ติดที่ว่ายังง้อไม่สำเร็จ”“นี่คุณเกื้อเล่าทุกอย่างให้คุณรวงข้าวฟังหมดเลยเหรอคะ” บัวบูชาหน้าเสีย เหลือบสายตาไปมองเขาที่จูงมือหนูเนตรดาวเดินออกไปทางอื่น ไหนว่าพาเธอกับลูกมาเที่ยว ทำไมไปดูแลลูกคนอื่นเสียอย่างนั้นล่ะ“พี่เกื้อกลุ้มใจน่ะค่ะ เลยมาปรึกษาข้าว”บัวบูชารู้สึกอาย เธอเสหลบสายตาแล้วอุ้มหนูน้ำรินขึ้นมาไว้บนท่อนแขน ตัดสินใจหันหลังให้เพื่อสะกดกลั้นความอายที่ผสมผสานกับความโกรธ เขาจงใจประจานเธอกับคนรักเก่าอย่างนั้นหรือ“น้องบัวเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” รวงข้าวอ้อมมายืนด้านหน้า“เปล่าค่ะ คุณรวงข้าวไปเดินเล่นกับคุณเกื้อเถอะค่ะ บัวจะเดินเล่นกับลูกแถวนี้”“อ๋อ! หนูดาวติดพี่เกื้อน่ะค่ะ” รวงข้าวเริ่มเข้าใจว่าอีกฝ่ายหึงสามีกับเธอจึงเริ่มต้นอธิบาย “สมัยก่อนข้าวกับพี่เกื้อสนิทกันมากเพราะคุณเหนือให้พี่เกื้อมาดูแลข้าวแทน หนูดาวเลยเจอหน้าพี่เกื้อมากกว่าพ่อตัวเองเสียอีก ข้าวเป็นเมียเก็บคุณเหนือมาก่อนค่ะ”“คะ







