Share

บทที่ 6 เพื่อนใหม่

last update Last Updated: 2025-10-28 22:36:19

บรรยากาศของเช้าวันจันทร์ช่างแสนวุ่นวาย ผู้คนมากมายต่างแก่งแย่งกันใช้พื้นที่บนถนนซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรที่ขึ้นชื่อว่ารถติดเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย

คนขับนั่งหน้าตึงอย่างไม่สบอารมณ์ รีบก็รีบแถมยังต้องมาทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ คอยรับคอยส่งยัยน้ำหวานประหนึ่งว่าเขาเป็นคนขับรถของเธอ

แล้วยัยผู้โดยสารก็เอาแต่นั่งหันหน้าไปทางหน้าต่าง ไม่พูดไม่คุยทำเหมือนรังเกียจเขาอย่างไรอย่างนั้น

เหอะ! อยากคุยด้วยตายล่ะ

เมื่อหลุดพ้นจากถนนเส้นรถติดมาได้ทิวเขาก็เหยียบคันเร่งอย่างแรง แซงซ้ายแซงขวาแม้กระทั่งอยู่ในเขตเส้นทึบเขาก็ไม่เว้น แถมยังเหยียบเบรกจนคนนั่งด้านข้างหัวทิ่มอยู่หลายครั้ง

การได้แกล้งเธอมันคงเป็นเรื่องสนุกของเขา หญิงสาวนั่งนิ่งไม่ทักไม่ท้วงสักคำ แม้จะหวาดกลัวแต่ก็พยายามอดทนอดกลั้นข่มความรู้สึกเอาไว้ไม่แสดงออกมาให้ชายหนุ่มได้ใจ

แต่ยิ่งเห็นเธอเงียบคนชอบเอาชนะกลับยิ่งไม่พอใจ เขาหักพวงมาลัยไปมาจนร่างเล็กหัวสั่นหัวคลอน

ดูซิว่าเธอจะนิ่งได้ซักกี่น้ำ

แต่ก็ผิดคาด เพราะคนข้าง ๆ เอาแต่นั่งเงียบไม่มีทีท่าว่าจะร้องไห้อ้อนวอนอย่างครั้งที่แล้ว

ทิวเขาชักหงุดหงิดจึงตัดสินใจจอดรถทั้งที่ยังไม่ถึงมหาวิทยาลัย

"ลงไปได้แล้ว ที่เหลือก็หาทางไปมหาลัยเอาเองละกัน"

"ขอบคุณค่ะ คราวหน้าคุณทิวเขาจอดที่ป้ายรถเมล์หน้าทางเข้าหมู่บ้านเลยก็ได้นะคะ"

พูดเสียงสั่น ๆ มีความประชดประชันปนมาในคำพูด เธอก็เป็นคนมีความรู้สึกมีชีวิตจิตใจใช่ว่าจะโมโหไม่เป็นเล่นแกล้งกันอย่างนี้ใครจะทนพูดดีด้วยได้

แม้จะพูดกับชายหนุ่มแต่หญิงสาวก็เอาแต่ก้มหน้าหลบตาประหนึ่งว่าไม่อยากเห็นหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้น

ทิวเขามือไม้สั่นยิ่งเห็นท่าทางอวดดีของเธอเขายิ่งรู้สึกโมโห

"อวดเก่ง"

"หวานไม่ได้อวดเก่งค่ะ หวานแค่เสนอหนทางที่ดีกว่านี้ ทั้งคุณและหวานจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย"

พอเริ่มปีกกล้าขาแข็งหญิงสาวก็เริ่มปากเก่งขึ้นมา มือหนาคว้าหมับที่ข้อมือเล็กแล้วบีบแน่น ลงโทษฐานที่กล้ามาตีฝีปากกับเขา

หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดแต่เธอกลับไม่ร้องสักแอะ เพียงแต่พยายามสะบัดแขนให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือคนใจร้ายเท่านั้น

ทิวเขาจ้องเขม็งนัยน์ตาสีเข้มดุดัน มีเสียงกระทบกันของฟันกรามดังกรอด ก่อนที่ใบหน้าหล่อคมจะโน้มลงมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดโมโห

"ไม่ต้องห่วง ไม่มีคราวหน้าอีกแน่ ลงไป!"

น้ำหวานรีบเปิดประตูลงจากรถไม่รอให้ถูกไล่เป็นครั้งที่สาม แต่ถึงเขาไม่ไล่เธอเองก็อยากลงจากรถจนเต็มแก่ แค่เห็นหน้าเขาก็หายใจไม่ค่อยทั่วท้องไม่ต้องพูดถึงตอนนั่งรถมาด้วยกัน

น้ำหวานมองตามรถหรูที่แล่นออกไปทันทีหลังจากที่เธอลงจากรถ หญิงสาวพ่นลมออกจากปากอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเดินไปยืนตรงริมถนนเพื่อโบกรถแท็กซี่คันหนึ่งให้ไปส่งที่มหาวิทยาลัย

@มหาวิทยาลัย KU

ร่างสูงลงจากรถด้วยท่าทางหงุดหงิด ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปตรงโต๊ะประจำกลุ่มของพวกเขา หย่อนก้นนั่งลงด้านข้างออสตินที่กำลังนั่งหน้าสลอนแซวรุ่นน้องปีหนึ่งที่เดินไปเดินมาหน้าตึกคณะ

คิ้วเข้มขมวดตึงจนเพื่อนสงสัย คุณชายทิวเขาหงุดหงิดอะไรตั้งแต่เช้า

“เป็นห่าอะไรตั้งแต่เช้าวะ”

เจ้าขุนถามขึ้นมาพลางมองใบหน้าหล่อเหลาที่เอาแต่นิ่วหน้าบึ้งตึง

“กูเบื่อแม่ฉิบหายเลยว่ะ”

“เบื่อเรื่อง?”

“ก็ชอบบงการให้ยัยเด็กบ้านนอกนั่นนั่งรถมามหาลัยด้วยอะดิ แล้วถ้ากูเดาไม่ผิดนะเดี๋ยวสักพักก็จะโทรมาบอกให้กูรอรับกลับบ้านด้วย ไม่เชื่อพวกมึงคอยดู”

พูดไม่ทันขาดคำโทรศัพท์มือถือของทิวเขาก็มีสายโทรเข้ามา และก็เป็นเบอร์ของพระมารดาตามคาด

ทิวเขานั่งนิ่งไม่ยอมกดรับสายผู้เป็นแม่

“แล้วมึงไม่รับล่ะ จะเมินสายแม่มึงเหรอ”

“ไม่รับโว้ย ค่อยไปฟังเสียงบ่นที่บ้านเอา”

ว่าจบเขาก็คว่ำหน้าจอโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ คิดขึ้นมาแล้วรู้สึกโมโหไม่หาย แม่นะแม่บังคับกันอยู่ได้

“กูถามจริงเถอะ น้องมันน่าเกลียดจนมึงไม่อยากเข้าใกล้เลยเหรอวะ”

คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อวายุถามอย่างจริงจัง อวัยวะตรงหน้าอกข้างซ้ายเต้นตึกตักอย่างแปลกประหลาด

แค่คิดขึ้นมาใจก็เต้นแรงขนาดนี้เลยเหรอวะ หรือว่ากูจะเกลียดเธอมากจริง ๆ

ทิวเขาคิดทบทวนในใจ นัยน์ตาคู่คมเหม่อมองไปด้านหน้าอย่างไม่มีจุดหมายราวกับคนใจลอย ขณะที่เพื่อนซี้ทั้งสามกำลังจ้องหน้ารอฟังคำตอบ

“ว่าไง สรุปแล้วมึงไม่ชอบยัยเด็กน้ำหวานอะไรนั่นมากเลยเหรอ” วายุถามย้ำอีกรอบ

“เรียกว่าเกลียดเลยดีกว่า”

“เกลียดแบบไม่มีเหตุผลเนี่ยนะ”

“ก็คงงั้น”

ความจริงเหตุผลที่เขาเกลียดขี้หน้าเธอมันเริ่มจากเมื่อตอนเด็ก ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพ่อและแม่พาเขาไปเยี่ยมพ่อริวที่เชียงราย จึงทำให้เขาได้มีโอกาสเจอกับน้ำหวาน เด็กน้อยตัวอ้วน ๆ หน้ากลม ๆ แก้มแดง ๆ

เขาชอบเล่นกับน้ำหวานเพราะไม่ว่าจะสั่งให้ทำอะไรเธอก็มักจะทำตาม ด้วยความที่สนิทกันมากจึงทำให้พวกเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่อยู่ละแวกนั้นชอบล้อเขาว่าเป็นแฟนกับช้าง

เขารู้สึกโกรธมาก ตั้งแต่นั้นมาจึงไม่อยากให้น้ำหวานเข้าใกล้อีกเลย

แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขายังเป็นเด็ก ทว่าความรู้สึกตอนถูกล้อเลียนมันยังฝังใจจนไม่อาจลบออกไปได้ และภาพยัยน้ำหวานตอนเด็กก็ยังติดตาเขาจนถึงทุกวันนี้

“ระวังเกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะเว้ย”

สิ้นประโยคของเจ้าขุนพวกเพื่อนในกลุ่มก็หัวเราะร่า

ทิวเขานิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ เกลียดอะไรได้อย่างนั้นเหรอ

เหอะ! ไอ้เพื่อนกวนตีน

“กูชักอยากจะเห็นหน้ายัยเด็กน้ำหวานนั่นซะแล้วสิ ผู้หญิงที่ทำให้มึงเกลียดได้ขนาดนี้หน้าตาจะเป็นยังไงวะ”

วายุว่าขึ้นมา สงสัยยัยเด็กน้ำหวานคงจะไม่ธรรมดา เพื่อนของเขาถึงได้เก็บเรื่องของเธอเอามาคิดแค้นเคืองอยู่ทุกวี่ทุกวันจนบางครั้งแทบไม่เป็นอันทำอะไร

“มึงอย่าอยากเห็นเลย เสียสายตาเปล่า ๆ”

เอ่ยปากทัดทานอย่างมีพิรุธ สรุปแล้วมันเกลียดจริง ๆ หรือมันแกล้งเกลียดกลบเกลื่อนวะ

วายุจ้องเขม็งมองเพื่อนสนิทอย่างจับผิด มุมปากยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

ยิ่งมึงห้ามกูยิ่งอยากเห็น

อีกด้าน

น้ำหวานเดินเหงื่อตกจนทั่วตึกคณะแพทยศาสตร์ ก่อนจะหยุดยืนหอบแฮ่ก ๆ อยู่หน้าห้องเรียนที่เดินตามหามาร่วมชั่วโมงในที่สุดก็เจอสักที

ดีนะที่อาจารย์ไม่ได้ซีเรียสมากนักเพราะเห็นว่าเป็นวันแรกของนักศึกษา นอกจากเธอก็ยังมีอีกหลายคนที่ตามหาห้องเรียนไม่เจอ

อาจารย์ผายมือให้เธอเข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนในห้อง น้ำหวานกวาดตามองไปรอบ ๆ จนพบกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งดูท่าทางเป็นมิตร เขายิ้มอย่างละมุนละไมให้เธอ

เธอยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ซึ่งไม่ไกลจากชายหนุ่มมากนัก

ชายคนนั้นย้ายมานั่งด้านข้างเธอแล้วเอ่ยถาม

“เธอชื่ออะไรเหรอ”

หญิงสาวหันไปมองสบตากับคนถามแล้วเอ่ยตอบ

“เราชื่อน้ำหวาน”

“เราชื่อ มิวสิค ยินดีที่ได้รู้จักนะน้ำหวาน”

“อืม” เธอพยักหน้าอย่างยินดี

เพื่อนใหม่ยิ้มหวานเมื่อสบตากับหญิงสาว ดวงตาคู่คมมองสำรวจน้ำหวานขณะที่เธอกำลังตั้งใจฟังอาจารย์ ดวงหน้างดงามซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไร้ที่ติ ดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อยช่างเข้ากับใบหน้ารีสวยอย่างลงตัว

ตอนนี้เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย

เวลาต่อมา

“ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะน้ำหวาน”

ชายหนุ่มเอ่ยชวนเพื่อนใหม่หลังจากเรียนเสร็จในคาบเช้า เขาเดิมตามเธอต้อย ๆ ในขณะที่หญิงสาวไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่

ปกติตอนอยู่ที่เชียงรายน้ำหวานก็ไม่ค่อยมีเพื่อน เรียกว่าเป็นพวกอินโทรเวิร์ตก็ไม่ผิด เธอชอบเก็บตัวอยู่ลำพังคิดอะไรคนเดียวไม่ชอบสุงสิงกับใคร จึงไม่ค่อยคุ้นชินเวลามีคนมาตีสนิทด้วย

“คือเรา...”

