เอวาออกจากห้องพักผู้ป่วยของแม่ด้วยหัวใจที่พองโต ความรู้สึกของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความหวังที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลายเดือน การได้เห็นแม่ปลอดภัยและอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับพลังชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง
ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่รถของหัสดิน เธอเหลือบไปเห็นหมอวินกำลังยืนคุยอยู่กับหัสดินที่ลานจอดรถ ทั้งสองยืนห่างกันพอสมควร สีหน้าของหัสดินดูเรียบเฉยตามปกติ แต่สีหน้าของหมอวินกลับดูจริงจังและเคร่งเครียด เอวารู้สึกใจคอไม่ดี จึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อฟังบทสนทนาของทั้งคู่ "คุณหัสดินครับ" หมอวินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้กับเอวา" หัสดินยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย "ฉันทำอะไรเหรอ" "คุณก็รู้ดีว่าผมหมายถึงอะไร" หมอวินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ "คุณใช้สถานการณ์ของเอวามาบีบบังคับเธอให้ต้องแต่งงานกับคุณแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเลยนะครับ!" "ยุติธรรมเหรอ?" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "โลกนี้ไม่มีคำว่ายุติธรรมหรอกหมอ...คนอย่างเธอไม่มีวันเข้าใจหรอก" "ผมอาจจะไม่เข้าใจโลกของคุณ" หมอวินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ "แต่ผมเข้าใจว่าเอวาเป็นผู้หญิงที่ดี เธอไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" "แล้วเธอคิดว่าฉันควรจะปล่อยให้แม่ของเธอตายไปอย่างนั้นเหรอ" หัสดินถามกลับไปอย่างไม่แยแส "ถ้าฉันไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย...ป่านนี้แม่ของเธอก็คงจะตายไปแล้ว" "แต่คุณก็ไม่ควรใช้ความช่วยเหลือนั้นมาบีบบังคับเธอให้ต้องแต่งงานกับคุณ!" หมอวินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "คุณทำลายชีวิตของเธอ...คุณกำลังทำให้เธอต้องตกนรกทั้งเป็น!" คำพูดของหมอวินเหมือนเชื้อเพลิงที่สาดเข้าใส่กองไฟแห่งความโกรธของหัสดิน ดวงตาคู่คมสีรัตติกาลของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาในทันที "ปากดีนะหมอ" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง" "เพราะผมพูดความจริง!" หมอวินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ "ผมรักเอวา...และผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณทำร้ายเธอ!" คำพูดสุดท้ายของหมอวินเหมือนคมมีดที่กรีดแทงลงบนหัวใจของหัสดิน เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้ได้ ดวงตาคู่คมของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาในทันที มือที่เคยกำหมัดแน่นปล่อยลงอย่างช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาหมอวินอย่างไม่รีบร้อน "รักเหรอ?" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะรักผู้หญิงของฉันอย่างนั้นเหรอ" "ผมมีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้!" หมอวินตอบกลับไปอย่างไม่ลดละ "และผมก็มั่นใจว่าผมจะดูแลเอวาได้ดีกว่าคุณ!" คำพูดของหมอวินทำให้หัสดินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง เขากำหมัดแน่นอีกครั้ง ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของหมอวินอย่างจัง! "อั้ก!" เสียงอุทานเบาๆ หลุดจากริมฝีปากของหมอวิน ร่างกายของเขาล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เลือดสีแดงสดไหลอาบออกมาจากมุมปากของเขา "หัสดิน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" เอวาที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลาวิ่งเข้าไปหาทั้งคู่อย่างรวดเร็ว "พี่หมอ! เป็นอะไรรึเปล่าคะ!" "หุบปาก!" หัสดินตะคอกใส่เอวาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ "แกจะไปสนใจมันทำไม!" "แต่คุณชกเขา!" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!" "ทำไมจะทำไม่ได้!" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "มันกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้...มันก็สมควรที่จะโดนแบบนี้แล้ว!" หัสดินไม่สนใจคำพูดของเอวา เขาก้าวเข้าไปหาหมอวินที่กำลังพยายามจะลุกขึ้นยืน ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของหมอวินอีกครั้งอย่างรุนแรง! หมอวินล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากมุมปากและจมูกของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง "หัสดิน! หยุดนะ!" เอวาตะโกนสุดเสียง เธอวิ่งเข้าไปหาหมอวินแล้วใช้ร่างกายที่บอบบางของเธอบังเขาไว้จากหัสดิน "เธอ...