เจิ้งลี่ซายืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง สายตาจับจ้องไปยังคนทั้งสาม หลี่เฉิน หลินซี และชายแปลกหน้าที่เธอรู้จักดีที่สุดในโลก สมองของเธอก้องไปด้วยคำพูดของตัวเอง
‘ขอโทษ’ ทำไม...ทำไมคำนั้นถึงได้หลุดออกจากปากของเธอกัน
ความรู้สึกผิดและอับอายแล่นพล่านขึ้นมาในช่องท้องจนเธอแทบยืนไม่ไหว เธอเหลือบไปมองฉู่เฮ่าหราน และได้เห็นความสับสนฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเขา ไม่ต่างอะไรจากเธอเลย
สายตาของเขาร้อนแรงดั่งเปลวไฟที่แผดเผาเข้ามาในดวงตาของเธอ และในชั่ววินาทีที่สบตากัน เธอก็สัมผัสได้ถึงคำถามนับล้านและความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามา ความสับสน ความโกรธ และความเจ็บปวด
เธออยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง อยากจะทรุดลงไปกับพื้นแล้วร้องไห้โฮ ทำไมชีวิตของเธอต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมมันไม่เคยมีอะไรง่ายเลยสักครั้ง ทำไมทุกครั้งที่เธอกำลังจะมีความสุข กำลังจะก้าวไปข้างหน้ากับฉู่เฮ่าหราน เฉินจะต้องปรากฏตัวขึ้นมาแล้วทำลายทุกอย่างลงไม่เหลือชิ้นดี
แล้วเธอก็หันไปมองหลี่เฉิน และแทบอยากจะหลับตาหนี ทำไมเขายังต้องดูดีขนาดนี้เสมอด้วยนะ เขามาที่นี่ทำไม เขาคือคนที่ไม่ควรจะอยู่ในสมการชีวิตของเธออีก
เจิ้งลี่ซายืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง สายตาจับจ้องไปยังคนทั้งสาม หลี่เฉิน หลินซี และชายแปลกหน้าที่เธอรู้จักดีที่สุดในโลก สมองของเธอก้องไปด้วยคำพูดของตัวเอง‘ขอโทษ’ ทำไม...ทำไมคำนั้นถึงได้หลุดออกจากปากของเธอกันความรู้สึกผิดและอับอายแล่นพล่านขึ้นมาในช่องท้องจนเธอแทบยืนไม่ไหว เธอเหลือบไปมองฉู่เฮ่าหราน และได้เห็นความสับสนฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเขา ไม่ต่างอะไรจากเธอเลยสายตาของเขาร้อนแรงดั่งเปลวไฟที่แผดเผาเข้ามาในดวงตาของเธอ และในชั่ววินาทีที่สบตากัน เธอก็สัมผัสได้ถึงคำถามนับล้านและความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามา ความสับสน ความโกรธ และความเจ็บปวดเธออยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง อยากจะทรุดลงไปกับพื้นแล้วร้องไห้โฮ ทำไมชีวิตของเธอต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมมันไม่เคยมีอะไรง่ายเลยสักครั้ง ทำไมทุกครั้งที่เธอกำลังจะมีความสุข กำลังจะก้าวไปข้างหน้ากับฉู่เฮ่าหราน เฉินจะต้องปรากฏตัวขึ้นมาแล้วทำลายทุกอย่างลงไม่เหลือชิ้นดีแล้วเธอก็หันไปมองหลี่เฉิน และแทบอยากจะหลับตาหนี ทำไมเขายังต้องดูดีขนาดนี้เสมอด้วยนะ เขามาที่นี่ทำไม เขาคือคนที่ไม่ควรจะอยู่ในสมการชีวิตของเธออีก
จู่ ๆ ความมั่นใจที่เคยมีก็หดหายไปวูบหนึ่ง ปกติถ้าเทียบกับผู้ชายทั่ว ๆ ไป เขาก็รู้ดีว่าตัวเองไม่ได้เป็นรองใคร แต่เมื่อต้องมาเทียบกับนักบาสเกตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ ที่ทั้งหล่อ รวย และมีเสน่ห์อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นมันก็ทำให้สถานการณ์ของเขายากขึ้นมาหลายเท่าตัว“ลี่ซา เธอดูดีมากนะ” หลี่เฉินพูด ดวงตาสีเข้มของเขาเป็นประกายขณะจ้องมองเธอ ผมของเขาสั้นเกรียน ผิวสีทองแดงได้รูปจากการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก รูปร่างสูงใหญ่สมกับเป็นนักกีฬาอาชีพฉู่เฮ่าหรานขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ หลี่เฉินเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากจริง ๆ เป็นผู้ชายในแบบที่เขารู้ดีว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องคลั่งไคล้“ขอบคุณ” เธอตอบกลับ ก่อนจะเหลือบมองกลับเข้ามาในห้อง สบตาเข้ากับเขาพอดี แววตาของเธอดูเป็นกังวลอย่างยิ่ง“ลี่ซา...แกต้องมาดูนี่เดี๋ยวนี้” หลินซีพูดเสียงสั่น ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะคว้าแขนเพื่อนรักแล้วลากออกไปจากหน้าห้องนอนฉู่เฮ่าหรานยืนนิ่งอยู่ในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นส่วนเกิน เป็นคนนอกที่ไม่ได้รับรู้อะไรเลย กระทั่งชื่อของเธอเขาก็ยังเรียกไม่เหมือนคนอื่น เขาเรียกเธอว่า ‘เจิ้
ฉู่เฮ่าหรานยืนนิ่งเป็นหิน ร่างกายท่อนล่างยังคงแข็งขืนจากอารมณ์ที่ค้างเติ่ง ในหัวของเขามีแต่คำว่า ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!’ ดังก้องซ้ำไปซ้ำมาให้ตายสิ ทำไมทุกครั้งที่เขาเจอผู้หญิงที่เริ่มจะถูกใจเข้าจริง ๆ จะต้องมีเรื่องวุ่นวายตามมาเป็นพรวนด้วยวะ แถมยังเป็นเรื่องใหญ่บิ๊กเบิ้มทั้งนั้น ปกติเขาไม่เคยคิดจะเอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้เลยสักนิดแต่กับเจิ้งลี่ซา...มันไม่เหมือนกันเธอคือผู้หญิงที่เขารู้สึกว่าอยากจะทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง อยากจะครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจ ถ้าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปนัก เขาก็อยากจะคิดว่านี่คือบททดสอบที่สวรรค์ส่งมาให้ บททดสอบความสัมพันธ์ของเขากับเธอ เพราะทุกครั้งที่เรื่องระหว่างพวกเขากำลังจะไปได้ด้วยดี ก็ต้องมีอะไรมาขัดจังหวะทุกครั้งไป“ลี่ซา ออกมาเดี๋ยวนี้!” เสียงของหลินซีดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุบประตูรัว ๆ “เฉินรออยู่นะ!”น้ำเสียงของเพื่อนสนิทเจิ้งลี่ซาร้อนรนจนผิดสังเกต เขาตวัดสายตาไปมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างเตียง ใบหน้าของเธอกลับแดงก่ำและพยายามหลบสายตาเขาเป็นพัลวันความรู้สึกปั่นป่วนแล่นพล่านขึ้นมาในช่องท้อง ไอ้เฉินมันโผล่มาที่นี่ทำไม
น้ำเสียงของเขาแหบพร่าขณะโน้มใบหน้ามากระซิบชิดริมหู ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดทำให้ผิวเนื้อของเธอซาบซ่านไปทั่วร่าง ขาแข้งพลันอ่อนแรงขึ้นมาดื้อ ๆเขาไม่รอคำตอบ แต่กลับจงใจเว้นจังหวะ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำยั่วยวน“ครั้งหน้าที่คุณอยู่บนเตียงผม ผมจะมัดคุณไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหน แล้วจะบีบวิปครีมลงบนยอดอกของคุณ แล้วก็จะ...”“ฉู่เฮ่าหราน!” เธอตัดบทเขาเสียงเข้ม ใบหน้าของเธอร้อนเห่อเมื่อเหลือบไปเห็นซ่งจื่อหานกับฉู่ลี่เหยียนที่มองมาจากอีกมุมห้องด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ พวกเธอกำลังเปิดอัลบั้มรูปสมัยมัธยมดูกันอยู่ระหว่างรอเล่นเกมต่อ“ครับ...คุณเจิ้งลี่ซา” ฉู่เฮ่าหรานก้าวถอยหลังเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มซื่อตาใสกลับมาให้“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เธอตวาดเสียงเบาพลางทุบหน้าอกเขาเบา ๆ เป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าสองสาวทางโน้นแกล้งทำเป็นไม่สนใจ“หยุดอะไรครับ” เขายิ้มมุมปาก ใช้นิ้วลากไล้ผ่านริมฝีปากของเธอแผ่วเบา“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” ดวงตาของเธอฉายแวววาวโรจน์ขณะเหลือบมองไปทางสองสาวอีกครั้ง นี่เขาคิดจะเล่นอะไรกันแน่ คิดจะแฉเรื่องของเราหรือไง!ความร้อนวาบแล่นไปทั่วใบหน้าและช่องท้องขณะที่เธอยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มโอ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของบ้านตระกูลฉู่อบอุ่นเกินกว่าที่เธอคาดไว้มาก เจิ้งลี่ซาแทบไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้รับการต้อนรับอย่างดีถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะซ่งจื่อหานที่น่ารักและเป็นมิตรกับเธอจนน่าแปลกใจ แต่ก็คงเพราะตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ของเธอกับฉู่เฮ่าชวนลงตัวแล้ว หญิงสาวก็คงหมดห่วงเรื่องเธอไปกระมังเจิ้งลี่ซาหัวเราะตามบทสนทนาสนุก ๆ ระหว่างกู้หยุนเฟิงกับฉู่ลี่เหยียน แต่ในขณะเดียวกันก็ลอบสังเกตท่าทีของกู้เทียนอี้อยู่ไม่วางตา ทุกอิริยาบถของเขาคือข้อมูลชั้นดีที่จะต้องเอาไปรายงานให้หลินซีฟังหลังจากมื้อค่ำจบลง ทุกคนก็ย้ายมาตั้งวงกันที่โต๊ะไพ่นกกระจอกกลางห้องนั่งเล่น เสียงล้างไพ่ดังกรอกแกรกสร้างบรรยากาศครื้นเครงขึ้นมาทันที“คุณลี่ซามาเล่นด้วยกันสิคะ ขาดอยู่คนหนึ่งพอดีเลย” ฉู่ลี่เหยียนหันมาถามเธอ หลังจากเถียงเรื่องกฎการนับแต้มกับฉู่เฮ่าชวนจบไปหมาด ๆ“ฉันเหรอคะ” คนถูกชวนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว ความรู้สึกเหมือนถูกสปอตไลท์ส่องทำให้เธอไปไม่เป็นชั่วขณะหญิงสาวเผลอหันไปสบตาฉู่เฮ่าหรานโดยไม่รู้ตัว เขาส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ ราวกับจะบอกเป็นนัย
เจิ้งลี่ซาหาจังหวะบอกลาฉู่ลี่เหยียนกับซ่งจื่อหานแบบสั้น ๆ โดยอ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและอยากกลับไปพักผ่อน โดยมีฉู่เฮ่าหรานอาสามาส่งเธอเอง เธอก้าวออกจากบ้านตระกูลฉู่ที่ยังคงอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ มาสู่ความเงียบสงบและอากาศเย็นสบายของค่ำคืนภายนอก เขากุมมือเธอไว้ตั้งแต่อยู่ในบ้าน และยังไม่ยอมปล่อยจนกระทั่งเดินมาถึงรถของเขาบรรยากาศในรถเงียบสงัด มีเพียงเสียงเพลงเบา ๆ จากเครื่องเสียง แต่ไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดและความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายใน แสงไฟจากท้องถนนสาดส่องเข้ามาเป็นระยะ ขับเน้นใบหน้าหล่อเหลาของเขาให้ดูเด่นชัดในความมืด หัวใจของเธอยังคงเต้นระรัวกับคำสารภาพที่จริงจังของเขา...‘ผมชอบคุณนะ เจิ้งลี่ซา ผมชอบคุณมาก’... มันยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอราวกับแผ่นเสียงตกร่องเมื่อรถเลี้ยวเข้าที่จอดรถใต้ดินของอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักอยู่ เขาก็ดับเครื่องยนต์ แต่ยังไม่มีใครขยับ ทั้งสองนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้ความรู้สึกระหว่างกันก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเขาเป็นฝ่ายเอื้อมม