“นะ น้ำหวาน เราไม่มีเพื่อนไปทานข้าวเลยอะ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ”

เมื่อถูกรบเร้ามีหรือคนขี้ใจอ่อนอย่างน้ำหวานจะกล้าขัดใจ เธอยอมไปทานข้าวกับชายหนุ่มก็ได้ อย่างน้อยจะได้ไม่เขินเวลาเดินคนเดียว

หญิงสาวพยักหน้าตอบแล้วยิ้มบาง ๆ อย่างเป็นมิตร จากนั้นร่างสูงของมิวสิคก็เดินนำหน้าพาเพื่อนสาวไปทานข้าวที่โรงอาหารของคณะแพทย์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   ตอนพิเศษ 2 (ตอนจบ)

    อีกด้านหลังรถซูเปอร์คาร์คันงามจอดนิ่งที่ลานจอดรถของคอนโด ร่างสูงก็อุ้มแฟนสาวลงจากรถแล้วพาเข้าไปในลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิทริมฝีปากจิ้มลิ้มก็ถูกประกบทันที ทำราวกับว่าอยู่ในห้องส่วนตัวทั้งที่ยังอยู่ในลิฟต์“อื้อ~”มือบางตีลงที่หัวไหล่ของเขาพร้อมกับครางท้วง ทิวเขาผละริมฝีปากออกมาแล้วยิ้มขำน้ำหวานทำตาเขียวปั้ดใส่คนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองประตูห้องยังไม่ทันปิดสนิทริมฝีปากหนาก็ประทับลงบนริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนผ่าวสอดแยงเข้าไปในโพรงปากนุ่มแล้วดูดเม้มปลายลิ้นเล็ก ส่งเรียวลิ้นไปเซาะซอนจนทั่วทุกมุม จูบแลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดจนชุ่มฉ่ำไปทั่วปาก จากนั้นเขาก็วางร่างเล็กให้ยืนบนพื้นมือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างบางพลางถอดเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ น้ำหวานเองก็ไม่น้อยหน้าจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชายหนุ่มออกเช่นกันนัยน์ตาคมจ้องมองเรือนร่างงดงามที่อยู่เบื้องหน้าด้วยอารมณ์ปรารถนา มือหนาเคลื่อนไล้ไปตามผิวกายขาวผ่องอย่างผะแผ่วขณะดันร่างเล็กไปจนชิดกับฝาผนังจากนั้นก็พรมจูบไปตามซอกคอระหง ขณะที่มือข้างหนึ่งเคล้นคลึงตรงสะโพกมน ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่ปลุกเร้าตรงสองเต้าเต่งตึงลมหายใจผ่าวร้อนเป่ารดลงบนลำคอขา

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   ตอนพิเศษ 1

    “จะพากันไปไหนเหรอลูก”เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกชายซึ่งกำลังถือกระเป๋าสะพายเดินตามแฟนสาวลงมาจากชั้นสองของบ้านน้ำหวานนั่งลงบนโซฟาแล้วเป็นคนตอบคำถามแทนชายหนุ่ม“หวานก็ไม่รู้ค่ะ พี่ทิวเขาไม่ยอมบอกเลยค่ะว่าจะพาไปไหน”“อ้าว! จะพาน้องไปไหนทำไมไม่บอกน้องล่ะ”หันไปถามลูกชายตัวดีที่นั่งอยู่ด้านข้างหญิงสาวซึ่งตอนนี้กำลังทำท่าทางออเซาะเธอราวกับเป็นเด็กน้อยจนน่าหมั่นไส้ลูกชายสุดที่รักหันมาทางผู้เป็นแม่แล้วเอ่ยตอบ“บอกไม่ได้ครับมันเป็นความลับ”ผู้เป็นแม่ถอนหายใจเหนื่อยอกเหนื่อยใจก่อนจะตวัดมือไล่ไม่อยากสนใจ ปล่อยให้ทั้งคู่พากันไปเที่ยวตามประสาคนหนุ่มคนสาวหลังไหว้ลาทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไปที่รถ ทิวเขาเป็นคนคอยบริการเปิดประตูพร้อมทั้งคาดเข็มขัดนิรภัยให้น้ำหวาน จากนั้นเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นทางฝั่งคนขับ ก่อนที่รถคันหรูจะเคลื่อนออกจากบ้านพาเธอไปยังสถานที่ที่เขานัดแนะเอาไว้กับเพื่อน ๆ@สนามแข่งรถวันนี้ที่สนามแข่งรถดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีการจัดงาน รถหลายคันวิ่งวอร์มอยู่ในสนามโดยมีผู้ชมมากมายยืนรายล้อมอยู่บริเวณรอบ ๆหลังจอดรถทิวเขาก็เดินไปเปิดประตูให้น้ำหวาน หญิงสาวมีความวิตกกังวลอย่างบอกไม่ถูก ภาพความทร

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 57 หวานฉ่ำ NC

    “อ๊ะ~” ร่างเล็กสั่นสะท้านร้องเสียงครวญครางอย่างได้อารมณ์ สองมือที่บีบขยำเนินนมออกแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆแม้จะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ทว่าความเสียวกลับมีมากกว่า น้ำหวานดิ้นพล่านขณะถูกดูดดึงสองเต้าอย่างหนักหน่วง ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนไซ้ขึ้นไปตรงซอกคอ ใช้ฟันขบเบา ๆ ตรงลำคอระหงด้วยความมันเขี้ยว น้ำหวานเสียดเสียวจนแทบจะขาดใจ มือสองข้างเลื่อนไล้ไปตามเรือนร่างบางจนมาถึงตรงกลางกายสาว ปลายนิ้วบดคลึงตรงจุดกระสันเสียวผ่านกางเกงชั้นในตัวบางจนน้ำรสหวานไหลเยิ้มออกมาเลอะเป้าเปียกแฉะ ร่างสูงหยัดกายคุกเข่าตรงกลางระหว่างขาเนียน มือหนาจับเรียวขาสวยอ้าออกขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ปลายนิ้วเขี่ยตรงจุดกระสันเสียวจนแน่ใจว่าเปียกเยิ้มเต็มที่เขาก็แหวกเป้ากางเกงชั้นในไปไว้ด้านข้าง ดวงตาคู่คมจดจ้องไปยังร่องกลีบสีชมพู ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดเอาน้ำลายไปถูชโลมบนแท่งเนื้อลำเขื่องของตัวเอง มือหนาชัดรูดแกนกายลำใหญ่สองสามครั้ง จ่อส่วนปลายไว้ตรงปากร่อง จับปลายหยักถูไถตรงเม็ดติ่งเสียวเพื่อเพิ่มอารมณ์ซาบซ่านให้หญิงสาว “อ๊ะ~พี่ทิวเขา หวานไม่ไหวแล้ว ใส่เข้ามาเลยได้ไหมคะ

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 57 เป็นแฟนกันนะ NC

    หลังพูดคุยและทานข้าวเที่ยงร่วมกันกับแม่ครูและน้อง ๆ ในบ้านเด็กกำพร้าน้ำหวานก็เอ่ยลาทุกคนเนื่องจากทิวเขาบอกเธอว่าจะพาไปยังที่ที่หนึ่ง ซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าเป็นที่ไหนรถคันหรูวิ่งไปตามเส้นทางที่น้ำหวานค่อนข้างคุ้นเคย เธอรู้สึกสงสัยอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามจนในที่สุดรถคันงามก็มาจอดนิ่งที่หน้าบ้านไม้ทรงล้านนา“พี่ทิวเขาพาหวานมาที่นี่ทำไมคะ”“เดี๋ยวก็รู้ครับ”ชายหนุ่มลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว เธอทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า“ลงมาเถอะน่า”หญิงสาวลงจากรถตามคำชวน ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบ ๆ อาณาบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยอยู่อาศัยตั้งแต่เด็กจนโตแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัยทิวเขายิ้มให้หญิงสาว“เข้าไปข้างในกันเถอะ”“เดี๋ยวค่ะ เราเข้าไปข้างในไม่ได้นะคะ บ้านหลังนี้ถูกขายเป็นของคนอื่นไปแล้ว”มุมปากหนากระตุกยิ้มบางเบา เขายกกุญแจบ้านหลังใหญ่ขึ้นมาโชว์ให้หญิงสาวดู“หมายความว่าไงคะ”“บ้านหลังนี้เป็นของน้ำหวานแล้วนะ”น้ำหวานยืนนิ่งแววตาเต็มไปด้วยฉงนสงสัย ไม่นานความสงสัยทุกอย่างก็คลี่คลายด้วยคำอธิบายของคนตรงหน้า“พี่รู้ว่าน้ำหวานรักบ้านหลังนี้มาก พี่ก็เลยซื้อบ้านหลังนี้ไว้”

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 56 ไม่ใช่แฟน

    หลังจากน้ำหวานโอนเงินค่าผ่าตัดไปให้แม่ครู ดินก็ได้เข้ารับการผ่าตัดในทันที การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีเนื้อเยื่อของผู้บริจาคไตเข้ากันได้ดีกับดินเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นานดินก็ได้กลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“หยุดยาวสามวันหวานจะขึ้นไปเยี่ยมนะคะ”เสียงน้ำหวานกำลังพูดคุยโทรศัพท์กับแม่ครูอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านทิวเขาคอยเดินตามไม่ห่าง ความจริงเพราะอยากแอบฟังว่าเธอคุยกับใครมากกว่า[ดินต้องดีใจแน่ ๆ ที่รู้ว่าน้ำหวานจะมา]“แม่ครูอย่าเพิ่งบอกพี่ดินนะคะ หวานว่าจะไปเซอร์ไพรส์น่ะค่ะ”[จ้ะ แม่จะรูดซิปปากเอาไว้ให้แน่นเลยจ้ะ]“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ”[แม่ล้อเล่นจ้ะ เออ! น้ำหวานรู้เรื่องที่ทางญาติพ่อริวเขาประกาศขายบ้านแล้วใช่ไหม]คิ้วเรียวขมวดมุ่นหลังได้ยินแม่ครูพูด ความจริงก็พอรู้ว่าพวกญาติของพ่อริวอยากขายบ้านหลังนั้นจนเต็มแก่ น้ำหวานดูเศร้าลงทันทีจนคนที่ยืนอยู่ข้างกายสังเกตเห็น“หวานพอรู้ค่ะ” พูดเสียงสั่นน้ำเสียงของเธอทำให้คนปลายสายเป็นห่วง[โธ่! น้ำหวานไม่ต้องคิดมากนะลูก สิ่งของพวกนั้นมันเป็นของนอกกายไม่นานมันก็สูญสลาย ความทรงจำดี ๆ ต่างหากที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต]แม่คร

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 55 หลอก

    “น้ำหวานเดี๋ยวก่อน น้ำหวาน” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบตามร่างเล็กไปจนถึงหน้าลิฟต์ มือหนาเอื้อมจับข้อมือเล็กแล้วดึงรั้งเอาไว้ ใบหน้าสวยหันมามองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ เรื่องความเป็นความตายใครให้เอามาล้อเล่น “ฟังฉันอธิบายก่อน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอน่ะ” “ทุกทีคุณก็พูดแบบนี้ สรุปคือไม่เคยมีเรื่องไหนที่คุณตั้งใจสักเรื่อง” เธอสาวพยายามสะบัดแขนออกจากคนเจ้าเล่ห์ ตั้งท่าจะเดินไปกดลิฟต์ทว่ากลับถูกคนตัวสูงดึงรั้งเอาไว้อีกครั้ง วงแขนแกร่งสวมเข้าที่เอวคอดแล้วกอดรัดร่างเล็กแนบกับลำตัว “ขอโทษ ยกโทษให้ความโง่ของฉันเถอะนะ ฉันโง่เองที่คิดอะไรตื้น ๆ แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ฉันก็ไม่รู้สักทีว่าเธอรักฉันรึเปล่า” “คุณมันชอบเล่นกับใจคนอื่น เห็นความรู้สึกของหวานเป็นเรื่องล้อเล่นรึไง” “ฉันไม่ได้เห็นความรู้สึกของเธอเป็นเรื่องล้อเล่นนะน้ำหวาน ฉันรักเธอมากวันทั้งวันฉันอาการหนักเอาแต่เพ้อถึงเธอ คุณแม่ก็เลยโทรให้เธอมาดูใจฉันไง” จับร่างเล็กให้หันมาสบตากันหลังจากอธิบายเรื่องทั้งหมด “คุณมันเจ้าเล่ห์ที่สุดเลย” เธอทุบมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status