Share

หนอนบ่อนไส้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-07 23:17:43

ค่ำคืนในมหานครไม่เคยหลับใหล แสงสีนีออนจากทั่วทุกสารทิศยังคงสาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ แต่มันไม่ได้ช่วยให้จิตใจของ หัสดิน เดชาวิรักษ์ ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกโกรธแค้นที่ปะทุขึ้นจากเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลยังคงคุกรุ่นอยู่ในอก ภาพใบหน้าของ เอวา ที่วิ่งเข้าไปปกป้องผู้ชายคนนั้น ภาพน้ำตาของเธอที่ไหลอาบแก้มขณะที่กำลังร้องขอให้เขาหยุดทำร้าย หมอวิน มันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเขา

หัสดินขับรถมาที่ "เดอะ ลาเท็กซ์" บาร์หรูระดับห้าดาวของเขาเอง ที่ที่เขาเป็นเจ้าของ และที่ที่เขาได้พบกับเอวาเป็นครั้งแรก เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวที่อยู่ชั้นบนสุดของบาร์ ห้องที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ ด้านในห้องมีกระจกใสบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของมหานครยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน แต่หัสดินไม่ได้สนใจวิวทิวทัศน์เหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

เขาเดินไปที่บาร์ส่วนตัวที่อยู่มุมห้อง มือที่สั่นเทาหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงขึ้นมาแล้วเทลงในแก้วคริสตัลอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้ผสมอะไรเลยนอกจากน้ำแข็งอีกสองสามก้อน ก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดกจนหมดในอึกเดียว! ความร้อนของวิสกี้ที่ไหลผ่านลำคอไม่ได้ช่วยให้ความโกรธในใจของเขาลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เขายกขวดขึ้นเทวิสกี้ลงในแก้วอีกครั้ง แล้วกระดกจนหมดอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งที่สาม...

ภาพของเอวาที่ปกป้องหมอวินยังคงฉายชัดอยู่ในหัวของเขา เธอไม่เคยแสดงท่าทีต่อต้านเขามากขนาดนั้นมาก่อน และการที่เธอแสดงออกถึงความรู้สึกห่วงใยผู้ชายคนนั้นอย่างออกนอกหน้า มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหักหน้าอย่างรุนแรง เขากำแก้ววิสกี้ในมือแน่นจนข้อกระดูกขาวโพลน ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาเดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่แล้วจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเอง

"แก...เป็นใครกันแน่" หัสดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ "แกเป็นภรรยาของฉัน...ทำไมแกถึงทำแบบนี้"

ความรู้สึกโกรธที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึกในใจ เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขาได้ แต่ผู้หญิงอย่างเอวากลับกล้าที่จะต่อต้านเขาอย่างไม่เกรงกลัว!

โครม!

แก้ววิสกี้ในมือของเขาถูกปาลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนแตกกระจายไปทั่วห้อง เศษแก้วปลิวกระเด็นไปทั่วบริเวณ และในจังหวะนั้นเอง...ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นร่างของ แดเนียล ผู้ช่วยมือขวาคนสนิทของเขา

"คุณดินครับ...มีเรื่องด่วนครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"มีอะไร" หัสดินหันกลับมามองแดเนียลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

"เรือส่งสินค้าของเราถูกโจมตีครับ"

คำพูดของแดเนียลทำให้หัสดินชะงักไปในทันที ความโกรธที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความสงสัยและความจริงจังอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้าไปใกล้แดเนียลด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม "เป็นไปได้ยังไง"

"เราไม่รู้ครับ...แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ความเคลื่อนไหวของเราทั้งหมด" แดเนียลตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "โกดังที่ท่าเรือก็ถูกโจมตีด้วยครับ ตอนนี้เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่เราก็จับคนร้ายได้สามคนครับ"

หัสดินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง "ใคร...ใครกล้าทำแบบนี้กับฉัน"

"เราไม่รู้ครับ...แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นมืออาชีพ" แดเนียลตอบ "พวกมันพยายามจะทำลายทุกอย่างในโกดัง แต่โชคดีที่เราเข้าไปทัน"

"อยู่ที่ไหน" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "พวกมันอยู่ที่ไหน"

"อยู่ที่โกดังครับ" แดเนียลตอบ "เรากำลังเค้นความจริงจากพวกมันอยู่"

หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบเสื้อสูทสีดำที่แขวนไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว แดเนียลรีบวิ่งตามไปติดๆ

รถยนต์คันหรูของหัสดินเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวายอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงไม่กี่นาที รถก็มาถึงที่โกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับท่าเรือ บริเวณโกดังเต็มไปด้วยลูกน้องของหัสดินที่ยืนเฝ้าอยู่รอบๆ ทุกคนในที่นั้นดูตื่นตัวและพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์

หัสดินเดินเข้าไปในโกดังด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ภายในโกดังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีกลิ่นควันและกลิ่นของเหล็กที่ถูกเผาไหม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ลูกน้องของหัสดินกำลังซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตี และที่มุมหนึ่งของโกดัง...มีชายสามคนถูกจับให้นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลัง และใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการถูกซ้อมอย่างหนัก

"พวกนี้คือหนอนบ่อนไส้" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหัสดินเดินเข้ามาใกล้

หัสดินมองชายสามคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต เขาก้าวเข้าไปใกล้ชายสามคนนั้นอย่างช้าๆ ก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าไปที่ชายคนแรกอย่างรุนแรง!

"อั้ก!" ชายคนนั้นอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด

"ฉันจะให้โอกาสพวกแกพูดความจริง" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก "ใครเป็นคนส่งพวกแกมา"

ชายทั้งสามคนเงียบ ไม่มีใครกล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมา

"ไม่พูดเหรอ" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ "ซ้อมพวกมันจนกว่าพวกมันจะพูดความจริงออกมา"

ลูกน้องของหัสดินเดินเข้าไปหาชายทั้งสามคนนั้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มซ้อมชายทั้งสามคนอย่างรุนแรงและโหดร้าย เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของชายทั้งสามคนดังขึ้นไปทั่วทั้งโกดัง แต่หัสดินกลับยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขากำลังยืนดูชายสามคนนั้นถูกทำร้ายอย่างเลือดเย็น ราวกับว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่คน แต่เป็นเพียงแค่วัตถุที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

"ใครเป็นคนส่งพวกแกมา!" ลูกน้องของหัสดินตะคอกถามชายคนหนึ่งอย่างรุนแรง

"ฉัน...ฉันไม่รู้..." ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันถูกจ้างมาให้ทำลายสินค้าเท่านั้น..."

"ไม่รู้เหรอ!" ลูกน้องของหัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของชายคนนั้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง!

"บอกมา! บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าใครเป็นคนส่งพวกแกมา!"

แต่ชายคนนั้นก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร

หัสดินมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เขาไม่สนใจว่าชายทั้งสามคนนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาแค่ต้องการรู้ว่าใครกล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขา!

"บอกมาเถอะ...บอกมาเถอะว่าใครเป็นคนส่งพวกแกมา" หัสดินเดินเข้าไปหาชายคนหนึ่งที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นอย่างช้าๆ เขาใช้เท้าเหยียบลงบนแผลที่ชายคนนั้นถูกทำร้ายอย่างรุนแรง!

"อ๊ากกก!" เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของชายคนนั้นดังขึ้นไปทั่วทั้งโกดัง

"ฉันจะถามพวกแกเป็นครั้งสุดท้าย...ใครเป็นคนส่งพวกแกมา" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่าขนลุก

"ฉัน...ฉันบอกไม่ได้...เขา...เขาขู่จะฆ่าครอบครัวของฉัน" ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เขา...เขาคือ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์..."

คำว่า "ตระกูลวรวิทย์" ทำให้หัสดินชะงักไปในทันที ดวงตาคู่คมของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง! ตระกูลวรวิทย์...เป็นตระกูลคู่แข่งทางการค้าของเขามานานหลายปี และตอนนี้พวกมันก็กล้าที่จะมาท้าทายอำนาจของเขาอย่างออกนอกหน้า!

หัสดินไม่พูดอะไรอีก เขาก้มลงไปหยิบแก้ววิสกี้ที่แตกอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนจะปาแก้วนั้นลงบนพื้นอีกครั้งอย่างรุนแรง! เศษแก้วปลิวกระเด็นไปทั่วบริเวณ และในจังหวะนั้นเอง...เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาใครบางคนด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

"แดเนียล" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "แกไปจัดการเรื่องตระกูลวรวิทย์ให้จบภายใน 24 ชั่วโมง...ฉันไม่ต้องการให้พวกมันมีลมหายใจอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป"

"ครับคุณดิน" แดเนียลตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล

หัสดินตัดสายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองชายทั้งสามคนที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นด้วยสายตาที่เย็นชาและอำมหิต "จัดการพวกมัน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "แล้วเอาไปโยนทิ้งน้ำ"

ลูกน้องของหัสดินเดินเข้าไปหาชายทั้งสามคนนั้นอย่างรวดเร็ว เอวายืนอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆ เธอมองเห็นภาพความโหดร้ายของหัสดินด้วยตาของเธอเอง เขาไม่ใช่คนที่เธอควรจะอยู่ด้วยอีกต่อไปแล้ว!

หัสดินเดินออกจากโกดังอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้หันกลับมามองชายทั้งสามคนที่กำลังจะถูกลูกน้องของเขาจัดการเลยแม้แต่น้อย เขากำลังเดินกลับไปที่รถยนต์คันหรูของเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

เอวาได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่กรงขังที่มองไม่เห็นอีกครั้ง และในครั้งนี้...มันดูน่ากลัวและโหดร้ายกว่าเดิมหลายเท่า! หัสดินไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิด เขาเป็นคนโหดร้ายและไร้หัวใจ!

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หัสดินก็ลากเธอลงจากรถอย่างรุนแรง ก่อนจะลากเธอเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่

"ไปที่ห้อง!" เขาตะคอกใส่เธอ ก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้องนอนของเธออย่างแรง

เอวาล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เธอพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ทำไม่ได้ หัสดินเดินเข้ามาหาเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและอำมหิต

"เธอทำอะไรลงไป! เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม!" เขาตะคอกใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจนแทบจะขาดใจ

"ฉัน...ฉันไม่ได้ทำอะไร" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"ไม่ได้ทำอะไรเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "แกกล้าดีอย่างไงถึงไปปกป้องมันต่อหน้าฉัน! แกคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ!"

"ฉัน...ฉันแค่ไม่อยากให้คุณทำร้ายเขา" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เขาเป็นคนดี...เขาไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้"

"คนดีเหรอ!" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิต "แกคิดว่าแกจะไปเข้าข้างมันได้อย่างนั้นเหรอ! แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเหรอ!"

"ฉัน...ฉันขอโทษ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้"

"ขอโทษเหรอ!" หัสดินหัวเราะในลำคอเบาๆ "คำว่าขอโทษของแกมันไม่สามารถหยุดยั้งความโกรธของฉันได้หรอกเอวา!"

หัสดินไม่สนใจคำพูดของเอวา เขาก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและรุนแรงอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธและความอำมหิต จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด

หลังจากนั้น...เอวาก็ได้รู้ว่าการที่เธอไปปกป้องหมอวินนั้นเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ เธอได้ทำให้หัสดินโกรธจนแทบจะขาดใจ และเธอก็จะต้องรับผลกรรมจากการกระทำของเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   เล่มเกม?

    ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   พายุที่โหมกระหน่ำ

    รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   รอยร้าวในหัวใจ

    ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   นายใหญ่

    หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   ไม่เคยคิด

    เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   อยากให้หายโกรธ

    รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status