ปกป้องมันเหรอ!" หัสดินตะคอกใส่เอวาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจนแทบจะขาดใจ ดวงตาคู่คมสีรัตติกาลของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ฉัน...ฉันไม่ได้ปกป้องเขา" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "แต่คุณทำเกินไปแล้วนะ!" "เกินไปเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "เธอคิดว่าฉันทำเกินไปอย่างนั้นเหรอ! แกกล้าดีอย่างไงถึงมาว่าฉันแบบนี้!" หัสดินไม่สนใจคำพูดของเอวา เขาหันไปตะโกนสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ "จัดการมัน!" ลูกน้องของหัสดินเดินเข้ามาหาหมอวินอย่างไม่รีบร้อน เอวาตกใจจนแทบจะพูดไม่ออก เธอรู้ว่าถ้าปล่อยให้ลูกน้องของหัสดินจัดการหมอวิน เขาจะต้องบาดเจ็บหนักกว่านี้แน่นอน "ไม่นะ! อย่าทำอะไรเขานะ!" เอวาตะโกนสุดเสียงด้วยความกลัว "อย่าทำอะไรเขานะ!" แต่ลูกน้องของหัสดินไม่สนใจคำพูดของเธอ พวกเขาเข้าไปรุมทำร้ายหมอวินอย่างรวดเร็ว เอวาได้แต่ร้องไห้และตะโกนห้ามอย่างหมดหนทาง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเธอเลยแม้แต่คนเดียว หัสดินมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขากำลังยืนดูหมอวินถูกลูกน้องของเขาทำร้ายด้วยความพอใจ "หัสดิน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" เอวาตะโกนสุดเสียง "ถ้าคุณไม่หยุด...ฉันจะไปบอกตำรวจ!" คำพูดของเอวาทำให้หัสดินหันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและอำมหิต "ลองดูสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน "เธอคิดว่าตำรวจจะเชื่อคำพูดของเธออย่างนั้นเหรอ" เอวานิ่งอึ้งไปในทันที เธอรู้ว่าหัสดินพูดถูก เขาเป็นคนที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขาได้ "หึ! คิดจะเล่นกับฉันอย่างนั้นเหรอ!" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "เธอไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอกเอวา!" หัสดินเดินเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว เขาคว้าแขนของเธอขึ้นมาอย่างแรงจนเอวารู้สึกเจ็บไปทั้งแขน "ไป!" เขาตะคอกใส่เธอ ก่อนจะลากเธอขึ้นรถยนต์คันหรูของเขา เอวาพยายามจะขัดขืน แต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาจับเธอเหวี่ยงเข้าไปในรถอย่างรุนแรง ก่อนจะรีบขึ้นรถและขับออกไปจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เอวาได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่กรงขังที่มองไม่เห็นอีกครั้ง และในครั้งนี้...มันดูน่ากลัวและโหดร้ายกว่าเดิมหลายเท่า! เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หัสดินก็ลากเธอลงจากรถอย่างรุนแรง ก่อนจะลากเธอเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่ "ไปที่ห้อง!" เขาตะคอกใส่เธอ ก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้องนอนของเธออย่างแรง เอวาล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เธอพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ทำไม่ได้ หัสดินเดินเข้ามาหาเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและอำมหิต "เธอทำอะไรลงไป! เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม!" เขาตะคอกใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจนแทบจะขาดใจ "ฉัน...ฉันไม่ได้ทำอะไร" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ไม่ได้ทำอะไรเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "แกกล้าดีอย่างไงถึงไปปกป้องมันต่อหน้าฉัน! แกคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ!" "ฉัน...ฉันแค่ไม่อยากให้คุณทำร้ายเขา" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เขาเป็นคนดี...เขาไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" "คนดีเหรอ!" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "แกคิดว่าแกจะไปเข้าข้างมันได้อย่างนั้นเหรอ! แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเหรอ!" "ฉัน...ฉันขอโทษ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" "ขอโทษเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "คำว่าขอโทษของแกมันไม่สามารถหยุดยั้งความโกรธของฉันได้หรอกเอวา!" หัสดินไม่สนใจคำพูดของเอวา เขาก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและรุนแรงอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด หลังจากนั้น...เอวาก็ได้รู้ว่าการที่เธอไปปกป้องหมอวินนั้นเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ เธอได้ทำให้หัสดินโกรธจนแทบจะขาดใจ และเธอก็จะต้องรับผลกรรมจากการกระทำของเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน... เวลาผ่านไปหลายวัน...เอวาถูกขังอยู่ในห้องนอนของเธอตามคำสั่งของหัสดิน เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปจากห้องนี้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เธอไม่มีอะไรจะทำนอกจากนอนร้องไห้อยู่บนเตียงด้วยความทุกข์ระทม อาหารและน้ำจะถูกนำมาให้เธอในทุกๆ มื้อ แต่เธอก็ไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย เธอนอนซมอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและว่างเปล่า น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุดหย่อน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้เลย! ในทุกๆ คืน...หัสดินจะเข้ามาในห้องนอนของเธอ เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบและใช้สายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยอำนาจจ้องมองเธอที่นั่งอยู่บนเตียง เอวาไม่ได้ขัดขืน ไม่ได้ต่อต้าน เธอปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามใจปรารถนา เธอกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งจิตใจและไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ร่างกายที่เคยเป็นของตัวเอง บัดนี้กลับกลายเป็นของเล่นที่เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา จูบของเขาไม่ได้มีความอ่อนโยน ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการและอำนาจที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด เขากดร่างกายของเธอลงบนเตียงอย่างรุนแรงและร้อนแรงราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว เอวากลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต เธอปิดตาลง พยายามนึกถึงใบหน้าของแม่และคำพูดที่ว่า "แม่ต้องรอด" คำพูดนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอทนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ เธอปล่อยให้เขาล่วงเกินเธอไปจนกระทั่งทุกอย่างจบลง... หลังจากที่ทุกอย่างจบลง หัสดินลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เอวานอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและว่างเปล่า น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มานานก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้เลย! เมื่อหัสดินเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำผูกไว้หลวมๆ เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่และกางเกงสแลคสีดำ ก่อนจะหันกลับมามองเธอที่ยังคงนอนจมอยู่ในความเงียบงัน "พรุ่งนี้เช้า...ฉันจะพาเธอไปพบแม่" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "เตรียมตัวให้พร้อม" คำพูดของเขาทำให้เอวารีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่เชื่อ "จริงเหรอคะ" "ฉันไม่เคยพูดเล่น" หัสดินยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เอวานั่งนิ่งอยู่บนเตียงเพียงลำพัง เมื่อประตูห้องปิดลง เสียงสะอื้นที่เธอพยายามกลั้นไว้ก็ดังขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เอวาขยับกายไปนั่งที่ปลายเตียง ยกสองแขนขึ้นกอดตัวเองอย่างต้องการที่พึ่งพิง น้ำตายังคงไหลอาบแก้มไม่หยุดหย่อน ความรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่าเข้ากัดกินจิตใจของเธอจนหมดสิ้น เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะจมลงไปในห้วงเหวที่มืดมิดและไร้ก้นบึ้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ของห้องนอน มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ แต่ดวงดาวเหล่านั้นกลับดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเหมือนโลกที่เธอเคยรู้จัก แต่บัดนี้ถูกตัดขาดจากเธอไปแล้ว เธอนั่งอยู่ที่นั่นอย่างนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ
รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่
หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก
เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที
รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม