ค่ำคืนในมหานครไม่เคยหลับใหล แสงสีนีออนจากทั่วทุกสารทิศยังคงสาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ แต่มันไม่ได้ช่วยให้จิตใจของ หัสดิน เดชาวิรักษ์ ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกโกรธแค้นที่ปะทุขึ้นจากเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลยังคงคุกรุ่นอยู่ในอก ภาพใบหน้าของ เอวา ที่วิ่งเข้าไปปกป้องผู้ชายคนนั้น ภาพน้ำตาของเธอที่ไหลอาบแก้มขณะที่กำลังร้องขอให้เขาหยุดทำร้าย หมอวิน มันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเขา
หัสดินขับรถมาที่ "เดอะ ลาเท็กซ์" บาร์หรูระดับห้าดาวของเขาเอง ที่ที่เขาเป็นเจ้าของ และที่ที่เขาได้พบกับเอวาเป็นครั้งแรก เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวที่อยู่ชั้นบนสุดของบาร์ ห้องที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ ด้านในห้องมีกระจกใสบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของมหานครยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน แต่หัสดินไม่ได้สนใจวิวทิวทัศน์เหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เขาเดินไปที่บาร์ส่วนตัวที่อยู่มุมห้อง มือที่สั่นเทาหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงขึ้นมาแล้วเทลงในแก้วคริสตัลอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้ผสมอะไรเลยนอกจากน้ำแข็งอีกสองสามก้อน ก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดกจนหมดในอึกเดียว! ความร้อนของวิสกี้ที่ไหลผ่านลำคอไม่ได้ช่วยให้ความโกรธในใจของเขาลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เขายกขวดขึ้นเทวิสกี้ลงในแก้วอีกครั้ง แล้วกระดกจนหมดอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งที่สาม... ภาพของเอวาที่ปกป้องหมอวินยังคงฉายชัดอยู่ในหัวของเขา เธอไม่เคยแสดงท่าทีต่อต้านเขามากขนาดนั้นมาก่อน และการที่เธอแสดงออกถึงความรู้สึกห่วงใยผู้ชายคนนั้นอย่างออกนอกหน้า มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหักหน้าอย่างรุนแรง เขากำแก้ววิสกี้ในมือแน่นจนข้อกระดูกขาวโพลน ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาเดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่แล้วจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเอง "แก...เป็นใครกันแน่" หัสดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ "แกเป็นภรรยาของฉัน...ทำไมแกถึงทำแบบนี้" ความรู้สึกโกรธที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึกในใจ เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขาได้ แต่ผู้หญิงอย่างเอวากลับกล้าที่จะต่อต้านเขาอย่างไม่เกรงกลัว! โครม! แก้ววิสกี้ในมือของเขาถูกปาลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนแตกกระจายไปทั่วห้อง เศษแก้วปลิวกระเด็นไปทั่วบริเวณ และในจังหวะนั้นเอง...ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นร่างของ แดเนียล ผู้ช่วยมือขวาคนสนิทของเขา "คุณดินครับ...มีเรื่องด่วนครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "มีอะไร" หัสดินหันกลับมามองแดเนียลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา "เรือส่งสินค้าของเราถูกโจมตีครับ" คำพูดของแดเนียลทำให้หัสดินชะงักไปในทันที ความโกรธที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความสงสัยและความจริงจังอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้าไปใกล้แดเนียลด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม "เป็นไปได้ยังไง" "เราไม่รู้ครับ...แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ความเคลื่อนไหวของเราทั้งหมด" แดเนียลตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "โกดังที่ท่าเรือก็ถูกโจมตีด้วยครับ ตอนนี้เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่เราก็จับคนร้ายได้สามคนครับ" หัสดินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง "ใคร...ใครกล้าทำแบบนี้กับฉัน" "เราไม่รู้ครับ...แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นมืออาชีพ" แดเนียลตอบ "พวกมันพยายามจะทำลายทุกอย่างในโกดัง แต่โชคดีที่เราเข้าไปทัน" "อยู่ที่ไหน" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "พวกมันอยู่ที่ไหน" "อยู่ที่โกดังครับ" แดเนียลตอบ "เรากำลังเค้นความจริงจากพวกมันอยู่" หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบเสื้อสูทสีดำที่แขวนไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว แดเนียลรีบวิ่งตามไปติดๆ รถยนต์คันหรูของหัสดินเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวายอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงไม่กี่นาที รถก็มาถึงที่โกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับท่าเรือ บริเวณโกดังเต็มไปด้วยลูกน้องของหัสดินที่ยืนเฝ้าอยู่รอบๆ ทุกคนในที่นั้นดูตื่นตัวและพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ หัสดินเดินเข้าไปในโกดังด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ภายในโกดังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีกลิ่นควันและกลิ่นของเหล็กที่ถูกเผาไหม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ลูกน้องของหัสดินกำลังซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตี และที่มุมหนึ่งของโกดัง...มีชายสามคนถูกจับให้นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลัง และใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการถูกซ้อมอย่างหนัก "พวกนี้คือหนอนบ่อนไส้" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหัสดินเดินเข้ามาใกล้ หัสดินมองชายสามคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต เขาก้าวเข้าไปใกล้ชายสามคนนั้นอย่างช้าๆ ก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าไปที่ชายคนแรกอย่างรุนแรง! "อั้ก!" ชายคนนั้นอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด "ฉันจะให้โอกาสพวกแกพูดความจริง" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "ใครเป็นคนส่งพวกแกมา" ชายทั้งสามคนเงียบ ไม่มีใครกล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมา "ไม่พูดเหรอ" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ "ซ้อมพวกมันจนกว่าพวกมันจะพูดความจริงออกมา" ลูกน้องของหัสดินเดินเข้าไปหาชายทั้งสามคนนั้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มซ้อมชายทั้งสามคนอย่างรุนแรงและโหดร้าย เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของชายทั้งสามคนดังขึ้นไปทั่วทั้งโกดัง แต่หัสดินกลับยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขากำลังยืนดูชายสามคนนั้นถูกทำร้ายอย่างเลือดเย็น ราวกับว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่คน แต่เป็นเพียงแค่วัตถุที่ไม่มีชีวิตจิตใจ "ใครเป็นคนส่งพวกแกมา!" ลูกน้องของหัสดินตะคอกถามชายคนหนึ่งอย่างรุนแรง "ฉัน...ฉันไม่รู้..." ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันถูกจ้างมาให้ทำลายสินค้าเท่านั้น..." "ไม่รู้เหรอ!" ลูกน้องของหัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของชายคนนั้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง! "บอกมา! บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าใครเป็นคนส่งพวกแกมา!" แต่ชายคนนั้นก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร หัสดินมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เขาไม่สนใจว่าชายทั้งสามคนนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาแค่ต้องการรู้ว่าใครกล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขา! "บอกมาเถอะ...บอกมาเถอะว่าใครเป็นคนส่งพวกแกมา" หัสดินเดินเข้าไปหาชายคนหนึ่งที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นอย่างช้าๆ เขาใช้เท้าเหยียบลงบนแผลที่ชายคนนั้นถูกทำร้ายอย่างรุนแรง! "อ๊ากกก!" เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของชายคนนั้นดังขึ้นไปทั่วทั้งโกดัง "ฉันจะถามพวกแกเป็นครั้งสุดท้าย...ใครเป็นคนส่งพวกแกมา" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "ฉัน...ฉันบอกไม่ได้...เขา...เขาขู่จะฆ่าครอบครัวของฉัน" ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เขา...เขาคือ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์..." คำว่า "ตระกูลวรวิทย์" ทำให้หัสดินชะงักไปในทันที ดวงตาคู่คมของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! ตระกูลวรวิทย์...เป็นตระกูลคู่แข่งทางการค้าของเขามานานหลายปี และตอนนี้พวกมันก็กล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขาอย่างออกนอกหน้า! หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขาก้มลงไปหยิบแก้ววิสกี้ที่แตกอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนจะปาแก้วนั้นลงบนพื้นอีกครั้งอย่างรุนแรง! เศษแก้วปลิวกระเด็นไปทั่วบริเวณ และในจังหวะนั้นเอง...เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาใครบางคนด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม "แดเนียล" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "แกไปจัดการเรื่องตระกูลวรวิทย์ให้จบภายใน 24 ชั่วโมง...ฉันไม่ต้องการให้พวกมันมีลมหายใจอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป" "ครับคุณดิน" แดเนียลตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล หัสดินตัดสายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองชายทั้งสามคนที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต "จัดการพวกมัน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "แล้วเอาไปโยนทิ้งน้ำ" ลูกน้องของหัสดินเดินเข้าไปหาชายทั้งสามคนนั้นอย่างรวดเร็ว เอวายืนอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆ เธอมองเห็นภาพความโหดร้ายของหัสดินด้วยตาของเธอเอง เขาไม่ใช่คนที่เธอควรจะอยู่ด้วยอีกต่อไปแล้ว! หัสดินเดินออกจากโกดังอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้หันกลับมามองชายทั้งสามคนที่กำลังจะถูกลูกน้องของเขาจัดการเลยแม้แต่น้อย เขากำลังเดินกลับไปที่รถยนต์คันหรูของเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เอวาได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่กรงขังที่มองไม่เห็นอีกครั้ง และในครั้งนี้...มันดูน่ากลัวและโหดร้ายกว่าเดิมหลายเท่า! หัสดินไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิด เขาเป็นคนโหดร้ายและไร้หัวใจ! เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หัสดินก็ลากเธอลงจากรถอย่างรุนแรง ก่อนจะลากเธอเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่ "ไปที่ห้อง!" เขาตะคอกใส่เธอ ก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้องนอนของเธออย่างแรง เอวาล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เธอพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ทำไม่ได้ หัสดินเดินเข้ามาหาเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและอำมหิต "เธอทำอะไรลงไป! เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม!" เขาตะคอกใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจนแทบจะขาดใจ "ฉัน...ฉันไม่ได้ทำอะไร" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ไม่ได้ทำอะไรเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "แกกล้าดีอย่างไงถึงไปปกป้องมันต่อหน้าฉัน! แกคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ!" "ฉัน...ฉันแค่ไม่อยากให้คุณทำร้ายเขา" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เขาเป็นคนดี...เขาไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" "คนดีเหรอ!" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "แกคิดว่าแกจะไปเข้าข้างมันได้อย่างนั้นเหรอ! แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเหรอ!" "ฉัน...ฉันขอโทษ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" "ขอโทษเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "คำว่าขอโทษของแกมันไม่สามารถหยุดยั้งความโกรธของฉันได้หรอกเอวา!" หัสดินไม่สนใจคำพูดของเอวา เขาก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและรุนแรงอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด หลังจากนั้น...เอวาก็ได้รู้ว่าการที่เธอไปปกป้องหมอวินนั้นเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ เธอได้ทำให้หัสดินโกรธจนแทบจะขาดใจ และเธอก็จะต้องรับผลกรรมจากการกระทำของเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน...ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ
รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่
หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก
เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที
รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม