รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอก
เอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม เมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก" คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย "ป้าสร้อยคะ...หนูขอชาแก้วหนึ่งได้ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "หนูจะเอาไปให้คุณดินที่ห้องทำงานค่ะ" ป้าสร้อยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อชงชาให้เอวา ในขณะที่เธอกำลังรอชาอยู่ เอวาก็ได้แต่ยืนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ เธอรู้ว่าการที่เธอไปปกป้องหมอวินนั้นเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ เธอได้ทำให้หัสดินโกรธจนแทบจะขาดใจ และเธอก็จะต้องรับผลกรรมจากการกระทำของเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน... เมื่อป้าสร้อยเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถาดใส่ชา เอวาก็รีบเดินเข้าไปรับถาดจากมือของป้าสร้อย มือของเธอสั่นเทาจนแทบจะถือถาดชาเอาไว้ไม่อยู่ "ขอบคุณนะคะป้าสร้อย" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของหัสดิน เธอยืนอยู่หน้าห้องทำงานของเขาด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวและกังวล เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี เธอไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปในห้องนี้หรือไม่ เธอได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆ ในที่สุด...เธอก็ตัดสินใจที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของเขาอย่างช้าๆ ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงบ หัสดินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม เขากำลังจ้องมองแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา เอวาเดินเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ เธอวางถาดชาลงบนโต๊ะทำงานของเขาอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือของเธอยังสั่นเทาจนแก้วชาชนกับจานรองชาเกิดเป็นเสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน หัสดินเงยหน้าขึ้นมามองเธอเพียงชั่วครู่ ดวงตาคู่คมของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาในทันที ก่อนที่เขาจะกลับไปสนใจแฟ้มเอกสารตรงหน้าต่ออย่างไม่แยแส เอวาใจหายวาบ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมลงไปในห้วงเหวที่มืดมิดและไร้ก้นบึ้ง "ฉัน...ฉันขอโทษค่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณต้องโกรธ" หัสดินไม่ตอบอะไร เขาแค่พลิกหน้าแฟ้มเอกสารไปมาอย่างไม่สนใจคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้เลย! "ฉัน...ฉันขอโทษจริงๆ นะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษ...ได้โปรด...อย่าโกรธฉันเลยนะคะ" คำพูดของเอวาทำให้หัสดินชะงักไปในทันที เขาปิดแฟ้มเอกสารลงอย่างช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานและเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ เอวาใจหายวาบ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้น เธอถอยหลังไปสองสามก้าว แต่ก็ทำไม่ได้ หัสดินเดินเข้ามาประชิดตัวเธอจนแผ่นหลังของเธอชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง! ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต "เธอคิดว่าแค่คำว่าขอโทษ...มันจะทำให้ฉันหายโกรธได้เหรอ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "ฉัน...ฉันไม่รู้..." เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันแค่...อยากให้คุณหายโกรธ" "อยากให้ฉันหายโกรธเหรอ" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "งั้นฉันจะบอกให้...สิ่งที่เธอทำ...มันไม่สามารถให้อภัยได้!" หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขารั้งคอเธอเข้าหาตัวอย่างรุนแรง ก่อนจะก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและร้อนแรงอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด เอวาพยายามจะต่อต้าน แต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขากดเธอลงบนเตียงอย่างรุนแรงและร้อนแรงราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว เอวากลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต เธอปิดตาลง พยายามนึกถึงใบหน้าของแม่และคำพูดที่ว่า "แม่ต้องรอด" คำพูดนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอทนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ เธอปล่อยให้เขาล่วงเกินเธอไปจนกระทั่งทุกอย่างจบลง... หลังจากที่ทุกอย่างจบลง หัสดินลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เอวานอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและว่างเปล่า น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มานานก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้เลย! เมื่อหัสดินเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำผูกไว้หลวมๆ เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่และกางเกงสแลคสีดำ ก่อนจะหันกลับมามองเธอที่ยังคงนอนจมอยู่ในความเงียบงันทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ
รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่
หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก
เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที
รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม