Share

บทที่ 5 ไปส่ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-25 10:53:38

กลางดึกหญิงสาวนอนกระสับกระส่าย แม้จะรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างแต่สุดท้ายก็นอนไม่หลับเหมือนเดิม พอสมองว่างก็เผลอคิดถึงแต่เรื่องเก่า ๆ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเสียดื้อ ๆ

จะร้องไห้เสียงดังก็ไม่ได้เดี๋ยวจะถูกลูกชายเจ้าของบ้านมาต่อว่าเหมือนเมื่อคืน

 แต่จะให้อดทนอดกลั้นก็คงไม่ไหว หญิงสาวจึงตัดสินใจออกไปนั่งร้องไห้ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน

ฮือ! ฮึก! ฮือ!

เสียงผู้หญิงร้องไห้แว่วมาตามสายลม ยิ่งภายในห้องเงียบกริบมันยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนที่ยังนอนไม่หลับต้องเดินออกไปตรงระเบียงห้อง แล้วชะเง้อชะแง้มองหาที่มาของเสียง

เขาเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของใครบางคนอยู่ตรงหลังพุ่มไม้

ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านแล้วมุ่งไปยังสนามหญ้า ค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหลังคนที่นั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องห่มร้องไห้

ยัยเด็กน้ำหวานอีกแล้ว

เธอจะกวนโมโหเขาไปถึงไหน

“เธอรู้ไหมว่าเสียงร้องไห้ของเธอมันไปรบกวนการนอนของคนอื่น”

“คุณทิวเขา”

หญิงสาวสะดุ้งโหยงตกใจพร้อมกับอุทานชื่อคนที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ขนาดหนีมาร้องไห้อยู่ตั้งไกลเขายังได้ยินเสียงอีกเหรอ

หูเทพหรือยังไงกัน

หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน

“ขอโทษค่ะ”

แม้จะหยุดร้องไห้ไปแล้วแต่น้ำเสียงยังเจือปนความสะอื้น หญิงสาวก้มหน้าไม่กล้าสบตากับสายตาดุดันคู่นั้น

“คราวหน้าก็หัดเกรงใจคนอื่นซะบ้าง โดยเฉพาะเจ้าของบ้าน”

เธอไม่เคยลืมว่ากำลังอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ประโยคที่ว่าความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีเธอก็รู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ ถึงได้มานั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านเพียงลำพัง ใครจะคิดว่าออกมาตั้งไกลขนาดนี้เขายังได้ยินอีก

“ต่อไปหวานจะไม่ร้องไห้ให้ได้ยินอีกแล้วค่ะ” เธอให้ค่ำมั่น

“ก็ดี”

นัยน์ตาคมมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอใส่ชุดนอนบาง ๆ ลงมานั่งร้องไห้ด้านล่างไม่รู้รึไงกันว่ารอบ ๆ บ้านมีลูกน้องของพ่อเขาเดินเพ่นพ่านอยู่เต็มไปหมด

ร่างเล็กยังยืนนิ่งไร้ทีท่าจะกลับเข้าห้อง

“แล้วไม่กลับห้อง?”

“กะ...กลับค่ะ”

“ก็ไปสิ”

เขาทำหน้าดุพลางโคลงศีรษะไปทางประตูบ้านเพื่อบอกเป็นนัย ๆ ว่าให้เธอกลับเข้าไป

น้ำหวานยอมทำตามคำสั่งโดยไม่พูดอะไร เดินก้มหน้างุดเข้าบ้านโดยมีทิวเขาเดินตามหลัง

ทั้งสองแยกย้ายกันที่หน้าห้องนอนของหญิงสาว

หลายวันต่อมา

เพราะเป็นวันแรกของการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยจึงทำให้น้ำหวานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับเพราะมัวเตรียมนั่นเตรียมนี่สำหรับวันรุ่งขึ้น แถมยังตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง

หญิงสาวยืนยิ้มอยู่หน้ากระจกพลางพูดคุยกับรูปพ่อริว

“วันนี้น้ำหวานไปเรียนวันแรก พ่อริวเป็นกำลังใจให้น้ำหวานด้วยนะจ๊ะ”

หลังจากเตรียมทุกอย่างครบครันน้ำหวานก็เดินลงมาชั้นล่าง เธอวางข้าวของไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปในครัวคอยเป็นลูกมือช่วย ป้าสุ แม่บ้านวัยห้าสิบปีหยิบจับนั่นนี่ตอนทำอาหาร

น้ำหวานมักทำอย่างนี้เป็นประจำ เพราะเธอถือคติที่ว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย อาจไม่ได้ปั้นวัวปั้นควายแต่ก็ช่วยทำทุกอย่างเท่าที่สามารถช่วยได้

วันนี้ในครัวทำอาหารหลายอย่าง มีทั้งกุ้งผัดพริกเกลือ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ แกงส้มชะอมทอด ทอดมันปลากราย แล้วยังมีน้ำพริกลงเรือซึ่งเป็นเมนูประจำบ้านก็ว่าได้

น้ำหวานยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์ครัว มือข้างหนึ่งยกถ้วยเต้าหู้ไข่ที่ตัดไว้เป็นชิ้นพอดีคำขึ้นมาระหว่างที่มืออีกข้างกำลังจับทัพพีคนหม้อแกงจืดเป็นระยะ ก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันไปถามแม่บ้านวัยกลางคน

“ป้าสุขา หวานเอาเต้าหู้ไข่ใส่เลยนะคะ”

“ค่อย ๆ ใส่นะคะ เดี๋ยวน้ำแกงจะกระเด็นโดนแขน”

“ค่ะ”

เธอหันไปสนใจหม้อแกงที่น้ำซุปกำลังเดือดได้ที่ เหลือแค่ใส่เต้าหู้ไข่ลงไปแกงจืดเต้าหู้หมูสับหม้อนี้ก็ครบสูตร

ทว่าขณะที่เธอกำลังจะใส่เต้าหู้ลงไปในหม้อ ผู้ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้ามาเหยียบในห้องครัวก็พูดโพล่งขึ้นมาเสียงดัง

“ทำอะไร”

หญิงสาวตกใจจนสะดุ้ง เผลอเทเต้าหู้ไข่ใส่หม้ออย่างแรงจนน้ำร้อนกระเด็นขึ้นมา แถมยังละมือจากทัพพีจนทำให้มันร่วงลงไปในหม้อแกง

น้ำแกงร้อน ๆ กระเด็นโดนแขนเรียวจนร่างเล็กสะดุ้งถดหนี ทั้งป้าสุและทิวเขาพุ่งตัวเข้าไปดูหญิงสาวแล้วพูดขึ้นมาพร้อมกัน

“เป็นอะไรไหม/เป็นอะไรไหมคะ”

ร่างสูงทำยึกยักก่อนจะเป็นฝ่ายถอยร่นออกมาให้ป้าสุเข้าไปดูน้ำหวาน จากนั้นก็คอยยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านหลัง

เมื่อกี้เหมือนมีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นกับเขา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นห่วงยัยนั่นด้วย

“ป้าบอกแล้วไงคะว่าให้ระวัง ดูซิเป็นรอยแดงเลย เดี๋ยวป้าไปหายามาทาให้นะคะ”

ป้าสุเดินไปปิดสวิตช์เตาแล้วยกหม้อแกงจืดลง จากนั้นก็เดินไปหายาทาแก้แผลพุพองมาทาให้

“ปวดแสบไหมคะ”

“นิดหน่อยค่ะ”

ระหว่างที่กำลังนั่งทายากันอยู่ สองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของบ้านก็เดินลงมาจากชั้นสอง ของขวัญมองทั้งสองคนที่กำลังง่วนทำอะไรบางอย่างโดยมีเจ้าลูกชายนั่งดูอยู่ห่าง ๆ

ด้วยความสงสัยจึงรีบเอ่ยถาม

“มีอะไรกันเหรอ”

“คุณน้ำหวานถูกน้ำแกงร้อนกระเด็นใส่ค่ะ” ป้าสุตอบผู้เป็นนายหญิงของบ้าน

“แล้วเป็นอะไรมากไหมไหนอาดูซิ”

นั่งลงด้านข้างสาวน้อยแล้วจับแขนของเธอพลิกดู แขนเรียวเล็กมีรอยแดงเป็นจุด ๆ แถมบางจุดก็เริ่มพุพองขึ้นมา

“ไปทำยังไงให้มันกระเด็นใส่ล่ะน้ำหวาน”

อาผู้ชายเอ่ยถามหลานสาวด้วยความเป็นห่วง ดูแล้วน้ำหวานไม่น่าเป็นคนซุ่มซ่าม

หญิงสาวนั่งนิ่งไม่กล้าบอกความจริงว่าเป็นเพราะเธอตกใจเสียงเข้ม ๆ ของทิวเขา ได้ยินทีไรก็ตกใจทุกทีประหนึ่งว่าเธอเป็นผู้ร้ายกลัวความผิดอย่างไรอย่างนั้น

“จะทำยังไงล่ะครับ ก็คนมันซุ่มซ่ามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดนน้ำร้อนกระเด็นใส่ก็ไม่แปลกหรอก อีกหน่อยก็คงตกบันได หรือไม่ก็เดินชนรั้วบ้านจนหัวร้างข้างแตกนั่นแหละ”

เพลียะ!

ฝ่ามืออรหันต์ของผู้เป็นแม่ฟาดลงบนท่อนแขนของคนพูดมาก ร่างสูงสะดุ้งโหยงตกใจก่อนจะร้องอุทานขึ้น

“โอ๊ย! แม่ผมเจ็บนะ”

“ทำไมถึงได้ปากเสียอย่างนี้นะตาทิวเขา น้องเจ็บอยู่แทนที่จะสงสารดันเอาแต่พูดจากระแทกแดกดันน้อง”

“ก็ผมพูดความจริง”

“ยังจะพูดอีก”

ผู้เป็นแม่ง้างฝ่ามือข่มขู่ ไม่รู้ว่าเจ้าลูกชายได้เชื้อปากเสียมาจากใคร ก่อนจะนึกขึ้นมาได้เมื่อหันไปมองหน้าสามีตัวเอง

อ้อ! นึกออกแล้ว สมัยที่ยังไม่ได้รักกันพ่อของเขาก็ปากเสียแบบนี้

ที่แท้ก็เชื้อพ่อนี่เอง

ทายาเสร็จเรียบร้อยป้าสุก็ขอตัวไปจัดโต๊ะอาหาร ทั้งสี่คนเดินไปนั่งรอที่โต๊ะเพื่อทานอาหารเช้าพร้อมกัน

ตั้งแต่น้ำหวานมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่เกือบหนึ่งเดือน ปกติจะได้นั่งทานอาหารเช้ากันแค่สามคนเพราะอีกคนถ้าไม่นอนตื่นสายก็ไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน

เพราะฉะนั้นมื้อนี้จึงเป็นมื้อแรกที่น้ำหวานได้ทานข้าวเช้าโดยมีทิวเขานั่งทานด้วย

เธอรู้สึกเกร็งไปหมด

“เปิดเทอมวันแรกตื่นเต้นไหมจ๊ะน้ำหวาน”

อาผู้หญิงถามขึ้นขณะนั่งรออาหารมาเสิร์ฟให้ครบ

“ตื่นเต้นค่ะ”

“ทิวเขาวันนี้ไปส่งน้องที่คณะด้วยนะ”

“ทำไมผมต้องไปส่งด้วยล่ะแม่”

“อ้าว! เจ้าลูกคนนี้ มหาลัยก็อยู่ที่เดียวกัน ทางเดียวกันไปด้วยจะเป็นไรไป”

ผู้เป็นแม่นิ่วหน้าใส่ลูกชายตัวดี เอะอะก็มีปัญหาตลอด

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาขวัญ หวานไปเองได้ค่ะ”

น้ำหวานรีบเอ่ยทัดทาน ขืนให้เธอนั่งรถไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับทิวเขาก็คงเป็นเหมือนวันนั้น เธอไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงดีกว่า

“เห็นไหมเจ้าตัวเขาก็ไปเองได้”

“จะไปเองให้มันเปลืองเงินทำไมล่ะน้ำหวาน ไปกับพี่เขานี่แหละ”

หันมาพูดกับผู้เป็นหลานแล้วหันไปถลึงตาใส่ลูกชายทันที จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

“ไปส่งน้องด้วย”

“แม่”

“นี่คือคำสั่ง”

ออกคำสั่งเสียงแข็งขนาดนั้นมีหรือเขาจะกล้าปฏิเสธ

คิ้วหน้าขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจแต่จะทำอะไรได้ สุดท้ายก็ต้องน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าบ้านนี้ใครใหญ่สุด ขนาดพ่อทิศเหนือแสนดุแสนโหดยังไม่กล้าขัดคำสั่งเลยสักครั้งแล้วลูกชายอย่างเขาจะกล้าเหรอ

น้ำหวานก็พูดอะไรมากไม่ได้ ในเมื่อผู้เป็นใหญ่ออกคำสั่งมาอย่างนั้นมีหรือเธอจะกล้าคัดค้าน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 5 ไปส่ง

    กลางดึกหญิงสาวนอนกระสับกระส่าย แม้จะรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างแต่สุดท้ายก็นอนไม่หลับเหมือนเดิม พอสมองว่างก็เผลอคิดถึงแต่เรื่องเก่า ๆ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเสียดื้อ ๆจะร้องไห้เสียงดังก็ไม่ได้เดี๋ยวจะถูกลูกชายเจ้าของบ้านมาต่อว่าเหมือนเมื่อคืน แต่จะให้อดทนอดกลั้นก็คงไม่ไหว หญิงสาวจึงตัดสินใจออกไปนั่งร้องไห้ที่สนามหญ้าหน้าบ้านฮือ! ฮึก! ฮือ!เสียงผู้หญิงร้องไห้แว่วมาตามสายลม ยิ่งภายในห้องเงียบกริบมันยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนที่ยังนอนไม่หลับต้องเดินออกไปตรงระเบียงห้อง แล้วชะเง้อชะแง้มองหาที่มาของเสียงเขาเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของใครบางคนอยู่ตรงหลังพุ่มไม้ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านแล้วมุ่งไปยังสนามหญ้า ค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหลังคนที่นั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องห่มร้องไห้ยัยเด็กน้ำหวานอีกแล้วเธอจะกวนโมโหเขาไปถึงไหน“เธอรู้ไหมว่าเสียงร้องไห้ของเธอมันไปรบกวนการนอนของคนอื่น”“คุณทิวเขา”หญิงสาวสะดุ้งโหยงตกใจพร้อมกับอุทานชื่อคนที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ขนาดหนีมาร้องไห้อยู่ตั้งไกลเขายังได้ยินเสียงอีกเหรอหูเทพหรือยังไงกันหญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน“ขอโทษค่ะ”แม้จะหยุดร้องไห้ไปแล้วแต่น้ำเสียงยังเจือปน

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 4 เด็กในบ้าน

    เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนขวัญได้ยินเสียงน้ำหวานร้องไห้อยู่ในห้อง สงสัยจะคิดถึงบ้านนะคะ”ของขวัญพูดขึ้นขณะวางแก้วกาแฟไว้ตรงหน้าผู้เป็นสามีทิศเหนือเงยหน้าสบตากับภรรยาแล้วทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะพูดขึ้นว่า“ไม่แปลกหรอกที่น้ำหวานจะคิดถึงบ้าน ปกติไอ้ริวมันไม่ค่อยได้พาน้ำหวานไปเที่ยวไหน เอาแต่ทำงานงก ๆ เลยพลอยทำให้น้ำหวานกลายเป็นคนติดบ้านน่ะสิ““ถ้างั้นวันนี้ขวัญพาน้ำหวานไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาดีไหมคะ เผื่อจะช่วยให้เธอหายเศร้าได้บ้าง”“พี่ว่าก็ดีนะ ให้ตาทิวเขาขับรถพาไปสิ”“โอ๊ย! รายนั้นพึ่งพาได้ที่ไหนล่ะคะ ขับรถออกจากบ้านตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”“นี่มันอยู่ติดบ้านไม่เป็นรึไง เจ้าลูกคนนี้”“ขวัญก็ว่างั้นแหละค่ะ เหมือนใครตอนหนุ่ม ๆ ก็ไม่รู้”เมียรักทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเดินหนีขึ้นไปชั้นสองทิศเหนือถึงกับสะดุ้งเฮือก กาแฟที่เพิ่งจะกลืนลงคอแทบล้นทะลักออกมาทางเก่า จะเหมือนใครเล่าก็เหมือนเขาน่ะสิ เหมือนเป๊ะราวกับถอดแบบกันมา นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเวลาต่อมาหลังจากชักชวนน้ำหวานให้ออกมาเป็นเพื่อนซื้อของ สองสาวต่างวัยก็พากันเดินเล่นอยู่ในห้างแห่งหนึ่ง ของขวัญพาหลานสาวคนใหม่เลือกซื้อของใช้จำ

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 3 เพื่อนสาวคนสนิท

    @ผับหรูเสียงเพลงจังหวะ EDM ดังอึกทึกครึกโครมอยู่ในผับหรูแห่งหนึ่งซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผับที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเหล่านักท่องราตรีมากมายต่างพากันโยกย้ายอวดกันวาดลวดลายอย่างไม่มีใครยอมใคร แสงไฟส่องกะพริบหมุนวนไปมาตามจังหวะเพลงเพื่อช่วยเพิ่มความครื้นเครงให้กับเหล่านักดื่มทั้งหลายภายในห้องวีไอพีของผับมีการรวมตัวกันของนักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขามักนัดกันมาสังสรรค์ที่นี่เป็นประจำ“แดกเต็มที่เลยเพื่อน มื้อนี้กูเลี้ยงเอง”เจ้าขุนเอ่ยขึ้นเมื่อเพื่อนมาครบองค์ประชุมออสตินกระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ เพื่อระบายความขุ่นเคือง นึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นแล้วรู้สึกโมโหไม่หายที่ไอ้เจ้าขุนมันพูดปาว ๆ ว่าจะเลี้ยงน่ะเงินกูทั้งนั้น“มึงไม่ต้องเครียดหรอกน่าคราวหน้ากูไม่ออมมือให้มันแน่”วายุตบไหล่ออสตินเบา ๆ ยังจะมีคราวหน้าอีกเหรอ“กูไม่เชื่อมึงแล้วไอ้ห่า ดูจากสถิติที่มึงแข่งกับไอ้ทิวเขาแล้วกูขอย้ายไปเดิมพันข้างมันดีกว่า”ออสตินย้ายไปนั่งข้างทิวเขา ยกมือขึ้นมาบีบนวดไหล่เพื่อนเบา ๆ เพื่อเอาอกเอาใจ“คราวหน้ากูขอเดิมพันข้างมึงนะ”“ว่าไง มึงยอมป้ะ” ทิวเขาหันมาถามเจ้าขุนเจ้าขุนพยักพเยิดหน้าให้

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 2 สมาชิกใหม่ของบ้าน

    ‘ออกไป! อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ฉันเกลียดเธอ ยัยน้ำเน่า’คำพูดเมื่อสิบสามปีก่อนยังดังก้องอยู่ในหูของน้ำหวาน แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปีแต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เคยเกลียดเธออย่างไรก็ยังเกลียดอย่างนั้นหญิงสาวคิดในใจขณะลากกระเป๋าเดินทางตามหลังเขาต้อย ๆปึก!ชายหนุ่มหยุดเดินโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้หญิงสาวชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างจังใบหน้าหล่อคมหันขวับกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมทั้งพ่นลมหายใจใส่เธอเสมือนไม่พอใจ“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”หญิงสาวก้มหน้างุดหลังจากยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเขา“ซุ่มซ่าม”เขาทำหน้าตึงใส่แล้วเดินดุ่ม ๆ ไปที่รถหญิงสาวจึงรีบตามไปหลังหอบหิ้วกระเป๋าขึ้นรถน้ำหวานก็เข้ามานั่งด้านข้างคนขับ เธอยังไม่ทันปิดประตูให้สนิทรถคันหรูก็เคลื่อนออกตัวอย่างแรงจนร่างเล็กหงายหลังไปติดกับเบาะเธอรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายได้ ทักษะการขับรถของเขายิ่งดูแปลก ๆ อยู่ด้วย จู่ ๆ ก็เหยียบคันเร่งแรง ๆ แล้วเหยียบเบรกกะทันหันเหมือนกำลังแกล้งเธออย่างไรอย่างนั้นรถซูเปอร์คาร์ราคาหลายล้านแล่นอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็วเกือบร้อยหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง หญิงสาวนั่งหลับตาป

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 1 น้องสาวคนใหม่

    @ สนามแข่งรถเสียงเร่งเครื่องของรถซูเปอร์คาร์สองคันดังกระหึ่มอยู่ในสนามแข่งรถตรงจุดออกตัว สองหนุ่มเพื่อนซี้ ทิวเขา และ วายุ กำลังจ้องเขม็งมองกันประหนึ่งว่ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปวิ่งมาระหว่างดวงตาทั้งสองคู่แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แต่เมื่ออยู่ในสนามแข่งทั้งคู่ต่างก็มองอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ใคร ๆ ก็รู้ว่าไอ้สองคนนี้มันไม่ยอมกันมาแต่ไหนแต่ไรเมื่อไฟสัญญาณให้ออกตัวรถสองคันก็พุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว ทั้งทักษะการขับและประสบการณ์การแข่งทั้งสองหนุ่มถือว่าฝีมือสูสีไม่มีใครดีหรือด้อยไปกว่ากันการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด สองหนุ่มเชือดเฉือนราวกับเป็นคู่ศัตรูมาแต่ชาติปางไหน ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นนำอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่รอบสุดท้ายรถของทิวเขาจะเร่งเครื่องขึ้นมาจนทิ้งห่างจากรถของวายุอยู่หลายช่วงคัน“วันนี้ไอ้ทิวเขาแม่งได้ว่ะ แซงหน้าไอ้วายุไปหลายช่วงคันแล้ว เฮ่อ! สงสัยกูจะได้เสียเงินอีกแหง ๆ”ออสติน หนุ่มลูกครึ่งไทยนอร์เวย์เอ่ยขึ้นขณะยืนลุ้นอยู่บนห้องรับรองลูกค้าวีไอพีของสนามแข่งรถ นัยน์ตาสีน้ำตาลเพ่งไปด้านหน้าที่เป็นกระจกใสซึ่งสามารถมองเห็นวิวสนามได้แบบสามร้อยหกสิบองศาภายในห้องกว้างมีจอมอนิเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status