แชร์

รอยร้าวในหัวใจ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-07 23:49:07

ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!

ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัว

ภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน

"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม"

"นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่อทวงคืนความยุติธรรม"

คำพูดของหัสดินทำให้นายใหญ่หัวเราะออกมาเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความอำมหิต "ทวงคืนความยุติธรรมเหรอครับ" นายใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน "คุณดินคิดว่าตัวเองเป็นใครกันแน่"

"ผมเป็นคนที่คุณไม่ควรจะมาแหยมด้วย" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "คุณทำอะไรกับแม่ของภรรยาผม...ผมต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้!"

"โห...ใจเย็นๆ สิครับคุณดิน" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้ม "ผมไม่รู้เรื่องที่คุณพูดเลยนะ"

"อย่ามาเล่นเกมกับผม" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "ผมรู้ว่าคุณคือคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด"

"ผมก็ไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่นะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแม่ของภรรยาคุณเลยแม้แต่น้อย"

หัสดินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าที่จะมาโกหกเขาอย่างออกนอกหน้า! "อย่าให้ผมต้องใช้กำลัง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต

"ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะกล้าทำแบบนั้นหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "เพราะคุณคงไม่อยากให้แม่ของภรรยาคุณ...ต้องเป็นอะไรไปหรอกนะ"

คำพูดของนายใหญ่ทำให้หัสดินชะงักไปในทันที เขาเงยหน้าขึ้นมามองนายใหญ่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "แกทำอะไรกับแม่ของเอวา"

"ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้ม "แต่ผมก็มีวิธีที่จะช่วยให้แม่ของภรรยาคุณดีขึ้นได้นะ"

"แกต้องการอะไร" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ของเธอ"

"ผมก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะขอให้คุณ...เซ็นสัญญาซื้อขายธุรกิจการพนันของคุณให้ผม"

คำพูดของนายใหญ่ทำให้หัสดินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขาอย่างออกนอกหน้า! "แกคิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ!"

"ผมก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะยอมง่ายๆ หรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "แต่คุณก็คงไม่อยากให้แม่ของภรรยาคุณ...ต้องเป็นอะไรไปหรอกนะ"

หัสดินสับสนและวุ่นวายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะยอมทำตามคำสั่งของนายใหญ่หรือไม่...

"ผมให้เวลาคุณคิดสามวัน" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ถ้าคุณยังไม่เซ็นสัญญา...แม่ของภรรยาคุณก็จะต้องตาย"

หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขาลุกขึ้นยืนจากโซฟาอย่างช้าๆ ก่อนจะเดินออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว เขากลับไปที่รถยนต์คันหรูของเขาแล้วขับออกไปจากคฤหาสน์ของนายใหญ่ด้วยความเร็วสูง

ในขณะที่เขากำลังขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ เขาก็ได้แต่คิดถึงคำพูดของนายใหญ่ เขารู้ว่าการเซ็นสัญญาซื้อขายธุรกิจการพนันให้กับนายใหญ่นั้นเป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เขาไม่รู้ว่าควรจะเดิมพันกับเรื่องนี้หรือไม่...

แต่ในขณะเดียวกัน...เขาก็ได้คิดถึงเรื่องของเอวา เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เขารู้ว่าเขาโกรธเธอ...แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า...เขารักเธอ!

หัสดินสับสนและวุ่นวายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้...

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หัสดินก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเขาอย่างช้าๆ เขาเห็นเอวานอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยคราบน้ำตา เขารู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก เขาก้มลงไปนั่งข้างๆ เธอแล้วใช้มือลูบผมของเธออย่างแผ่วเบา

"ฉันขอโทษนะเอวา..." หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอเลย"

เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ แต่ในขณะเดียวกัน...เขาก็ไม่สามารถจะรักเธอได้อย่างเต็มที่!

เขาได้แต่จูบหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องนอนไปอย่างช้าๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้...เขาได้แต่เดินออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบๆ...

และในคืนนั้น...เอวาก็หลับไปด้วยความทุกข์ระทมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

เช้าวันรุ่งขึ้น...เอวาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อย

เธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี

เมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินไปไหนคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"คุณดินออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะคุณหนู" ป้าสร้อยตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร "ป้าเห็นคุณดินดูเครียดๆ นะคะ"

คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย "ป้าสร้อยคะ...วันนี้หนูอยากจะไปหาแม่ค่ะ"

ป้าสร้อยพยักหน้าเล็กน้อย "ได้สิลูก...ป้าจะให้คนขับรถไปส่งนะ"

เอวาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปที่รถยนต์ที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสน์ เธอขึ้นรถไปกับคนขับรถอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที่เธอเห็นอยู่นี้กลับรู้สึกไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เอวาก็รีบเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของแม่ทันที และเมื่อเธอได้เห็นหน้าแม่ เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้น แม่ของเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยใบหน้าที่ซูบผอมกว่าเดิมมาก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า และสีหน้าของเธอก็ดูไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

"แม่..." เอวาเรียกชื่อแม่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "แม่เป็นอะไรรึเปล่าคะ"

"เอวา..." แม่ของเธอเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "แม่...แม่ไม่เป็นไรลูก"

เอวารีบเดินเข้าไปกอดแม่ด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและความคิดถึง น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มานานก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้อีกต่อไป

"หนูขอโทษนะคะแม่...หนูขอโทษที่ไม่ได้มาหาแม่บ่อยๆ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สะอื้นฮัก

"ไม่เป็นไรลูก...แค่หนูมาหาก็พอแล้ว" แม่ของเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "แม่ดีใจนะที่ได้เห็นหนูปลอดภัย"

ในขณะที่เอวากำลังพูดคุยกับแม่อยู่นั้น เธอก็เหลือบไปเห็นเครื่องวัดชีพจรของแม่ที่แสดงผลออกมาเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปกติมาก เธอใจหายวาบ เธอหันไปมองหมอวินที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "พี่หมอคะ...ทำไมตัวเลขมันถึงต่ำขนาดนี้คะ"

"เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วนะเอวา" หมอวินพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของแม่เธอจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ"

คำพูดของหมอวินทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เธอรู้ว่าหมอวินกำลังบอกอะไรกับเธอ แม่ของเธอกำลังจะจากเธอไปแล้ว!

"ไม่จริงใช่ไหมคะ...พี่หมอพูดเล่นใช่ไหมคะ" เอวาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

หมอวินส่ายหน้าเล็กน้อย "พี่ขอโทษนะเอวา" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "พี่พยายามอย่างเต็มที่แล้ว"

เอวาเหมือนถูกทุบด้วยค้อนเหล็กเข้าที่กลางอก เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุดหย่อน เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกของเธอกำลังจะพังทลายลงมา เธอไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงข้อนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น...เธอก็เห็น แดเนียล ผู้ช่วยมือขวาคนสนิทของหัสดินเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม "คุณเอวาครับ...คุณดินให้ผมมาบอกว่า...เขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ของคุณครับ"

คำพูดของแดเนียลทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองแดเนียลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "เขา...เขาหมายความว่ายังไงคะ"

"คุณดินบอกว่า...เขาจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจการพนันให้กับนายใหญ่ครับ" แดเนียลตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เพื่อแลกกับชีวิตของคุณแม่"

คำพูดของแดเนียลทำให้เอวาเหมือนถูกทุบด้วยค้อนเหล็กเข้าที่กลางอกอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้น เธอไม่คิดว่าหัสดินจะยอมทำขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย เธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี!

"ไม่จริงใช่ไหมคะ...คุณแดเนียลพูดเล่นใช่ไหมคะ" เอวาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

แดเนียลส่ายหน้าเล็กน้อย "ผมขอโทษนะครับคุณเอวา...แต่คุณดินกำลังจะทำเรื่องที่อันตรายที่สุดในชีวิตของเขา"

เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำลายชีวิตของหัสดินไปแล้วจริงๆ เธอรู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!

"ไม่...ไม่นะคะ...ฉันจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้!" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

แดเนียลพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เอวารีบเดินเข้าไปหาแม่แล้วกอดเธอไว้แน่น "แม่คะ...หนูขอโทษ...หนูขอโทษนะคะ"

"ไม่เป็นไรลูก...แม่ดีใจที่หนูปลอดภัย" แม่ของเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "หนูต้องไป...ไปหาเขา...ไปหยุดเขา..."

คำพูดของแม่ทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองแม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "หนูจะทำยังไงคะแม่"

"หนูต้องทำในสิ่งที่หนูคิดว่าถูกต้อง" แม่ของเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "หนูต้องไปหยุดเขา...ไปบอกเขาว่า...แม่จะอยู่เคียงข้างหนูเสมอ"

เอวาน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง เธอพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหอมแก้มแม่แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เธอเดินตามหลังแดเนียลไปจนถึงรถยนต์ที่จอดรออยู่หน้าโรงพยาบาล

"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้!" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

แดเนียลพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะขับรถออกไปจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เอวาได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะสามารถหยุดหัสดินได้หรือไม่...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   เล่มเกม?

    ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   พายุที่โหมกระหน่ำ

    รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   รอยร้าวในหัวใจ

    ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   นายใหญ่

    หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   ไม่เคยคิด

    เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   อยากให้หายโกรธ

    รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status