หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
หัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ" "เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง" หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล" "ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง" "ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก็ถูกเปลี่ยน...และเครื่องมือทางการแพทย์บางอย่างก็ถูกทำลาย" คำพูดของหมอวินทำให้หัสดินชะงักไปในทันที เขาจำได้ว่าในโกดังของเขา ก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันเกิดขึ้น เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! ตระกูลวรวิทย์...พวกมันต้องเป็นคนทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน! "แกแน่ใจนะว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลวรวิทย์" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "ผมไม่แน่ใจครับ...แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องเดียวกัน" หมอวินตอบ "ผมเจอจดหมายที่เขียนขึ้นด้วยมือของคนร้ายครับ...จดหมายนั้นบอกว่า...ถ้าคุณดินอยากให้แม่ของเอวารอด...คุณดินจะต้องไปพบกับ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์" คำว่า "นายใหญ่" ทำให้หัสดินชะงักไปในทันที เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับนายใหญ่เลยแม้แต่น้อย เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! พวกมันกล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขาอย่างออกนอกหน้า! "แกไปที่โกดังแล้วเอาจดหมายนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!" หัสดินสั่งด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต "ฉันต้องการรู้ว่ามันต้องการอะไรจากฉัน" หมอวินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะตัดสายไปอย่างรวดเร็ว หัสดินลุกขึ้นยืนจากโต๊ะทำงานอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ เขามองเห็นแสงไฟจากทั่วทุกสารทิศส่องสว่างไปทั่วอาณาบริเวณ แต่เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในโลกที่มืดมิดและโหดร้าย เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! "พวกแก...กล้าดียังไงถึงทำแบบนี้กับฉัน!" หัสดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ "พวกแกจะไม่มีวันได้สิ่งที่ต้องการ...และพวกแกจะต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำของพวกแกอย่างแน่นอน!" ในคืนนั้น...หัสดินไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เลย เขาได้แต่ยืนจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต เขาได้แต่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ และในวันนั้น...เขาก็ได้รู้ว่าเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะปกป้องเอวา...ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เช้าวันรุ่งขึ้น... หัสดิน ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เขาแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เขามี ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง เขาเห็น แดเนียล ผู้ช่วยมือขวาคนสนิทของเขา ยืนรอเขาอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ "คุณดินครับ...ผมเจอจดหมายที่เขียนขึ้นด้วยมือของคนร้ายแล้วครับ" แดเนียลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหัสดินเดินเข้ามาใกล้ หัสดินรับจดหมายจากมือของแดเนียลมาอ่านอย่างช้าๆ จดหมายนั้นเขียนด้วยลายมือที่ประณีตและสวยงาม แต่เนื้อหาในจดหมายนั้นกลับเต็มไปด้วยความอำมหิตและคำข่มขู่! "ถ้าคุณอยากให้แม่ของเอวารอด...คุณจะต้องไปพบกับผมที่คฤหาสน์ของผมคืนนี้...แล้วเราจะมาคุยกันว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ..." คำพูดในจดหมายทำให้หัสดินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขาอย่างออกนอกหน้า! "แดเนียล...แกไปเตรียมรถให้ฉัน" หัสดินสั่งด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต "คืนนี้...ฉันจะไปหาเขา" "แต่คุณดินครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...เขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจมืดทั้งหมดในประเทศนี้" "ฉันรู้" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "แต่ฉันก็ไม่ได้กลัวเขา" แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าหัสดินเป็นคนอย่างไร เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่เคยกลัวใครเลยแม้แต่คนเดียว "ไปเตรียมรถให้ฉัน" หัสดินสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ฉันต้องการไปหาเขาคนเดียว" แดเนียลพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หัสดินยกแก้ววิสกี้ขึ้นกระดกจนหมดในอึกเดียว! ความร้อนของวิสกี้ที่ไหลผ่านลำคอไม่ได้ช่วยให้ความโกรธในใจของเขาลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เขายกแก้วขึ้นเทวิสกี้ลงในแก้วอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่แล้วจ้องมองวิวทิวทัศน์ของมหานครยามค่ำคืน เขาเห็นแสงไฟจากทั่วทุกสารทิศส่องสว่างไปทั่วอาณาบริเวณ แต่เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในโลกที่มืดมิดและโหดร้าย เขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความมืดมิดทั้งหมดนี้ และเขาก็ไม่เคยรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย "พวกแก...กล้าดียังไงถึงทำแบบนี้กับฉัน!" หัสดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ "พวกแกจะไม่มีวันได้สิ่งที่ต้องการ...และพวกแกจะต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำของพวกแกอย่างแน่นอน!" ในคืนนั้น...หัสดินไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เลย เขาได้แต่ยืนจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต เขาได้แต่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ และในวันนั้น...เขาก็ได้รู้ว่าเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะปกป้องเอวา...ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม... รถยนต์คันหรูของหัสดินเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวายอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงไม่กี่นาที รถก็มาถึงที่คฤหาสน์ของนายใหญ่ คฤหาสน์ที่กว้างขวางและดูน่าเกรงขามกว่าคฤหาสน์ของเขาหลายเท่า! หัสดินเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราและอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก "สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ยินดีที่ได้รู้จัก" "สวัสดีครับนายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมก็ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" "เชิญนั่งก่อนสิครับ" นายท่านผายมือไปที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับเขา หัสดินเดินไปนั่งลงบนโซฟาอย่างไม่รีบร้อน "ที่ผมเชิญคุณมาในวันนี้...ผมอยากจะพูดคุยเรื่องธุรกิจของเราครับ" นายท่านพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "ผมได้ยินมาว่า...คุณกำลังขยายธุรกิจการพนันของเราในต่างประเทศอยู่ใช่ไหมครับ" "ครับ" หัสดินตอบ "ผมกำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจของเราในต่างประเทศอยู่ครับ" "ดี" นายท่านยิ้ม "ผมอยากจะร่วมทุนกับคุณในเรื่องนี้ครับ" คำพูดของนายท่านทำให้หัสดินชะงักไปในทันที เขาเงยหน้าขึ้นมามองนายท่านด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ทำไมคุณถึงอยากจะร่วมทุนกับผมครับ" "เพราะผมเห็นว่า...คุณเป็นคนที่มีความสามารถ" นายท่านตอบ "และผมก็มั่นใจว่า...เราจะไปด้วยกันได้ดี" หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขากำลังคิดทบทวนคำพูดของนายท่านอย่างถี่ถ้วน เขารู้ว่าการร่วมทุนกับนายท่านนั้นเป็นเรื่องที่อันตราย แต่ในขณะเดียวกัน...มันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว! "ผมขอเวลาคิดก่อนนะครับ" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "ได้สิครับ" นายท่านตอบด้วยรอยยิ้ม "แต่ผมก็หวังว่า...เราจะได้ร่วมงานกันนะครับ" หัสดินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว เขากลับไปที่รถยนต์คันหรูของเขาแล้วขับออกไปจากคฤหาสน์ของนายท่านอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขากำลังขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ เขาก็ได้แต่คิดถึงคำพูดของนายท่าน เขารู้ว่าการร่วมทุนกับนายท่านนั้นเป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เขาไม่รู้ว่าควรจะเดิมพันกับเรื่องนี้หรือไม่... แต่ในขณะเดียวกัน...เขาก็ได้คิดถึงเรื่องของเอวา เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เขารู้ว่าเขาโกรธเธอ...แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า...เขารักเธอ! หัสดินสับสนและวุ่นวายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้... เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หัสดินก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเขาอย่างช้าๆ เขาเห็นเอวานอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยคราบน้ำตา เขารู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก เขาก้มลงไปนั่งข้างๆ เธอแล้วใช้มือลูบผมของเธออย่างแผ่วเบา "ฉันขอโทษนะเอวา..." หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอเลย" เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ แต่ในขณะเดียวกัน...เขาก็ไม่สามารถจะรักเธอได้อย่างเต็มที่! เขาได้แต่จูบหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องนอนไปอย่างช้าๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้...เขาได้แต่เดินออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบๆ...ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ
รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่
หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก
เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที
รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม